WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


Jaelen Strong Jersey

จาก จ่าชาตรี TMVC
61.19.220.5
จันทร์ที่ , 27/8/2550
เวลา : 23:53

อ่านแล้ว = 52945 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       The mill is designed basing on strong pressure suspension grinding, has become most advanced milling equipment in current domestic market.The report comes in detail. The disease shows up with curved penis which can hamper your sex life.When you are looking for the facts about dealership equipment appraisal California locals can come to our web pages online here today. This was no exception for the UGG boot because females, especially teenagers, rapidly started seeking the web for UGG boots.
Jaelen Strong Jersey [url=http://www.footballshopnfl.com/houston-texans-jaelen-strong-jersey-sale/]Jaelen Strong Jersey[/url]



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       ผู้นำผิดผลาด เห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรู แล้วฆ่าล้างผลาญ
น่าสงสาร ผู้คนที่ถูกทำร้าย
UN บอก ว่าทั่วโลกมีคนตายประมาณ 200 ล้านคน จากสงคราม ในช่วง ปี 1900-2000



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก gpw 203.113.17.148 พุธ, 29/8/2550 เวลา : 08:40   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15787

คำตอบที่ 2
       ๏๏๏ Pinkville ๏๏๏
โอลิเวอร์ สโตน กลับมาทำหนังสงครามเวียดนามอีกแล้ว ครั้งนี้ยิ่งน่าสนใจ เพราะเขาจะทำเรื่องการสังหารหมู่ที่หมู่บ้านมายไล เมื่อปี 1968

มายไลถือเป็นจุดเปลี่ยนของสงครามเวียดนาม ทำให้คนอเมริกันเห็นความโหดร้ายของทหารฝ่ายตัวเองที่ฆ่าหมู่ชาวบ้านตาดำๆ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก คนแก่ จำนวนราว 350-500 คน จุดกระแสต่อต้านสงครามเวียดนามให้ขยายไปอย่างร้อนแรง ทั่วอเมริกาและทั่วโลก

สโตนกำลังเจรจาขั้นสุดท้ายกับ UA ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ของทอม ครูซ ที่เข้าชิงออสการ์จาก Born on the Forth of July หนังเวียดนามเรื่องที่ 2 ของสโตนนั่นเอง UA จะให้ทุน 40 ล้านดอลลาร์ โดยมีบรู๊ซ วิลลิส กับแชนนิง ตาตัม เป็น 2 ดารานำของหนังที่ตั้งชื่อเหมือนประชดว่า Pinkville

วิลลิสทิ้งบทจอห์น แมคเคลน มาเป็นนายพลวิลเลียม เพียร์ส ผู้ดูแลการสอบสวนเรื่องการสังหารหมู่ครั้งนี้ แชนนิง ตาตัม พระเอกดาวรุ่งวัย 27 จาก Step Up, Coach Carter แสดงเป็นฮิวจ์ ธอมป์สัน นักบินเฮลิคอปเตอร์ผู้กล้าหาญ ซึ่งพยายามยับยั้งการเข่นฆ่าอย่างอำมหิต โดยนำเครื่องลงจอดขวางระหว่างเหล่าทหารกระหายเลือด กับชาวบ้านที่เหลือรอดอยู่หยิบมือหนึ่ง หลังจากรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ผู้บังคับบัญชา เขากลับถูกด่ายับ ธอมป์สันนี่เองเป็นพยานปากเอก ทำให้ความป่าเถื่อนทั้งมวลเผยแพร่สู่สาธารณะ

นอกจากดารานำทั้ง 2 ไมเคิล พีนา จาก World Trade Center กำลังเจรจาเพื่อรับบทผู้กองเออร์เนสต์ เมดินา นายทหารจอมโหดผู้สั่งการสังหารหมู่ เขาถูกฟ้อง แต่ศาลทหารกลับยกฟ้อง

เมื่อวันอังคาร หลังจากมีข่าวว่าสโตนต้องการทำหนังเรื่องประธานาธิบดีอิหร่าน มาห์มูด อาห์มาดิเนจาด ปรากฏว่าประธานาธิบดีกล่าวในการแถลงข่าวว่า เขาไม่ขัดข้อง

"ผมไม่ขัดข้อง พูดอย่างทั่วๆ ไป แต่พวกเขาต้องให้ผมรู้โครงเรื่องทั้งหมด และควรจะมาคุยกับผู้ร่วมงานของผม แต่โดยทั่วไปขอบอกว่าไม่ขัดข้อง" ประธานาธิบดีนักต่อต้านอเมริกันกล่าว.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 202.57.168.83 อาทิตย์, 9/9/2550 เวลา : 00:33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16287

คำตอบที่ 3
       Oliver Stone พร้อมแล้วที่จะมารับหน้าที่กำกับ Pinkville หนังที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับการฆ่าล้างบางที่เกิดขึ้นยังหมู่บ้าน My Lai หมู่บ้านเล็กๆของประเทศเวียดนาม ที่เกิดขึ้นในปี 1968 จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก...โดยหนังจะได้พระเอกจอมอึด Bruce Willis มาแสดงนำร่วมกับ Channing Tatum ดาราหนุ่มจาก Step Up จากบทหนังที่เขียนขึ้นโดย Mikko Alanne ซึ่งตัวของ Stone จะได้งบในการทำหนังเรื่องนี้อยู่ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ

Bruce Willis มารับบทเป็นนายพล William R. Peers ที่เข้ามาเป็นผู้สืบสวนถึงสาเหตุของการฆ่าล้างบางชาวบ้านกว่า 500 คนในหมู่บ้าน My Lai ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก และคนแก่ ซึ่งทั้งหมดต้องสังเวยชีวิตให้แก่ทหารอเมริกันที่บ้าระห่ำ...

ทางด้านของ Channing Tatum มารับบทเป็นนักขับเฮลิคอปเตอร์ Hugh Thompson ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วยการขับเฮลิคอปเตอร์เข้ามาขวางการสังหารหมู่ในครั้งนั้น และพยายามช่วยเหลือผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุด

Pinkville นับเป็นหนังเรื่องที่สี่ของ Oliver Stone ที่ฉากหลังมีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามเวียดนาม ตามต่อจาก Platoon, Born on the Fourth of July และ Heaven & Earth










 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 202.57.168.83 อาทิตย์, 9/9/2550 เวลา : 00:48   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16288

คำตอบที่ 4
       พี่พอมีหนังเรื่องbat 21มั่งมั๊ยครับเกี่ยวกับเครื่องบินของผู้พัน ยีนแฮ็กแมน ตกที่เวียดนามเหนือนอยากหาเก็บไว้มั่งครับ แล้วkilling fidles. พี่ขายยังไงครับอยากได้...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I. 203.149.16.33 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 10:25   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16583

คำตอบที่ 5
       ...............จริงๆแล้วผมชอบ ฮ.ในเวียดนามจากหนังเรื่อง BAT 21 อะคับนานแล้วล่ะ........อีกอย่างคือชอบสีสันที่บรรจงเพนท์บน อากาศยานหลายๆแบบ ในสงครามเวียดนามมัน จริงใจ ดิบ และสะท้อนให้เห็น ความคิด ความเป็นอยู่ของทหารในเวลานั้นได้ดีเลย........ถ้าFEED BACK ดีเดี๋ยวจัดให้อีกครับ...







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 10:49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16585

คำตอบที่ 6
       เรื่อง BAT21 เป็นหนังเก่าประมาณ16-17ปีได้แล้ว นำแสดงโดย ยีนส์ แฮ๊คแมน กับ มอร์แกน ฟรีแมน ครับ(ถ้าจำไม่ผิด) รู้สึกว่าจะสร้างจากพื้นฐานเรื่องจริงของการช่วยเหลือนักบินอเมริกันที่เครื่องบินถูกยิงตกในสมัยสงครามเวียดนาม เนื้อเรื่องก็ว่าด้วยการตามช่วยเหลือนักบินอเมริกันของนักบินนี่แหละครับ โดยนักบินต้องเดินทางไปยังจุดนัดหมาย ระหว่างทางก็คอยหลบหลีกพวกเวียดกงไปด้วย คำว่า BAT21 มาจากรหัสนักบินหรือรหัสของการช่วยเหลือนี่แหละครับ หนังเรื่องนี้เป็นหนังในความทรงจำครับ เพราะนานมากแล้ว รายละเอียดจำไม่ค่อยได้แล้ว จำได้แต่ว่าสนุกดี ท่านใดเห็นก๊อปปี้หนังเรื่องนี้แจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ถ้ามีจะได้ไปซื้อมาเก็บไว้ อยากได้มานานแล้วแต่หาไม่ได้ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 11:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16586

คำตอบที่ 7
       รบกวนอีกเรื่องสิครับพี่ ฮานอยฮิลตัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับนักบินอเมริกันถูกยิงเครืองตกแล้วถูกจับเป็นเชลยที่เวียดนามเหนือ ตกลงkilling FIDLES พี่ขายรึเปล่าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I. 203.149.16.45 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 14:59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16594

คำตอบที่ 8
       Hanoi Hilton
............ ชื่อโรงแรมฮิลตันนั้น รับประกันได้เลยว่าเป็นโรงแรมระดับห้าดาว ที่เราคุ้นหูและมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการแก่แขกผู้เข้าพักอย่างดีเยี่ยม แต่ในระหว่างสงครามเวียดนามนั้น เมื่อทหารเวียดนามเหนือจับทหารอเมริกันได้จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักบิน เมื่อจับไว้แล้วก็นำไปรวมไว้ที่คุกหัวโล (Hoa Lo) หรือ ที่เชลยศึกอเมริกันเรียกว่าฮานอย-ฮิลตัน เป็นการเรียกชื่อคุกแบบประชด คุกนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสเข้าครอบครองเวียดนาม เมื่อเวียดนามขับไล่ฝรั่งเศสออกไป ก็มีอเมริกันเข้ามา ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้นักธุรกิจชาวสิงค์โปรถือครอบครองอยู่ ถูกปรับปรุงและใช้เป็นสำนักงานการติดต่อทางธุรกิจราคาแพง แต่ยังคงเก็บรักษาห้องขังบางห้องไว้เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว
............ ตั้งแต่ปี 1966 (พ.ศ. 2509) มีทหารอากาศสหรัฐฯ จำนวน 351 คนที่ถูกจับกุม โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นนายทหารสัญญาบัตร เป็นนักบินที่ดีดตัว-กระโดดร่มลงมาจากเครื่องบินซึ่งถูกยิง และถูกจับขังไว้ในฮานอย-ฮิลตัน จนเมื่อเดือน ก.พ.1943(พ.ศ.2516) ทอ.สหรัฐฯได้เปิดยุทธการ Operation Homecoming เพื่อนำทหารและศพทหารกลับบ้าน ได้มีการเจรจาปล่อยตัวเชลยศึก ปรากฏว่าได้รับการปล่อยตัวทั้งหมด 332 คน เสียชีวิตในระหว่างคุมขัง 18 คน ตายในระหว่างหลบหนี 1 คน และหลังจากที่เวียดนามได้เปิดประเทศแล้ว ยังคงมีการค้นหาซากเครื่องบินและศพผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ถ้าตัวอักษรเล็ก ท่านสามารถขยายให้ใหญ่ขึ้น โดยไปที่ View บน Menu bar หาคำว่า Font หรือ Text size แล้วขยายขนาดให้พอดีอ่านนะครับ
............ ข้อมูลในปีพ.ศ.2543ยังมีทหารอเมริกันที่หายไปในระหว่างสงครามเวียดนามอยู่อีก 1,959คน ในจำนวนนี้สูญหายไปในทะเลหรือตามลำน้ำ 415 คน คาดว่าหายในเขตประเทศเวียดนาม 1,476 คน ในลาว 415 คน ในเขมร 60 คน และบริเวณน่านน้ำประเทศจีน 8 คน แต่ทางการสหรัฐฯยังไม่ลดละในการที่จะติดตามนำพวกเขากลับบ้านให้ได้ทั้งหมด ซ้ำร้ายเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยค้นหาประสบอุบัติเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 7 คนและเวียดนาม 9 คนเสียชีวิตทั้งหมดรวม 16 คน เมื่อกลางเดือน เม.ย.2544 จนถึงกลางปี2548ยังมีผู้สูญหายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่อีก 1,842คน แบ่งเป็น ทหารอากาศ610คน ทหารบก585 คน ทหารเรือ379 นาวิกโยธิน 234 คน และพลเรือนอีก34คน

Pete และ Mccain
............ ร.อ. Pete Peterson แห่งกองทัพอากาศสหรัฐ นักบิน F-4 ถูกเวียดนามยิงตกในปี ค.ศ.1966 และถูกขังอยู่ในฮานอย-ฮิลตันเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการปล่อยกลับบ้านในปี ค.ศ.1972 ต่อมาได้กลับคืนสู่เวียดนามอีกครั้งในฐานะเอกอัครข้าราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำเวียดนาม ส่วนอีกท่านหนึ่งนามว่า John McCain นักบินA-4 แห่งกองทัพเรือ ถูกยิงตกเหมือนกัน ปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิกรัฐอริโซน่าเคยพยายามแข่งขันเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาครั้งหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ MIA แห่งกองทัพอากาศไทย
............ กองทัพไทยของเราก็เคยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในหลายสรมรภูมิ เช่นกัน ล่าสุดก็ที่ประเทศติมอร์ตะวันออก ก่อนหน้านี้ในราวปี พ.ศ.2485 อันเป็นช่วงเวลา สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังดุเดือด ญี่ปุ่นเข้าบุกไทยและใช้ไทยเพื่อเป็นทางผ่านไปรบกับอังกฤษในพม่า ญี่ปุ่นมอบหมายให้ไทยรับผิดชอบพื้นที่ทางตอนเหนือของไทย ลึกเข้าไปถึงเมืองเชียงตุง ทอ.เราเองก็ได้จัดทัพเป็นกองบินใหญ่ผสมภาคพายัพ มีเครื่องบินหลายแบบเข้าร่วมกองกำลัง บางแบบผลิตมาจากญี่ปุ่นเข้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อข้าศึกหลายครั้งและครั้งหนึ่งเมื่อ วันที่ 7 ส.ค. 2485 เราได้ส่ง บ.นากาจิมา เป็นเครื่องบินสองเครื่องยนต์และลูกเรืออีก 8 นาย เข้าไปลาดตระเวนบริเวณเขตลานชังเสียน ทางตอนใต้ของจีน และได้สูญหายไป ไร้ร่องรอยจนกระทั่งทุกวันนี้ รายชื่อผู้สาบสูญทั้งหมดได้รับเกียรติให้จารึกไว้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เหตุที่เราไม่ได้ติดตามค้นหาเครื่องบินและลูกเรือทั้งหมดนั้น ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นเหตุผลทางการเมือง เนื่องจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จบลง ฝ่ายไทยต้องการอยู่ข้างฝ่ายผู้ชนะสงคราม จึงจำเป็นต้องพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้อยู่ข้างผู้ชนะ หลักฐานต่างๆในการรบครั้งนั้นจึงได้ถูกทำลายไปทั้งหมด เครื่องบินที่สร้างมาจากญี่ปุ่นก็ต้องถูกทำลายไปด้วย ครั้นจะขุดคุ้ยเรื่องเครื่องบินที่หายไปก็กระทำได้ไม่สะดวกนัก เรื่องราวได้ผ่านมาจนกระทั่งบัดนี้ ครอบครัวของผู้สูญหายก็ยังไม่ได้รับกระดูกมาประกอบพิธี ผู้เขียนขอนำรายชื่อของนักบินและลูกเรือที่หายไปในคราวนั้น มารำลึกอีกครั้ง ดังนี้
1. ร.ท. เนียม แสไพศาล
2. ร.ท. ถนอม โรหะทัศน์
3. ร.ท. เรียน มานิตย์
4. จ.อ.ลมุน ชีวสุวรรณ์
5. จ.อ. เลิศ หาญยุทธ
6. จ.อ. เฉลิม ลาภัย
7. จ.อ. แจ้ง เปลี่ยนพุ่ม
8. พลทหาร โนรี สงเคราะห์






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 15:20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16596

คำตอบที่ 9
       ถึงคุณ G.I
The killing FIDLES สั่งไปแล้วมาเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบครับ..
ทิ้งเบอร์ไว้ก่อนก็ได้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 15:23   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16597

คำตอบที่ 10
      
Full Metal Jacket (1987)

Full Metal Jacket เป็นอีกหนึ่งมุมมองของสงครามเวียดนาม ผลผลิตของ Stanley Kubrick อภิมหาผู้กำกับ...ผู้หลงใหลกลิ่นอายแห่งสนามรบ!!

Full Metal Jacket ไม่ใช่หนังสงครามแบบ The Green Berets (1968) ที่พูดถึงความเป็นซูเปอร์แมนของทหารจีไอ ใส่ไคล้เวียดกงเวียดนามเหนือเป็นผู้ร้ายใจหยาบ ไม่เหมือนกับหนังสงครามเวียดนามยุคถัดมาอย่าง Platoon (1986) ที่มองเฉพาะผลกระทบด้านลบของการที่สหรัฐเข้าไปรบในเวียดนาม สาระที่ผู้กำกับ Kubrick ต้องการสื่อสารกับคนดูคือ การที่คนอเมริกันทำกับคนอเมริกันเอง...ในค่ายฝึกนาวิกโยธิน?

Full Metal Jacket (หมายถึง...หัวกระสุนตะกั่วเคลือบทองแดงเต็ม) สร้างจากนิยายชื่อ The Short-Timers ของ Gustav Hasford ที่เอาประสบการณ์นักข่าวในสงครามเวียดนามมาเขียนนิยาย เนื้อหนังแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกเป็นการฝึกทหารนาวิกโยธินที่ South Carolina ตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ เด็กหนุ่มอเมริกันจะถูกล้างสมองให้กลายเป็นเครื่องจักรฆ่าคน ช่วงหลังเป็นการรบจริงในสงครามเวียดนาม

ความที่นาวิกโยธินเป็นกองกำลังระดับแนวหน้าเชิดหน้าชูตาของสหรัฐ ทำให้ทหารหน่วยนี้ต้องถูกฝึกหนักทุกรูปแบบ บ่มเพาะความแข็งแกร่งทั้งกายและใจ รบได้ในทุกพื้นที่สภาวะอากาศ ทุกสภาพความกดดัน สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ทุกโอกาสทุกกรณี

Kubrick ตั้งใจใช้ภาพและเสียงหลอมความรู้สึกของคนดูให้เป็นหนึ่งเดียวกับของเหล่าทหารใหม่

หนังถ่ายทอดชีวิตการฝึกของทหารนาวิกโยธินที่เข้มงวดด้านระเบียบวินัย ถูกครูฝึกขู่ตะคอกด้วยภาษาหยาบคาย การลงโทษคนที่ทำผิดด้วยมาตรการรุนแรง หากมองตามสายตาพลเรือน เหล่านี้คือความเกินขอบเขต เป็นเรื่องไร้เหตุผลที่มนุษย์ไม่ควรกระทำต่อกัน แต่หากมองด้วยสายตาทหาร มีเพียงการฝึกสุดโหด การด่าทอว่าพ่อล่อแม่ และความเคร่งครัดในระเบียบวินัยเท่านั้น ที่จะทำให้ทหารบังเกิดความฮึกเหิมกล้าหาญ รักพวกพ้องหมู่คณะ ทนทานต่อการยั่วเย้า เข้าสู่สมรภูมิโดยไม่เกรงกลัวความตาย เป็นนักฆ่าไร้ความปรานี สิ่งเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้พวกเขาเอาตัวรอดจากสนามรบ ทำให้กองทัพของเขาได้รับชัยชนะ

แต่ในความเข้มแข็งยังมีจุดอ่อน โดยเฉพาะความรักหมู่คณะ ความผูกพันช่วยเหลือกันและกัน พลแม่นปืนซุ่มยิงของเวียดกงใช้กลยุทธ์ “หนามยอก เอาหนามบ่ง” สอยทหารอเมริกันให้ร่วง แต่ไม่ให้ตาย ปล่อยให้ดิ้นทุรนทุรายนอนจมกองเลือด ล่อให้เพื่อนทหารมาช่วย กลายเป็นเป้ารายใหม่

พลฯ Pyle คือตัวละครสำคัญที่ชี้ให้เห็นผลเสียของการถูกระบบของกองทัพทำลายความเป็นมนุษย์ Pyle ตบเท้าเข้าค่ายนาวิกโยธินด้วยอารมณ์ฮึกเหิม หวังได้ออกรบเป็นวีรบุรุษ แต่ก็มาพบความจริงในภายหลังว่า ในค่ายทหารมีแต่ความโหดร้าย การทำผิดคำสั่งบ่อยครั้ง ทำให้เขาสูญเพื่อนจมหมดสิ้น ความเจ็บปวดที่ได้รับทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน รังสีคลุ้มคลั่งอำมหิตแผ่ซ่านจากดวงตา Pyle กลายเป็นนักฆ่าอย่างที่หน่วยนาวิกโยธินต้องการ แต่เมื่อถึงตรงนั้น เป้าหมายของเขาไม่ใช่การออกรบ แต่เป็นการฆ่าล้างแค้นคนที่ทำลายความเป็นมนุษย์ในตัวเขาจนหมดสิ้น

ว่าไปแล้ว พฤติกรรมอย่าง Pyle ในหนัง ไม่ได้มีเขาคนเดียว แต่ทุกคนเป็นเหมือนกันหมด พวกเขากระหายที่จะสร้างเกียรติประวัติด้วยการฆ่าเวียดกง กลับบ้านอย่างวีรบุรุษมือเปื้อนเลือด กลายเป็นวีรบุรุษ เป็นที่ชื่นชมของผู้คน

เมื่อเหล่านาวิกโยธินถูกส่งมาประจำการในสมรภูมิเวียดนาม พวกเขาพบว่าสนามรบไม่ได้จำกัดเฉพาะเขตป่าเขา แต่ลามไปทั่วทุกตารางนิ้วของแผ่นดิน ไม่เว้นแม้เมืองหลวงไซ่ง่อน ทุกอย่างไม่ได้เห็นอย่างที่คิด ไม่ได้เป็นอย่างที่ได้รับการสั่งสอนจากกองทัพ การเผชิญหน้ากับความตาย ทำให้พวกเขาเรียนรู้การมีชีวิต เหตุการณ์ในเวียดนามถูกเล่าผ่านสายตาพลฯ Joker ทหารนาวิกโยธินที่ทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ในตัว Joker มีแต่ความขัดแย้ง บนหมวกเหล็กของเขาเขียนคำว่า “เกิดมาฆ่า” (Born to Kill) แต่บนเสื้อเกราะติดกระดุมเครื่องหมายสันติภาพ

Kubrick ส่งท้ายหนังด้วยการทิ้งปมปัญหาให้คนดูไปขบคิด เขาเอาคนที่ไม่มีใครคาดคิดมาเป็นพลแม่นปืนเวียดกงที่สอยทหารนักฆ่าอเมริกันตายเป็นใบไม้ร่วง นาวิกโยธินที่ได้รับการฝึกให้ห้าวหาญแต่ไม่กล้าปลิดชีพข้าศึกบาดเจ็บสาหัสตามคำวอนขอ หรือการให้เหล่าทหารร้องเพลงมิกกี้เมาส์ปลุกขวัญกำลังใจขณะเดินรุกหน้าในสนามรบ ทุกอย่างที่ผู้ชมสัมผัสจึงมีแต่ความขัดแย้ง

Kubrick ทำ Full Metal Jacket ให้เป็นหนังสงครามที่เต็มไปด้วยอารมณ์สะเทือนใจ หนังถ่ายทอดความรุนแรงของสงคราม เพื่อบอกผู้ชมคนดูว่า ความคิดประเภท “เกิดมาฆ่า” เข้ากันไม่ได้เลยกับความเป็นมนุษย์ กล้องที่เคลื่อนตามทหารขณะเคลื่อนกำลังเข้าสู่จุดเป้าหมาย สารพัดเสียงจากสารพัดสิ่งในเป๊หลัง เสียงฝีเท้าย่ำดินหินกรวดทราย ดึงคนดูให้รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์การรบจริง

Kubrick ใช้ทีมข่าวถ่ายหนังสารคดีเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้สึกของทหารกับสงครามที่เขามีส่วนร่วม บทสรุปที่ได้คือ คนอเมริกันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปทำสงครามในเวียดนามทำไม นี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐพ่ายแพ้หมดสภาพ

หนังออกมาดีในทุกส่วน แต่ไม่ได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง อาจเพราะบทสรุปที่ไม่ยอมให้จีไอเป็นวีรบุรุษอย่างใน Platoon ก็ได้?









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 202.57.174.156 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 20:04   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16609

คำตอบที่ 11
       แม้สเปเชียลเอฟเฟคของหนังจะสู้ saving private ryan ไม่ได้ แต่งานของ Longest Day นั้นใหญ่กว่ากันมาก ใน saving แม้จะแสดงให้เห็นความโหดร้ายของสงคราม และความซาบซึ้งใจจากภารกิจของทหารกลุ่มหนึ่ง แต่ก็เป็นภารกิจที่แทบไม่มีผลกระทบต่อสงคราม แต่ใน Longest Day นำเสนอภารกิจที่หนักอึ้ง ด้วยการวางยุทธการที่มีผลต่อการแพ้ชนะ ของฝ่ายพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อ กองทัพอังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศสตัดสินใจบุกกองทัพเยอรมันและต้องการผลชี้ขาดในวันเดียว เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด เพราะเหล่าผู้บัญชาการของฝ่ายพันธมิตรรู้ว่า ปล่อยทหารยันกันไว้ตลอดไปไม่ได้ จึงวางแผนอย่างฉับพลันที่จะบุกในยามที่เยอรมันขาดความพร้อม และตกอยู่ในความประมาท แต่ฝ่ายพันธมิตรเองก็ใช่ว่าจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ขนาดเครื่องบินที่บรรทุกทหารยังหลงทาง ปล่อยให้หน่วยรบกระโดดร่มโดยหารู้ไม่ว่า ได้ปล่อยทหารลงไปใจกลางเมืองซึ่งอยู่ในความครอบครองของเยอรมัน ผลคือ ทหารทั้งหมดกลายเป็นเป้าซ้อมยิงกลางอากาศของเยอรมัน และเสียชีวิตทั้งหมดก่อนที่จะลงถึงพื้นด้วยซ้ำ แต่แม้ฝ่ายพันธมิตรจะขาดความพร้อมไปบ้าง เยอรมันกลับเละยิ่งกว่า โดยมัวแต่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะวางแผนหลอก กว่าจะรู้ตัว ฝ่ายพันธมิตร ก็ส่งกองทัพบุกเข้ามาแทบจะถึงตัวแล้ว แม้แต่นายทหารที่เฝ้าระวังชายฝั่งที่เป้นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ยังไม่รู้ตัวว่าฝ่ายพันธมิตรส่งกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นจำนวนถึง 5พันลำมาประชิดชายฝั่งแล้ว ในที่สุดหน่วยรบอังกฤษ และฝรั่งเศสก็บุกเข้าไปได้ แต่กองทัพอเมริกายัง เมื่อเยอรมันได้ตรึงจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ชายหาดไว้ แม้ว่ากองทัพของอมริกาจะขึ้นฝั่งได้ แต่ไม่สามารถขึ้นโจมตีได้ เพราะเยอรมันยันไว้ได้อยู่ ตรงจุดนี้เองผู้สร้างทำให้เราเห็นอีกอย่างว่า แม้แผนการจะดีเลิศ แต่แม่ทัพที่ควบคุมสถานการณ์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อทหารอเมริกันล้มตายกันเป็นใบไม้ร่วง จนนายทหารบางคนเริ่มถอดใจแล้วถามความเห็นผู้บังคับบัญชาว่า จะให้เรียกเรือมารับทหารกลับไปหรือไม่ แต่ตัวนายพลไม่ยอม เพราะรู้ว่าถ้าอเมริกาถอย ความทุ่มเททุกอย่างจะหมดสิ้น นายทหารครึ่งหนึ่งที่ขึ้นฝั่งจะตายเปล่า และทหารอีกครึ่งแม้จะรอดชีวิตกลับไปก็ไม่สามารถกลับมาสู้ได้อีกแล้ว และเขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะบุกขึ้นไปให้ได้จะต้องไม่มีการตายเปล่าในภารกิจครั้งนี้ ดูแล้วต้องยอมรับเลยว่า เป็นหนังสงครามที่สุดยอดมาก หนังแสดงให้เห็นบรรยากาศที่อึดอัดในตอนแรก ก่อนที่จะปล่อยฉากรบที่น่าตื่นตาให้เห็นตลอดความยาวของเรื่องอย่างต่อเนื่อง หนังใช้นักแสดงดังๆเยอะ แต่ไม่มีใครเป็นวีรบุรุษเพียงคนเดียว ชัยชนะเกิดขึ้นได้จากการร่วมแรงร่วมใจกัน ของทหารพันธมิตรทั้งหมด ด้วยเป้าหมายอันเดียวกัน และเป็นการดับอหังการของเยอรมัน แม้จะเป็นหนังที่สร้างหลายสิบปี แต่ก็เต็มไปด้วยความสมจริง เทคโนโลยีไม่สูงพอที่จะสร้างสเปเชียลเอฟเฟคหรือแบบจำลองจากคอมพิวเตอร์ แต่ความสมจริงเกิดจากการทุ่มเททั้งทุน และแรงกายในการสร้างฉากที่ใหญ่โตขนาดเท่าของจริง ความน่าเชื่อถือเกิดจากการแสดงภาพที่สมจริง และไม่ทำให้คนดูรู้สึกขัดตา เช่น หนังไม่ได้ซูมให้เห็น กองทัพเรือขนาดห้าพันลำอย่างชัดๆ แต่ให้ผู้ชมเห็นในระยะเดียวกับที่นายทหารเยอรมันส่องกล้องมองเห็นกองทัพเรือนั้น นั่นคือความยอดเยี่ยมของผู้กำกับที่ไม่ต้องทำทุกอย่าง ก็สามารถสร้างจินตนาการให้ผู้ชมได้รับรู้ความยิ่งใหญ่ ฉากที่สำคัญมากๆ คือฉากที่ฉากที่ถ่ายบนอากาศในมุมมองของนก นั้นมองให้เห็นความอลังการของหนังสงครามเรื่องนี้ อย่างชนิดที่เรียกว่ายากจะหาดูได้จากหนังเรื่องใดๆ The Longest Day ให้ความคุ้มค่าตลอดสามชั่วโมงแบบชนิดที่เรียกว่า คอหนังสงครามไม่ว่ารุ่นไหนต้องหามาดูให้ได้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 202.57.174.156 ศุกร์, 14/9/2550 เวลา : 20:48   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16613

คำตอบที่ 12
       เคยอ่านหนังสือชื่อเชลยศึกทรหดเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสิบเอกของไทยไปรับจ้างลบในลาวอยู่ที่ฐานเลด้าของUSA.แล้ว
ไปถูกจับที่ลาวบาวจากนั้นก็ถูกส่งต่อไปที่Hanoi Hilton
แล้วเชลยศึกท่านก็บรรยายเกี่ยวกับบรรยากาศของคุกนี้เป็นตัวหนังสือจนรู้สึกอยากเห็นภาพ ไม่ทราบว่าพี่จ่าพอจะมีหนังเรื่องนี้เก็บไว้มั๊ยครับ(Hanoi Hilton )





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I.0851271798 124.120.52.80 เสาร์, 15/9/2550 เวลา : 10:19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16634

คำตอบที่ 13
       พี่จ่าเคยดูเรื่องนี้ยังคับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I. 202.44.210.43 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 10:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16790

คำตอบที่ 14
       7 ทหารห้าว
Jason Rhodes (Gene Hackman) เขาจมอยู่ในอดีตที่โหดร้าย เขาต้องฝันร้ายทุกวัน เกี่ยวกับเรื่องลูกชายของเขา ที่หายสาปสูยไปขณะไปรบที่เวียดนาม

หลังจากที่เขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล Rhodes จึงขอความช่วยเหลือทางการเงินจากเศรษฐีน้ำมัน MacGregor (Robert Stack) และด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากเพื่อนาวิกโยธินทั้งห้าของลูกชายเขา Rhodes จึงเตรียมพร้อมในการกลับไปเวียดนามอีกครั้ง

ผู้กำกับ
- Ted Kotcheff






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 11:34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16793

คำตอบที่ 15
       Good Morning Vietnam
ปี 1965 นาวาโท Adrian Cronauer ได้รับมอบหมายให้มาประจำการที่ ไซง่อน เมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในช่วงที่สงครามเวียดนามระอุอยู่ทุกหย่อมหญ้า Adrian ทำหน้าที่เป็นดีเจ ประจำช่วง 6 โมงเช้า และ 4 โมงเย็น รูปแบบการจัดรายการของ Adrian เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาทหารทั้งหลายเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ตกหลุมรักกับสาวเวียดนาม (ตรินห์: รับบทโดย จินตหรา สุขพัฒน์) ด้วยการใช้หมอง นั่งมาธิ หนึ่งอึดใจเขาก็หาหนทางเพื่อที่จะเข้าใกล้ตรินห์ได้สำเร็จ โดยผ่านน้องชายของเธอ (ตวน) ชีวิตของ Adrian ดูเหมือนว่า Adrian ที่อยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุขนั้น ชีวิตช่างหอมหวานเหลือเกิน

แต่หลังจากเหตุระเบิดในบาร์แห่งหนึ่งในไซง่อน ชีวิตของ Adrian ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มมองเห็นความเป็นจริงและความโหดร้ายของสงครามมากยิ่งขึ้น เขาจะทำอย่างไร ความรักของเขากับตรินห์จะลงเอยในรูปแบบใด สามารถติดตามกันได้ในแผ่นดีวีดีของท่านครับ

ภาพยนต์เรื่องนี้ได้รับชื่อเสนอเข้าชิง Oscar ในรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ปี 1988 ด้วยครับ แต่ไม่ได้รับรางวัลในปีนั้นไปครับ แต่ก็ยังได้จากงานแจกรางวัลอื่น ๆ ดังนี้ครับ

- รางวัลลูกโลกทองคำ นักแสดงชายยอดเยี่ยม สาขาหนังตลก / เพลง
- รางวัล BAFTA ในสาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม และบันทึกเสียงยอดเยี่ยม
- รางวัลพิเศษจาก Political Film Society, USA ในฐานะภาพยนต์เพื่อสันติภาพ
หลังจากชมภาพยนต์เรื่องนี้จบลง อารมณ์ของผมนั้นมีทั้งทึ่ง ไปกับการแสดงของโรบิน วิลเลี่ยม, ซาบซึ้ง ไปกับมิตรภาพระหว่างทหาร G.I. กับคนเวียดนาม, ความโหดร้าย ของสงครามที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่มันก็เกิดขึ้นแล้วด้วยน้ำมือของคนเพียงไม่กี่คน

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมดูแล้วประทับใจมากครับ ฉากที่ประทับใจมากที่สุดคือฉากที่ Adrian ออกอากาศตอนเช้า พร้อมกับเปิดเพลง What's a wonderful world ของ Luis Armstrong ให้กับนายทหารคนนึ่งที่ไปรบยังตรังนา เป็นความสวยงามของบทเพลงที่ขัดแย้งไปกับความหดหู่ของภาพที่ได้รับชม จากเริ่มแรกในยามเช้าอันสดใสค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นความพินาศของบ้านเรือน และความตายของพลเรือนทั้งอเมริกัน และชาวเวียดนาม ฉากเหล่านี้ยิ่งทำให้ผมเกลียด สงคราม มากยิ่งขึ้น และผมรู้สึกว่าความรู้สึกนี้จะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้ดูหนังเกี่ยวกับสงครามไม่ว่าจะเป็น Black Hawk Down, Platoon ฯลฯ ผมอยากให้โลกเราไม่มีสงครามจังเลยครับ เฮียบุชครับ เลิกบ้าอำนาจซะที เพราะพวกคุณนั่นแหละที่สั่งให้พลเรือนที่ต้องมาเป็นทหารออกไปตาย โดยใช้ความรักชาติเป็นใบอนุญาต






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 12:53   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16801

คำตอบที่ 16
       Hamburger Hill
ระหว่างการยุทธ์ที่เรียกกันว่า ศึกวันตรุษ หรือ Tet Offensive ในปี คศ. 1968 ซึ่งเป็นศึกใหญ่ครั้งหนึ่งในสงครามเวียตนาม กองกำลังขนาดใหญ่ของเวียตนามเหนือได้เข้ามาซ่องสุมกำลังที่บริเวณหุบเขา เอ - เชา (A Shau Valley) ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีเนินเขาสูงในระดับเกือบหนึ่งพันเมตรอยู่หลายเนินด้วยกัน เป้าหมายของกองกำลังเวียตนามเหนือที่เข้ามาคือเพื่อคุ้มกันเส้นทางลำเลียงสายโฮจิมินท์

เดือน พฤษภาคม คศ. 1969 กองทัพสหรัฐฯที่เข้ามาช่วยเวียตนามใต้ทำการสู้รบ ต้องการที่จะทำลายขุมกำลังขุมนี้เสีย โดยการวางแผนการสนธิกำลังแต่ละหน่วยของตน ได้แก่ กองทัพบก กองทัพอากาศ และ หน่วยนาวิกโยธินรวมหลายสิบหน่วยเข้าด้วยกันเพื่อโจมตีขุมกำลังดังกล่าวภายใต้ระหัส Apache Snow ด้วยกำลังพลทั้งหมด 1,800 นาย สนับสนุนด้วยการทิ้งระเบิดจากกองทัพอากาศ และการยิงทำลายของกองพันปืนใหญ่ทั้งขนาด 105 และ 155 มม. การโจมตีเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม คศ. 1969 ถึงวันที่ 20 เดือนเดียวกัน เป็นการเข้าตีถึง 11 ครั้งในรอบ 10 วัน กว่าที่จะสามารถยึดหุบเขา เอ - เชา คืนมาจากฝ่ายเวียตนามเหนือได้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 13:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16804

คำตอบที่ 17
       Born on the Fourth of July
เป็นหนึ่งในผลงานไตรภาคสงครามเวียดนามของผู้กำกับ Oliver Stone ตัวหนังทำได้เยี่ยมมากครับ จากชายหนุ่มที่จากบ้านในฐานะผู้กล้าที่เข้าร่วมสงครามแต่กลับมาในร่างของชายพิการที่ไม่ได้รับการดูแลเหมือนตอนที่ไป การแสดงที่ดีที่สุดของ Tom Cruise ใครชอบหนังแนวสงคราม/ดราม่า ผมว่าดูเรื่องนี้แล้วไม่ผิดหวังครับ มี Oliver Stone เป็นตราประกันคุณภาพ
หนุ่มเลือดร้อนรักชาติ รบเพื่อชาติ แต่ก็ต้องผันความคิดมาวิจารณ์ประเทศตัวเอง เป็นเพราะอะไรรายละเอียดอยู่ในหนัง ออกจาซีเรียสไม่ผ่อนคลายครับ คนดูเพื่อความสนุกจะผิดหวังแน่ อีกอย่าง เรื่องของคนอเมริกัน คนไทยอย่างเรา ต้องเทียบกะ วีรชน 14 ตุลาคม 2516 ถึงใกล้เคียงว่า สู้เพื่ออธิปไตย อย่างวีรบุรษ ไหงไม่ได้รับการเหลียวแลเช่นนี้ ภาพของ ทอม ในเรื่องนี้คงจะเห็นมาแล้วอย่าง หมวดแดน ใน "ฟอร์เรสต์กัมพ์" เอาใจเขาใส่ใจเราดู จะรู้สึกจรรโลงขึ้น
เรื่องของหนุ่มที่โดนรอบครัวและคนรอบข้างปลูกฝังให้รักชาติจนมากเกินไป จนสุดท้ายได้พบความจริงของจิตใตตัวเอง หนังเรื่องนี้ไม่มีฉากรบมากมายเหมือนปลาทู(พลาทูน) แต่ว่ามีเรื่องให้ชวนติดตามชะตากรรมและการเดินทางของพระเอกทอมครูช ผมชอบครับ ชอบพอๆกับพลาทูน แต่ชอบไม่เท่า "HEAVEN AND EARTH"






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 13:33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16805

คำตอบที่ 18
       The Green Berets
หน่วยรบพิเศษกรีนแบเรต์ หรือ US Army Special Forces ก่อตั้งขึ้นในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 สมาชิกของหน่ยถูกฝึกมาหรับหรับงานก่อวินาศกรรม กระโดดร่ม การปฏิบัตืงานทั้ง บกและทางน้ำ การปีนเขาและสกี ทว่าทหารหน่วยนี้เป็นที่รู้จักในช่วงสงครามเวียดนาม ระหว่าง พ.ศ. 2510-2515 เพราะฝึกหน่วยรบนอกแบบให้กองทัพเวียดนามได้ต่อสู้กับการรบแบบกอง โจร โดยใช้กลยุทธ์ในแบบฉบับ "setting a thief to catc! h a thief" เมื่อสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง กรีนแบเรต์ไม่ได้รับความนิยมนักในระบบกองทัพบก สหรัฐฯ แต่ต่อมาก็ตระหนักว่า กองกำลังแบบนี้มีความสำคัญต่อกองทัพสมัยใหม่ สมาชิกของกรีนแบเรต์เป็นอาสาสมัคร ต้องมีความสามารถทางโดดร่ม ผ่านโปรแกรม การฝึกที่เข้มข้นยาวนานประมาณ 44-62 สัปดาห์ คัดผู้ที่ไม่เหมาะสมออกไป และทหารทุกคน ต้องมีทักษะทางด้านต่อสู้ไหวพริบ และความฉลาด การให้อาวุธพิเศษ การติ ดต่อสื่อสารหรือ ความชำนาญในการใช้ภาษาต่างประเทศ แต่ละกลุ่มของกรีนแบเรต์ จะมีตรารูปโล่เป็นสีต่างๆ ติดอยู่บนหมวก






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 13:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16807

คำตอบที่ 19
       The Deer Hunter
ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ในรั้วเซนต์ฯ แม้จะผ่านเหตุการณ์ปฏิวัตืรัฐประหารในบ้านเมืองเราหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการมาโรงเรียน เพราะแม้โรงเรียนจะอยู่ในระยะทางไม่ไกลนักจากจุดยุทธศาสตร์ที่มักจะเกิดการปะทะในทุกครั้งอย่างถนนราชดำเนิน แต่ทุกครั้งที่เห็นว่าจะมีโอกาสเสี่ยงต่อสวัสดิภาพนักเรียน โรงเรียนก็จะรีบฉวยประกาศหยุดเรียนให้พวกเราได้เฮกันซะก่อนหน้าทุกครั้ง

แต่ภาพที่ดูเหมือนโรงเรียนถูกยึด ซึ่งสร้างความตื่นเต้นไม่เฉพาะกับผม แต่ยังรวมถึงพ่อกับแม่ผมด้วย กลับกลายเป็นว่า โรงเรียนโดนยึดจากทหารฝรั่ง (เก๊) ที่มาตั้งบังเกอร์รังปืนกันที่หน้าประตูโรงเรียนถึงสองครั้งสองครา โดยครั้งแรกคือคราวที่กองถ่ายภาพยนตร์ปี 1978 เรื่อง The Deer Hunter นำแสดงโดย Robert De Niro มาปักหลักถ่ายทำที่โรงเรียนเรานั่นเอง

ครั้งนั้น ผมยังเด็กอยู่มาก เลยจำความไม่ค่อยได้เท่าไร มาได้ดูอีกทจากในภาพยนตร์ก็พอเห็นประตูหน้าของโรงเรียนเรา (จำลองเป็นสภานฑูตอเมริกาในเวียดนาม) อยู่ในตอนหนึ่งของเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ครั้งที่ทำให้ผมได้มีโอกาสคุยกับทีมงานของกองถ่าย และสังเกตรูปแบบการทำงานแบบมืออาชีพ คือครั้งที่มีกองถ่ายสารคดีเรื่อง ไซ่ง่อน มาใช้สถานที่โรงเรียนเป็นสถานฑูตไอ่กันในเวียดนามอีกเป็นคำรบที่สองนี่เองครับ ไม่รู้ว่าโรงเรียนเรามันเหมือนยังไงกันนักนะนี่

พอจำได้ว่า ช่วงนั้นน่าจะปิดเทอม ไม่ก็โรงเรียนหยุดจากอะไรซักอย่าง แต่ผมยังติดไปเล่นบอลกับเพื่อนๆ

กองถ่ายใช้สนามบอลกลางโรงเรียนเป็นลานกว้างขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งก็มีบินขึ้นลงเกือบจะตลอดวัน ซึ่งช่วงที่ผมไปยืนเกาะรั้วดูอยู่ข้างตึกโรงอาหารนั่น พวกทีมงานฝรั่งเห็นผมถือเทปคาสเซท (ผี)ที่ไปซื้อมาจากคลองถม สองสามม้วน ก็เดินมาคุยด้วย คุยไปคุยมาขอดูว่ามีเพลงอะไรอยู่มั่ง (พอจำได้ว่ามีเพลงฮิต Young Turks ของพี่แหบ Rod Stewart ที่กะลังดังแน่ๆ) ดูชื่อเพลงพลิกไปพลิกมาซักพัก ฝรั่งทีมงานขอเหมาซื้อผมเฉย จากที่ซื้อมาสามมัวนห้าสิบบาทสมัยนั้น ให้ผมเหมาสามร้อยถ้วน เกือบสองเท่าจากราคาหน้าปก แน่นอนละครับ ผมรับกะตังสามร้อยนั่นมาด้วยความยินดีที่ฝรั่งขอซื้อ ไม่ได้คิดหรอกว่า ยังไม่ได้ฟังไอ่ที่ซื้อมาเลย แหม ได้ตัขนาดนั้น โหนรถเมลล์กลับไปซื้ออีกรอบก็คุ้มครับ ฮาๆ

ดูรูปแบบการจัดการของทีมงานกอถ่ายฝรั่งในครั้งนั้น ถือว่าพิถีพิถันมากๆ ผมจำได้ว่ามีการนำเอาตู้เหล็กใส่เอกสารใหม่ๆมาพ่นสีให้ดูเก่าเป็นสิบๆใบ และจุดที่จะพอสังเกตถึงความผิดเพี้ยนของฉากได้จะถูกปกปิดอย่างแนบเนียน ด้วยวิธีการต่างๆ

เห็นแบบนั้นแล้วนึกถึงหนังพีเรียดบ้านเราหลายเรื่อง ที่อุตส่าห์แต่งตัวพระนางเข้ากับยุคซะดิบดี ไปๆมาๆ ด้านหลังมีป้ายโฆษณาแบบเดียวกะที่เห็นแถวบ้านเฉย ^^






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 14:41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16808

คำตอบที่ 20
       Heaven and Earth
หนังสงครามเวียดนามของผู้กำกับโอลิเวอร์ สโตน ในสามเรื่องผมชอบเรื่องนี้มากที่สุด เพราะเน้นความเป็นดราม่ามากที่สุด แถมเรื่องนี้ยังเป็นหนังที่ไม่ค่อยมีผู้คนจำกันนัก อาจเพราะมันไม่ดังและฉายผิดที่ผิดเวลา (ในขณะที่ platoon ชนะอย่างรางวัลอย่างน่าสงสัย) หนังที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชียและเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย แต่กินใจและเศร้า ผ่านความขัดแย้งในจิตใตและชีวิต ของผู้หญิงคนหนึ่ง (สร้างจากเรื่องจริงครับ)
หนังเล่าเรื่องของ ฟุง ธิ เลลีย์ เฮย์สลิป (เฮียป ธิ เล) ผู้หญิงชนบทในหมู่บ้านคีลา อาศัยอยู่กับพ่อ (ดร. เฮียง เอส งอ จาก the killing field) และแม่ของเธอ (โจอาน เชน) กับพี่ๆน้องๆ จนเหตุการณ์เริ่มเข้าสู่สงครามและพวกเวียดกง (เวียดนามเหนือ ภายใต้พรรคการเมืองของโฮจิมินห์ (พรรคลาวดอง) เวียดกงก็คือเวียดมินห์ที่เคยขับไล่ฝรั่งเศสออกจากเวียดนาม) น้องชายทั้งสองของเลลีย์ถูกส่งให้ไปรบกับเวียดกง จนกระทั่งฝ่ายเวียดนามใต้ (นำโดยโงดินเดียม แต่ถูกรัฐประหารเพราะฉ้อเงินหลวง) เข้ามีควบคุมหมู่บ้าน สร้างคาวมไม่พอใจให้เวียดกง เลลีย์เข้าร่วมเป็นสายให้เวียดกงในการให้สัญญาณแก่ทหาร แต่เลีลย์ถูกทหารของรัฐบาลจับตัวไปซ้อมหนักเพื่อเข้าความจริง อันเป็นที่มาของฉากทารูณกรรมผู้หญิงที่น่ากลัวมากๆ แม่ของเลลีย์ใช้เงินที่เก็บมาได้ติดสินบนทหารเพื่อที่จะให้ปล่อยเธอออกมา แต่พวกเวียดกงกลับเข้าใจว่าเลลีย์บอกความลับให้แก่ทหารรัฐบาลเพื่อที่จะได้เป็นอิสระ เลลีย์ถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน เธอกับแม่ระเห็ดระเห่ไปทำงานเป็นคนรับใช้ประจำบ้านของอานในเมืองไซ่ง่อน (โฮจิมินห์ซิตี้) เลลีย์กับอานตกหลุมรักและมีอะไรกันจนเลลีย์ท้องนั่นทให้เมียของอานไม่พอใจ เลลีย์จึงต้องออกจากบ้านของอานอุ้มท้องเร่ร่อนขายของให้แก่ทหารอเมริกันที่เมื่อก่อนเป็นศัตรูของเธอ และอาศัยอยู่กับพี่สาวของเธอ ก่อนที่จะมีปากเสียงกันและทำให้เธอถูกไล่ออกจากบ้านอีกครั้ง เลลีย์หนีออกมาจนได้งานทำพอสร้างตัวได้ในดานัง เลลีย์ได้เจอกับสตีฟ(ทอมมี่ ลี โจน) และได้สตีฟเป็นสามี ทั้งคู่และลูกๆ ย้ายไปอเมริกา ที่นั่นชีวิตของเลลีย์ทำท่าว่าจะดี แต่ที่นั่นทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงตอลดไป
หนังเล่าเรื่องอย่างรันทดหดหู่เศร้าศร้อย ผ่านการแสดงอันลื่นไหลของเฮียป ธิ ลี หนังเน้นอารมณ์ดราม่ามากกว่าเรื่องสงคราม และเสนอปมต่อต้านสงครามและความขัดแย้งในจิตใจของเลลีย์ที่ตอนแรกอยู่ฝ่ายเวียดกงเพราะรักชาติ แต่กลับไปรักทหารอเมริกันเพราะความรัก ก่อนที่เธอจะค้นพบว่าอะไรกันแน่คือชีวิตของเธอ เรื่องอาจเหมือนหนังน้ำเน่ารันทดบีบน้ำตาจนตาแห้งผากทั่วไป แต่ผู้กำกับโอลิเวอร์ สโตนสามารถทำให้มันออกมาดูสนุกและน่าติดตาม เค้นอารมณ์จากคนดูได้ผสมกับงานดนตรีที่ขึ้นหิ้งคลาสิคของคิทาโร่ ที่เป็นคนละอารมณ์กับหนังที่เขาถนัด พร้อมกับประโยคสุดท้ายที่โดยใจผมเข้าอย่างจัง
"ฉันมาถึงบ้าน แต่ บ้านเปลี่ยนไป ในตัวฉันยังคงอยู่ระหว่างเหนือใต้ออกตก สันติภาพ สงครารมเวียดนาม อเมิรกา หัวใจของฉันพลิกลิขิตให้อยู่ระหว่างสวรรค์กับโลก ถ้าเราฝืนชะตากรรมเราทนทุกข์ ถ้าเรายอมรับเรามีความสุข เรามีเวลาล้นเหลือชั่วนานตาปี ที่จะผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่มีครั้งเดียวที่เราจะแก้ไขมัน และท้ายสุด ได้ยินเสียงเพลงแห่งความรู้แจ้งที่ทำให้เราตัดการจองเวรได้ตลอดกาล ขณะนี้เสียงเพลงนั้นกังวาลอยู่ในหัวใจเรา มันเป็นเพลงที่จิตใจเราร้องทันทีที่ลืมตาดูโลก ถ้าหากถูกของรัก และไม่มีอะไรนอกลู่นอกทาง การทนทุกข์ทรมาน คือการนำเราเข้าไปใกล้ชิดพระเจ้า สอนให้เราเข้มแข็ง อย่ามัวอ่อนแอ ให้เรากล้า อย่าหวาดกลัว ให้มีปัญญา ยามความคิดสับสน และปล่อยวางสิ่งที่เรายึดติดไม่ได้ ชัยชนะที่ถาวรอยู่ในหัวใจ ไม่ใช่บนแผ่นดินนี้ แผ่นดินนั้น"






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 14:55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16809

คำตอบที่ 21
       Platoon
ประทับใจกับผลงานในอดีตเรื่องนี้ของผู้กำกับ โอลิเวอร์ สโตน มาตั้งแต่สมัยเริ่มแรกแล้วครับ เพราะได้ครบทุกความรู้สึก ไมใว่จะเป็นหวาดระแวง เหงา หรือแม้แต่ความขบขัน(คำพูด) แต่สิ่งที่ตามมาท้ายสุด คือความสูญเสีย ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ถ้ามนุษย์ไม่คิดที่จะแต่ห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ความสุญเสียก็คงจะไม่เกิดอย่างที่เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าเป็นผลงานเปิดตัวของผู้กำกับสโตน ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดก็ว่าได้ โซน 3 เพิ่งออก ฟิชเจอร์ ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ ส่วนคุณภาพของภาพที่ออกมานั้น ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปของดีวีดีโซน 3 ครับ เสียอย่างเดียวออกช้าไปกว่า"ผี"ไปเป็นปี แต่ถึงยังไงแฟนพันธ์แท้ของผู้กำกับสายพันธ์วิบากก็ยังรอได้อยู่เสมอ
ทำออกมาได้สมจริงอย่างยิ่งทั้งภาพและเสียง เนื้อหาออกจะรุนแรงและดูดิบ เหมือนดูเขาถ่ายทำสงครามจริงๆ แต่ในตอนท้ายเรื่องก็เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงใช้ tagline ว่า THE FIRST CASUALTY OF WAR IS INNOCENCE เพราะว่าทหารเพียงแต่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้ต้องการที่จะไปฆ่า เพียงแต่ป้องกันประเทศ แต่แล้วก็ต้องเสียเลือด เสียเนื้อ และ เสียชีวิต
เห็นนักแสดงแต่ละคนหน้าตาล่ะอ่อนดีพอลึก ตั้งแต่ ชาลีน ชีน
วิลเลี่ยม เดโฟ หรือแม้กระทั้ง จอห์นี่ เดปป์ ถือว่า"พลาทูน" เป็นหนังที่ทรงคุณค่าอีกเรื่องหนึ่งของผู้กำกับ โอลิเวอร์สโตน แม้ว่าวันเวลาจะผ่านเนิ่นนานมากว่า 5 ปีแล้วก็ตาม แต่หนังเรื่อฝนี้ก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดี เนื้อหาอาจจะดูรุนแรงสุดแล้ว(สมัยนั้น) เมื่อเทียบกับหนังสงครามยุคปัจจุบัน อาจจเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำกับภาพของความรุนแรง แต่ถ้ามองกันที่เนื้อหา ถือว่า"พลาทูน"มีความเข้มข้น น่าลุ้นน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งโดยเพาะดนตรีประกอบ ที่ฟังทีไรมันให้ความรู้สึกโหยหวนยังไงพิกล เห็นแว่ว ๆ มาว่าเบื้องหลังโลเกชั่นถ่ายทำกันที่ไทยแลนด์นี่เอง มาถึงตอนนี้ นักแสดงแต่ละคนต่างก็แยกย้ายกันไปได้ดีเกือบหมดทุกคน เห็นหน้าอีกทีย่นไปเยอะ นี่แหละเขาเรียกว่าสังขารไม่เที่ยงจริง ๆ แต่ถึงยังไงผลงานก็ยังอยู่...






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 15:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16810

คำตอบที่ 22
       ชอบพี่จ่า..........จังเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นักบวช 117.47.25.180 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 18:15   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16818

คำตอบที่ 23
       เรื่องนี้ก็ดีนะพี่ เป็นหนังใหม่





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I. 203.149.16.34 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 08:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16854

คำตอบที่ 24
       Under Heavy Fire
ความหวาดกลัว เข็ดขยาดในสงครามไม่เคยจางหายไป ถึงแม้ว่ามันจะยุติลงแล้ว เรื่องราวของกลุ่มนาวิกโยธินกลุ่มหนึ่งเดินทางกลับไปเวียตนาม เพื่อถ่ายทำสารคดีในรายการโทรทัศน์ เมื่อกลับไปยังดินแดนแห่งสงครามความป่าเถื่อนนั้น ทำให้บางสิ่งบางอย่างในตัวพวกเขาสูญเสียการควบคุม บาดแผลเก่าและความลับในอดีตค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นมา ทำให้กลุ่มเพื่อนต้องแตกหักและจบลงด้วยความรุนแรงและการแก้แค้น






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 10:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16857

คำตอบที่ 25
       เรื่องนี้เคยผ่านตามั๊ยครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก G.I. 202.44.210.43 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 11:38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 16859

คำตอบที่ 26
       ผมมีอยู่ 2 เรื่องครับ คิลลิ่งฟิวส์ กับพลาทูน แนะนำถ้าใครมีโปรเจคเตอร์ ให้ฉายขึ้นจอใหญ่สัก 150 นิ้ว นะครับ ได้อารมณ์สุด ๆ ยิ่งตอนที่ ฮ. บินข้ามหัว บางทียังต้องมองหน้าหาเครื่องบินเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก แจ็ค โคราช JUC 803 58.8.197.206 ศุกร์, 2/11/2550 เวลา : 19:40   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19417

คำตอบที่ 27
       ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายญี่ปุ่นสามารถเจาะเข้ารหัสลับของกองทัพอเมริกันได้อย่างต่อเนื่อง สร้างความล่าช้าในการบุกของกองกำลังทหารอเมริกันเป็นอย่างมาก ในที่สุดเมื่อปี 1942 กองกำลังอเมริกันนาวาโฮหลายร้อยนายได้ถูกเกณฑ์เข้าสู่นาวิกโยธิน พวกเขาถูกฝึกให้ใช้รหัสลับของกองทัพซึ่งมีพื้นฐานมาจากภาษาท้องถิ่นเดิม หน่วยนี้มีฉายาว่าเจ้าหน้าที่รหัส และรหัสลับของพวกเขาเป็นเพียงรหัสเดียวที่ทหารญี่ปุ่นไม่สามารถเจาะผ่านได้ จึงนับได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญแห่งการมีชัยต่อสงคราม
ในเรื่อง Windtalkers เป็นช่วงระหว่างเวลาสงครามแห่งไซปัน นาวิกโยธิน โจ เอนเดอล์ (นิโคลัส เคจ) และ อ๊อกซ์ แอนเดอร์สัน (คริสเตียน สเลเตอร์) ถูกกำหนดให้เป็นผู้ปกป้องเจ้าหน้าที่รหัส เบน ยาซี (อดัม บีช) และชาร์ลี ไวท์ฮอร์ส (โรเจอร์ วิลลี่) ทั้งคู่ได้รับคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่รหัสแต่หากเมื่อใดที่เจ้าหน้าที่รหัสตกอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาจักต้องรักษารหัสไว้เหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อต้องกลายเป็นเพื่อนกันอย่างไม่เต็มใจ ในขณะที่สงครามดำเนินรุดหน้าต่อไปนั้น พวกเขาต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่เลวร้ายยิ่ง หากพวกเขาไม่สามารถปกป้องเพื่อนทหารเอาไว้ได้ พวกเขาจะต้องทำถึงขนาดไหนจึงจะปกป้องรหัสเอาไว้ได้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 202.57.175.221 เสาร์, 3/11/2550 เวลา : 02:22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19426

คำตอบที่ 28
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ยานรบ 125.26.241.231 อาทิตย์, 13/1/2551 เวลา : 12:02   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 23954

คำตอบที่ 29
       PEARL HARBOR ฉากสงครามทำได้ยิ่งใหญ่สมจริงมาก เป็นหนังทุนสูงอีกเรื่องที่ยังติดตาติดใจ เป็นเรื่องราวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองกำลังญี่ปุ่นซุ่มโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ จนสร้างความโกรธแค้นให้กับสหรัฐฯ มาก และทำให้พันธมิตรต้องส่งปรมาณูมาสั่งสอนที่ฮิโรชิม่า จนลูกพระอาทิตย์ยอมแพ้สงครามชั่วข้ามคืน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 พุธ, 13/2/2551 เวลา : 15:31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26102

คำตอบที่ 30
       APOCALYPSE NOW หนังเรื่องนี้ใช้ชื่อไทยว่า กองทัพอำมหิต เป็นหนังสงครามที่สะท้อนความโหดร้ายของสมรภูมิเวียดนาม และนับเป็นหนังเรื่องแรกของ ฟรานซิสฟอร์ด คอร์ปปูร่า ที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นผู้กำกับจอมซาดิสม์ เข้าฉายเมื่อปี 1979 หรือปี 2522 หนังเรื่องนี้ผู้สร้างพยายามเหลือเกินที่จะให้อเมริกาชนะสงครามในเวียดนาม ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาคือผู้แพ้






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก จ่าชาตรี TMVC 58.136.112.208 พุธ, 13/2/2551 เวลา : 15:51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26103

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,23 พฤศจิกายน 2567 (Online 6150 คน)