คำตอบที่ 1
       ผม vari ถัง 52 ในเมืองล้วนๆ ไม่เคยเกิน 200 กิโลครับ จับ A/F ก็ออกจะบางๆ แล้วครับ 3-6 ครับผม จะลองปรับอีกเหมือนกันครับ เพราะเห็นว่า O2 ที่รถมีตัวเดียว แล้วมันไกลห้องเผาไหม้มาก แถวๆแคทนะครับ ไม่รู้ความใกล้ ไกล จะมีผล กับ ค่า a/f แบบไหนเหมือนกันนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ใช้ระบบ Fix Mix ต้องตามคำแนะนำของคุณ เอ็กซ์ ครับ

คือว่าต้องวัดค่าส่วนผสมให้ได้อัตราที่เหมาะสมก็คือ 14.7:1 ประมาณนั้นน่ะครับ

แนะนำหาร้านที่มีเครื่องมือจับแบบ wide band ที่วัดจากปลายท่อไอเสีย .....แล้วค่อยจูนให้เหมาะสม ทั้งรอบเดินเบาและรอบสูง ๆ เลยครับ.....ถ้าค่าออกมาพอดีแล้ว บริโภคแค่ไหนก็แค่นั้นแล้วครับ อย่าไปบีบให้มันประหยัดเพิ่มอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ส่วนตัวผมใช้ระบบ Fix Mix Tosaki ครับเฉพาะค่า Mix ก็เล่นผมไป 1800 บาทแล้วครับ....ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าจะดี แต่เคยได้นั่งรถเพื่อนสมาชิกที่ใช้ระบบนี้ แล้วรู้สึกว่าดีเลยไปติดตั้งดูบ้างครับ

เจ้าของชิ้นงานเค้าติดตั้ง และจูนพร้อมกับให้เราดู A/F ชัด ๆ เลยครับ....ส่วนผสมต้องพอดีทั้งรอบต่ำและสูง....แค่นี้จบเลยครับ....มันดูเป็นวิทยาศาสตร์ดีครับ

รถผม 3.4V6 รถหนักมาก ๆ บริโภคในเมืองประมาณ 5.5 K.m./Ltr ......ตจว. 6-6.8 K.m./Ltr ครับ

จากข้อมูลของ จขกท. แล้ว รถ 2.5 น่าจะประหยัดกว่านี้อีกหน่อยได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       TOSAKI ชี้พิกัดให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ แล้วหากเปรียบมวยกับ LAMDA จะเป็นไงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       TOSAKI จะเป็น Mixer แบบแมคคานิค คือไม่มีระบบไฟฟ้ามายุ่งยากหัวใจ ....หลักการก็คือว่า คนติดตั้งต้องพยามหาตัว Mixer Tosaki ให้รูตอนเปิดมันใกล้เคียงท่อไอดีของเดิมของ Jeep แต่ตอนรอบเดินเบารูต้องปิดเล็กหน่อยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ (ปัญหานี้จะไม่เกิดกับหัวฉีด)และต้องมีวาล์วกลางสาย หรือ Power Valveเหมือนกัน....สามารถตรวจสอบความหนา-บาง ของเชื้อเพลิงด้วย เครื่องวัด AF

LAMDA จะเป็น Steping Motor เปรียบเสมือนวาล์วกลางสาย หรือ Power Valve ที่ค่อยเปิด-ปิด ทางให้แก๊สผ่านได้ตามรอบเครื่องยนต์ที่ต้องการแต่ละรอบเครื่องยนต์ให้เหมาะสม คือมีระบบไฟฟ้ามายุ่งยากหัวใจ ....หลักการก็คือว่า คนติดตั้งต้องพยามหาตัว Mixer ทั่วไปให้เหมาะสม...สามารถตรวจสอบความหนา-บาง ของเชื้อเพลิงด้วย เครื่องวัด AF

เปรียบมวยกันแล้ว ถ้า Mixer พอดี ๆ เท่า ๆ กัน LAMDA จะเป็น Steping Motor จะเหนือกว่าครับ สามารถปรับได้ละเอียดกว่า เพราะว่าใช้ปรับจากคอมฯ ดูกราฟละเอียดได้ครับ

ตานี้อยู่ที่ผู้บริโภคแล้วครับ ว่าจะชอบแบบแมคคานิค ที่โอกาสเพี้ยนน้อย ความละเอียดน้อย หรือ ระบบอิเลคโทรนิค ความละเอียดมาก แต่ใช้ไปนาน ๆ โอกาสระบบไฟฟ้าก็อาจจะเกิดอาการเพี้ยนได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       Tosaki อยู่บนถนนพระราม 2 ....ลอง search ดูครับ....ผมจำชื่อซอยไม่ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       stepping Lamda ครับ ปรับประหยัด หรือแรงได้ตามใจด้วยคอม เพื่อป้องการตัวแลมด้าคอนโทรลรวนควรเอามาติดในห้องโดยสาร หายห่วงจริงๆครับ ข้อที่ดีสุดขีดคือสามารถปรับจูนเรนจ์การขับขี่ได้กว้างกว่า อยากได้แรงๆตอนคิกดาวน์ก็สามารถคอนฟิกกล่องให้สั่งจ่ายแก๊ซได้ ปัญหาเรื่องแบคไฟร์หมดไปเห็นๆครับ

ประสพการณ์ส่วนตัวครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       คุณ SUPERMOP ครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้ตรงนี้เท่าไหร่ คือว่าต้องไปติดอุปกรณ์เพิ่มใช่ไหมครับ ของผมตอนนี่อยู่ที่ 4 กิโลกว่าๆ ต่อลิตรครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ขอตอบให้นะครับ ต้องไปติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มครับ ส่วนที่จะเพิ่มเติมคือ Step motor จะมาทำหน้าทีแทน power valve โดยควบคุมปริมาณแกสที่จะไหลเข้าสู่ Mixer ให้มีปริมาณทีพอดี โดยที่แกสไม่มาก(หนา) หรือไม่น้อย(บาง) เกินไป
ข้อสังเกตุที่ได้จากการติด Lamda + step motor คือ ความรู้สึกการขับขี่จะเหมือนขับด้วยน้ำมันเบนซิน ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น สามารถออกตัวด้วยความเร็วได้ไม่อืด ส่วนการประหยัดนั้นถ้าเทียบกับแบบ Fix จะประหยัดถ้า "Fix จูนมาหนา" แต่ไม่ประหยัดถ้า Fix จูนมาบาง เนื่องจากว่า Lamda control จะพยายามปรับค่าการควบคุมให้อยู่ค่ากลาง อย่างไรก็ดีถ้าต้องการจูนให้ Lamda control ประหยัดก็สามารถทำได้ แต่ต้องใช้คอมพิวเตอร์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       พี่ชูอัพเป็นหัวฉีดไปเลยรถผมก็2.5เหมือนกันวิ่งสบายๆวิ่งได้ประมาณ5.5-6.5กม./ลิตรความเร้วปลาย145กม./ชม.กับยาง235/75*15แต่ถ้ายาง31*10.5*15ก็จะได้125กม./ชม.ครับรอบเครื่องขื้นเหมือนน้ำมันแต่ละเกียร์กดที่รอบกล่องตัดรอบได้เลยไม่มีสะดุดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ถ้าเป็นรถ 2.5 แนะนำระบบหัวฉีดไปเลยครับ ตอนนี้ราคาไม่แรงแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       Step motor จะมาทำหน้าทีแทน power valve โดยควบคุมปริมาณแกสที่จะไหลเข้าสู่ห้องเผาใหม้ครับ

ตานี้เรื่องสำคัญก็คือ หม้อต้ม (แรงดันต้องเหมาะสมกับเครื่องยนต์ - Mixer (รูต้องเหมาะสม).......ส่วนนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ

Step motor จะมาทำหน้าที่ เปิดมาก/น้อย -หรี่ ลด - เพิ่ม แก๊สให้ผ่านเข้าไปในห้องเผาใหม้ให้พอดี ของแต่ละความเร็วรอบครับ

ตานี้ตัว Step motor ใช้ไปนาน ๆ ภายในอาจจะเกิดคราบยางเหนียวทำให้มอเตอร์ปรับเปิด - ปิด ไม่สะดวกเหมือนใหม่ หรือวงจรในตัวมันอาจจะเพี้ยน ถึงขนาดเดี้ยงในจังหวะเปิด/ปิด ทำให้การขับขี่ปกติดไปได้ครับ (จากประสบการณ์ที่ใช้ระบบนี้ 2 ปี)

ของทุกอย่าง มีดี มีเสีย ต้องเลือกพิจารณาตามความเหมาะสม ตามความต้องการและปัจจัยเราครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       เคยใช้ เสต็ป มอเตอร์ ตอนใช้ก็ดีเหมือนกันครับ แต่ว่าตอนหลังขับๆ อยู่ดับกลางอากาศ สงสัยจะเป็นเหมือนที่บอกว่าจะมีคราบทำให้เปิดปิดไม่สะดวก

ให้ร้านติดแก๊สเขาบอกว่า จะเปลี่ยนก็ได้ แต่ว่าจะใช้ไปก็ไม่นานต้องมาเปลี่ยนอีก ให้ติดเพาเวอร์วาลฺวดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ถ้าคิดแบบละเอียดกับการสิ้นเปลืองที่ต้องเสีย ระบบหัวฉีด จบ ครับ เจาะรูน็อตเซิส ประมาณ 2.2-2.4 เฉลี่ยที่ 2.20 บาท/กิโลเมตร ตอนนี้ชุดหน้าหัวฉีด 4 สูบ ไม่ถึงหมื่น ใช่แค่หมื่นโลก็คุ้มแล้ว ครับ .จบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ต่ำกว่าหมื่นของอะไรครับ ที่หาๆดูเจอแต่ 13000ไปจนถึง17000บ.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ของผมใช้ หัวฉีด autogas easyjet เครื่อง 2.5l ปี97 ประมาณ 2 บาท/Km ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย