WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ภัยนอนเต็นท์ ไรกัดที่ลับถึงตาย!
pnu
จาก pnu
118.172.240.10
เสาร์ที่ , 17/1/2552
เวลา : 21:03

อ่านแล้ว = 3031 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เตือนนักท่องเที่ยวเข้าป่าหน้าหนาวระวัง 2 โรคร้าย สครับไทฟัส เกิดจากตัวไรอ่อนกัดในร่มผ้า รวมทั้งไข้ป่าจากยุงก้นปล่อง รุนแรงถึงตาย ในรอบปีนี้ป่วยแล้วกว่า 3 หมื่นราย ตาย 47 คน

นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นี้ว่า ในช่วงฤดูหนาว สภาพอากาศเย็น ฟ้าโปร่ง ประชาชนจำนวนมากมักเดินทางไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติ สูดไอหนาวในภาคเหนือ และนิยมไปเที่ยวป่า เดินป่า หรือกางเต็นท์นอนตามป่า ขอให้ระมัดระวังตนเอง เนื่องจากในป่าจะมีตัวไรอ่อน เป็นพาหะนำโรคสครับไทฟัส และมียุงก้นปล่องตัวการก่อโรคไข้จับสั่นหรือไข้มาลาเรีย ซึ่งยุงชนิดนี้อยู่ในป่า ออกหากินเวลากลางคืน ทั้ง 2 โรคนี้มีอันตรายทำให้เสียชีวิต

"จากรายงานโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศในปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงพฤศจิกายน พบคนป่วยจาก 2 โรคนี้แล้ว 31,214 ราย เสียชีวิตรวม 47 ราย โดยโรคสครับไทฟัสป่วย 3,916 ราย เสียชีวิต 4 ราย และโรคมาลาเรียป่วย 27,298 ราย เสียชีวิต 43 ราย" ปลัดสาธารณสุขระบุ

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคสครับไทฟัส พบมากสุดที่ภาคเหนือจำนวน 2,152 ราย อันดับ 1 คือเชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงใหม่ รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 987 ราย ภาคใต้และภาคกลางพบได้น้อย ส่วนโรคมาลาเรียพบมากที่สุดที่ภาคใต้ 11,532 ราย รองลงมาภาคเหนือ 9,513 ราย ภาคกลาง 5,265 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 988 ราย จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด ใส่กางเกงขายาว เสื้อแขนยาวป้องกัน ทั้ง 2 โรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่มียารักษาให้หายขาดได้

ด้านนายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคสครัปไทฟัสเกิดจากตัวไรอ่อน (Chigger) กัด ซึ่งในตัวไรอ่อนจะมีเชื้อริกเกตเซีย (Rickettsia orientalis) เชื้อนี้อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของไรหลายชนิด เมื่อไรแก่ จะวางไข่ไว้บนดินและฟักเป็นตัวอ่อน ขนาดเท่าปลายเข็มหมุด มีสีส้มอมแดง มองเห็นด้วยตาเปล่า ไรอ่อนจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ตามทุ่งหญ้า หรือพื้นที่ทุ่งหญ้าชายป่า ป่าโปร่ง พุ่มไม้เตี้ยๆ หรือพื้นที่ป่าละเมาะ รวมทั้งพื้นที่ที่เป็นป่าทึบแสงแดดส่องไม่ถึง

ไรอ่อนจะกินน้ำเหลืองของสัตว์เลือดอุ่น เช่น นก หนู สัตว์เลื้อยคลาน รวมทั้งคนที่เดินผ่านด้วย จุดที่ไรอ่อนมักชอบกัดคือในบริเวณร่มผ้า ได้แก่ อวัยวะสืบพันธุ์ ขาหนีบ เอว ลำตัว รักแร้ และคอ ผู้ที่ถูกไรอ่อนกัดร้อยละ 30 จะพบแผลบุ๋มคล้ายโดนบุหรี่จี้ (Eschar) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ ตรงกลางรอยแผล จะเป็นสะเก็ดสีดำ ส่วนรอบๆ แผลจะแดง หลังถูกกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก ปวดเมื่อยตามตัว ตาแดง อาจมีอาการทางปอดและสมองได้ ควรรีบไปพบแพทย์ หากรักษาไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ ในการรักษา ประชาชนควรต้องแจ้งประวัติการไปเที่ยวป่าให้แพทย์ทราบด้วย

การป้องกันไม่ให้ไรอ่อนกัด ผู้ที่จะไปเดินป่าหรือกางเต็นท์นอนในป่า ควรใส่รองเท้า สวมถุงเท้ายาวหุ้มปลายขากางเกงไว้ และเหน็บปลายเสื้อเข้าในกางเกง ใส่เสื้อแขนยาวปิดคอ ใช้ยาทากันแมลงกัดตามแขนขา แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในรายที่ผิวหนังมีรอยถลอกหรือมีแผล และไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ เพราะเด็กอาจเผลอขยี้ตาหรือหยิบจับอาหารและสิ่งของใส่ปาก ทำให้รับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย เป็นอันตรายได้ การทาครั้งหนึ่งจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง หลังออกจากป่าให้อาบน้ำให้สะอาด พร้อมนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มาซักให้สะอาดทันที เพราะตัวไรอาจติดมากับเสื้อผ้าได้ ส่วนการตั้งค่ายพักในป่า ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือหญ้าขึ้นรก


สำหรับโรคมาลาเรีย เกิดจากเชื้อพลาสโมเดียม (Plasmodium) มี 4 ชนิด ที่พบบ่อยส่วนใหญ่เป็นชนิด พีฟัลซิพารัม (P.falciparum) ซึ่งเป็นชนิดที่รุนแรง และพีไวแว็กซ์ (P.vivax) มีระยะฟักตัวประมาณ 7-14 วัน มียุงก้นปล่องเป็นตัวแพร่เชื้อ อาการของโรคคือ ไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ พบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี ทุกกลุ่มอายุ ลักษณะของอาการไข้ หากเป็นเชื้อฟัลซิพารัม จับไข้ทุก 36-48 ชั่วโมง หรือทุกวันก็ได้ และอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ปัสสาวะสีดำ ไตวาย ปอดบวมน้ำ ทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนเชื้อไวแว็ก จับไข้ทุก 48 ชั่วโมงหรือจับวันเว้นวัน

นพ.ม.ล.สมชาย กล่าวว่า การป้องกันโรคนี้ ไม่แนะนำให้กินยาป้องกันก่อนเข้าป่า เนื่องจากจะทำให้เข้าใจผิดว่ากินยาแล้วจะไม่ป่วยเป็นไข้มาลาเรีย และหากป่วยเป็นไข้มาลาเรียจริง ก็จะตรวจไม่พบเชื้อ ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปนอนแคมป์ตามป่าเขา ควรเตรียมมุ้งหรือเต้นท์ชนิดที่มีตาข่ายกันยุง และสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แนะนำให้ใช้สีอ่อนๆ เพราะการใส่เสื้อผ้าสีดำ มักดึงดูดความสนใจให้ยุงกัดได้มาก รวมทั้งควรจุดยากันยุง ทายากันยุงหรือยาทาไล่ยุงที่ แขน ขา ใบหู หลังคอ และ ส่วนที่อยู่นอกเสื้อผ้า เพื่อป้องกันยุงกัด ทั้งนี้ ภายหลังกลับจากเที่ยวป่าแล้ว หากมีไข้ ต้องรีบพบแพทย์ และต้องแจ้งประวัติแก่แพทย์ที่ตรวจรักษาด้วยว่ามีประวัติการเข้าป่า เพื่อให้การรักษาอย่างทันท่วงที

ที่มาไทยโพสต์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       สมาชิกระวังภัยใกล้ตัวนะครับ เป็นหว่งจริงๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก มะขามหวาน 125.24.15.221 อาทิตย์, 18/1/2552 เวลา : 10:15   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 371481

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณครับพี่นุ...ข้อมูลดีๆ...เพื่อนผม เมื่อสิบกว่าปีก่อน...เจอมาเลเลีย เพราะชอบนอนเปล ขี้เกียจกางเต้นท์ ตอนนี้ ไปคุยกะรากมะม่วงแล้ว......ไอ้ไรอ่อนนี่มันร้ายเจงๆ....ชอบกัดในที่ลับ เห็นทีต้องนอนแก้ผ้า จะได้ไม่มีที่ลับ...ให้ไอ้ไรอ่อนมานหาที่ลับซะให้เข็ด...ชิชะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ฒ.โจ๋ 115.67.232.186 อาทิตย์, 18/1/2552 เวลา : 12:10   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 371551

คำตอบที่ 3
       ดีครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

7872 จาก ลุงตุ้ง 202.183.225.12 พุธ, 21/1/2552 เวลา : 10:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 372758

คำตอบที่ 4
       เห็นด้วยครับ............ ให้ไอ้ไรอ่อนมานหาที่ลับซะให้เข็ด แล้วท่าน ฒ.โจ๋ ไม่กลัวหนาวหรือครับ ระวัง.........................มันหด เจ้าไรอ่อนหาไม่เจอนะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 61.91.73.21 พุธ, 21/1/2552 เวลา : 10:36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 372766

คำตอบที่ 5
       ขอบคุณครับจะจำใส่ใจไว้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เอwj9777 จาก เอwj9777 58.9.32.106 พุธ, 21/1/2552 เวลา : 12:51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 372830

คำตอบที่ 6
       very good



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ingbun จาก หยุงหยิง 61.90.136.94 พุธ, 21/1/2552 เวลา : 16:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 372936

คำตอบที่ 7
       ผมพึ่งไปเป็นวิทยากรเข้าค่ายมา อย่างนี้ต้องรีบแก้ผ้าใช่หรือเปล่าจะได้ไม่มีที่ลับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก patcha1389 222.123.28.93 พุธ, 21/1/2552 เวลา : 16:46   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 372950

คำตอบที่ 8
       ผมเคยเป็นแล้วอาการตามนั้นเลย ปวดหัวสุดๆปวดจื๊ดๆปวดจนตาลาย สาเหตุ เสือกไปนั่งขี้ที่ๆสัตว์ป่าเคยนอน เพราะหญ้าเรียบดี ไม่แทงก้น อีก4เดือนออกอาการ เพื่อนตายไปก่อนหน้าผม1เดือน1คน ผมรอดไป รพ.ทัน เข้าโรงบาล3ทุ่มตรวจเลือด ตี5รู้ผล หมอบอกเชื้อเกิดจากหมัดชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในหมูป่า หรือ กวาง เก้ง...ไรนี่หล่ะ เข้าป่าเข้าดง ขี้เยี่ยว ระวังกันน่ะคับ มันทรมาน ผมโดนที่ทุ่งสแลงหลวง....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ชะลูด xj 124.120.169.176 อังคาร, 27/1/2552 เวลา : 01:02   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 374445

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,14 มีนาคม 2568 (Online 5460 คน)