คำตอบที่ 1
       ภาพประกอบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ภาพประกอบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ...เป็นเหมือนของผมเลยครับ ...ผมเปลี่ยนมาทุกอย่าง ...เปลี่ยนช่างด้วย ...แก้ปัญหานี้ไม่ได้ ...ล้างคาบูฯอยู่หลายครั้ง จนอ่อนใจ ...ก็เลยเปลี่ยนคาบูฯลูกที่ 2ดู ก็มีปัญหา ...เปลี่ยนคาบูฯลูกที่3 ...ลูกนี้ใช้ได้ครับ เบาได้,ติดง่าย ไม่มีปัญหา ....ช่างบอกว่า คาบูฯลูกนี้ "ลูกยางที่ทำหน้าฉีดน้ำมัน ยังดี ไม่แข็งเหมือนลูกก่อน ลูกยางนี้ทำหน้าที่เป็นตัวฉีดน้ำมันได้แรงเป็นเส้นเล็กๆ ไม่ขาดสาย" ทุกวันยังใช้ได้ดีครับ ไม่ทำให้ขายหน้าเหมือนแต่ก่อนครับ ...ลองดูครับเผื่อจะใช้ได้เหมือนผม (ข้อมูลจากช่างครับ ผมขับเป็นอย่างเดียวครับ)

ถ้าเป็นอย่างที่ท่านคน2บ้านว่ามา...ท่านคำผิงคำผาย น่าจะลองหาชุดซ่อมคาร์บิวฯ คาร์เตอร์ มาลองเปลี่ยนดู จาก : จี๊ปกบฏ(tmvc-003) 27/11/2554 18:42:06 [124.120.220.204] มาลองเปลี่ยนดูนะครับ..เห็นมีอยู่ในหน้าซื้อ-ขายครับ จาก : จี๊ปกบฏ(tmvc-003) 27/11/2554 18:43:01 [124.120.220.204]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เติมแก็สโซออง 91 หรือเปล่าครับ
แก็ส 91/95 จะมีความเย็นพอสมควร เมื่อคาบูโดนความร้อนแล้วมาโดนความเย็น สลับไปมา ขะทำให้ชิ้นโลหะ หดและคลายตัวไม่เท่ากัน ตึงทำให้ฝาปิด โก่งคัว มีอากาศเล็ดลอดเข้าได้ การเร่งก็ไม่สม่ำเสมอ เมื่อมีอากาสเข้าได้ น้ำมันจึงใหลกลับถังได้
การแก้ไขให้ดี ก็ขัดขอบฝาปิดให้เรียบและเสมอกันที่สุดแล้วหาปะเก็นหนาๆมาใส่ ต่อไปก็เติม เบนซินแทนนะครับ
ผมทำแบบนี้มาแล้ว อาการแบบที่ว่าหายสนิทครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาชี้แนะขอรับ ครับผมใช้เบนซิน 91 ไม่เคยใช้โซฮอล เปลี่ยนช่างมาก็หลาย มีอยู่คนหนึ่งที่บอกว่า แกนปีกผีเสื้อสึกทำให้คาบูมีอากาศเข้าต้องเข้าโรงกลึง ยังมีท่านใดเคย ทำแบบนี้บ้างครับ น่าจะมีปัญหาที่คาบูแน่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       อาการนี้เส้นผมบังภูเขาหรือเปล่าน่าจะเป็นอยางที่พี่คนชายแดนบอกครับรองดูหน้าแปนคาร์บูนะครับอย่าให้รั่วผมเคยเจอเหมือกันเจ็บไปก็หลายอู่ลองดูนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ภาพคาบูครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ลองขัดหน้าให้เรียบ หาปะเก็นหนาๆมาใส่ ใล่จุดรอยต่อสายน้ำมัน ลองจุดเล็กๆน้อยก่อนเสียตังค์นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ....ได้ความรู้แยะเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ช่วยชี้แนะ คำตอบสุดท้ายน่าจะอยู่ที่คาบู ขอเวลาจัดการหน่อย ได้ผลประการใดจะขึ้นมารายงานครับพ้ม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       อ๊าว! ! คำตอบที่สิบของผมน่าจะชนกันกลางอากาศเลยมีภาพอื่นโผล่ขึนมาแทน ของผมภาพนี้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       รายงานผลครับ หลังจากทำตามท่านคนชายแดนแล้ว แฮปปี้ แต่ยังไม่เอนดิ้ง ครับ รอบเดินเบายังมีสะดุดอยู่บ้าง แต่เครื่องไม่ดับ ฟองอากาศยังขึ้นอยู่ ปิดเครื่องน้ำมันย้อนกลับน้อยลง ไม่ทราบว่าของท่านคนสองบ้านเวลาดับเครื่องแล้ว ระดับน้ำมันในถ้วยเต็มหรือเปล่าครับ ของผมยังไม่เต็ม เครื่องติดง่ายกว่าเดิม ก่อนนี้ถ้าไม่ได้ติดเครื่องเกินหนึ่งวัน ก่อนสตาร์ทต้องจิบกาแฟ(หยอดน้ำมันบนคาบู)ก่อนเครื่องถึงจะชึ่ง?

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ต่อสายน้ำมันตรงจากแกลลอนดูนะครับ โดยยกถึงน้ำมันให้สูงกว่าเครื่อง ดูชิว่าคราวนี้ยังยังจะมีฟองอากาศอยู่ใหม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ระดับน้ำมันในถ้วยหลังดับเครื่องครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       สีขาวๆตามแนวหน้าแปลนและจุดข้อต่อคือกาวทรีบอล(ช่างบอกเป็นกาวทนน้ำมัน) หน้าแปลนตรงกลางที่ท่านคนชายแดนทำเครื่องหมายในคำตอบที่ 8 ผมยังไม่ได้ทำเพราะดูแล้วคงไม่เกี่ยวเท่าไร น่าจะเป็นที่ห้องลูกลอย(ห้องบน)มากกว่า อย่างไรก็ดีจะลองเทสจากน้ำมันในแกลลอนเหนือระดับตามที่ท่านคนชายแดนแนะนำอีกครั้ง ถ้าปัญหายังไม่เคลียร์ก็คงต้องทำทุกจุดล่ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       1. เปลี่ยน valve กันน้ำมันไหลกลับใน ac pump หรือถอดมาทำความสะอาดให้หน้า valve สะอาดและเรียบ ดูครับ แก้ปัญหาน้ำมันไหลกลับ tank ปรกติระดับน้ำมันจะไม่เต็มถ้วยแก้วครับ ประมาณ 3/4

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ของผมเจอปัญหาคล้ายๆกันนี้ แต่เป็นสาเหตุมาจากปลายสายน้ำมันที่มีเข็มขัดรัดรั่วนิดหน่อย ก็ทำให้อากาศเข้าสายได้ แรงดูน้ำมันจากถังน้อยลง มีผลเป็นอย่างมาก
แก้ไขลองจูนโดยใช้ถังแกลอนใส่น้ำมัน ห้อยแบบให้น้ำเกลือ แบบพี่คนชายแดนแนะก่อน
ถ้ามาถูกทางแล้วค่อยไปแ้ก้ไขที่สายอีกที เอากรองเ็บนซิล มาเป็นตัวช่วยในการดูระดับน้ำมันในสายด้วยโดยติดไว้กับผนังห้องเครื่องให้สูงกว่าปั๊มac จะได้ไว้สังเกตุการไหลของน้ำมันได้ครับ

ส่วนกาวต่างๆที่ทาจะมีผลทำให้มีปัญหาเศษกาวมาอุดรูในคาร์บูรทีหลังแน่นอน

เห็นด้วยกับพี่โมครับอาการนี้ผมก็เคยเจอครับพี่ ถ้าขันไม่แน่นมันดูดอากาศเข้าไปได้จริงๆ จาก : classicjeep(classicwagon) 2/12/2554 20:33:48 [182.53.202.252]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ...ระดับน้ำมันในถ้วยแก้วเหลือเท่ากันครับ ...ตามที่คุณclassicjeepว่าไว้ครับ 3/4

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ...ใจผมยังโทษเจ้า"คาบูฯ"อยู่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       เอนดิ้งแล้วครับ หลังจากเทสใส่น้ำมันในแกลลอนเหนือระดับคาบู ยังมีอาการไหลย้อนกลับอยู่ เหลือหน้าแปลนที่ท่านคนชายแดนมาร์กไว้จุดสุดท้าย ทำการเปิดทำเช่นเดียวกันกับสองหน้าแปลนก่อน ผลที่ได้ เครื่องเดินเรียบขึ้นในรอบเดินเบา เสียงนุ่มนวลในรอบสูง ไม่สะดุด ดับเครื่องน้ำมันเกือบไม่ไหลย้อนกลับ(ไม่มีเสียงดูดในถัง) และคงเหลือในถ้วยเท่าๆกับของท่านคนสองบ้านและท่านแคลสสิคจี๊ปว่าไว้ คิดว่าน่าจะปกติแล้วน่ะครับ ที่ระดับน้ำมันพร่องลงมาน่าจะเป็นธรรมดาของแรงโน้มถ่วงตามธรรมชาติน่ะครับ

เป็นเพราะอากาศที่อยู่ในถ้วยก่อนที่น้ำมันจะเข้าไปแทนที่ ถูกดันขึ้นไปครับ จาก : classicjeep(classicwagon) 2/12/2554 20:36:53 [182.53.202.252] ยินดีด้วยนะครับ จาก : คนชายแดน(tmvc031) 3/12/2554 0:53:41 [125.26.129.93] ขอบคุณทั้งสองท่านครับ จาก : เอสเอ็มดี59(เอสเอ็มดี59) 3/12/2554 13:54:42 [119.46.217.25]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ครับ สำหรับข้อกังวลของท่านโมเกี่ยวกับกาวทรีบอนด์ ก็คงต้องคอยดูผลต่อไป อย่างไรก็ตามผมพยายามทาในส่วนของหน้าแปลนค่อนมาทางด้านนอก จะหลุดเข้าไปบ้างน่าจะเล็กน้อยครับ ขอบคุณมากครับที่ทักท้วงจะได้เป็นข้อตวรระวังต่อไป คาบูของท่านคนสองบ้านทั้งสองลูกก่อนน่าจะไช้ได้อยู่น่ะถ้าได้ทำแบบของผม อย่าเพิ่งทิ้งซ่อมแล้วเก็บไว้เป็นอะไหล่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       เครื่องเฮอริเคนของผมกับของท่านคนสองบ้าน ทำไมไม่เหมือนกันละครับ? อีตรงบนฝาวาวล์ครับ ของผมเป็นหัวจุก ของท่านไม่มี จะเป็นที่เปิดใส่น้ำมันเครื่องรึเปล่า(ตอนช่างเปลี่ยนถ่ายน้ำมันก็ไม่ได้ทันดู) ผมพยายามเปิดด้วยคีมคอม้าจนสีถลอกยังไม่ขยับ ขออนุญาตถามท่านผู้รู้ เพราะหาดูที่จะเช็คน้ำมันเครื่องไม่เจอครับ

ตัวที่มีฝาจุกเติมน้ำมันเครืองตรงฝาคอบวาวล์จะเปิดของตะกูลCJครับ จาก : เรย์tmvc024(เรย์tmvc024) 3/12/2554 17:33:53 [223.205.9.114] ส่วนที่ไม่มีจะเป็นตะกูลจิ๊ปมิตซูและจะเติมน้ำมันเครืองตรงที่วัดระดับน้ำมันเครืองครับ จาก : เรย์tmvc024(เรย์tmvc024) 3/12/2554 17:35:30 [223.205.9.114] ขอบคุณคุณเรย์TMVC024ครับที่ให้ความกระจ่าง จาก : เอสเอ็มดี59(เอสเอ็มดี59) 3/12/2554 20:27:22 [118.174.211.171]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ข่าว นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 2 ธันวาคม 54 หน้าเศรษฐกิจ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือ กพช. มีมติ(ในหลักการ)ให้ เลิกจำหน่ายเบนซิน 91 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 55 เป็นต้นไป แล้วเราจะอนุรักษ์ เจ้าเฮอริเคนต่อไปได้ซักกี่น้ำ ชักจะถอดใจซะแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ขออนุญาตต่อกระทู้นี้อีกนิดน่ะครับ ตัดสินใจไม่ถูกว่า จะแยกจะพรากจากกันดีไหม เขาคู่กันมาตั้งกะปี 1970 ขับๆไปใบสารพัดสีร่วงจากกระเป๋า ความรู้สึกน้ำเก้าหนึ่งในถังมันหมดไปเร็วเหลือเกิน อยากจะเปลี่ยนเป็นชนิดระเหยช้าหน่อยน่าจะดีกว่า แต่ก็นั่นแหละหัวใจที่จะมาแทนที่สินสอดทองหมั้นก็ต้องหาอีกสี่ซ้าห้าสิบพันเป็นอย่างน้อย ทำยังงัย?ดีครับ

เฉลี่ยกี่โลลิตรครับ จาก : M37B1(M37B1) 14/12/2554 11:40:02 [180.183.193.216] ไม่ถึงสิบโลครับท่าน จาก : เอสเอ็มดี59(เอสเอ็มดี59) 15/12/2554 7:56:14 [118.174.211.149]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ถ้า คาร์บูเรเตอร์สภาพสมบูรณ์ จูนเครื่องได้นิ่งๆดีแล้ว ใช้ขนาดล้อเดิม ประมาณ 6กม/ลิตร ผมเชียร์ให้ใช้เครื่องเดิมครับ ถ้าสภาพเครื่องสวยๆแบบนี้ เวลาเปิดฝากระโปรงเห็นเครื่องเดิมแล้ว มีความสุขจริงๆ อีกอย่างถ้าไม่ได้ใช้งานทุกวัน เอาไว้ขับเล่นหาความสุขแบบ jeep เครื่องเดิมได้อารมณ์กว่าครับ แต่ถ้าใช้งานบ่อยแนะนำให้ติดแก๊ส ครับไม่เสียรถ หาน้ำมันเครื่องดีๆ ก็จบครับ ถ้าเปลี่ยนเครื่อง อาจจะต้องมีระบบเบรคมาเพิ่มอีก เอาค่าเปลี่ยนเครื่อง ไปเติมแก็สดีกว่าครับ( ในมุมมองของชายรักเดิม)i iii

ขอบคุณครับท่านclassicjeep รับไว้เป็นข้อพิจารณาครับ จาก : เอสเอ็มดี59(เอสเอ็มดี59) 15/12/2554 8:05:56 [118.174.211.149]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       ส่วนประกอบหลักๆของเขามีมาเดิมๆ มีแต่จะเพิ่มให้ดูดีมีประโยชน์ใช้สะดวก ไม่อยากตัดแต่งให้ผิดแผก หะแรกคิดว่าจะ "เอาอยู่" เรื่องเชื้อเพลิง อยากทำอย่างที่ท่าน classicjeep แนะ ติดที่อยู่นอกเมืองเกินกว่าสี่สิบโล หาปั้มแก็สยากและอนาคตน่าจะไม่นานแนวโน้มน่าจะไม่เวิร์ค จะเป็นหนังหลายตอน ครับๆท่านใดมีสัญญาณแสงที่ปลายทาง กรุณาแว็ปๆหน่อยขอรับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าจี๊ปคันนี้ใช้งานเป็นหลักหรือไม่
หากชอบแนวอนุรักษ์ก็คงใว้เดิมๆ นับวันยิ่งจะมีคุณค่า แล้วติดเชื้อเพลิงทางเลือกที่2
แต่หากชอบลุยๆด้วย ก็หามาเพิ่มในวันข้างหน้าอีกสักคัน อาจช้าหรือเร็วแล้วแต่ความพร้อม
หรือเอาสบายๆใว้ก่อนก็เปลี่ยนเครื่องเลยครับ เอารุ่นที่ไม่แปลงมาก และลงตัวที่สุด
การเปลี่ยนเครื่องเป็นดีเชล ไม่ได้ช่วยทำให้ประหยัด หรือไปได้ใกลขึ้นเสมอไป
เพราะการขับจี๊ปก็เพื่อความสุข เท่ห์ เป็นสำคัญ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ครับ ท่านคนชายแดน คันนี้ไม่ได้ใช้เป็นรถหลัก และไม่ได้ใช้เป็นรถลุย เป็นแบบแนวอนุรักษ์เดิมๆที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าส่วนไหนเปลี่ยนแปลงจากความเป็นจิ๊ปไป นั่งขับไปใจมันรู้ว่าเราขับรถอะไร ความรู้สึกมันคงไม่เท่ห์เต็มร้อยน่ะครับท่าน? จึงขอต่อกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อฟัง เพื่อทราบความคิดเห็นของท่านทั้งหลายที่มีประสบการณ์ เผื่อจะได้ข้อคิดข้อปฏิบัติที่ดีที่สุด จะดีกว่าหัวเดียว คิดเออออเอง ไม่ถามไม่ดูชาวบ้านเขาเลย คงจะแย่แน่ๆ ขอบคุณมากครับท่านคนชายแดน คิดว่าเครื่องดีเซลน่าจะทนความชื้นได้ดีกว่าเบ็นซิน เอาเป็นว่าชั่งน้ำหนักทางเลือกหลายๆทางไปก่อน ขอเวลาตกผลึกให้เต็มร้อยก่อนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       คันนี้ติดแกสครับเครืองเดินเรียบไม่มีปัญหา
อยู่จังหวัดนครพนม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       ค
าร์บูเรเตอร์มีปัญหาเครื่องติดแล้วหัวเทียนบอดติดแก็สแล้วหาย

น่าจะน้ำมันเข้ามากไปเช็คไล่เบอร์นมหนูใหม่ จาก : serm(serm) 23/5/2555 11:23:05 [180.183.193.37]   แสดงความคิดเห็นย่อย