WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ขอเชิญเพื่อนชาว JUC แวะชิมขนมจีนน้ำยาปักษใต้ เปิดใหม่ครับ บางใหญ่

จาก โก/JUC1821
203.121.178.34
ศุกร์ที่ , 14/9/2550
เวลา : 08:02

อ่านแล้ว = 9625 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เพิ่งเปิดร้านเมื่อวันที่9 กย.50 ที่ผ่านมา วันที่8เลยไม่ค่อยได้สังสรรค์กับเพื่อน JUC สักเท่าไร่

เพราะไปแป๊บเดียว ต้องรีบมาเตรียมของเปิดร้านวันที่9 แต่ก็ได้เจอเพื่อนเยอะมากครับ

เพื่อนๆท่านใดอยู่ละแวกบางใหญ่ บางบัวทอง หรือ ไกล้เคียงอยากชิมอาหารใต้ก็เชิญได้นะครับ

ผมจะอยู่เฉพาะ เสาร์+อาทิตย์ ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  4  

คำตอบที่ 61
       มีแกงพุงปลาด้วยไหมครับ.?...ผมชอบเพราะมันหร้อยกินกับผักเหนาะบ้านๆ....ผ่านไปแถวนั้นผมจะแวะไปอุดหนุดครับขอให้กิจการเฮงๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับคุณโก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ..เชอโรกี1923 203.209.95.246 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 16:22   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222474

คำตอบที่ 62
       ขอให้กิจการเจริญรุ่งเรืองครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.8.139.64 อังคาร, 18/9/2550 เวลา : 19:13   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222499

คำตอบที่ 63
       แกงพุงปลามีครับคุณเชอโรกี1923
ขอบคุณครับพี่ช่วง
หนุ่มสุพรรณหิวยัง........
B27 ถ้าผ่านมาเชิญนะครับ
พี่ Loft สุดยอดข้อมูลจริงๆ
พี่ SUPERMOP ขอบคุณคร๊าบบบบบบ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โก/JUC1821 203.121.178.34 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 07:40   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222593

คำตอบที่ 64
       ใกล้เที่ยงอีกแล้ว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 11:09   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222625

คำตอบที่ 65
       ดูแล้ว...น้ำลายสอ..ฮิๆๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

na_nin จาก nin1844 124.121.193.150 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 11:14   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222626

คำตอบที่ 66
       คุณต้น , พี่วี วันศุกร์นี้เลยมากันเร็ว ๆ หน่อย ร้านพี่เขาปิด 1 ทุ่ม ด่วน ๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ohh 58.9.162.124 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 12:09   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222636

คำตอบที่ 67
       เห็นแล้วท้องร้องเลยยย ขอให้กิจการรุ่งเรืองขายดีๆๆนะคะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nu_nhung จาก หนึ่ง 125.24.87.163 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 17:31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222695

คำตอบที่ 68
       ถ้ามาอุดหนุนเชิญเสาร์ดีกว่านะครับ..จะได้เมาท์ต่อ+เบียร์ด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โก/JUC1821 203.121.178.39 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 20:06   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222739

คำตอบที่ 69
       วันเสาร์ มาต่อที่ อช ก็ได้นะ ใกล้ๆๆ กัน อิอิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 12.151.36.19 พุธ, 19/9/2550 เวลา : 20:24   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222741

คำตอบที่ 70
       ใกล้เทื่ยงแล้ว อิอิ ............................. BY the book ครับ ....................

แกงพุงปลา


วิธีการทำ
ส่วนประกอบที่สำคัญของแกงพุงปลา คือพุงปลา และปลาย่าง พุงปลาที่นิยมรับประทาน ได้แก่ พุงปลาช่อน ปลาขี้เด (ปลากระดี่)ปลากระบอก ปลาทู หรือปลาอื่น ๆ ส่วนปลาย่างที่นิยมใช้ได้แก่ ปลาช่อน ปลากระเบน ปลาดุก ปลาทู ปลาแดง ฯลฯ เครื่องแกงใช้อย่างเดียวกันกับเครื่องแกงกะทิ หรือแกงเผ็ดทั่วไป
ประกอบด้วย พริกขี้หนู ข่า ตะไคร้ พริกไทยดำ หอม กระเทียม ขมิ้น ผิวมะกรูด และกะปิ เครื่องปรุงรส ที่สำคัญคือ เคยปลา(กะปิปลา)และใบทำมัง (ชะมัง) เคยปลาได้จากการนำปลาเล็ก ๆ มาคลุกเกลือ ตำพอแหลก ตากแดดแล้วตำจนละเอียดอีกครั้ง เก็บใส่ภาชนะไว้ประมาณ ๒๐ วัน จึงนำมาใช้แกงได้ใบทำมัง ได้จากต้นทำมัง ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ลักษณะเป็นไม้พุ่ม ใบดกหนาทึบ มีกลิ่นฉุนคล้ายแมงดา ชาวบ้านนิยมใช้ใส่ในแกงพุงปลา และตำผสมน้ำพริกแทนแมงดา
การปรุงแกงพุงปลาหรือแกงน้ำเคย ขั้นตอนแรก เอาน้ำสะอาดใส่หม้อแกง ใส่พุงปลาและเคยปลา ต้มจนเดือด นำมากรองใส่อีกหม้อหนึ่ง เติมน้ำในปริมาณที่พอเหมาะกับเครื่องปรุง ต้มให้เดือด เอาเครื่องแกงที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ใส่ลงในหม้อแกง เอาปลาย่างที่ฉีกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไป ต้มให้เดือดจนเครื่องแกงและพุงปลาละลายเข้ากัน ต้มอีกประมาณ ๒๐ นาที ใส่ใบทำมัง ใบมะกรูด เพื่อให้กลิ่นหอม เพิ่มรสชาติให้ชวนรับประทาน การรับประทานแกงพุงปลา ถ้าจะให้ เอร็ดอร่อยมากขึ้น ต้องมี "ผักเหนาะ" ด้วย ผักเหนาะที่นิยมรับประทาน ได้แก่ ยอดหมุย ยอดมันปู ยอดหัวครก (มะม่วงหิมพานต์) บัวบก ผักกาดนกเขา มะเขือพวง สะตอ สะตอเบา (กระถิน) ลูกเนียง และลูกเหรียง เป็นต้น


ประโยชน์
ชาวพัทลุงนิยมใช้แกงพุงปลาหรือแกงน้ำเคย เป็นอาหารหลักในการเลี้ยงแขกของงานบุญต่าง ๆ ที่มีคนมาก ๆ เช่น งานบวช งานศพ และงานวัดต่าง ๆ เนื่องจากเป็นแกงที่ปรุงง่าย ราคาถูก และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป นอกจากแกงพุงปลาหรือแกงน้ำเคย จะมีบทบาทด้านวัฒนธรรมการกินของชาวพัทลุงโดยตรงดังกล่าวแล้ว ยังมีบทบาทด้านวัฒนธรรมอื่น ๆ อีก ที่สำคัญ คือ วัฒนธรรมด้านภาษากับชาวพัทลุง เนื่องจากแกงพุงปลาหรือแกงน้ำเคย มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมของชาวพัทลุงเป็นอย่างมาก จึงทำให้คำว่า "แกงพุงปลา" หรือแกงน้ำเคยเข้ามาอิทธิพลทางวัฒนธรรมด้านภาษาด้วย ดังจะเห็นว่าชาวพัทลุงนำคำว่า "แกงพุงปลา" หรือ "แกงน้ำเคย" ไปใช้ในการสื่อความหมายโดยนัย เมื่อเชื้อเชิญให้เพื่อนบ้านมาร่วมงานบวชนาคว่า "มากินแกงพุงปลากัน" หรือ "มากินแกงน้ำเคยกัน" ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดว่า แกงพุงปลาหรือแกงน้ำเคย มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ถึงกับใช้คำว่า " แกงพุงปลา" หรือ "แกงน้ำเคย" เป็นเครื่องสื่อความหมายแทนการส่งบัตรเชิญ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 พฤหัสบดี, 20/9/2550 เวลา : 11:28   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222954

คำตอบที่ 71
       เอา menu แกงภาคใต้มาฝาก อิอิ

แกงเห็ดแครง
แกงสะตอกับหมู(หรือไก่)
แกงอ้อดิบกับเนื้อ
แกงผักกูดกับกุ้ง
แกงขนุนอ่อนกับไก่
แกงหยวกกับไก่
แกงใบชะพูลกับหอยโข่ง
แกงกะทิมันขี้หนูกับหมูแดง
แกงมันสำปะหลังกับกุ้ง
แกงหน่อไม้ไผ่ตงกับไก่
แกงขี้เหล็กกับปลาย่าง
แกงหอยขม
แกงยอดมะขามกับเนื้อย่าง
แกงบัวบกกับหมู 3 ชั้น
แกงคั่วคลิ้ง
แกงปลาไหลกับข่า
แกงลูกกล้วยกับไก่บ้าน
แกงขี้พล้ากับไก่บ้าน
แกงน้ำเคอยยอดหวาย
แกงเคยปลา


แกงคั่วเนื้อ
แกงพุงปลา
แกงคั่วเผ็ดปลาขี้ขม
แกงส้มยอดมันกับกุ้งนา
แกงส้มกุ้งกับมันหลา
แกงส้มหยวกกับปลาช่อน
แกงส้มผักริ้นกับลูกกุ้ง ลูกปลา ลูกปู
แกงลูกกล้วยกับปลาช่อน
แกงส้มเม็ดขนุนกับปลาสมรม
แกงส้มขี้พล้ากับปลาช่อน
แกงส้มปลาหมอกับส้มจังกระ
แกงส้มอ้อดิบกับปลากระบอก
แกงส้มมะปริงหรือมะปรางกับปลาโอน
แกงส้มยอดมะขามกับเนื้อย่าง
แกงส้มมะม่วงเบากับปลาทู
แกงส้มปลากด (มะนาว)
แกงส้มมันขี้หนูกับปลากด
แกงส้มสะตอกับปลาดุก
แกงส้มลูกมุดกับปลาหลาด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 พฤหัสบดี, 20/9/2550 เวลา : 11:35   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 222957

คำตอบที่ 72
       By the book เอา สูตร มาฝากครับ

แกงคั่วเนื้อ
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
เนื้อสัน ? ก.ก.
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อให้สะอาด แล่พังพืดออกหั่นชิ้นบางๆ
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิ ตำให้เข้ากัน
3. ใบมะกรูดล้างสะอาด ฉีกหยาบๆ
4. นำเนื้อใส่หม้อ ตามด้วยเครื่องแกง เติมน้ำ 3 เท่าของเนื้อ ตั้งไฟกลาง (อย่าปิดฝา
หม้อ) จนเนื้อเปื่อย ชิมดูรส ตั้งไฟต่อไปจนน้ำขลุกขลิกใส่ใบมะกรูด ยกลง

แกงพุงปลา
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
เครื่องปรุง
พุงปลาช่อน (ปลาทู) 1 ขีด
ปลาช่อนย่าง 1 ตัว
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างสะอาด ฉีกหยาบๆ พักไว้
3. แกะเกล็ดปลาช่อนออก ดึงก้างปลาออก ฉีกเนื้อปลาหยาบๆ พักไว้
4. ใช้น้ำเพียงส่วนน้อยใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดสักครู่ (จะใส่ตะไคร้ทุบเพื่อดับกลิ่นคาวก็ได้)
กรองกากออก ยกตั้งไฟใส่เครื่องแกงคนเบาๆ (กันไหม้ที่ก้นหม้อ) จนเข้ากัน
กลิ่นหอมใส่ปลาย่างจนเครื่องแกงเข้าเนื้อปลา เติมน้ำ
พอควร ตั้งไฟจนน้ำแกงข้นใส่ใบมะกรูด ชิมดูรส (ถ้าเค็มเติมน้ำตาลแว่นได้เล็กน้อย)
หมายเหตุ
1. ปลาย่างนิยมใช้ ปลาช่อน ปลาดุก ปลาสลาด ปลาทู ปลาแดง
2. พุงปลาที่นิยม ได้แก่ พุงปลาช่อน
3. จะใส่ผักก็อร่อยไปอีกแบบลดความเผ็ดได้อีกระดับ ผักที่นิยมใช้
ได้แก่ มันเทศ (หน่อไม้ป่าต้ม, มะเขือพวง มะเขือ ถั่วฟักยาว
จะใช้อย่างเดียว หรือหลายอย่างรวมกันตามชอบ)

แกงส้มยอดมันกับกุ้งนา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
กุ้งนา 3 ขีด
มะขามเปียก 1 ปั้น
ยอดมันหลา 2 กำ
น้ำตาลแว่น
น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. ล้างมะขามเปียก เติมน้ำขยำเนื้อมะขามเอาเม็ดออก
3. ยอดมันล้างสะอาด เด็ดใบเป็นท่อนสั้นๆ พอคำ
4. กุ้งล้างสะอาดใส่หม้อ ละลายเครื่องแกงใส่หม้อเติมน้ำ
ให้ท่วมกุ้ง ตั้งไฟให้เดือดพอ กุ้งสุก (มีสีชมพู) ใส่ยอดมันพอสุก
ใส่มะขามเปียก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
- ขณะปรุงไม่เติมน้ำเย็น จะทำให้น้ำแกงคล้ำดูไม่น่ารับประทาน
- ถ้าต้องการเพิ่มน้ำให้ใช้น้ำร้อน

แกงส้มกุ้งกับมันหลา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
กุ้ง 3 ขีด
มันหลา (หรือมันเทศ) 2 - 3 หัว
มะขามสด 3 - 5 ฝัก(หรือมะขามเปียก)
น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ล้างกุ้งปอกเปลือกไว้หางผ่าหลังเอาไส้ออก
3. มันล้างเปลือกให้สะอาดปอกเปลือก ล้างยางออกให้หมด หั่นชิ้นพอคำ
4. มะขามล้างให้สะอาด ใส่หม้อตั้งไฟพอมะขามสุกตักขึ้น
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อรอให้เดือดใส่กุ้งพอสุก(เป็นสีชมพู) ใส่มันตั้งไฟต่อจนมันสุก
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายมะขามตักใส่หม้อ เติมน้ำปลาชิมดูรสตามชอบ

หมายเหตุ ไม่ใส่น้ำตาลเพราะมันจะมีรสหวานอยู่ในตัว

แกงส้มหยวกกับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
หยวกกล้วย 3 ขีด
มะขาม 5 - 7 ฝัก
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. หยวกล้างให้สะอาดดึงเส้นใยออกให้หมด ใส่กะชอนพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. มะขามล้างให้สะอาด
4. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาด
อีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อนขนาดพอเหมาะ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจน
ปลาสุกใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
6. ใส่หยวกตั้งไฟต่อจนสุก โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา
น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
หมายเหตุ
- แกงหยวกต้องเพิ่มกะปิมากกว่าแกงทั่วไป
- ถ้าต้องการหยวกนิ่มไม่กรอบให้ใส่หยวกก่อนมะขาม

แกงส้มผักริ้นกับลูกกุ้ง ลูกปลา ลูกปู
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ลูกกุ้ง ลูกปลา ลูกปู ผักริ้น 3 ขีด
มะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. ล้างมะขามเปียก เติมน้ำขยำเนื้อมะขามเอาเม็ดออก
3. ผักริ้นล้างสะอาด เด็ดใบเป็นท่อนสั้นๆ พอคำ
4. กุ้งล้างสะอาดใส่หม้อ ละลายเครื่องแกงใส่หม้อเติมน้ำให้ท่วมกุ้ง ตั้งไฟให้เดือดพอ กุ้ง
สุก (มีสีชมพู) ใส่ผักริ้นพอสุกใส่มะขามเปียก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
ผักริ้นเป็นผักน้ำจะขึ้นในนาขณะข้าวแตกกอ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ กุ้ง ปู ปลา กำลัง
เจริญเติบโตจะทำแกงนี้รับประทานฤดูทำนาผักจะกรอบ น่ารับประทาน

แกงส้มเม็ดขนุนกับปลาสมรม
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลา 3 ขีด
เม็ดขนุน 2 ขีด
มะขาม 3 - 5 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. มะขามล้างให้สะอาดขยำเอาเมล็ดออก
3. ต้มเม็ดขนุนให้สุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นพักไว้ให้เย็นเอาขึ้นจากน้ำผ่าเมล็ดออกพักไว้
4. ปลาขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ปลาใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง ตั้งไฟให้เดือดใส่เม็ดขนุน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มะขาม
รอจนมะขามสุกตักขึ้น
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส

หมายเหตุ
- ปลาสมรสหมายถึง ปลาหลายชนิดรวมกัน

แกงส้มขี้พล้ากับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
ขี้พล้า 1 ชิ้น ประมาณ ? ก.ก.
มะขาม 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ขี้พล้าล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นตามขวาง ชิ้นพอคำพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาดอีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อน
ขนาดพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจน
ปลาสุก ใส่ขี้พล้าตั้งไฟต่อจนสุกใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
5. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ

แกงส้มเม็ดขนุนกับปลาสมรม
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลา 3 ขีด
เม็ดขนุน 2 ขีด
มะขาม 3 - 5 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. มะขามล้างให้สะอาดขยำเอาเมล็ดออก
3. ต้มเม็ดขนุนให้สุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นพักไว้ให้เย็นเอาขึ้นจากน้ำผ่าเมล็ดออกพักไว้
4. ปลาขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ปลาใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง ตั้งไฟให้เดือดใส่เม็ดขนุน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มะขาม
รอจนมะขามสุกตักขึ้น
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส

หมายเหตุ
- ปลาสมรสหมายถึง ปลาหลายชนิดรวมกัน

แกงส้มขี้พล้ากับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
ขี้พล้า 1 ชิ้น ประมาณ ? ก.ก.
มะขาม 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ขี้พล้าล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นตามขวาง ชิ้นพอคำพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาดอีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อน
ขนาดพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจนปลาสุก ใส่ขี้พล้าตั้งไฟต่อจนสุก
ใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
5. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ

แกงส้มปลาหมอกับส้มจังกระ
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาหมอ (ขนาดกลาง) 5 ตัว
ส้มจังกระ 2 - 3 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
2. ปอกเปลือกส้มจังกระ คั้นน้ำใส่ภาชนะเคลือบพักไว้
3. ขอดเกล็ดปลาตัดครีบ ฝ่าท้องควักไส้ออก ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดจนปลาสุก
5. ตักน้ำแกงใส่น้ำส้มคนพอเข้ากัน ตักใส่หม้อแกง ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
ตามชอบ
หมายเหตุ
- แกงปลาหมอไม่นิยมใส่ผักเพราะปลาหมอก้างแข็งและ
ก้างมาก ถ้าใส่ผักจะไม่ปลอดภัยในการบริโภค
- ส้มจังกระ (ส้มซ่า) มีกลิ่นเฉพาะ

แกงส้มอ้อดิบกับปลากระบอก
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
อ้อดิบ 3 ก้าน
มะขาม 3 - 5 ฝัก
ปลากระบอกขนาดกลาง 3 ตัว
วิธีทำ
1. อ้อดิบลอกเยื่อหุ้มออกตัดเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ล้างให้สะอาด แช่น้ำพักไว้
2. น้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เกลือเล็กน้อย ใส่อ้อดิบให้เดือดนาน 3 นาที ตักขึ้นแช่น้ำ
เย็นพักไว้
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากัน
4. ปลากระบอกขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อปลา เติมน้ำให้ท่วม ตั้งไฟให้เดือดจนปลาสุก ใส่มะขามตั้งไฟต่อจนมะขามสุกตักขึ้นโขลก ละลายน้ำมะขามตักใส่หม้อ รอให้เดือดจึงใส่อ้อดิบ (ก่อนใส่บีบน้ำออกให้มากที่สุด) ตั้งไฟต่อ ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น น้ำปลา ชิมดูรสตามชอบ
หมายเหตุ
- อ้อดิบ จะมีรสขื่นนิดหน่อย การต้มก่อนรสขื่นจะหมดไป และ
อ้อดิบจะดูดซับน้ำแกงไว้มากจะทำให้รสชาติดีและกรอบ

แกงส้มมะปริงหรือมะปรางกับปลาโอน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาโอน ? ก.ก.
มะปริง , (มะปราง) 10 - 15 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ล้างปลาให้สะอาด ควักไส้ออก ขูดเมือกออกล้างให้สะอาดใส่หม้อพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
3. ล้างมะปริงให้สะอาดตัดคั่วออก
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อใส่น้ำท่วมปลา ยกตั้งไฟให้เดือดรอจนปลาสุกใส่ผลมะปริงรอจนสุก ตักขึ้น 3 - 5 ผล โขลกพอเนื้อแตก ตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วย น้ำตาลแว่น น้ำปลา
หมายเหตุ
- ปลาโอน หรือปลาเนื้ออ่อน
- ปลาโอนเป็นปลาไม่มีเกล็ดที่มีกลิ่นคาวน้อย
- มะปริงใส่ทั้งผลจะไม่ทำให้น้ำแกงดำหรือคล้ำ

แกงส้มยอดมะขามกับเนื้อย่าง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ยอดมะขาม 3 ถ้วย
เนื้อย่าง (ปลาย่าง) ? ก.ก.
น้ำปลา
น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ยอดมะขามล้างสะอาด ดึงก้านใบออก ขยำเบาๆ พอใบช้ำ พักไว้
3. เนื้อย่างหั่นเป็นชิ้นบางๆ (ปลาย่างแกะเอาแต่เนื้อ)
4. เนื้อย่างใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง เติมน้ำให้ท่วมเนื้อตั้งไฟให้เดือด
5. ใส่ยอดมะขามจนออกรสเปรี้ยว ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น น้ำปลา ชิมรสตามชอบ

แกงส้มมะม่วงเบากับปลาทู
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาทูขนาดกลาง 3 ตัว
มะม่วงเบา 5 - 7 ผล
น้ำปลา
น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ปลาทูล้างให้สะอาด ควักไส้เหงือกออก ตัดกลีบตัดหาง ตัดหัวออกล้างให้สะอาด ตัด
สองท่อน
2. มะม่วงเบาปาดหัวล้างยางออกให้หมด ผ่าเอาเมล็ดออก
หั่นส่วนละ 3 - 5 ชิ้น
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ตามด้วยปลาเติมน้ำให้ท่วมปลาตั้งไฟปานกลางจนปลาสุกใส่
มะม่วง รอจนมะม่วงสุกตักบางส่วนโขลกตักใส่หม้อ (เพิ่มความเปรี้ยว) ปรุงรสด้วยน้ำ
ปลา น้ำตาลแว่น ชิมรสดูตามชอบ

แกงส้มปลากด (มะนาว)
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลากด (ขนาดกลาง) 1 ตัว
มะนาวหรือมะนาวควาย 5 - 7 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ล้างปลาตัดครีบ เงี่ยงออก ขูดเมือกออก ล้างน้ำเกลือ 2 - 3 ครั้ง จนหมดเมือก
บั้งตลอดตัว ตัดเป็นชิ้นพอเหมาะ
3. มะนาวคั้นน้ำใส่ถ้วยเคลือบ
4. ปลาล้างสะอาดใส่หม้อละลายเครื่องแกงใส่หม้อให้ท่วมปลา ตั้งไฟให้เดือด รอให้ปลา
สุก ตักน้ำแกงผสมกับน้ำมะนาวคนพอเข้ากัน ใส่หม้อแกง ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น
น้ำปลา ตามชอบ
หมายเหตุ
- มะนาว, มะนาวควาย ก่อนปรุงรสในแกงหรือต้มส้ม
ต้องใช้น้ำร้อนผสมก่อนเพื่อไม่ให้มีรสขม ผิวมะนาว สมัยก่อน ใช้ถ่านติดไฟใส่ลงไปใน
น้ำมะนาว ๆ จะไม่ขมของผิวมะนาว
- มะนาวส่วนใหญ่จะแกงกับปลาไม่มีเกล็ด หรือปลาที่มีกลิ่น
คาวจัด มะนาวจะดับกลิ่นคาวได้

แกงส้มมันขี้หนูกับปลากด
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลากด (ช่อน , ดุก , กระบอกหรือกุ้ง) ? ก.ก
มันขี้หนู 2 - 3 ขีด
มะขามสด (มะขามเปียก) 3 - 5 ฝัก
วิธีทำ
1. ขูดผิวมันขี้หนู แช่น้ำพักไว้
2. มะขามเปียกล้างน้ำ แช่น้ำพักไว้
3. เครื่องแกงโขลกให้ละเอียด เติมกะปิตำให้เข้ากัน
4. ล้างปลาขูดเมือกออก ตัดเงี่ยง ครีบ หาง ผ่าท้องควักไส้ ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือจน
หมดเมือก ใส่หม้อ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อปลาเติมน้ำให้ท่วม ตั้งไฟ รอให้ปลาสุกใส่มันขี้หนู รอจน
มันขี้หนูสุก
6. ขยำมะขามเปียกคั้นเมล็ดออก ตักใส่หม้อเติมน้ำปลา น้ำตาลแว่น ชิมดูรส
หมายเหตุ
1. ผักแกงส้มจะใช้ มันเทศ มะเขือ หน่อไม้ดอง หยวกกล้วย กล้วยแก่ ผักริ้น

แกงส้มสะตอกับปลาดุก
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
สะตอแก่จัด 3 - 5 ฝัก
ปลาดุกขนาดกลาง 2 ตัว
มะขามสด 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. สะตอล้างทั้งฝักขูดผิวออก ตัดเป็นเม็ดๆ ล้างผิวออกให้หมดแช่น้ำเกลือพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาดุกขูดเมือกออกล้างน้ำเกลือให้หมดเมือกตัดครีบ เงี่ยง ผ่าท้องควักไส้ออกล้างน้ำ
อีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นชิ้นพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่ปลา พอสุกใส่สะตอ
จนสุกใส่มะขามพอสุกโขลกพอแตกใส่น้ำแกงละลายน้ำแกงใส่หม้อ (อย่าเติมน้ำเย็น
จะทำให้น้ำแกงมีสีคล้ำ) เติมน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
1. ถ้าชอบสะตอกรอบให้ใส่มะขามก่อนสะตอ
2. ไม่เติมน้ำเย็นขณะปรุงจะทำให้สะตอและน้ำแกงคล้ำ
3. จะใช้กุ้งสด ปลาช่อนหรือปลาอื่นๆ ตามชอบ

แกงส้มลูกมุดกับปลาหลาด
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาหลาด ? ก.ก.
ลูกมุดลูกโต 1 ผล
น้ำตาลแว่น 1 - 2 แว่น
น้ำปลา พอสมควร
วิธีทำ
1. ปลาหลาด ล้างน้ำขอดเกล็ด ควักไส้ออก ล้างน้ำอีกครั้ง บั้งถี่ๆ ตลอดตัวตัดเป็นชิ้น
พองาม
2. ลูกมุดล้างให้สะอาด ปอกเปลือกล้างน้ำให้ยางออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นหนาพอควรพักไว้
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อใส่ปลาตั้งไฟให้เดือด รอให้ปลาสุกจึงใส่ลูกมุด รอจนลูกมุดสุก นำบางส่วนมาโขลก (เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว) ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลแว่น ชิมดูรสตามชอบ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 58.10.204.178 ศุกร์, 21/9/2550 เวลา : 06:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 223131

คำตอบที่ 73
       by the book ครับ ทำอาหารใต้สุดยอด ...................ที่แสนจะอร่อย


แกงเห็ดแครง
แกงสะตอกับหมู(หรือไก่)
แกงอ้อดิบกับเนื้อ
แกงผักกูดกับกุ้ง
แกงขนุนอ่อนกับไก่
แกงหยวกกับไก่
แกงใบชะพูลกับหอยโข่ง
แกงกะทิมันขี้หนูกับหมูแดง
แกงมันสำปะหลังกับกุ้ง
แกงหน่อไม้ไผ่ตงกับไก่
แกงขี้เหล็กกับปลาย่าง
แกงหอยขม
แกงยอดมะขามกับเนื้อย่าง
แกงบัวบกกับหมู 3 ชั้น
แกงคั่วคลิ้ง
แกงปลาไหลกับข่า
แกงลูกกล้วยกับไก่บ้าน
แกงขี้พล้ากับไก่บ้าน
แกงน้ำเคอยยอดหวาย
แกงเคยปลา


แกงเห็ดแครง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียมซอย 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เห็ดแครงแห้ง 1 ขีด
หมูแดง 3 ขีด
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ล้างเห็ดแครงให้สะอาด แช่น้ำพักไว้ให้นิ่ม นำใส่กระชอนพักไว้
4. ล้างหมูหั่นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. นำเห็ดแครงโขลกรวมกับเครื่องแกง
7. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม
ใส่หมูผัดให้เข้ากันจนน้ำแกงขลุกขลิก จึงเติมหางกะทิ ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล
ชิมดูรสใส่ใบมะกรูด

แกงสะตอกับหมู (หรือไก่)
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียมซอย 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
สะตอ 3 ฝัก
หมูแดง 3 ขีด
หรือไก่ ? ก.ก.
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. สะตอล้างฝักขูดผิวออก ล้างสะอาดหั่นจากฝักเป็นเม็ดๆ
แช่น้ำเกลือพักไว้
4. หมูล้างสะอาด หั่นชิ้นบางๆ (ไก่ตัดชิ้นพอคำ)
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอมใส่หมูตั้งไฟต่อจน
เครื่องแกงเข้ากันเติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ล้างสะตอใส่หม้อตั้งไฟจนสุก ปรุงรสน้ำปลา
น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

หมายเหตุ
- ชอบสะตอกรอบตั้งไฟพอสะตอสุก ถ้าสุกมากให้ตั้งไฟจนสุกตามชอบ
- ขณะตั้งไฟไม่เติมน้ำเย็น น้ำแกงสะตอจะมีสีคล้ำ

แกงอ้อดิบกับเนื้อ
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียมซอย 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
อ้อดิบ 2 ก้าน
เนื้อ 3 ขีด
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ลอกเยื่อที่หุ้มอ้อดิบออก หั่นเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ล้างน้ำให้หมดยาง วางใส่กระชอน
พักไว้
4. ล้างเนื้อหั่นเป็นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อ
ตั้งไฟ ต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ใส่อ้อดิบตั้งไฟ
ต่อจนอ้อดิบสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงผักกูดกับกุ้ง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียมซอย 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ผักกูด 2 มัด
กุ้งเปลือกอ่อน 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ผักกูดแก้มัดออกล้างน้ำ หั่นผักกูดเฉพาะส่วนอ่อน ยาว 1 นิ้ว
4. กุ้งล้างสะอาด และหัวออก
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่กุ้ง
ตั้งไฟต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง
7. ใส่ผักกูดตั้งไฟต่อจนสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส
ใส่ใบมะกรูด
หมายเหตุ ผักกูดเป็นผักมีรสหวานไม่ชอบหวานไม่ต้อง

แกงขนุนอ่อนกับไก่
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ไก่ 1 ซีก
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ขนุนอ่อน 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ขนุนอ่อนล้างน้ำอีกครั้ง
4. ล้างไก่ให้สะอาดสับเป็นชิ้นพอคำ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่ไก่ตั้งไฟ
ต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ขนุนอ่อน ตั้งไฟต่อจน
ขนุนอ่อนสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงหยวกกับไก่
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ไก่ 1 ซีก
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
หยวก 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ล้างหยวกแช่น้ำพักไว้
4. ล้างไก่หั่นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่ไก่ตั้งไฟ
ต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง
7. ใส่หยวกตั้งไฟต่อจนสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรสตามชอบ ใส่ใบมะกรูด

แกงใบชะพลูกับหอยโข่ง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ใบชะพลู 1 มัด
หอยโข่งเอาแต่เนื้อ 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ใบชะพลูล้างให้สะอาด เลือกใบเพสลาดซ้อนหลายๆใบ ตัดตามยาวใบ หั่นตามขวาง
4. หอยโข่งล้างน้ำเกลือให้หมดเมือก หั่นตัวหอยส่วนหัวเป็นชิ้นเล็กบางๆ ส่วนหางหั่น
หยาบ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่หอยโข่ง
ตั้งไฟต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ชะพลูตั้งไฟต่อจนใบ
ชะพลูสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงกะทิมันขี้หนูกับหมูแดง

เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
มันขี้หนู 3 ขีด
หมูแดง ? กิโลกรัม
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ล้างมันขี้หนูแช่น้ำพักไว้
4. ล้างหมูหั่นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่หมูตั้งไฟ
ต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มันขี้หนูตั้งไฟต่อจน
มันขี้หนูสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด
หมายเหตุ
1. การใส่กะปิในเครื่องแกงมากน้อยให้ดูขณะโขลกกะปิกับเครื่องจะเหนียว
(ถ้าไม่ชอบกะปิให้ลดปริมาณตามชอบ)
2. ปัจจุบันกระเทียมไทยมีขายน้อยถ้าใช้กระเทียมต่างประเทศใช้เพียง 2 - 3 กลีบ

แกงมันสำปะหลังกับกุ้ง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
มันสำปะหลังขนาดกลาง 1 หัว
กุ้งเปลือกบาง 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. มันสำปะหลังล้างเปลือกให้สะอาด ปอกเปลือกผ่าตามยาว
เอาไส้ออก ตัดตามขวางเป็นชิ้นพอคำ
4. กุ้งล้างให้สะอาดปอกหัวหางออก
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่กุ้งตั้งไฟ
ต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิ รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มันสำปะหลังตั้งไฟต่อจน
มันสำปะหลังสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงหน่อไม้ไผ่ตงกับไก่
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ไก่ 1 ซีก
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
หน่อไม้ไผ่ตงหน่อเล็ก 1 หน่อ
น้ำตาลแว่น
น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. หน่อไม้ไผ่ตงปอกกาบชั้นนอกออกให้หมด ผ่าตามยาวเป็น ส่วน ตัดเป็นท่อนพอคำ
ซอยตามยาวสลับกันทั้ง 2 ด้าน
4. ล้างไก่ให้สะอาด สับชิ้นพอคำ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟ รอให้กะทิเดือดใส่เครื่องแกงผัดให้หอมใส่ไก่ผัดเข้ากันพอสุก
ใส่หางกะทิใส่หน่อไม้ เคี่ยวจนหน่อไม้จืด (ไม่มีรสขื่น) ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลตามชอบ
ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงขี้เหล็กกับปลาย่าง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ขี้เหล็กต้มแล้ว 3 ก้อน
ใบย่านนาง 1 มัด
ปลาทูย่าง 3 ตัว
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. น้ำใส่หม้อ ตั้งไฟให้เดือด ต้มขี้เหล็กอีกครั้ง เทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
4. ใบย่านนางเลือกใบเพสลาด ล้างให้สะอาดหั่นหยาบๆ ตำให้ละเอียด
คั้นรวมกับมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 3 ส่วน
5. แกะเนื้อปลาชิ้นพอคำ นำไปโขลกกับเครื่องแกง
6. หางกะทิตั้งไฟให้เดือด นำเครื่องแกงลงผัดใส่ปลาตามด้วยหางกะทิ ใส่ขี้เหล็ก
ปรุงรส น้ำตาลแว่น น้ำปลา ตามด้วยใบมะกรูด
หมายเหตุ
- ปลาย่างจะใช้ปลาช่อน ปลาทู หรือปลาอื่นๆ ที่มีก้างน้อย
- จะใช้เนื้อย่าง หรือหมูย่างก็ได้

แกงหอยขม
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
หอยขม(สับก้นหอยแล้ว) 1 ก.ก.
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ล้างหอยขมวางให้สะเด็ดน้ำ
4. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
5. หัวกะทิ ? ส่วนใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงลงผัดพอหอมใส่หางกะทิทั้งหมด
พอให้เดือดใส่หอย พอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่นน้ำปลา (อย่าให้เดือดนาน
หอยจะสุกมากเนื้อแข็งไม่อร่อย) ราดหัวกะทิที่เหลือใส่ใบมะกรูดยกลง

แกงยอดมะขามกับเนื้อย่าง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ยอดมะขาม 2 ขีด
เนื้อย่าง(หรือหมูย่าง) 3 ขีด
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ล้างยอดมะขาม ขยำหยาบๆ เพื่อให้ได้รสเปรี้ยว
4. เนื้อย่างหั่นเป็นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อย่าง
ตั้งไฟต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือด
อีกครั้ง ใส่ยอดมะขาม ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงบัวบกกับหมู 3 ชั้น
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
หมูสามชั้น 3 ขีด(กุ้งสดหรือกุ้งแห้ง)
บัวบก 3 มัด (หรือใบผักกาดนกเขา)
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. หมูสามชั้นหั่นบางๆ ให้ติดหนัง
4. บัวบกล้างให้สะอาด หั่นหยาบทั้งใบและก้านใบ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิตั้งไฟใส่เครื่องแกงผัดให้หอม ใส่หมู รอให้หมูสุก
ใส่หางกะทิ พอเดือดใส่ใบบัวบก รอให้เดือด ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดูรส
ใส่ใบมะกรูด

แกงคั่วคลิ้ง
เครื่องแกง
พริกขี้หนู 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 3 แว่น
กระเทียมซอย 1 หัว
หอมแดงซอย 5 หัว
ผิวมะกรูดซอย 2 ช้อนชา
ใบมะกรูดซอย 2 - 3 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
เนื้อสัน ? ก.ก.
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อสะอาด หั่นเนื้อชิ้นเล็กๆ บางๆ พักไว้
2. ตำเครื่องแกง ให้ละเอียด ใส่เกลือ กะปิ ตำต่อให้เข้ากัน
3. กะทะตั้งไฟใส่น้ำเล็กน้อยพอเดือด ใส่เครื่องแกง ผัดให้หอม
ใส่เนื้อลงผัดให้เข้ากัน ลดไฟปานกลาง จนน้ำงวดขลุกขลิก ชิมดูรส ยกลง

แกงปลาไหลกับข่า
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูดแก่ 2 - 3 ใบ
ปลาไหลขนาดกลาง 1 ตัว
ข่าอ่อน 2 แหง่ง
ใบเดือยปล้อง (มะเดื่อ) 5 - 7 ใบ
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ปลาไหลรูดด้วยใบเดือยปล้องให้หมดเมือก ล้างให้สะอาด
หมดเมือกและล้างด้วยน้ำเกลืออีกครั้ง หั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ
4. ข่าล้างสะอาดขูดผิวออกหั่นตามขวางบางๆแช่น้ำเกลือพักไว้
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เครื่องแกงคนให้เข้ากันรอจนมีกลิ่นหอม ใส่ปลาไหล
ตั้งไฟต่อจนเครื่องแกงเข้ากัน เติมหางกะทิรอให้เดือดอีกครั้ง ใส่ข่าตั้งไฟต่อ ปรุงรส
น้ำปลา น้ำตาลแว่น เคี่ยวจนน้ำแกงขลุกขลิก ชิมดูรส ใส่ใบมะกรูด

แกงลูกกล้วยกับไก่บ้าน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูแห้ง 20 - 30 เม็ด
พริกไทยดำ 1 - 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
ข่าซอย 3 - 5 แว่น
ขมิ้นยาว 1 นิ้ว 1 - 2 แว่น
กระเทียม 5 - 7 กลีบ
เกลือ 1 - 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
มะพร้าว 3 ขีด
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
ลูกกล้วย 5 ลูก
ไก่บ้าน 1 ซีก
น้ำตาล, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียดใส่กะปิตำต่อให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างน้ำฉีกเส้นใบออก
3. ลอกผิวกล้วยออกล้างน้ำผสมมะนาว ผ่าตามยาวหั่น เป็นท่อนพอคำ แช่น้ำเกลือ
4. ไก่ล้างสะอาด หั่นชิ้นบางๆ
5. คั้นกะทิให้ได้ หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 2 ส่วน
6. หัวกะทิตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกง รอให้ออกกลิ่นหอม ใส่ไก่ผัดให้เข้ากัน รอให้ไก่
สุกใส่หางกะทิ พอเดือดใส่ลูกกล้วย ตั้งไฟต่อจนกล้วยสุก ปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล ชิมดู
รส ใส่ใบมะกรูด
หมายเหตุ
- กล้วยที่นำมาแกงจะเป็นผลกล้วยอ่อนหรือค่อนไปทางแก่ แล้วแต่ชอบ กล้วยที่
นำมาแกง เดิมใช้กล้วยที่รับประทานผลสุกไม่อร่อย เช่น กล้วยทองส้ม
กล้วยตานี หรือกล้วยที่ล้มก่อนผลแก่นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้จึงนำมาแกง

แกงน้ำเคยยอดหวาย
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ยอดหวาย 2 - 3 ยอด
วิธีทำ
1. ยอดหวายลอกเอาเฉพาะยอดอ่อน ตัดเป็นท่อนพอคำ
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้ากัน
3. ใบมะกรูดล้างสะอาด ฉีกหยาบๆ พักไว้
4. ตักเครื่องแกงใส่หม้อเติมน้ำพอควรตั้งไฟให้เดือด ใส่ยอดหวาย รอจนยอดหวายสุกใส่
มะกรูดยกลง
5. แกงจะมีรสเผ็ด จึงรับประทานกับผักลวกหรือผักสด

หมายเหตุ
หน้าแล้งชาวบ้านจะตัดหวายมาจักสานเครื่องใช้ต่าง ๆ ส่วนยอดหวายอ่อนใช้งานไม่ได้จะนำมาประกอบอาหาร ออกรสมันและขมนิดหน่อย

แกงเคยปลา
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
เครื่องปรุง
ปลาย่าง 1 ตัว
เคยปลา 1 ก้อน
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด
2. ปลาย่างแกะเอาก้างออก พยายามอย่าให้เนื้อปลาเละ
3. ใบมะกรูดล้างสะอาดฉีกหยาบๆ
4. หม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือดใส่เคยปลาลงต้มสักครู่ ยกลงกรองก้างออก ตั้งไฟต่อละลาย
เครื่องแกงใส่หม้อพอเดือดใส่ปลาย่างตามด้วยใบมะกรูด

หมายเหตุ
1. ปลาย่างจะไม่ใช้ก็ได้เพราะเคยปลาทำจากปลาล้วน ๆ
2. ขณะต้มเคยปลาถ้ากลิ่นแรงไปจะทุบตะไคร้ทั้งต้นดับกลิ่นก็ได้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 ศุกร์, 21/9/2550 เวลา : 12:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 223219

คำตอบที่ 74
       ท่านโก 2007 ทำทุกเมนูได้สบายๆๆๆๆๆ อิอิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 12.151.36.19 ศุกร์, 21/9/2550 เวลา : 20:32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 223330

คำตอบที่ 75
       นึกถึง ลูกชิ้น หลายกิโล ที่ อ ปุ๊ นำมาที่ อช เมื่อคืนที่ผ่านมา ..................... ตื่นมาตอนเช้าๆๆ เห็นเหลือแต่ ไม้ เสียบลูกชิ้น และ น้ำจิ้มถุงใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 58.10.204.136 อาทิตย์, 23/9/2550 เวลา : 17:54   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 223740

คำตอบที่ 76
       พี่ Loft60-84 นี่ข้อมูลแน่นมากๆ ผมคนใต้แท้ๆ บางเมนูยังทำไม่เป็นเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chayakorn จาก ไข่ย้อย 125.27.158.126 อาทิตย์, 23/9/2550 เวลา : 18:32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 223743

คำตอบที่ 77
       มีชูชิ & อาหารญี่ปุ่นขายด้วยคะ สนใจติดต่อได้ที่เจ้าของร้านคะ อร่อยๆๆ สดๆๆ สั่งผลิตตรงจากโรงงานจ๊ะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Fresh IKA 61.7.153.130 จันทร์, 24/9/2550 เวลา : 14:56   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224018

คำตอบที่ 78
       ชี้แจงคำตอบที่ 77 ค่ะ

ไม่มีค่ะออร์เดอร์ ข้าวปั้น มีแต่อาหารปักษ์ใต้อย่างเดียวค่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก น้องซ่าส์ 61.7.153.130 จันทร์, 24/9/2550 เวลา : 15:08   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224036

คำตอบที่ 79
       นั่นซิ อาหารใต้ กะ ญี่ปุ่นนี้ คนละแนว อิอิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 58.10.204.138 จันทร์, 24/9/2550 เวลา : 19:03   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224106

คำตอบที่ 80
       จุดสังเกตุ ร้าน ง่ายๆๆๆๆ ดู logo กลมๆๆ Coffee Factory นี้นะครับ เข้าไปในซอย แล้ว ร้าน จะอยู่ด้านขวามือครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 58.10.204.138 จันทร์, 24/9/2550 เวลา : 19:06   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224107

คำตอบที่ 81
       เมื่อวานนี้ท่านอาจารย์ CEMIC เดินมางมาไกลแสนไกล เพื่อไปที่ร้านอาหารนี้ ปรากฏว่าอดทานอาหารอร่อยครับ อิอิ .............................................เพราะ ร้านจะปิดบริการ วันอังคารครับ ก็เลยแวะมา ที่อชแทน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 พุธ, 26/9/2550 เวลา : 14:02   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224759

คำตอบที่ 82
       ว้าว..พี่Loft60-84มีสูตรอาหารแจกด้วย..สงสัยเป่งกุ๊กเก่า..ฮิๆๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nin1844 จาก nin1844 124.121.185.20 พุธ, 26/9/2550 เวลา : 21:35   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224957

คำตอบที่ 83
       ไม่ช่ายกุ๊ก จ้า................ แค่copy มาแชร์ แค่นั้นเองครับ เป็น KM หรือ Knownledge sharing อ่ะครับ ประมาณว่า Edutainment ไงอ่ะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 12.151.36.19 พุธ, 26/9/2550 เวลา : 21:53   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224969

คำตอบที่ 84
       ขอโทษด้วยครับพี่ Cemic หยุดทุกวันอังคารครับ

เชิญเสาร์-อาทิตย์ดีกว่าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โก/JUC1821 210.86.222.99 พุธ, 26/9/2550 เวลา : 22:30   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 224985

คำตอบที่ 85
       ปิดวันอังคาร แปลว่าวันจันทร์เปิด งั้นพรุ่งนี้มีภารกิจขับรถลอง สายๆ พรุ่งนี้จัดการเลยดีกว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

หมูน้อย JUC121 จาก หมูน้อย JUC121 58.8.129.84 อาทิตย์, 14/10/2550 เวลา : 21:09   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 229966

คำตอบที่ 86
       เห็นแล้ว อาฆาตเรย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เฒ๋าโจ๋ 58.136.228.50 อังคาร, 18/12/2550 เวลา : 00:27   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 251470

คำตอบที่ 87
       รู้แห่งแล้ว ผ่านมาทอใดจะแวะมาอุดหนุนให้พุงปลิ้นเลยนิ ว่าแต่ผักเหนาะมีมากหม้าย น้าโก เช่น ผักกาดนกเขา-ลูกเนียง-ลูกตอดอง-และลูกเหรียง ฯลฯ ขอให้ค้าขายร่ำรวยๆๆๆๆๆ นะครับ น้าโก juc1821



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ฅนต้นน้ำฅนต้นน้ำ จาก ฅนต้นน้ำ 61.91.168.51 อังคาร, 18/12/2550 เวลา : 09:52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 251537

คำตอบที่ 88
       มีครับ ลองมาแล้ว อิอิ .............มีเพียบเลย ภาคใต้แท้ๆๆๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

loft60-84 จาก Loft60-84 210.1.50.194 อังคาร, 18/12/2550 เวลา : 10:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 251540

คำตอบที่ 89
       ขอบคุณน้า loft60-84 ที่ตอบแทนน้าโก แล้วแกงคั้วกลิ้งน้า loft60-84 ลองชิมยังครับ รับรองยิ้งกว่าแซบแน่ๆ(โดนมาแล้วน้ำลายเหนียวเลย )



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ฅนต้นน้ำฅนต้นน้ำ จาก ฅนต้นน้ำ 61.91.168.51 อังคาร, 18/12/2550 เวลา : 12:31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 251633

คำตอบที่ 90
       โทษทีครับ ปิดร้านชั่วคราวครับ เปิดใหม่เมื่อไร่จะบอกครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โก1821 118.175.64.108 พฤหัสบดี, 20/12/2550 เวลา : 13:02   แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 252197

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  4  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,28 กันยายน 2567 (Online 2716 คน)