จาก หยุงหยิง 61.90.136.94
จันทร์ที่ , 8/6/2552
เวลา : 10:44
อ่านแล้ว = 3135 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
เผื่อจะเป็นประโยชน์กับบางท่านที่เจอแบบนี้ค่ะ
ถ้าท่านweb master เห็นไม่สมควร ต้องขออภัยและลบได้เลยค่ะ
ดิฉันได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทบัตรเครดิตที่ดิฉันถืออยู่ ขอทบทวนความถูกต้องของข้อมูล เช่น ชื่อ เลขที่บัตร และเลขที่บัตรประชาชน ว่าถูกต้องหรือไม่ โดยอ่านแล้วให้ดิฉันยืนยัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่คนนั้นได้นำเสนอขายประกันชีวิต แล้วถามดิฉันว่าสนใจหรือไม่ ดิฉันตอบว่าสนใจแต่ขอให้ส่งรายละเอียดมาให้ดูก่อน
เจ้าหน้าที่จึงบอกดิฉันว่า ขออนุญาตให้ดิฉันพูดใหม่ว่า " สนใจ " เพราะเขาต้องบันทึกเทปเสียงพูดไว้ยืนยันกับเจ้านาย ...ดิฉันก็โง่ ทำตาม
หลังจากนั้นมีเอกสารส่งมาถึงดิฉัน...แต่ไม่ใช่รายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์...มันคือ " กรมธรรม์ "
กรมธรรม์นั้นระบุว่า เป็น " ประกันอุบัติเหตุ " ไม่ใช่ประกันชีวิต ซึ่งเอาไปใช้ลดหย่อนภาษีไม่ได้ และสิทธิประโยชน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น และเป็นของบริษัทแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ของบริษัทเจ้าของบัตรเครดิต
เพื่อนในที่ทำงานคนหนึ่งก็ประสบปัญหาเดียวกัน เราทั้งคู่จึงหารายละเอียดเกี่ยวกับบริษัท พบว่าเป็นบริษัทต่างชาติจากเกาะแห่งหนึ่งแถวอเมริกาใต้ และได้รับอนุมัติให้เข้ามาประกอบธุรกิจในไทยไม่กี่ปีมานี้
ดิฉันได้โทรกลับไปที่บริษัทเพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง เจ้าที่คนใหม่อธิบายว่าดิฉันได้รับปากตกลงทำประกันแล้วทางโทรศัพท์ มีเทปเป็นหลักฐาน ..ดิฉันจึงเสียงแข็งใส่ ล่าสุด สัญญาว่าจะส่งเอกสารกลับมาให้เซ็นยกเลิก แต่ไม่ได้ส่ง
ดิฉันโทรไปปรึกษาที่หน่วยงานของรัฐ คือสายด่วนประกันภัย....เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า...ตามกฏหมาย เพียงแค่บอกทางโทรศัพท์ ว่า " สนใจ " หรือ " ตกลง " ก็ถือว่าสัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว และดิฉันต้องจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับบริษัทหากต้องการยกเลิกกรมธรรม์
เจ้าหน้าที่สายด่วนประกันภัย แนะนำดิฉันว่า หากได้รับโทรศัพท์เสนอขายประกันอีกให้ยืนยันว่าไม่สนใจ หรือไม่ก็ขอให้เขาส่งตัวแทนประกันมาพบเพื่ออธิบายผลประโยชน์
" อย่าพูด แม้แต่คำว่า สนใจ เพราะมีผลเป็นสัญญาตามกฏหมาย "
|