คำตอบที่ 1
       ยังไม่เงียบเหรอท่านน้องสมารถ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ปัจจุบันผมใช้ PTT Performa Super Synthetic SAE 0W-40 กับ น้ำมัน Engine treament ของ Caretex ปรากฏว่าเครื่องเดินเรียบและเงียบมากครับ แต่ดันมาดังที่สายพานหน้าเครื่องแทน

สามารถ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ดูดัชนีความหนืดด้านหลังเป็นหลักครับ.....เลือกใช้เบอร์ (ความหนืด) ให้เหมาะสมกับสภาพเครื่องยนต์

....W30 เบอร์นี้ใสมากครับ เหมาะกับเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ฟิต ๆ ไม่ต้องการความหนืดมากมาย ....เหมาะกับรถวิ่งไม่เกิน 50000 ก.ม. ครับ

....W40 เบอร์นี้ใสปานกลางครับ เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ผ่านช่วง 5000 KM แรกไปแล้ว ไม่ต้องการความหนืดมากมาย ....เหมาะกับรถวิ่งเกิน 50000 - 100,000 ก.ม. ครับ

....W5o เบอร์นี้หนืดกว่าสองเบอร์ด้านบนครับ เหมาะกับเครื่องยนต์ที่ผ่านช่วง 100,000 KM แรกไปแล้ว ต้องการความหนืด ให้เหมาะสมกับสภาพเครื่องยนต์ ....เหมาะกับรถวิ่งเกิน 100,000 ก.ม. ขึ้นไปครับ


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มิได้มีกฏตายตัวน๊ะครับ รถเรายังเฟิร์ม ๆ สามารถเติมน้ำมันเครื่องยนต์เบอร์ใส ๆ หน่อย เพื่อความลื่นปรื๊ด ๆ ก็ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่า "ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง" ทุกอาทิตย์........ถ้าเห็นว่าระดับน้ำมันเครื่องที่เคยพอดี เกิดการพร่องลงไปก็ พึงรู้ไว้ได้เลยว่า ความใสของน้ำมันเครื่องที่ใส่เข้าไปชักไม่เหมาะกับเครื่องยนต์เราแล้ว แก้ไขด้วยการเติมของใหม่ให้ได้ระดับพอดี..........แล้วคราวหน้าก็เปลี่ยนเบอร์เพิ่มความหนืดอีกหน่อย........เท่านั้นเองครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ขอบคุณลุง Mop หลาย ๆ เลย ใช้รถมาตั้งหลายคันแล้วเพิ่งจะรู้ว่ารถเราต้องใช้น้ำมันเครื่องแบบไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       0W40 Viscosity Index น่าจะสูงกว่า .... ความหนืดน้ำมัน จะเปลี่ยนแปลงตาม อูณหภูมิเครื่องยนต์ น้อยกว่าโดยหลักการแล้วเป็นน้ำมันดีกว่า และแพงกว่า ผู้ใช้ขับแล้วสบายใจกว่า ...พอขายรถ ผู้ซื้อคนต่อไป ได้ประโยชน์ มากกว่า....(อิ อิ อันหลัง นี่ ล้อเล่น นะครับ) .... แต่ บ้านเรา พอเครื่อง สตาร์ทติดแล้ว มีแต่อุณหภูมิ สูงอย่างเดียว ดังนั้นความหนืดเปลี่ยนน้อยมาก แทบจะใช้ Single grade ได้เลยคือ เกรด 30 หรือ 40 .....ของผม ใช้หลักการ Cost benefit อรรถประโยชน์ไม่ต่างกัน เน้นของไม่แพง แต่เปลี่ยนบ่อยครับ...Mobil super2000 Semi Syn กป.ละ 690 ทุกๆ 7-8000 โล....แต่ผมว่า ยี่ห้ออะไรก็ได้ Sem isyn ก็เหลือๆแล้ว (ยกเว้น ปตท.)ตัวที่ พี่ Mop ขายอยู่ก็น่าใช้เหมือนกัน เพราะมาจาก เมกา .... ผมเคยใช้ ปตท.แล้วผมว่าแปลกๆแบบรู้สึกได้ (จริงๆ อยากอุดหนุน ปตท. เพราะเป็น หุ้นส่วนอยู่ อิ อิ ... )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       และสำหรับท่านอื่นล่ะครับ เลือกใช้ยี่ห้ออะไรและสูตรอะไร ผลกระทบกับเครื่องยนต์ของท่านเป็นอย่างไรบ้าง เชิญแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       จริง ๆ แล้วเรื่องน้ำมันเครื่องนี่คุยกันยาวเลยครับ

หลายคนเข้าใจผิดว่า น้ำมันเครื่องซินเทติค เป็นน้ำมันเครื่องที่ลื่นที่สุด.....

ซึ่ง...ในความเป็นจริง ๆ ก็คือ น้ำมันเครื่องซินเทติค เป็นน้ำมันเครื่องที่ผ่านการสังเคราะห์มาจากอะไรที่ไม่ใช่น้ำมันพื้นฐาน หรือ Base Oil น่ะครับ (กลัวเรียกไม่ถูก) แล้วนำมาผ่านกระบวนการต่าง ๆ นานา จึงนำมาใช้ได้แทนพวกน้ำมันพื้นฐานทั่วไป

ส่วนน้ำมันพื้นฐาน หรือ Base Oil ก็นำมาผสมกับ หัวเชื้อ หรือ สารพัดสารเติมแต่ง ต่าง ๆ ให้ได้คุณภาพตามเกรด ที่แกลลอนระบุ

ส่วนความลื่นของเครื่องยนต์ ก็ดูได้จากมาตรฐานที่ผ่านการทดสอบครับ ซึ่งแต่ละเกรด แต่ละปี การทดสอบอาจจะแตกต่างกันออกไป ของเบนซิน ก็ SJ SL SM ประมาณนั้นน่ะครับ.............แต่.........ทั้งนี้ทั้งนั้น "ถ้าของจริง" จะต้องมีโลโก้ โดนัท วงกลม ๆ สองชั้น แล้วมีตัวหนังสือระบุเกรดที่ผ่านการทดสอบน่ะครับ

ว่าง ๆ ลองไปจับแกลลอนหันหลังดูตามห้างหลาย ๆ ยี่ห้อ บางทียี่ห้อเดียวกันก็มีโลโก้ดังกล่าว แต่บางเกรดยี่ห้อเดียวกันก็ไม่มี........นั่นคือ ทางเจ้าของบริษัทฯ ไม่ได้ส่งสูตรไปทดสอบทุกเกรดนั่นเองครับ....ซึ่งรายละเอียดการทดสอบนี่หนักมาก ๆ เลยครับ ขั้นตอนเยอะ ทดสอบโหด ๆ ........เพียงแต่เจ้าของบริษัทฯ ที่ไม่ได้ส่งสูตรไป ก็ผสม ๆ ตามหลักการและโทคโนโลยีที่ตนเองมีอยู่ และก็ประมาณเอาว่า เอาว๊ะ ลื่นขนาดนี้ก็เกรดนี้แหล่ะใช้ได้เลย


อุปมา อุปมัย ก็เหมือนกัน มีคนมาสมัครงานเค้าแนะนำกันว่าคนนี้จบ ดร. มา แต่ไม่มีใบประกาศนียบัตรการศึกษา มาให้เราดูก็คงจะเชื่อลำบาก แตกต่างจากผู้ที่มีเอกสารครบถ้วนก็ค่อยน่าเชื่อถือ.....ประมาณนั้นน่ะครับ ยกตัวอย่างให้ฟัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       สิ่งที่สำคัญที่สุดของน้ำมันสังเคราะห์คือ โครงสร้าง การเรียงตัวโมเลกุล มีความเป็นระเบียบกว่า มีรูปร่างแน่นอน ซึ่งส่งผลให้มีความเสถียร คงทนต่อการถูกทำลาย ขณะใช้งานยากกว่า นั้นคืออายุใช้งานยาวนานกว่า และ ดรรชนีความหนืดดีกว่า แต่.... แต่มันต้องแลกมาด้วยราคา ....และมันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของเครื่องยนต์......ขี้เกียจ พิมพ์ อะครับ...อิ อิ... ผมก็จำมาจากใน Net นี่แหละครับ... ลอง search อ่านดูเพิ่มเติมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมใช้เหมือน พี่ คน(โรง)เหล็ก
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ พี่ตอบไปหมดแล้ว .......ตามนั้นเลยครับ
ไม่ได้โจมตี ปตท แต่ใช้แล้วรู้สึกแปลกๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       แนะนำให้ใช้เกรดตามสภาพเหมาะสมของเครื่องยนต์....พลิกหลังแกลลอนดูโลโก้ดังกล่าว....ยี่ห้อไหนราคาเรารับได้มากที่สุด ....แล้วเราเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์มากที่สุด (ไม่ใช่เชื่อในโฆษณา)....ก็ใช้ยี่ห้อนั้นเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ส่วนมากผมใช้ยี่ห้ออักษรนำหน้าด้วยตัวCแกลลอนสีเขียวๆแบบไฮไมล์เลส

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       เห็นมีหลายคนเคยคุยไว้ว่ารถเครื่องเบนซินที่ติดแก็ส TAXI กรุงเทพใช้น้ำมันเครื่องของดีเซลแทน เขาบอกว่าดี ผมว่าจะลองใช้ดูเหมือนกันยังงัยจะมาลองเล่าให้ฟัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ดำดอบที่12อย่าลองดีกว่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       เห็นด้วย กะ คห 13 นะครับ...ด้วยความเป็นห่วง นะครับ .... ข่าวอันนี้ ผมว่าน่าห่วงมาก .... ถ้าคนที่ไม่เข้าใจทดลองทำตาม ด้วยความรักรถ ผมว่ามีความเสี่ยงสูงมากกก ... อันดับแรก ให้ดูที่ ค่า เอ พี ไอ ก่อน ถ้ามีทั้ง ค่า "S" สำหรับเบนซิน และ "C" สำหรับ ดีเซล พิมพ์ไว้บน กระป๋องเดียวกันก็น่าจะใช้ได้ .... ความเห็นส่วนตัว ผมว่า สิ่งที่ เคื่องดีเซลต้องการมากคือ การชะล้างคราบเขม่าจากการเผาใหม้ จะมากกว่าเครื่องเบนซิน ดังนั้นเมื่อมาใช้รถเบนซิน ย่อมดีกว่า ..... แต่อย่าลืมว่า การทำน้ำมันออกมาขาย ไม่มีใครทำน้ำมันที่สามารถใช้ได้ดี ไปหมดแบบครอบจักรวาล ได้ดีเท่า ทำใช้งานใครงานมันนะครับ .... เป็ดว่ายน้ำได้ บินก็ได้...แต่ว่ายสู้ปลา บินสู้นกไม่ได้แน่นอน.... คุณลักษณะการมำงานของ เครื่องยนต์เบนซิน กับเครื่องยนต์ ดีเซล ต่างกันเยอะ นะครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ท่าน โจ้ห้าแยก ผมลองใช้ pennzoil long-life ดีเซล 20- 50 w มาครึ่งปีแล้ว ความรู้สึกส่วนตัวไม่มีอะไรแตกต่าง กับน้ำมันเบนซิลในเรื่องการขับเคลื่อน.... ตอนใช้น้ำมันเครื่องเบนซิล ทั้ง Full และ Simi - Synthetic กว่าจะวิ่งถึง 5000 ก.ม. ต้องคอยเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มถึง 2 ลิตร

- ลองใช้ pennzoil long-life ดีเซล 20- 50 w วิ่งครั้งแรก 5000 ก.ม. โดยไม่ต้องเติมเพิ่มเลย ถ่ายออกมาน้ำมันยังใสอยู่ ลองใช้มือสัมพัสน้ำมันแล้ว ยังลื่นดี ลองหยดในกระดาษยังเป็นวงของน้ำมันที่จับไม่กระจายของสภาพน้ำมันเสื่อม...รถผมวิ่งมา สองแสน up

- ลองใช้ครั้งที่ 2 น้ำมันตัวเดิม เปลี่ยนถ่านน้ำมันเครื่อง ที่ 8000 ก.ม. น้ำมันก็ยังใสไม่ดำมาก เหมือนเบนซิล ...สัมผัสแล้วยังลื่น

ขอดี ..ประหยัดเงินในกระเป๋า ราคาถูก 6 ลิตร แถม 1 ลิตร 550 บาท

.. ประสิทธิภาพไม่แตกต่าง การบริโภคแก๊ส ไม่แตกต่าง.

อีกหนึ่งทางเลือก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ขออนุญาตแจมด้วยคนครับ
1. กรณีพี่พงษ์ใช้น้ำมันเครื่องเบนซิล ทั้ง Full และ Simi - Synthetic กว่าจะวิ่งถึง 5000 ก.ม. ต้องคอยเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มถึง 2 ลิตร แล้วเปลี่ยนมาใช้ pennzoil long-life ดีเซล 20- 50 w วิ่งครั้งแรก 5000 ก.ม. โดยไม่ต้องเติมเพิ่มเลยนั้น ตามความเห็นของผม ผมว่าอาจจะเป็นเพราะความหนือของน้ำมันเครื่องไม่เท่ากันหรือเปล่าครับ คือที่เห็นขายๆกันส่วนใหญ่ น้ำมันเครื่องเบนซิล ทั้ง Full และ Simi - Synthetic มักจะมีค่าความหนืดไม่เกิน 40 W มันเลยอาจจะใสไปเมื่อใช้กับเครื่องยนต์ของรถพี่พงษ์ พอเปลี่ยนมาใช้ค่าความหนืด 50w กำลังอัดเลยไม่รั่วไหล ทำให้ไม่กินน้ำมันเครื่อง
2. เข้าใจว่าน้ำมันเครื่องเบนซินกะดีเซล จะต่างกันตรงสาร Additive เช่น ใส่สารชะล้างที่ต่างกัน ฯลฯ ซึ่งในระยะสั้น (เป็นปีๆ) ผมว่าไม่น่าก็จะเห็นผล เพราะผมเคยลองใช้น้ำมันเครื่องดีเซลมาแล้วกับรถเบนซินก็หลายคันยังไม่เห็นผลแตกต่างจะจะ แต่เห็นว่า ประหยัดเงินขึ้นเยอะ อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       -เติม full syn แล้วน้ำมันเครื่องหาย เคยอาจเจอจากหนังสือ บอกว่า มันระเหิด ได้เร๋วมาก เมืองเทียบกับน้ำมัน เครื่องธรรมดา (เคยใช้ full syn กะเครือง เจโบ ก็ต้องคอยเติมเหมือนกัน)

-ผมก็ใช้น้ำมันเครื่องดีเซล ของ ptt เบอร์ w50 กระป๋องแดง 6+1 ลิตรเหมือนกัน ใช้มาปีกว่าแหล่ว ตอนนี้รถก็ สองแสนสองหมื่นก่าโล เสียง วาล์ว เงียบกริบ เงียบกว่าใช้น้ำมันเครื่องเบนซิน เบอร์ w50(ที่กล้าใช้เพราะเครื่องเปล่า Jeep ถูก พอๆกะ full syn 2.5 กระป๋อง เอง)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ผมก็คิดเหมือน คุณพิทบูลเขี้ยวตัน ราคาเครื่องมือ 2 ...6-7000 บาทเท่านั้น เคิม full syn 3-4 ครั้งก็ซื้อเครื่องใหม่ได้แล้ว ......บังเอิญใช้แล้วดีก็ว่าจะใช้จนเครื่องพังไปเลย

เห็นดว้ยกับพี่ทูน98 เรื่องความหนืดของค่าน้ำมันเครื่อง มันเหมาะกับรถที่ใช้งานเกินแสน กิโล.. รถผมถึงวิ่งมา 2 แสนขึ้น ก็จริงแต่เครื่องยังแน่น และเดินเนียน

แสดงความคิดเห็นย่อย