WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อยากพาพี่น้องไปเยี่ยมเยือนบ้านพี่เมืองน้องบ้างครับ ภาค 2
klam
จาก แหลม ลำโขง
180.180.40.224
จันทร์ที่ , 10/10/2554
เวลา : 07:06

อ่านแล้ว = 20443 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ........อยากพาพี่น้องไปเยี่ยมเยือนบ้านพี่เมืองน้องบ้างครับ.....วังเวียง......เชียงขวาง.......หลวงพระบาง......และเวียงจันทน์ หรือ อุดมชัย..
ภาค 1 http://www.thailandoffroad.com/jeepmilitary/jeepmilitary/question.asp?page=1&id=4648






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  

คำตอบที่ 121
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118648

คำตอบที่ 122
       พักที่เฮือนพักเมืองงอย ริมน้ำอู





พักที่ไหนก็ได้ หากได้บรรยากาศหน่อยเห็นมีริสอร์ท ริมน้ำอู ก็มี..ว.4ทางน้ำกับอาหารแปลกๆคงเข้าบรรยากาศ
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 1:58:09 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118649

คำตอบที่ 123
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118650

คำตอบที่ 124
      





น้ำอู เชื่อมระหว่างแขวงพงสาลีลงของที่หลวงพระบาง ระยะทางมากกว่า 400 หลัก
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 1:54:19 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:30   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118651

คำตอบที่ 125
       ออกจากเมืองงอย มุ่งหน้าสู่เมืองไชย แขวงอุดมไซระยะทางประมาณ 110 หลัก(เมืองงอยถึงแยกปากมอง(แยกซ้ายไปหลวงพระบาง) 30 หลัก ถึงเมืองไชยอีก 80หลัก)





ไม่เข้าหลวงพระบางนะคระบ(ส่วนใหญ่ไปดูวัดกันบ่อยแล้ว)ตรงไปเข้าเมืองไซย
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 2:31:47 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:35   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118652

คำตอบที่ 126
       จากเมืองไชยมุ่งหน้าสู่พงสาลี ระยะทางอีก 230 หลัก หากไปไม่ถึงคืนที่4 ก็นอนที่เฮือนพักบุนใต้ คืนที่5 ค่อยนอนที่พงสาลีพร้อมมีเวลาเที่ยวเต็มที่เที่ยว





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:40   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118653

คำตอบที่ 127
       แถวๆภูมิปเทศรอบๆ พงสาลีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1500 ก็เที่ยบๆๆยอดภูหลวงบ้านเรา สูงกว่าผาตัด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:43   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118654

คำตอบที่ 128
       คงอลังการด้วยทะเลหมอก ใกล้ชายแดนจีนเขาไปเต็มที่ หากดูแผนที่แล้วตามเส้นรุ่งอยู่ระดับเชียงรุ่ง มณฑลยูนานจีน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 09:50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118655

คำตอบที่ 129
       ออกเช้าตรู่ จากพงสาลีย้อนกลับมาเมืองไชยเพื่อมุงหน้าสู่หลวงน้ำทา(เมืองไชย-หลวงน้ำทา 112หลั ก)..เขาว่ามีทางลัดไม่ตองวิ่งเส้นทางหมายเลข 1 และ4ระยะทางลดลง 80 กม.ค่อยช่วยกันพิจารณา คืนที่ 6 ovos];'ohemk





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118656

คำตอบที่ 130
      





ตลาดหลวงน้ำทา
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 2:00:18 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:07   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118657

คำตอบที่ 131
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118658

คำตอบที่ 132
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118659

คำตอบที่ 133
      





นี้ น่าจะเป็นรูป น้ำตกตาดเงือนที่อยู่จำปาสัก ลาวใต้(มาอยู่ในหลวงน้ำทาได้อย่างไร)
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 2:02:21 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:09   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118660



คำตอบที่ 134
       เดินทางจากเฮือนพักคืนวันที่ 6 ที่หลวงน้ำนามุ่งหน้าสู่ด่านห้วยทราย ระยะทาง 190 หลักตามเส้นทาง ah3 และr3a ลงแพข้ามของ เข้าเชียงของ เชียงราย(ยังมีเวลาเหลือ 1คีนในลาว....เพื่อนๆๆร่วมเดินทาง ช่วยโปรดพิจารณาข้อมูลในการนำเสนอครับ....ไปทั้งที..สุดๆไปเลย ..บ้านไกลเวลาน้อย..จะได้หายคันครับ





เยี่ยม ! เลย...
เส้นทางหมายเลข 3 สร้างเสร็จปี 50 เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาถนนเชื่อมต่อ ไทย ลาว จึน
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 2:05:27 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:14   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118661

คำตอบที่ 135
       สรุปถ้าตามเส้นทางนี่เราออกลาวกลางออกลาวตะวันตกเฉียงเหนือเข้าไทย ผ่านหลายแขวงตังแต่ แขวงบอริคำไซ เชียงขวาง แขวงหัวพัน ส่วนหนึ่งแขวงหลวงพระบาง แขวง อุดมไซย แขวงหลวงน้ำทา แขวงพงสาลี แขวงแขวงบอแก้ว(เข้านครเวียงจันทร์มาแขวงคำม่วน) รวม 10 แขวงจากทั้งหมด 17 แขวง





ขอแก้ สปป.ลาว มีทั้งหมด 18 แขวง(รวมเขตปกครองพิเศศษนครหลวงเวียงจันทร์ เป็นแขวงด้วย)
จาก : พรานไพร(1313) 9/11/2554 2:08:03 [223.206.239.85]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118662

คำตอบที่ 136
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:25   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118663

คำตอบที่ 137
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

1313 จาก พรานไพร 223.206.239.85 อังคาร, 8/11/2554 เวลา : 10:26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118664

คำตอบที่ 138
       สภาพอากาศประเทศลาว Vientiane Average temperature Average rainfall
อากาศร้อนและแห้ง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิ 20- 32 องศา ปริมาณฝนตก 55 มิลลิเมตรโดยเฉลี่ย ฤดูฝน ช่วงเดือน พฤษภาคม อุณหภมิ 24 - 31 องศา ปริมาณฝนโดยเฉลี่ย 244 มิลลิเมตรโดยเฉลี่ย ฤดูหนาวหรืออากาศแห้ง พฤศจิกายน-กุมพาพันธ์ อุณหภูมิ17 - 29 องศา ปริมาณฝนโดยเฉลี่ย 26 มิลลิเมตร
http://www.wunderground.com/global/LA.html

 แก้ไขเมื่อ : 10/11/2554 10:30:55



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 125.26.217.48 พฤหัสบดี, 10/11/2554 เวลา : 10:29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118783

คำตอบที่ 139
       ตามที่ได้ประสานงานกันแล้ว หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดว่าคงเป็นไปตามนี้นะครับ....





แบบนี้ชอบมากเลย
จาก : พรานไพร(1313) 10/11/2554 23:47:50 [223.204.57.228]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 125.26.217.48 พฤหัสบดี, 10/11/2554 เวลา : 18:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118797

คำตอบที่ 140
       วันก่อนนี้ไปร่วมกิจกรรมของจังหวัด มีโอกาสทดสอบจังหวะการเต้นของหัวใจ และสุขภาพก่อนไปลาวครับ.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 125.26.217.48 พฤหัสบดี, 10/11/2554 เวลา : 19:31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118816

คำตอบที่ 141
       ข้อควรระวัง
- ควรขับขี่ยานพาหนะไป สปป.ลาว อย่างระมัดระวัง เนื่องจากระบบการจราจรใน สปป.ลาว ให้ขับรถทางขวาของถนน ต่างจากฝั่งไทย และไม่ควรใช้ความเร็วสูงเนื่องจากทางการลาวจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 – 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรถทางโทมักไม่หยุดรอรถทางเอก
- เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากไฟแดงเป็นไฟเขียว ควรออกรถอย่างระมัดระวังและดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถฝ่าไฟแดงจากด้านอื่น
- ต้องระมัดระวังอันตรายจากรถจักรยานยนต์และสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เช่น ฝูงวัวและแพะ ซึ่งอาจตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ห้ามพูดโทรศัพท์ระหว่างขับรถ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 180.180.41.193 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 05:34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118834

คำตอบที่ 142
       ที่หมายวันแรกครับ คาดว่าออกจากด่านพรมแดนลาวได้ประมาณ 08.30 น. ตามเส้นทางเวียงจันทน์-ทางหลวงหมายเลข 13 ใต้ครับ...."ปากซัน"
สถานที่ตั้ง : แขวงบลิคำไซ ตั้งอยู่ระหว่างแขวงเวียงจันทน์และแขวงคำม่วน
• เมืองหลวง : เมืองปากซัน
• บอลิคำไซ เป็นประตูสู่ลาวใต้ และยังเป็นแขวงที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะเป็นเมืองท่าด่านติดชายแดนสองประเทศ โดยทางด้านทิศตะวันตกริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณเมืองปากซัน จะตรงข้ามกับอำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคายของไทย ส่วนทางด้านทิศตะวันออกบริเวณด่านแก้วเหนือจะติดด่านกอเตรียวของประเทศเวียตนาม การท่องเที่ยวแขวงบลิคำไซสามารถนั่งรถจากแขวงเวียงจันทน์ลัดเลาะลงมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 ใต้ หรือจะใช้บริการเรือข้ามฝากไปเที่ยวก็ได้
• ลักษณะภูมิประเทศ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันทางทิศตะวันตกและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำโขง โดยมีสายน้ำใสสะอาดสีเขียวจากแม่น้ำในเมืองปากซัน ไหลออกมาบรรจบกับสายน้ำสีขุ่นของแม่น้ำโขง เกิดเป็นจุดชมวิว น้ำสองสี ที่สร้างชื่อเสียงทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักแขวงบอลิคำไซและเมืองปากซัน
• เมืองสองน้ำแห่งนี้ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นมากในภายในตัวเมือง แต่เป็นเมืองศูนย์กลางของการค้าขาย การเดินทาง และที่ตั้งของกองทัพ นับเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถนั่งรถสามล้อชมเมืองได้ และจุดที่ไม่ควรที่จะพลาดคือ “แม่น้ำสองสี” บริเวณปากแม่น้ำซัน ห่างจากบริเวณตลาดใหม่ 3 กิโลเมตร บริเวณนี้มีร้านอาหารอยู่ไม่กี่ร้าน ให้บริการอาหารประเภทปลาแม่น้ำโขงและปลาแม่น้ำซัน ส่วนที่พักจะมีเป็นเกสเฮาท์เล็กๆ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะนิยมไปเช้า เย็นกลับ หรือเที่ยวเมืองปากซันตอนเช้าและลัดเลาะไปเมืองท่าแขก
แหล่งท่องเที่ยว
• วัดพระบาทโพนสัน : ตั้งอยู่บ้านพระบาท ห่างจากตัวเมืองปากซันทางทิศเหนือประมาณ 70 กิโลเมตร วัดพระบาทโพนสันเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในเป็นที่ตั้งของพระธาตุเก่าแก่ สูงประมาณตึก 5 ชั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ภายในโบสถ์เป็นที่ตั้งของ รอยพระพุทธบาท จากลักษณะเป็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ลึก 40 เซนติเมตร กว้าง 1.20 เมตร และยาว 2.40 เมตร หันไปทางทิศตะวันออก นอกจากนี้ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่และกลองเก่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ขึ้น 15 ค่ำของทุกปี ชาวลาวจะมาทำบุญนมัสการพระธาตุและรอยพระพุทธบาทกันมาก
• ปากกะดิ่ง : ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองปากซัน ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร ปากกะดิ่ง เป็นชื่อเรียกของปากแม่น้ำกะดิ่งที่ไหลออกมาบรรจบกับแม่น้ำโขง แต่บริเวณนี้ไม่ปรากฎเป็นน้ำสองสีเหมือนปากซัน ปากกะดิ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านปากกะดิ่ง บริเวณปากกะดิ่งมีร้านค้าและแผงขายปลาให้นักท่องเที่ยวแวะมาซื้อของปละชิมปลากันได้
• ล่องเรือชมสายน้ำกะดิ่งและน้ำตกวังพอง บ้านโพนยาง ห่างจากปากกะดิ่งประมาณ 17 กิโลเมตร หากคุณต้องการนั่งเรือชมความสวยงามของแม่น้ำกะดิ่ง คุณต้องเดินทางมาที่บ้านโพนยาง เป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำกะดิ่ง ตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางของแม่น้ำ นักท่องเที่ยวต้องอาศัยการเหมาเรือหางยาวไปเท่านั้น สามารถติดต่อเรือได้ภายในหมู่บ้านโพนยาง ราคาประมาณ 200-300 บาท / ลำ โดยสารได้ 3 – 4 คน ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง แม่น้ำกะดิ่งเหมาะสำหรับนั่งเรือชมในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวเท่านั้น เพราะในช่วงฤดูฝนน้ำจะหลากอันตราย สายน้ำกะดิ่งเป็นสายน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากประเทศเวียดนามออกสู่แม่น้ำโขง ระดับน้ำไม่ลึกสามารถลงเล่นได้ น้ำใสสะอาดสามารถมองเห็นพื้นทรายจากบนเรือ สองข้างทางจะเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ดอนสันทรายกลางน้ำ หน้าผาหินปูนของภูเขารอบด้าน ปลายทางจะพบแก่งเล็กๆ ขวางทางไม่สามารถแล่นเรือต่อไปได้ แก่งน้ำคือ น้ำตกวังพอง บริเวณน้ำตกเหมาะแก่การเล่นน้ำ
• หลักซาวและบ้านนาแป : ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแขวงบอลิคำไซ ห่างจากเมืองปากซันประมาณ 100 กิโลเมตร หลักซาวตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินปูน สถานที่เข้าชมได้คือ ถ้ำเมืองคอน ตั้งอยู่ทางเหนือเมืองขึ้ไปตามทางหลวงหมายเลข 8 ประมาณ 17 กิโลเมตร และมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ บ่อน้ำอุ่นในลำน้ำพาว อยู่เลยจากถ้ำไปประมาณ 1 โลเมตร จากหลักซาวยังมีถนนผ่านไปบ้านนาแป ชายแดนด่านแก้วเหนือตรงข้ามด่านก่อเตรียวของเวียดนาม
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
• เนื่องจากแขวงบอลิคำไซตั้งอยู่ติดกับแขวงเวียงจันทน์ และเป็นเมืองติดชายแดนจังหวัดหนองคายของประเทศไทย ทำให้แขวงบอลิคำไซเป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมแบบไปเช้า เย็นกลับมากกว่าที่จะพักแรม ที่พักโรงแรมขนาดใหญ่จึงไม่ค่อยจะมี แต่ถ้าหากต้องการเที่ยวชมธรรมชาติกันหลายๆ วัน ที่เมืองปากซันจะมีเกสต์เฮาท์เล็กๆ 2 – 3 แห่ง ไว้ให้คุณเลือก โดยเกสต์เฮาท์ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในชุมชน มีให้เลือกทั้งแบบบ้านและแบบห้องเช่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่มากนัก ราคาประมาณ 200-300 บาท/คืน จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกไปเที่ยวภายนอกมากว่าที่ต้องการพักห้องพักที่สะดวกสบาย
ร้านอาหาร
• แขวงบอลิคำไซขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสองน้ำ อาหารการกินส่วนใหญ่จึงมาจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำซัน เมนูส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลา ร้านอาหารส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซัน บางร้านมีระเบียงยื่นออกไปที่แม่น้ำ อาหารเหล่านี้จะสร้างบรรยากาศด้วยการเปิดเพลงลาวให้ลูกค้าฟัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 180.180.41.193 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 05:53   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118835

คำตอบที่ 143
       ที่หมายวันที่สอง..."เชียงขวาง"(ทุ่งไหหิน)ครับ
• เชียงขวาง แผ่นดินแห่งสมรภูมิ กว่า 40 ปีแล้ว แผ่นดินตรงนี้ที่นานาประเทศแย่งกันครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศษ อเมริกา เวียดนาม จีน แผ่นดินบนขุนเขาที่ไกลแสนไกล การเดินทางก็ลำบาก แต่สิ่งหนึ่งของเมืองเชียงขวางที่อยากให้ไปสัมผัสก็คือทุ่งไหหินและบรรยากาศที่หนาวเย็นเกือบตลอดปี
• ในปี พ.ศ. 2513 แขวงเชียงขวาง เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดนับครั้งไม่ถ้วน ในยุคสงครามอินโดจีน หรือสงครามเวียดนามที่ผ่านมา อาจเพราะว่าในอดีตเชียงขวางคือจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 400 กิโลเมตรและจากเมืองโพนสะหวันซึ่งเป็นเมืองหลวงของเชียงขวาง ขวางข้ามเทือกเขอันสลับซับซ้อนบนทางหลวงหมายเลข 7 ไปสิ้นสุดที่ด่านน้ำกลั่น ชายแดนทางตอนเหนือของประเทศเวียตนามระยะทางเพียงแค่ 130 กิโลเมตรซึ่งในช่วงสงครามอินโดจีนเส้นทางสายนี้เคยใช้เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุงรวมทั้งอาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆจากประเทศเวียตนามเหนือ สู่ขบวนการประเทศลาวซึ่งในขณะนั้นเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกันและเส้นทางสายนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเส้นทางโฮจิมินห์ ความที่อยู่ใกล้เวียตนามเหนือทำให้ขบวนการลาวตัดสินใจตั้งกองบัญชาการใหญ่ขึ้นที่นี่กองทัพอากาศอเมริกันจึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี 52 เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายล้างขบวนการลาวอย่างหนัก หมู่บ้านใหญ่น้อยหลายร้อยแห่งตลอดจนวัดวาอารามถูกทำลายแทบทั้งหมด ส่งผลให้ราษฏรและทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาวต้องอพยพเข้าไปอยู่ตตตามถ้ำและหุบเขาทั่วไปในแขวงเชียงขวางและข้างเคียง
• ในอดีตในสมัยช่วงทศวรรษที่ 1830 แขวงเชียงขวางถูกรวมเข้าอยู่กับเวียตนาม ชาวเชียงขวางในสมัยนั้นถูกบังคับให้แต่งกายและใช้ขนบธรรมเนียมของเวียตนาม แต่ความรักอิสระและทรนงในชาติพันธ์ของตนเองทำให้ชาวเชียงขวางทุกคนลุกขึ้นสู้เพื่อรักษาความเป็นอธิปไตยของตนเองไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ท้ายที่สุดชาวเชียงขวางก็ไม่อาจต้านทานกำลังจากประเทศเพื่อนบ้านผู้ทรงอิทธิพลในขณะนั้นจึงตกเป้นเมืองขึ้นของเวียตนามอยู่ชั่วระยะหนึ่ง
• แม้สงครามอินโดจีนจะผ่านพ้นไปสามสิบกว่าปีแล้ว แต่บาดแผลและร่องรอยจากสงครามยังคงอยู่สภาพของสิ่งปรักหักพังของเมืองคูน เมืองหลวงเก่ายังคงมีร่องรอยให้เห็นอยู่โดยทั่วไป ซึ่งจากซากปรักหักพังบางแห่งทางรัฐบาลลาวได้อนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงพิษภัยของสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต ร่องรอยของหลุมระเบิดขนาดใหญ่จากฝูงบิน บี 52 ของอเมริกันยังคงมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อเลี้ยงปลาในนาข้าว ซากของลูกระเบิดน้ำหนักหลายสิบตันถูกดัดแปลงมาเป็นรั้วบ้าน เสาบ้าน รางข้าวหมู ที่นั่งเล่น เตาปิ้งบาร์บีคิวสำหรับนักท่องเที่ยว
• ปัจจุบันเมืองเชียงขวางเริ่มฟื้นตัวเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไป มีสิ่งดีๆมอบเป็นของกำนัลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเสมอ ชาวเชียงขวางไม่เคยลืมอดีตที่โหดร้ายของสงครามที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีอคติกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนช่วยกันก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ คือเมืองโพนสะหวันแทนเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงด้วยพิษสงคราม
• เมืองโพนสะหวัน เมืองหลวงใหม่ของแขวงเชียงขวาง อยู่ห่างจากเมืองคูนเมืองหลวงเก่าที่ถูกทำลายลงไปเมื่อครั้งสงครามระยะทางห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากทุ่งไหหินหนึ่งระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร เมืองโพนสะหวันเดิมมีชื่อว่าเมืองแปก ซึ่งแปลว่าต้นสน สาเหตุเพราะว่าสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ประกอบกับมีเทือกเขาอันสลับซับซ้อน จึงเหมาะแก่การเจริญเติบโตของต้นสนสามใบ ซึ่งอยู่ในเทือกเขาตลอดทั้งสองข้างของถนนหมายเลข 7 ถนนยุทธศาสตร์เดิมในอดีตสู่ชายแดนประเทศเวียตนามตอนเหนือ ตลอดจนทุ่งดอกบัวตองชาวลาวเรียกว่าดอกบัวขม ออกดอกสีเหลืองอร่ามบานสะพรั่ง แซมด้วยดอกคริสต์มาสสีแดงสดที่ชาวลาวนิยมปลูกเป็นรั้วบ้านบานสะพรั่งต้อนรับลมหนาวของเดือนพศฤจิกายนของเส้นทางแห่งนี้

• เมืองคูน เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของแขวงเชียงขวาง ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโพนสะหวัน เมืองหลวงใหม่ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งในปี พ.ศ.2512 ช่วงสงครามอินโดจีน เมืองคูนแห่งนี้ถูกอเมริการะดมทิ้งระเบิดอย่างหนัก จนวัดอารามที่สวยงามพังทลายจนหมดสิ้น ส่วนอาคารสถานทูตฝรั่งเศสนั้นแม้จะได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดไม่น้อยแต่ก็ยังคงอยู่รอดมาได้ ส่วนตึกบางแห่งที่เหลือแต่เพียงซากปรักหักพัง ทางการลาวยังคงสภาพเดิมเอาไว้เพื่อให้ชาวลาวรุ่นหลังได้เห็นพิษภัยความหายนะของสงครามที่เกิดขึ้นในอดีต หลังสงครามอินโดจีนสิ้นสุดลง ทางการลาวได้ทำการย้ายเมืองหลวงจากเมืองคูนมาอยู่ที่เมืองโพนสะหวันในปัจจุบันนี้ ภายในตัวเมืองคูนเมืองหลวงเก่าของแขวงเชียงขวางจะเห็นวัดอยู่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ติดริมถนนทางด้านซ้ายมือมีชื่อว่าวัดเพีย มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี วัดเพียแปลเป็นภาษาไทยว่า วัดใหญ่ คำว่าเพียแปลว่าใหญ่ ตัวพระอุโบสถมีแต่เพียงซากปรักหักพัง ซึ่งเกิดจากพิษภัยของสงครามคงเหลือแต่พระพุทธรูปปางสมาธิที่ทำมาจากปูนความสูงประมาณ 10 เมตร ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองคูนและประชาชนลาวทั่วไป ด้านข้างมีกุฏิพระใช้เป็นที่จำพรรษาของภิกษุสามเณร ก่อนถึงวัดเพียประมาณ 100 เมตร จะมีทางแยกลูกรังซ้ายมือเข้าไปยังพระธาตุฝุ่น ระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นพระธาตุเก่าแก่องค์หนึ่งในเมืองคูน รอบฐานองค์พระธาตุฝุ่นจะสมบูรณ์ไปด้วยดอกบัวตองหรือที่ชาวลาวเรียกว่า ดอกบัวขม ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งรอบฐานองค์พระธาตุฝุ่น ริมถนนทางเข้าพระธาตุคือตลาดเมืองคูน เป็นตลาดขนาดเล็กที่มีชนเผ่าต่างๆ นำผลผลิตทางการเกษตรและของป่ามาวางขายริมถนนราคาถูก ชาวลาวในเมืองคูนมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันพอสมควร ตลอดสองข้างทางจากเมืองโพนสะหวันไปยังเมืองคูน(เมืองหลวงเก่า) ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะแลเห็นวิวทิวทัศน์ท้องทุ่งนา ลักษณะคล้ายขั้นบันได รวงข้าวสีทองเหลืองอร่ามรอการเก็บเกี่ยว สลับกับเทือกเขาหัวโล้นเป็นแนวยาวไปจนสุดสายตา ภาพวิถีชีวิตชาวนาลาวกำลังช่วยกันลงแขกเก็บเกี่ยวข้าวในท้องทุ่งนา ซึ่งเป็นประเพณีโบราณและเป็นภาพที่หาดูได้ยากแล้วในเมืองไทย ภาพของชาวนากำลังช่วยกันฟัดข้าวอยู่กลางท้องถิ่น โดยใช้เครื่องมือช่วยในการฟัดชนิดพิเศษที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คือ ซากลูกระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-52
สถานที่ที่น่าสนใจ
• ตลาดเช้าชนเผ่า จากตัวเมืองโพนสะหวันมาทางทิศตะวันออกบนทางหลวงหมายเลข 7 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของตลาดเช้าของชนเผ่าต่างๆ ในแขวงเชียงขวาง ซึ่งจะนำพืชผักผลไม้รวมทั้งสัตว์ป่าที่หาได้ในบริเวณนี้มาวางขายกันตอนเช้าตรู่ตั้งแต่ 05.00 –08.00 น. และจะมีเฉพาะวันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้น มีชาวจีนและชาวเวียตนามนำสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น เสื้อกันหนาว สบู่ ยาสีฟัน รองเท่า สิ่งของบริโภค เช่นน้ำมันพืช อาหารกระป๋อง ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นของที่ผลิตจากประเทศจีนและเวียตนามจำหน่ายในราคาย่อมเยา สินค้าที่นำมาจากประเทศไทยมีน้อยมาก อีกทั้งราคายังแพงกว่า ชาวลาวนิยมใช้สินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยเพราะมีคุณภาพดีกว่า นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาชมตลาดเช้าชนเผ่า อาจจะต้องตื่นแต่เช้า ประมาณ 04.00 น. จากนั้นนั่งรถฝ่าความหนาวเย็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 7 ตลาดเช้าชนเผ่า อยู่ทางขวามือต้องเอาไฟฉายติดไปด้วย เพราะอากาศในตอนเช้ามืดมาก
• หมู่บ้านชนเผ่าม้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโพนสะหวัน ทางหลวงหมายเลข 7 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ห่างจากตลาดเช้าชนเผ่าไม่กี่กิโลเมตร นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากยุโรปชอบเดินทางมาเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าม้งที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพราะยังคงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีของชนเผ่าม้งเอาไว้ เช่น การตำข้าว การตีเหล็ก แต่สิ่งที่มีลักษณะพิเศษกว่าหมู่บ้านม้งอื่นๆคือ การนำเอาซากลูกระเบิด B-52 มาดัดแปลงทำเป็นรั้วบ้าน เสาบ้าน ทั้งตีเหล็กรางข้าวหมู ซึ่งมีเห็นแทบทุกหลังคาเรือน
• อนุสาวรีย์ทหารลาว – เวียตนาม ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารลาวและเวียตนามในสงครามอินโดจีน ที่ช่วยกันต่อสู้ขับไล่มหาอำนาจอเมริกาให้ออกไปจากอินโดจีน
• นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี ตลอดจนความหลากหลายของชนเผ่าต่างๆ ในแชวงเชียงขวางแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่สวยงามให้นักท่องเทียวได้มาสัมผัส วิวทิวทัศน์ของขุนเขาอันสลับซับซ้อน สีเขียวขจีคล้ายพรมกำมะหยี่จากธรรมชาติ สัมผัสอากาศอันหนาวเย็นตลอดทั้งปี เปรียบเสมือนกับได้เดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศนิวซีแลนด์ แต่เป็นนิวซีลาว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 180.180.41.193 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 06:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118836

คำตอบที่ 144
       จุดหมายวันที่สาม..."ซำเหนือ"....ครับ.
• สถานที่ตั้ง : อยู่ติดชายแดนเวียตนามเหนือ ถัดไปจากแขวงเชียงขวาง
• เมืองหลวง : เมืองซำเหนือ
• หัวพัน : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเชียงขวาง ประวัติศาสตร์ของสองแขวงนี้มีความคล้ายคลึงกัน ในอดีตหัวพันเคยตกเป็นเมืองขึ้นของเวียดนามสลับกับการดำรงอยู่ในฐานนะรัฐเอกราช และเพิ่งถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของลาวในสมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ปัจจุบันมีประชากรราว 280,780 คน ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าไม้ อากาศค่อนข้างหนาว ประกอบด้วยชมกลุ่มน้อยกว่า 20 เผ่า ได้แก่ ไทขาว ไทแดง ไทเหนือ ไทน้อย ม้ง ขมุ ยูนนาน ส่วนใหญ่ใช้ภาษาตระกูลภาษาไท
แหล่งท่องเที่ยว
• เมืองซำเหนือ เป็นเมืองหลวงของแขวงหัวพัน มีชายแดนติดกับเวียดนาม ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันเขียวชอุ่มที่ความสูง 1,200 เมตร เป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลาดในเมืองยามเช้าจะมีชาวเขาเผ่าต่างๆ ออกมาเดินซื้อของกันที่นี่ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ของจากจีน เวียดนามและไทย และผ้าทอมือ ซึ่งเป็นสินค้าที่ขึ้นชื่อของลาว ที่ส่งไปขายยังหลวงพระบางและเวียงจันทน์ มีลวดลายที่ประณีต สวยงาม
• วัดโพธิ์นาราม ถัดจากตลาดกลางเมืองมาประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงวัดโพธิ์ชัยนาราม นับเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาเพียงแห่งเดียวของเมือง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2522-2530 ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมือง เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เสรีภาพ สร้างขึ้นมาเพื่อฉลองเอกราชในปี พ.ศ. 2522 เป็นรูปดาวแดง ตั้งอยู่บนเขา เป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองซำเหนือได้ด้วย
• เมืองเวียงชัย อดีตศูนย์บัญชาการใหญ่ของกลุ่มผู้นำขบวนการประเทศลาว หมู่บ้านชนพื้นเมืองหลากวัฒนธรรม และแหล่งทอผ้าอันดับ 1 ของลาวอย่างซำเหนือ โดยเฉพาะที่มาจากเมืองซอนและสบหาวถือว่าคุณภาพดีที่สุด
ที่พัก ร้านอาหาร
• เมืองหัวพันไม่โดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวสักเท่าไร ที่พักส่วนใหญ่จึงดัดแปลงจากบ้านพักของชาวบ้านจะเป็นในรูปแบบของเรือนพัก แต่ถ้าต้องการความสะดวกสบายสามารถเลือกใช้กับผู้ประกอบการนำเที่ยวในแขวงเชียงขวางก็ได้ ซึ่งจะจัดพาหนะที่พัก อาหาร โปรแกรมท่องเที่ยว ไว้ให้ครบครัน
การเดินทาง
• จากเชียงขวางมาเมืองหัวพัน สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 7 เดินทางไปยังเมืองคำทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 6 ตรงมายังน้ำเนิน ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นจะเป็นถนนลูกรังตัดเข้าไปในเขตภูเขาสูง ระหว่างทางพบหมู่บ้านชาวเขาหลายแห่ง

 แก้ไขเมื่อ : 11/11/2554 6:21:43



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 180.180.41.193 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 06:19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118837

คำตอบที่ 145
       สุด ยอด ครับ



ว่าไง ? "ขนมต้ม" รายงานตัวหน่อย ไปป่าว? ใกล้วันแล้วครับ.
จาก : klam(klam) 11/11/2554 8:21:56 [180.180.41.193]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

9007 จาก ขนมต้ม 125.26.152.45 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 08:03   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118838

คำตอบที่ 146
       วันที่สี่เราจะพักที่"เมืองงอย แขวงหลวงพระบางครับ.
http://www.hotsia.com/Laos/Luang-Prabang/muang-ngoi/index.shtml



ฝากข่าวถึง ...สอ....วอ. และคุณชาย มีเวลาตัดสินนะครับ..ฮิๆๆๆ.
จาก : klam(klam) 11/11/2554 8:24:29 [180.180.41.193]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 180.180.41.193 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 08:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118839

คำตอบที่ 147
       โธ่เอ๊ย แม่ง ไม่ได้ไปเลย น้ำๆๆๆ จะไปอีกเมื่อไรครับ ดูสะพานแล้วคิดถึงคนที่ไป
คราวหน้าจัดเต็มๆให้คนที่อยู่กับน้ำบางนะครับ ทริปหน้านะครับขอฝากด้วย ขอบคุณครับ



ขอเป็นกำลังใจครับ.
จาก : klam(klam) 11/11/2554 14:05:49 [125.26.223.147]
ขอเป็นกำลังใจครับ.....ตราบใดที่ยังไม่สิ้นลม โลกกลมๆคงมีโอกาสครับ ด้วยยินดีครับ.
จาก : klam(klam) 11/11/2554 14:07:35 [125.26.223.147]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

cccccc จาก c6 125.27.92.189 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 09:56   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118843

คำตอบที่ 148
       วันที่ห้า ถ้าไปถึงพงสาลีได้...ก้อจะไป
• แขวงพงสาลี : "เหนือสุดแห่งเมืองลาว"
• สถานที่ตั้ง : อยู่ติดชายแดนจีนและเวียดนามเหนือ อยู่เหนือสุดของประเทศลาว
• เมืองหลวง : เมืองพงสาลี
• พงสาลี : หากมองในแผนที่ พงสาลีเป็นดินแดนของลาวที่ติดกับพรมแดนของประเทศจีนและเวียดนาม ทำให้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีการเข้ามายึดครองจากหัวเมืองใหญ่ทั้งหลายในอดีต ในปัจจุบันพงสาลีเป็นเมืองหลวงของแขวง มีประชากร 167,181 คน ตัวเมืองตั้งอยู่บนภูเขาสูง 1,400 เมตร ในเขตเขาภูฟ้า ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดปี และเนื่องจากตั้งอยู่ในชัยภูมิอันเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ คืออยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างจีนกับเวียดนาม ฝรั่งเศสจึงให้ความสำคัญกับพื้นที่แถบนี้มากถึงขนาดสั่งการให้ตั้งค่ายกองทหารรักษาการณ์ขึ้น ดังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสปรากฎให้เห็นตามซอยต่างๆ แม้จะถูกอาคารพาณิชย์ของจีนที่เน้นประโยชน์ใช้สอยบดบังไปส่วนใหญ่
• ตามบันทึกกล่าวไว้ว่าในอดีตพงสาลีมีฐานะเป็นหนึ่งในเมืองของพวกไทลื้อในแคว้นสิบสองปันนาของจีน แต่ฝรั่งเศสได้แย่งมาจากจีนในสนธิสัญญาที่ทำขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2438 ต่อมาเมื่อตกมาเป็นของลาว จึงกลายเป็นแขวงที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาที่สุดแขวงหนึ่ง มีทั้งม้ง อาข่า เย้า ชาวไท เผ่าต่างๆ รวมถึงชาวต่างด้าวเวียดนามกับจีน เนื่องจากรัฐบาลลาวมีนโยบายที่จะสร้าง เอกภาพในความหลากหลาย จึงได้รวมชนกลุ่มน้อยถึง 23 เผ่า เข้าด้วยกัน
สถานที่ท่องเที่ยว
• พิพิธภัณฑ์ชนเผ่า : ภายในจัดแสดงเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ และเครื่องประดับ ของชนเผ่าต่างๆไว้ให้ชม
• ตลาดเช้า : จะมีสินค้าและของกินพื้นเมืองให้ชิมกันมากมาย ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ส่วนใหญ่จะเป็นชาวพูน้อยและจีนเป็นหลัก
• ยอดภูฟ้า : ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระธาตุภูฟ้า ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 40 นาที เป็นจุดที่สามารถมองเห็นเมืองพงสาลีได้รอบ ถ้ามาช่วงฤดูหนาวจะเห็นสายหมอกที่ปกคลุมเมืองพงสาลีได้อย่างสวยงาม
• ปัจจุบันนักท่องเที่ยวยังมาเที่ยวที่เมืองพงสาลีไม่มากนัก มีที่พักและร้านอาหารให้พอเลือกได้ ทั้งแบบเกสต์เฮาท์และโรงแรม ราคาไม่แพงมาก
..........แต่ถ้าไปไม่ถึงก้อจะดิ่งไปที่"แขวงหลวงน้ำทา" ครับ
• สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแขวงบ่อแก้ว ติดกับประเทศพม่าและประเทศจีน
• เมืองหลวง : เมืองสิงห์
• หลวงน้ำทา : เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆ หลวงน้ำทามีทั้งการให้ชมวิถีชีวิตของชนเผ่าต่างๆ ร่องรอยจากสงครามกองทัพขบวนการประเทศลาวกับกองโจรม้ง เยี่ยมชมเมืองสิงห์ ซึ่งเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เที่ยวชมวัดหลวงบ้านเชียงใจ สถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาแบบไทลื้อ เรือนพญาเซกอง มรดกของอาคารยุคอาณานิคม
• ในช่วงสงครามอเมริการ พ.ศ. 2498-2518 พื้นที่แถบนี้เคยเป็นสมรภูมิรบ ระหว่างขบวนการประเทศลาวและกลุ่มกองโจรของพวกชาวเขา ส่วนใหญ่เป็นม้ง ที่ได้รับการหนุนหลังจากหน่วยงานซีไอเอของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตัวเมืองถูกทำลายโดยไม่สามารถซ่อมแซมได้ ต้องย้ายไปสร้างเมืองใหม่ที่ริมฝั่งแม่น้ำทา ห่างจากที่ตั้งเดิมมาทางเหนือ 7 กิโลเมตร ใกล้กับทางหลวงที่ใช้ไปยังเมืองสิงห์ อุดมไชย และบ่อเต็น ประกอบด้วยคนหลายชนเผ่า แม้ว่าทางการจะย้ายเมืองหลวงใหม่มาแล้วก็ตาม แต่สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองเก่า ชาวหลวงน้ำทาเรียกเขตนี้ว่า เมือง และเรียกเขตที่สร้างใหม่ว่าแขวง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้ามาแวะพักเพื่อเดินทางต่อไปยังบ่อแก้ว หรือไม่ก็ไปจีน หรือไปยังเมืองสิงห์ ภายตัวเมืองหลวงน้ำทามีที่พักแบบเกสต์เฮาท์ค่อนข้างเยอะ
• ปัจจุบันหลวงน้ำทามีถนนสายกว้าง ถ้าเดินมาทางเชิงสะพานด้านตะวันออกของถนนสายหลักในยามเช้า จะเห็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีรถขนส่ง ถัดจากเมืองประมาณ 2 กิโลเมตรไปตามเส้นทางเมืองสิงห์ จะพบศูนย์หัตถกรรมหลวงน้ำทาซึ่งสหภาพยุโรปเป็นผู้ออกเงินสร้างเพื่อให้มีที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมของชาวบ้าน
ภูมิประเทศ เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ ม้ง ขมุ ไทเหนือ ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทยวน ไทลื้อ ละวิด ละเมด สีดา อีก้อ มูเซอ กะลอม ไทยใหญ่
แหล่งท่องเที่ยวเมืองสิงห์
• บนทางหลวงหมายเลข 3 ห่างจากตัวเมืองมาทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ผ่านทิวเขา สายน้ำทา และผืนป่าเขียงขจีของสองข้างทาง มาถึงเมืองสิงห์ เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บนที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ โอบล้อมด้วยทิวเขา มีสายน้ำยวนและม่าคอยหล่อเลี้ยง อดีตเคยเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญและเคยตกเป็นเมืองขึ้นของแคว้นทางตอนเหนือของไทย อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งสนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกฝิ่นและเป็นผู้ผูกขาดการค้าฝิ่นเสียเอง
• นอกจากนี้เมืองสิงห์ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทลื้อ ชาวไทลื้อนับเป็นหนึ่งในกลุ่มชนที่ใช้ภาษาตระกูลภาษาไทซึ่งรวมถึงพวกลาวลุ่ม ชาวเขาบางเผ่า ผู้คนในภาคเหนือของไทย และในรัฐฉานของพม่า ชาวไทลื้อมีถิ่นฐานอยู่ในมณฑลยูนนานทางภาคใต้ของจีนห่างจากเมืองสิงห์เพียง 10 กิโลเมตร ชาวไทลื้อในลาวจึงได้ชื่อว่ามีสายเลือดและวัฒนธรรมแบบไทลื้อแท้กว่ากลุ่มอื่นๆ ที่อยู่นอกถิ่นฐานเดิมของบรรพบุรุษ
ใช่ว่าเมืองสิงห์จะมีชาวไทลื้ออาศัยอยู่อย่างหนาแน่น นอกเมืองออกไปยังมีชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้งม้ง เย้า มูเซอ อาข่า แวนแตน ส่วนใหญ่มักตั้งหมู่บ้านอยู่บนไหล่เขา และจะลงมาซื้อของในเมืองสิงห์กันทุกเช้า
• หากเดินทางมายังเมืองสิงห์แล้ว สามารถเดินทางท่องเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ตามสะดวกเพราะแต่ละพื้นที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมือง สามารถเที่ยวครบได้ในวันเดียว
• วัดหลวงบ้านเชียงใจ : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของถนนสายหลักในเมืองใกล้ๆ กับแม่น้ำ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2430 เป็นสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาแบบไทลื้อ ภายในพระอุโบสถเป็นหลังคาทรงสูง มีหน้าต่างบานเล็กๆ และหมู่เสาที่ลงรักสีแดงดูสวยงามมาก ด้านนอกเป็นที่ตั้งของพระธาตุสีทองมีรูปทรงที่แปลกตา
• เรือนพญาเซกอง ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำเมือง เก็บรวบรวมและแสดงประวัติเรื่องราว สิ่งของ เครื่องใช้ ของชนเผ่าต่างๆ ในเมืองสิงห์ แต่ต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปชม หลังจากนั้นเดินเข้าไปในซอยติดกับเรือนแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของตลาดเช้า และสถานีรถโดยสารแห่งใหม่ของเมืองสิงห์
• ตลาดใหญ่ เป็นตลาดประจำเมืองสิงห์ สมัยก่อนเป็นตลาดที่มีการซื้อขายฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในสามเหลี่ยมทองคำ ปัจจุบันเป็นตลาดจำหน่ายอาหาร เสื้อผ้า และของใช้ต่างๆ ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากจีน และยังเป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าของชนเผ่าต่างๆ ด้วย
• พระธาตุเชียงตึง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวเมือง เป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยมสูง 10 เมตร ตั้งอยู่บนเนินเขาศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา-ล้านช้าง ทุกปีในวันเพ็ญเดือน 12 ชาวเมืองจะจัดงานฉลองบุญขึ้นธาตุ จัดเป็นงานใหญ่ประจำปี เหมือนกับงานฉลองพระธาตุหลวงนครเวียงจันทน์ที่จัดในเวลาเดียวกัน
• งานบุญพระธาตุเมืองสิงห์ (งานบุญประจำปี) ซึ่งจะจัดขึ้นในปลายเดือนตุลาคมหรือต้นพฤศจิกายน ตามกำหนดวันในปฏิทินทางจันทรคติของแต่ละปี สถานที่จัดงานคือบริเวณพระธาตุบนเขาทางทิศใต้ของตัวเมืองจัดเป็นงานบุญในพระพุทธศาสนา จึงมีทั้งธูปเทียนอาหารที่ชาวบ้านนำมาถวายพระ พวกชาวเขาเผ่าต่างๆ ก็มาร่วมงานบุญนี้อย่างคับคั่ง มีการแต่งกายประจำเผ่า ส่วนงานประเพณีสงกรานต์ในเดือนเมษายนและงานบุญบั้งไฟ เพื่อขอฝนในช่วงฤดูแล้งของเมืองสิงห์ก็ครึกครื้นไม่แพ้กัน
• ปัจจุบันการเดินทางไปยังหลวงน้ำทา ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีรถโดยสารประจำทางออกจากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว หรือใช้บริการของสายการบินลาว เที่ยวบินจากเวียงจันทน์-หลวงน้ำทา หากต้องการเดินทางทางน้ำก็มีเรือจากห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว (ด่านไทยลาว) ซึ่งเรือจะล่องไปตามลำน้ำโขง ไปยังหลวงน้ำทาและต่อด้วยรถยนต์ไปยังเมืองสิงห์
ที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
• ที่พักส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของเรือนพักและเกสต์เฮาท์ ตกแต่งแบบเรียบง่าย ราคาไม่แพงมาก มีอาหารไว้บริการลูกค้า ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเมืองสิงห์
http://www.southlaostour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538683578&Ntype=4




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 125.26.223.147 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 20:54   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118862

คำตอบที่ 149
       ค่ำคืนของวันที่หก หากพักที่"หลวงน้ำทา" คงเข้า "ห้วยทราย" ข้าม"เชียงของ" นอนฝั่งไทยครับ.. อ้อ สำหรับวิทยุสื่อสาร ในลาวให้ใช้เครื่องแดงนะครับ ช่อง 65 ความถี่ 245.800 ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

klam จาก แหลม ลำโขง 125.26.223.147 ศุกร์, 11/11/2554 เวลา : 21:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118863

คำตอบที่ 150
       อีก1 วัน เที่ยวให้สนุกนะครับจะรอดูภาพสวยๆ เดินทางด้วยความปลอดภัย ทั้งไปและกลับ(ของฝากขอเป็น อะตะปืด)





ขอบคุ
จาก : klam(klam) 12/11/2554 23:42:10 [125.26.222.231]
ขอบคุณมากน้องพี่ คงได้พบกันอีก"วอน
จาก : klam(klam) 12/11/2554 23:44:01 [125.26.222.231]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

วอนซะแล้ว จาก วอนซะแล้ว 110.77.208.24 เสาร์, 12/11/2554 เวลา : 22:10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 118891

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอาทิตย์,24 พฤศจิกายน 2567 (Online 3295 คน)