จาก nun@monsters 124.121.99.131
จันทร์ที่ , 20/7/2552
เวลา : 19:04
อ่านแล้ว = 11226 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ในที่นี้ผมจะพูดถึงเรื่องการยกสูงในรถ JEEP GRAND CHEROKEE (ZJ)
รถยกสูง 3 นิ้ว 4 นิ้ว 6 นิ้ว ว่ากันไปครับ ในที่นี้ที่เอามาพูดของผม 4.5 นิ้ว (82 ซม. หน้า-หลัง)
แหมมรถยกเกิน 3 นิ้วมันขับได้แบบนี้ก็ดีแล้วพี่ คันอื่นหนักกว่านี้ ครั้งแรกที่ผมได้ยินจากเพื่อนๆที่ใช้จิ๊ฟเช่นเดียวกับผมพูด(ประทับใจไม่อาจลืม)
จึงกลับมานั่งคิด นอนคิด มันถูกต้องเหรอ ยกแล้ววิ่งไม่ได้ วิ้งเร็วสั่นเป็นเจ้าเข้า ล้อหุบเข้าหาซุ้ม ต้องยกเท่านี้ถึงจะใส่ล้อได้ขนาดนี้ ยกแล้วสวย ยกแล้วหล่อ ยกแล้วเพื่อนเยอะ ไม่ยกเฉิ่ม ฯลฯ
และก็จากประสบการณ์ของเพื่อนๆ อีกหลายๆท่านเช่นกันครับ ที่ไปยกมาแล้ว สุดท้ายได้ความเท่ห์แบบที่เข้าใจ พร้อมของแถมคือยาแก้ปวดหัว และน้ำใบบัวบกแก้ช้ำใจ
มันเลยทำให้ผมไม่คิดจะยกรถขึ้นเลย ถามถึงการยกกลับไปก่อน เรายกรถกันเพื่ออะไร ยกให้สูงๆ จะได้ขึ้นรถยากกันนั้นเหรอ อืมท่าจะเป็นความเข้าใจผิด เหรอยกให้เสียเงิน เสียรถเล่นสงสัยคนใช้ JEEP จะมีเงินน่าดูทั้งๆที่ส่วนมากใช้อต่อะไหล่มือสองจนปวดหัวเรื่องรถตลอดชีวิตที่ใช้คู่ใจก็ตาม
มาทำความเข้าใจกันก่อนครับ การยกรถนั้นเพื่ออะไร "จะได้ใส่ล้อใหญ่ๆและเข้าป่าลุยโคลนได้งัยพี่" ผมตอบได้เลยครับว่าถูกต้อง แต่เเค่ครึ่งเดียว ถ้าไม่งั้นก็ต่อเข้าไปซัก 2 เมตรป่าเมืองไทยที่ว่าแน่ก็เข้ากันได้หมดซิครับ การลุยอุปสรรค์ต้องการล้อที่โตขึ้นเพื่อระยะเคลียร์แลนซ์ครับ พอล้อโตเพลาก็ยกสูงขึ้น นั้นหมายความว่าใต้ท้องก็หลุดอุปสรรคได้มากขึ้นเช่นล่องโคลน ไลน์โคลน ระดับหินที่ไต่ เอ้างั้นยก 2 เมตรใส่ล้อ 40 เลยก็ได้ซิ คำตอบก็ไม่ได้ เพราะการจะเข้าไปสถานที่พวกนี้ส่วนมากจะเป็นสถานที่ๆคงความอุดมสมบูรณ์ไว้สูง ผู้ที่ไปเที่ยวก็ต้องมีจิตใจสูงด้วย ยังงัยเหรอครับ คือทำลายธรรมชาติให้น้อยที่สุด ใกล้เข้ามาแล้วครับผมคำตอบของเรา หากไม่เชื่อท่านที่ยกสูงๆ ที่เคยเข้าป่าจะเข้าใจ จะไปเข้าได้งัยถ้าไม่ลุยทั้งรถ ทั้งป่าพังหมด จะไปมุดอะไรได้ครับ การที่เราจะทำให้ได้ตรงวัตถุประสงค์ ก็คือยกให้น้อยที่สุดโดยที่ยางต้องใหญ่ที่สุดครับ นี่แหละที่มาของการทำรถให้เข้าหาสเตปเทพ(ปกติเข้าไปเล่นเวปเมืองนอกต่างๆ หากท่านผู้อ่านได้อ่านมาบ้างคงเข้าใจแนวทางนี้นะครับ) ผมว่าคือแนวทางที่ถูกที่ควรครับโดยส่วนตัว
พอมาดูบ้านเราบ้าง เดี๋ยวหาว่าคนไทยทำไม่ดี ไม่ใช่ครับ แต่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบ้างบางครั้ง บางท่านยังแย้งครับว่าจิ๊ฟไม่เหมาะสมจะไปลุยโคลนเที่ยวป่าตั้งแต่ต้นมาแล้วรถเบนซินกับน้ำคงเข้ากันได้ไม่ดีแน่ๆครับ ถูกของท่านที่ท่านพูดท่านคือผู้ที่ใช้จิ๊ฟและมีเลือดจิ๊ฟโดยแท้จริง ครึ่งเดียว(หากท่านยกรถ) รถ JEEP เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ในเมือง 80% และฝ่าฟันอุปสรรค 20% ครับอุปสรรคที่เหมาะสมคือการปืนหิน หรือ ROCK นั่นเองครับ สาเหตุว่าทำไมเป็นเช่นนั้นง่ายๆ ก็ JEEP มันรถเมกัน บ้านเมืองเค้ามีแต่หินกับทะเลทราย ในบรรดารถที่เล่นอุปสรรคประเภทนี้ JEEP เป็นรถที่มีระยะยืด-ยุบ สูงเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งเป็นจุดที่ได้เปรียบชาวบ้าน แต่ก็จะไปแพ้พละกำลัง HUMMER ซะดังนั้นเมืองนอกเวลาเล่นฝ่าอุปสรรคกันการที่ทำรถ JEEP ซึ่งด้อยกว่าให้ชนะรถที่เหนือกว่าได้ก็นำมาซึ่งความภาคภูมิใจใช่น้อยครับ
งั้นบ้านเราที่ทำก็ถูกทางแล้วซิครับ ถูกต้องครับถูกต้องครึ่งเดียวอีกแล้ว ทำไมเหรอครับ ก็อย่าลืมซิครับการทำรถที่ด้อยกว่ามาเล่นแปสรรคที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แบบที่ท่านๆส่วนใหญ่เข้าใจซิครับ สิ่งที่ผมเห็นผ่านตาจากประสบการใช้ JEEP ในเมืองไทยส่วนมากยกสูงๆ สูงไปแต่ระยะเคลียร์แลนซ์ไม่เกิดดังนั้นใครจะเกิดใส่ล้อได้ใหญ่ๆ ก็ต้องยกสูงซะลิบลับเข้าป่าก็ลำบากติดไปหมดยากที่จะเข้า เล่นหินปีนป่ายก็ไม่ได้เอ้าทำไมเหรอครับสิ่งนี้คืออีกครึ่งที่กำลังจะบอก
ก็รถส่วนใหญ่บ้านเรายกเพื่อสูงอย่างเดียว ไม่ได้ศึกษาพื้นฐานรถให้ดีก่อนยก ที่ว่าเล่น ROCK ไม่ได้เพราะอะไร ก็เพราะว่าจุดอ่อนของจิ๊ฟซิครับคือคัสซีอ่อน เนื่องจากข้างต้นที่บอกมาแล้วว่า รถ JEEP เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ในเมือง 80% และฝ่าฟันอุปสรรค 20% ครับ แปลง่ายๆว่ารถคันนี้เหมาะวิ่งในเมืองมากกว่า การที่จะทำให้รถคันนี้ไปเล่นอุปสรรคได้ก็ต้องแก้ไขจุดอ่อนของรถให้หมดด้วย เช่นหัวคัสซีอ่อน(แก้ไขโดยดามหัวคัสซี) ตัวคัสซีอ่อนเมื่อเล่นอุปสรรคทำให้คัสซีบิดเบี้ยว(แก้ไขโดยการดามคัสซี) ท่านๆส่วนมากที่ใช้ JEEP ในบ้านเราลืมจุดๆ นี้ทำให้ทุกวันนี้รถ JEEP บ้านเราวิ่งเอียงๆกันหลายคัน (หากว่างคืนนี้ลองไปยืนดูรถเราเวลาจอดซิครับว่าเอียงเหรอไม่) งานเข้าแล้วซิครับคราวนี้ ผมต้องยอมรับว่าถ้าเป็นถึงขั้นนี้หมดทางเยียวยา หากจะเยียวยาแก้ไขกันจริงๆ ด้วยราคารถทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับครับว่าไม่คุ้ม วิธีแก้ไขส่วนมากก็หนุนให้เท่ากันครับ แล้วก็อย่าไปใส่ใจมองมันให้ช้ำใจ
จึงเป็นที่มาของการศึกษา JEEP จริงๆ จังๆ ของผม ทำไมเหรอครับก็ไม่ได้รวยนี่ครับเลยขับเดิมๆ หมดเรื่องมีความสุขจนมาวันนึงหันไปทางไหน แต่ละท่านก็แนะนำเข้าไป ต้องยก ต้องยก ต้องยก ......................... ต้องยก คำๆ นี้ตามมาหลอกหลอนแม้นกระทั่งตอนนอนหลับ เห้อในใจเมื่อศึกษามาแล้วก็รู้ถ้ายกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ต้องยกยังงัย ลำบากตัวเองอีกต้องไปศึกษา สำนักนี้ทำยังงัย สำนักนั้นทำยังงัย สุดท้ายแต่ละที่ยังไม่โดนใจ เลยตะลุยต้องไปศึกษาจากเวปนอกซะ ภาษาก็งูๆ ปลาๆ กว่าจะอ่านเข้าใจ ในที่สุดเมื่อมาถึงจุดที่ต้อง ยกรถ ก็ต้องทำ
หลังจากตั้งใจยกรถแล้วคราวนี้ต้องมาเลือกชุดยกครับ ตามที่ว่ามาข้างต้นของไทยเลยต้องตัดไปโดยปริยาย(เมื่ออ่านมาแต่ข้างต้นก็น่าจะเข้าใจนะครับว่าเพราะอะไร) ดังนั้นจึงใช้เวลาศึกษาชุดยกสำเร็จจากเมืองนอก เห็นอันนี้ก็สวย อันนี้ก็ถูกใจ อันนั้นก็จ๊าบไปหมด สุดท้ายต้องตั้งสมาธิให้ดีแล้วหาตัวเลือกที่จะตอบโจทย์ที่มีอยู่ในใจให้ได้ภายใต้เงื่อนไข ประหยัดที่สุด และตอบสนองความต้องการ และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสัหรับรถ JEEP ของเรา คำตอบที่ได้มาคือ RUBICON EXTREAM DUTY + เพลาใหม่ทั้งชุด(เนื่องจากหนีแปสรรคเรื่องความชัน) เนื่องจากเพราะต้องเปลี่ยนเพลาอยู่แล้วจึงทะลึ่งสั่งเพราะเพลาหัวสไปร์ทรานเฟือร์ XJ เพราะอยากได้ขับ 2 กับเค้าบ้างคิดว่าเท่ห์ดี(หากจะทำตามเพลากลางต้องยาวขึ้น 7 นิ้ว+ระยะสูงที่ยก) และตกลงสั่งของมาโดยตรงจากเมกา
ระยะเวลาผ่านไป 2 ปีงานมากมายไม่มีเวลา กลับมาอีกครั้งจำได้ว่าไปลื้อชุดนี้มาเพื่อที่จะนำมาใส่ ไปกับเกื้อฝุ่นฟุ้งซะจนต้องอาบน้ำกันใหม่ และนำมาใส่จนทุกวันนี้ ถามทำไมต้องเป็นชุดนี้ เพราะประหยัดครับ ประหยัดที่สุดเท่าที่จะหาได้และตอบสนองสิ่งที่คิดได้แทบจะหมดและจบ ทั้งมีอกที่จะตามคัสซีรถทั้งหน้าหลัง ระยะยกสูงต่ำสุด(ความชอบส่วนตัว) 4.5 นิ้ว ที่อาจจะใส่ได้ถึงยางขนาด 35 นิ้ว(ถ้าทำต้องหลบออฟเซตล้อไปอีก) 4.5 นิ้ว ใช้ออฟเซ็ตล้อ 0 ครับ ความสูงเท่านี้ใส่ล้อได้สูงสุด 35 นิ้วเพียงพอ ได้ระยะ wheel base ที่ over standard มาซึ่งมารวมๆ ความหมายก็คือสิ่งที่ได้มา ดีกว่ารถเดิมๆครับ เพราะอย่าลืมว่ารถ JEEP เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ในเมือง 80% และฝ่าฟันอุปสรรค 20% คำตอบจึงเป็นมัน
สรุป รถ JEEP ผมทุกวันนี้เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ในเมือง 80% ได้อย่างดีมากแฮปปี้ที่พาเจ้าคู่ใจออกไปโลดโผนทุกวัน และฝ่าฟันอุปสรรค 20% ที่เหมาะสมได้ดังคาดหวังโดยพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รถ หรือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แล้วท่านละทุกวันนี้ยกสูงแล้วเป็นเช่นไร ผมว่าที่ถูก ที่ควรรถ JEEP เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ในเมือง 80% และฝ่าฟันอุปสรรค 20% ครับ และภาพรวมต้องดีไม่ลดต้ำไปกว่าเดิม หากจะเสียตังค์เพื่ออะไรที่ DROP ลงไปผมว่าไม่น่าจะใช่แนวความคิดของปราชญ์
เผื่อหลังจากนี้ หากท่านๆ นำรถที่ท่านไปยกสูงที่อู่ไหนจะไม่หลงประเด็น จนหวังว่าซักวันนึงจะถึงระดับที่เข้าไปแล้วพูดได้ว่า ยกแล้วจะดีกว่าเดิมขนาดไหนได้เต็มปากโดยไม่หลอกตัวเองกันซักที........ :D
|