WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


LAO JEEP PART II

จาก TA
58.9.110.20
จันทร์ที่ , 11/2/2551
เวลา : 14:39

อ่านแล้ว = 68710 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       Hi my name is TA I from LAO now live in Bangkok I love Jeep
see my Jeep

ต่อจากภาคแรก นะครับ
http://www.thailandoffroad.com/jeepmilitary/jeepmilitary/question.asp?page=35&ID=2287

หมายเหตุ ขออภัยกระทู้ยาวมาก ขอ stop กระทู้นะครับเนื่องจากการจัดหน้าเว็บไม่สวยงามอะครับ ขออภัยในความไม่สะดวก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 9 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  
21  22  23  24  25  

คำตอบที่ 241
       ทั้งสามลูกดูไม่เหมือนกัน..ดูจากภาพ 236 ที่ใช้กับ เคื่องยน์ของฟอร์ด หน้าจะใช้ตัวทีมี ครีบสองตัว..ที่เหลือสองตัวไม่มี ครีบ หน้าจะใช้กับเอ็มบี..แต่ก็ยังไม่แน่ใจ..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 อังคาร, 29/4/2551 เวลา : 16:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29015

คำตอบที่ 242
       คุณ เจมส์ ผมมีคำถามที่ค้างคาใจ เป็นคำถามที่ผมเคียถามเมื่อก่อนว่า..ไฟท้ายของรถจิบ ที่ใช้ในทางทะหารทำไมจืงมีหน้าตาไม่เหมือนกัน..ช่วยตอบให้หน่อย...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 อังคาร, 29/4/2551 เวลา : 16:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29016

คำตอบที่ 243
       โทดที เมียใช้ทำกับข้าว เลียลงรูบผิด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 10:51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29069

คำตอบที่ 244
       ผมเดาเอาเองนะครับ..ไฟท้ายฝั่งขวาหน้าจะใข้ร่วมกับไฟพลางกางคืน..ตอนที่วิ่งหลบเคื่องบินตอนกลางคืนนั้นจะปิดไฟหน้าท้ายหลักทั้งหนด เหลือเพียงไฟท้ายที่เป็นขีดทางขวา เพื่อป้องกันรถที่วิ่งตามหลังชน..ไครที่รู้แน่นอนช่วยเสีม..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 11:02   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29070

คำตอบที่ 245
       ดั่งนั้น ผนที่ออกมา ไฟท้ายคู่หลังจืงมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกัน..ไม่ใช่มีเพียงรถจิบ..รถที่ใช้ในทางทะหารอื่นๆ ก็เป็นด้วย..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 11:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29071

คำตอบที่ 246
       รอไม่ไหว ตอบซะเองเลยนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 13:25   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29074

คำตอบที่ 247
       แบบนี้รึป่าวครับ ผมก็พยายามหาข้อมูลอยู่ครับ
ปล.เป็นภาพจากเนท





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 14:49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29075

คำตอบที่ 248
       แหม ได้คุยกับคุณต้านี่สนุกจริงๆ ครับ ผมก็เลยสานต่อลงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับรถjeep ซึ่งมีโครงสร้างไม่ค่อยปลอดภัยให้ปลอดภัย ที่มีการเผยแพร่ไว้ ดังนี้
Jeep มีจุดที่ไม่แข็งแรงหลายจุดในการขับขี่บนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง และในเมือง (แต่ถ้าเป็นการขับในเมืองที่มีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ กินลมชมวิวจะเหมาะเป็นอย่างยิ่ง
Jeep WWII ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยเลย ไม่มีถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัย โรลบาร์ เหล็กกันโคลง ไม่มีไฟเลี้ยว ถ้าจะให้ปลอดภัยสำหรับคนขับกับผู้โดยสาร จะต้องคำนึงเสมอว่าเมื่อขับ ควรจะเผื่อระยะห่างจากรถด้านหน้าพอสมควร เพราะJeep ไม่มีไฟเลี้ยว คุณจะต้องใช้สัญญาณมือที่เคยร่ำเรียนมาหรือเคยรู้มาเป็นประโยชน์ในการให้สัญญาณเลี้ยว ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครจะใช้สัญญาณมือซักเท่าไหร่ ดังนั้น จึงควรขับอย่างระมัดระวัง และควบคุมความเร็วที่เหมาะสมกับความปลอดภัย จำไว้เสมอว่า jeepWWII ไม่ใช่รถสปอร์ต
อีกอย่างควรวางแผนการเดินทาง โดยหลบเลี่ยงการใช้ความเร็วสูง ลดความเร็วในขณะเข้าโค้ง และถนนเปียกแฉะ
ฝรั่งใช้คำว่า "Defensive driving" ในขณะขับ Jeep WWII หมายความว่า ขับในที่ที่ควรจะขับอย่างระมัดระวังต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้น หมั่นมองกระจกข้าง มองไปข้างหน้า และตื่นตัวกับสภาพแวดล้อมรอบตัวอยู่เสมอ
เบรครถJeep WWII นั้นพอเพียงสำหรับสภาพตัวของมันเองเท่านั้น ยางบั้งๆ เหมาะสำหรับการลื่นไถล หน้าสัมผัสมีน้อย ควรลดความเร็วในขณะที่ฝนตกหนัก
ดังนั้น จึงสรุปว่า สภาพเดิมของรถเหมาะสำหรับการขับขี่ไม่เร็วมากนัก และไม่ควรนำขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัดหรือรถหนาแน่น
วันหน้าจะเอาข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วที่เหมาะสม และการดูแลรักษามาบอกต่อครับ
ปล.ภาพจากเนท





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 17:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29079

คำตอบที่ 249
       ถ้าใช้ปัจจุบัน ไฟขาวไว้ส่องหลัง ตอนถอยไง ส่วนไฟแดงไวตอบเบรคนะซิ คุณ TA ...ฮึ.ฮึ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เอก ดอนตูม 158.108.192.127 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 20:19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29086

คำตอบที่ 250
       คุณต้าช่วยดูอันนี้หน่อยครับ ผมได้ pit man arm มาอันนึง มี F script แต่ไม่มี GPW ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.204 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 22:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29096

คำตอบที่ 251
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.204 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 22:26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29097

คำตอบที่ 252
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.204 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 22:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29098

คำตอบที่ 253
       เกียร์ที่คุยกันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.204 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 23:12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29099

คำตอบที่ 254
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.204 พุธ, 30/4/2551 เวลา : 23:13   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29100

คำตอบที่ 255
       หน้าที่ 248 เป็นข้อมูลการขับขี่รถจีบ WWIIที่มีประโหยดมากๆ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พฤหัสบดี, 1/5/2551 เวลา : 09:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29105

คำตอบที่ 256
       นี้ก็อีกเรื่องนื่ง ที่ผมคนลาวเดีนดิน ยังงงอยู่ว่า มีอะหลั่ยชะนิดเดียวกัน แต่มี ตัวป้ำที่ไม่เหมือนกัน ( บางตัวมี F บางตัวมี GPW ) บางทีมันอาตคร้ายกับ แผ่น เพลทที่มาคนละปีก็เป็นได้...ตามที่ผมเจีอะหลั่ยตัวที่มี GPW ยังมีสะภาพยังใหม่ ส่วนตัวที่มี F นั้นอยู่ในสะภาพเก่ามาก...( สานิถาน ตัวที่มี Fหน้าจะมาจากปี 1942 ) เพาะมานืกถืงเมื่อก่อน..เคียมีฝรั่งบอกผมว่า..ฟอร์ดนั้นช่วงปี 1942 จะใช้น๊อดที่ป้ำ F และต่อมาปี 43-45 จะเป็นนอ๊ดปล่าวโดยที่ไม่ได้ป้ำตัวอะไรเลีย....ส่วนวีลลี่ เอ็มบี นั้น จะป้ำตัวE C ที่หัวนอ๊ด มาตะหลอดจนจบสงครามโลก....แหม๋..ว่าแล้ว มีอะหลั่ยฟอร์ดเยอะเหมือนกันนะเรา..หิหิ..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พฤหัสบดี, 1/5/2551 เวลา : 10:05   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29107

คำตอบที่ 257
       ตัวอย่าง โต่งเต่ง ตัวCเป็นของฟอร์ดที่มีเขียนไว้บนกล่อง GPWตัวนี้ของผมเองครับ..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พฤหัสบดี, 1/5/2551 เวลา : 10:19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29108

คำตอบที่ 258
       แต่ข้างในไม่ได้ป้ำ Fหลือ GPWเอาไว้เลีย...คู่นี้ใหม่ครับคุณ เจมส์ และมีคู่เดียว..หิหิ..





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พฤหัสบดี, 1/5/2551 เวลา : 10:20   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29109

คำตอบที่ 259
       วันนี้จะมาให้คำนิยาม ของคำว่า GPW คำว่า GPW เดิมเข้าใจว่ามาจาก G-Genneral , P-Purpose ,W-Willys ซึ่งไม่อาจไม่ถูกต้อง และเป็นความเข้าใจอย่างนั้น
แต่คำว่า GPW จริงๆ ย่อมาจากการที่ Ford กำหนดเป็นรหัสเรียกสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ แบบนี้ โดย "G" คือ Government contract , P คือ รหัสที่Fordกำหนดเรียกสำหรับรถตรวจการณ์ที่มีฐานล้อ 80"ขับเคลื่อน4ล้อ,W คือ Willys design motor. เนื่องจาก Willys Overland เป็นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้ประกอบJeepให้กับกองทัพสหรัฐในขณะนั้น.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.192 จันทร์, 5/5/2551 เวลา : 08:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29225

คำตอบที่ 260
       ซึ่ง Ford เป็นบริษัทที่ได้รับการติดต่อจากกองทัพให้ร่วมผลิตJeepตามแบบของ Willys แต่เท่าที่ผมเห็น Ford ไม่ได้ผลิตตามแบบ Willys หลายอย่าง หลายชิ้น จนเป็นที่มาของ F script . และอีกหลายๆอย่างครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 202.91.19.192 จันทร์, 5/5/2551 เวลา : 08:33   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29226

คำตอบที่ 261
       คุณต้า ผมได้ข้อมูลเรื่องไฟท้ายมาแล้ว แต่ขอเวลาศึกษาอีกหน่อยครับ แล้วจะมาเล่าสู่กันฟังครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 อังคาร, 6/5/2551 เวลา : 17:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29277

คำตอบที่ 262
       ดีมากครับ คุณ เจมส์ ก็ออยากรู้มากเหมือนกัน...อีกเรื่องอยากรู้การที่ตั้งชือว่า "JEEP" นั้นมีที่มาอย่างไรฝากไว้ด้วย..ขอเป็นผู้ชมครับ..หิหิ..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก TA 58.10.189.20 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 11:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29319

คำตอบที่ 263
       เป็นผู้ชมแถวสองด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก บิ๊ก ตาปี สุราษฎร์ 118.173.6.251 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 11:56   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29321

คำตอบที่ 264
       Jeep มาจากการออกเสียงรวม(slurring) จากคำว่า GP ซึ่งคุณต้าเคยบอกไว้ในกระทู้เดิมแล้วครับ ถูกต้องครับ
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 Ford ออกแบบjeep มา 2 แบบ
แบบแรก เป็นรถต้นแบบ เรียกว่า GP (ผลิตเพียง 3,200 คัน น่าจะเหลืออยู่เพียง 350 คันในโลก)
แบบที่ 2 กองทัพสหรัฐเรียกว่า GPW ผลิตประมาณ 350,000 คัน
และอีกอย่างคือ คำว่า Jeep ในWebter และพจนานุกรมภาษาอังกฤษทั้งหลาย ฝรั่งเองบอกว่าให้ความหมายไม่ถูกต้อง เพราะมีเอกสารของกองทัพสหรัฐยืนยันเป็นทางการ(officially) คำว่า Jeep มีหมายความว่า " Truck,1/4 ton "
ปล.ภาพจากเนท





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 15:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29325

คำตอบที่ 265
       ผมพอจะหาข้อมูลเกี่ยวกับ B/O Marker Light ได้ว่า
เกิดจากการออกแบบของกองทัพสหรัฐ ซึ่งนอกจากจะใช้ไฟดังกล่าวหลบหลีกศัตรูแล้ว ยังช่วยให้สามารถเคลื่อนพลในเวลากลางคืนได้ด้วย ซึ่งเป็นการออกแบบพิเศษ โดยต้นแบบเรียกว่า "Blue Louver" หรืออาจเรียกว่า "Cat Eye/Cat's Eye
ปล.ภาพจากเนท เป็นB/O Marker Light รุ่นแรกใน Ford GP และ Bantam BRC-40
ส่วนเรื่องไฟท้ายรอหน่อยครับ
แต่ประเด็นหลักคือเมื่ออยู่ในความมืด ด้านล่างของไฟท้าย จะบอกระยะห่างให้พลขับที่ขับรถตามมาว่า ระยะห่างจากรถคันด้านหน้าแค่ไหน อยู่ห่าง หรือใกล้มากเกินไปแล้วครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 16:24   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29326

คำตอบที่ 266
       สวัสดี คุณต้า คุณเจมส์ และ คุณบิ๊ก 24นี้ว่างไปพบกันนะครับ กระทู้คุณต้าติดตลาดไม่ตกเลย ยิ่งมีฝ่ายข้อมูลจากคุณเจมส์ด้วย ขอนั่งแถวสองข้างคุณบิ๊กครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เอก ดอนตูม 158.108.192.120 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 16:46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29327

คำตอบที่ 267
       สวัสดี คุณต้า คุณเจมส์ และ คุณบิ๊ก 24นี้ว่างไปพบกันนะครับ กระทู้คุณต้าติดตลาดไม่ตกเลย ยิ่งมีฝ่ายข้อมูลจากคุณเจมส์ด้วย ขอนั่งแถวสองข้างคุณบิ๊กครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เอก ดอนตูม 158.108.192.120 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 16:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29328

คำตอบที่ 268
       350,000คัน แบ่งเป็น MB กับ FORD อย่างละเท่าไหร่ครับ คุณเจมส์ อยู่ที่บ้านผม 2 คันแล้ว คุณเจมส์ไว้ใช้คันหนึ่งแล้วกัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เอก ดอนตูม 158.108.192.120 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 16:53   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29329

คำตอบที่ 269
       ประมาณ 350,000 คัน (ค.ศ.1942-1945)เฉพาะ Ford อย่างเดียวครับ อย่างน้อยที่เห็นในรูป อยู่ที่คุณเอก 2 คัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 350,000 คันครับ รวมทั้งท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 17:17   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29334

คำตอบที่ 270
       แต่จาก Plates ที่เคยเห็นประมาณ 277,000 คันครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจมส์ 117.121.221.78 พุธ, 7/5/2551 เวลา : 17:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29335

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 9 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  
21  22  23  24  25  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,15 มีนาคม 2568 (Online 3483 คน)