คำตอบที่ 72
By the book เอา สูตร มาฝากครับ
แกงคั่วเนื้อ
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
เนื้อสัน ? ก.ก.
วิธีทำ
1. ล้างเนื้อให้สะอาด แล่พังพืดออกหั่นชิ้นบางๆ
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิ ตำให้เข้ากัน
3. ใบมะกรูดล้างสะอาด ฉีกหยาบๆ
4. นำเนื้อใส่หม้อ ตามด้วยเครื่องแกง เติมน้ำ 3 เท่าของเนื้อ ตั้งไฟกลาง (อย่าปิดฝา
หม้อ) จนเนื้อเปื่อย ชิมดูรส ตั้งไฟต่อไปจนน้ำขลุกขลิกใส่ใบมะกรูด ยกลง
แกงพุงปลา
เครื่องแกง
พริกไทย 10 - 15 เม็ด
ตะไคร้ซอย 1 ต้น
พริกแห้ง 20 - 25 เม็ด
ข่าซอย 3 แว่น
ขมิ้น 3 แว่น
กระเทียมซอย 5 กลีบ
ใบมะกรูด 2 - 3 ใบ
เกลือ 2 ช้อนชา
เครื่องปรุง
พุงปลาช่อน (ปลาทู) 1 ขีด
ปลาช่อนย่าง 1 ตัว
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้ากัน
2. ใบมะกรูดล้างสะอาด ฉีกหยาบๆ พักไว้
3. แกะเกล็ดปลาช่อนออก ดึงก้างปลาออก ฉีกเนื้อปลาหยาบๆ พักไว้
4. ใช้น้ำเพียงส่วนน้อยใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดสักครู่ (จะใส่ตะไคร้ทุบเพื่อดับกลิ่นคาวก็ได้)
กรองกากออก ยกตั้งไฟใส่เครื่องแกงคนเบาๆ (กันไหม้ที่ก้นหม้อ) จนเข้ากัน
กลิ่นหอมใส่ปลาย่างจนเครื่องแกงเข้าเนื้อปลา เติมน้ำ
พอควร ตั้งไฟจนน้ำแกงข้นใส่ใบมะกรูด ชิมดูรส (ถ้าเค็มเติมน้ำตาลแว่นได้เล็กน้อย)
หมายเหตุ
1. ปลาย่างนิยมใช้ ปลาช่อน ปลาดุก ปลาสลาด ปลาทู ปลาแดง
2. พุงปลาที่นิยม ได้แก่ พุงปลาช่อน
3. จะใส่ผักก็อร่อยไปอีกแบบลดความเผ็ดได้อีกระดับ ผักที่นิยมใช้
ได้แก่ มันเทศ (หน่อไม้ป่าต้ม, มะเขือพวง มะเขือ ถั่วฟักยาว
จะใช้อย่างเดียว หรือหลายอย่างรวมกันตามชอบ)
แกงส้มยอดมันกับกุ้งนา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
กุ้งนา 3 ขีด
มะขามเปียก 1 ปั้น
ยอดมันหลา 2 กำ
น้ำตาลแว่น
น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. ล้างมะขามเปียก เติมน้ำขยำเนื้อมะขามเอาเม็ดออก
3. ยอดมันล้างสะอาด เด็ดใบเป็นท่อนสั้นๆ พอคำ
4. กุ้งล้างสะอาดใส่หม้อ ละลายเครื่องแกงใส่หม้อเติมน้ำ
ให้ท่วมกุ้ง ตั้งไฟให้เดือดพอ กุ้งสุก (มีสีชมพู) ใส่ยอดมันพอสุก
ใส่มะขามเปียก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
- ขณะปรุงไม่เติมน้ำเย็น จะทำให้น้ำแกงคล้ำดูไม่น่ารับประทาน
- ถ้าต้องการเพิ่มน้ำให้ใช้น้ำร้อน
แกงส้มกุ้งกับมันหลา
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
กุ้ง 3 ขีด
มันหลา (หรือมันเทศ) 2 - 3 หัว
มะขามสด 3 - 5 ฝัก(หรือมะขามเปียก)
น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ล้างกุ้งปอกเปลือกไว้หางผ่าหลังเอาไส้ออก
3. มันล้างเปลือกให้สะอาดปอกเปลือก ล้างยางออกให้หมด หั่นชิ้นพอคำ
4. มะขามล้างให้สะอาด ใส่หม้อตั้งไฟพอมะขามสุกตักขึ้น
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อรอให้เดือดใส่กุ้งพอสุก(เป็นสีชมพู) ใส่มันตั้งไฟต่อจนมันสุก
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายมะขามตักใส่หม้อ เติมน้ำปลาชิมดูรสตามชอบ
หมายเหตุ ไม่ใส่น้ำตาลเพราะมันจะมีรสหวานอยู่ในตัว
แกงส้มหยวกกับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
หยวกกล้วย 3 ขีด
มะขาม 5 - 7 ฝัก
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. หยวกล้างให้สะอาดดึงเส้นใยออกให้หมด ใส่กะชอนพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. มะขามล้างให้สะอาด
4. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาด
อีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อนขนาดพอเหมาะ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจน
ปลาสุกใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
6. ใส่หยวกตั้งไฟต่อจนสุก โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา
น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
หมายเหตุ
- แกงหยวกต้องเพิ่มกะปิมากกว่าแกงทั่วไป
- ถ้าต้องการหยวกนิ่มไม่กรอบให้ใส่หยวกก่อนมะขาม
แกงส้มผักริ้นกับลูกกุ้ง ลูกปลา ลูกปู
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ลูกกุ้ง ลูกปลา ลูกปู ผักริ้น 3 ขีด
มะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. ล้างมะขามเปียก เติมน้ำขยำเนื้อมะขามเอาเม็ดออก
3. ผักริ้นล้างสะอาด เด็ดใบเป็นท่อนสั้นๆ พอคำ
4. กุ้งล้างสะอาดใส่หม้อ ละลายเครื่องแกงใส่หม้อเติมน้ำให้ท่วมกุ้ง ตั้งไฟให้เดือดพอ กุ้ง
สุก (มีสีชมพู) ใส่ผักริ้นพอสุกใส่มะขามเปียก ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
ผักริ้นเป็นผักน้ำจะขึ้นในนาขณะข้าวแตกกอ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ กุ้ง ปู ปลา กำลัง
เจริญเติบโตจะทำแกงนี้รับประทานฤดูทำนาผักจะกรอบ น่ารับประทาน
แกงส้มเม็ดขนุนกับปลาสมรม
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลา 3 ขีด
เม็ดขนุน 2 ขีด
มะขาม 3 - 5 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. มะขามล้างให้สะอาดขยำเอาเมล็ดออก
3. ต้มเม็ดขนุนให้สุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นพักไว้ให้เย็นเอาขึ้นจากน้ำผ่าเมล็ดออกพักไว้
4. ปลาขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ปลาใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง ตั้งไฟให้เดือดใส่เม็ดขนุน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มะขาม
รอจนมะขามสุกตักขึ้น
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
- ปลาสมรสหมายถึง ปลาหลายชนิดรวมกัน
แกงส้มขี้พล้ากับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
ขี้พล้า 1 ชิ้น ประมาณ ? ก.ก.
มะขาม 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ขี้พล้าล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นตามขวาง ชิ้นพอคำพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาดอีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อน
ขนาดพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจน
ปลาสุก ใส่ขี้พล้าตั้งไฟต่อจนสุกใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
5. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
แกงส้มเม็ดขนุนกับปลาสมรม
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลา 3 ขีด
เม็ดขนุน 2 ขีด
มะขาม 3 - 5 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้าอีกครั้ง
2. มะขามล้างให้สะอาดขยำเอาเมล็ดออก
3. ต้มเม็ดขนุนให้สุก ตักขึ้นแช่น้ำเย็นพักไว้ให้เย็นเอาขึ้นจากน้ำผ่าเมล็ดออกพักไว้
4. ปลาขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ปลาใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง ตั้งไฟให้เดือดใส่เม็ดขนุน รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่มะขาม
รอจนมะขามสุกตักขึ้น
6. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
- ปลาสมรสหมายถึง ปลาหลายชนิดรวมกัน
แกงส้มขี้พล้ากับปลาช่อน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาช่อนขนาดกลาง 1 ตัว
ขี้พล้า 1 ชิ้น ประมาณ ? ก.ก.
มะขาม 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. ขี้พล้าล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นตามขวาง ชิ้นพอคำพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาช่อนขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกล้างให้สะอาดอีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นท่อน
ขนาดพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ใส่ปลา ตั้งไฟให้เดือดรอจนปลาสุก ใส่ขี้พล้าตั้งไฟต่อจนสุก
ใส่มะขามรอจนมะขามสุก ตักขึ้น
5. โขลกมะขามตักน้ำแกงละลายตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
แกงส้มปลาหมอกับส้มจังกระ
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาหมอ (ขนาดกลาง) 5 ตัว
ส้มจังกระ 2 - 3 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
2. ปอกเปลือกส้มจังกระ คั้นน้ำใส่ภาชนะเคลือบพักไว้
3. ขอดเกล็ดปลาตัดครีบ ฝ่าท้องควักไส้ออก ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดจนปลาสุก
5. ตักน้ำแกงใส่น้ำส้มคนพอเข้ากัน ตักใส่หม้อแกง ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
ตามชอบ
หมายเหตุ
- แกงปลาหมอไม่นิยมใส่ผักเพราะปลาหมอก้างแข็งและ
ก้างมาก ถ้าใส่ผักจะไม่ปลอดภัยในการบริโภค
- ส้มจังกระ (ส้มซ่า) มีกลิ่นเฉพาะ
แกงส้มอ้อดิบกับปลากระบอก
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
อ้อดิบ 3 ก้าน
มะขาม 3 - 5 ฝัก
ปลากระบอกขนาดกลาง 3 ตัว
วิธีทำ
1. อ้อดิบลอกเยื่อหุ้มออกตัดเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ล้างให้สะอาด แช่น้ำพักไว้
2. น้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เกลือเล็กน้อย ใส่อ้อดิบให้เดือดนาน 3 นาที ตักขึ้นแช่น้ำ
เย็นพักไว้
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิโขลกให้เข้ากัน
4. ปลากระบอกขอดเกล็ด ตัดครีบ ควักไส้ออกแล้วล้างให้สะอาด ตัด 2 ท่อน ใส่หม้อ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อปลา เติมน้ำให้ท่วม ตั้งไฟให้เดือดจนปลาสุก ใส่มะขามตั้งไฟต่อจนมะขามสุกตักขึ้นโขลก ละลายน้ำมะขามตักใส่หม้อ รอให้เดือดจึงใส่อ้อดิบ (ก่อนใส่บีบน้ำออกให้มากที่สุด) ตั้งไฟต่อ ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น น้ำปลา ชิมดูรสตามชอบ
หมายเหตุ
- อ้อดิบ จะมีรสขื่นนิดหน่อย การต้มก่อนรสขื่นจะหมดไป และ
อ้อดิบจะดูดซับน้ำแกงไว้มากจะทำให้รสชาติดีและกรอบ
แกงส้มมะปริงหรือมะปรางกับปลาโอน
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาโอน ? ก.ก.
มะปริง , (มะปราง) 10 - 15 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ล้างปลาให้สะอาด ควักไส้ออก ขูดเมือกออกล้างให้สะอาดใส่หม้อพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
3. ล้างมะปริงให้สะอาดตัดคั่วออก
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อใส่น้ำท่วมปลา ยกตั้งไฟให้เดือดรอจนปลาสุกใส่ผลมะปริงรอจนสุก ตักขึ้น 3 - 5 ผล โขลกพอเนื้อแตก ตักใส่หม้อ ปรุงรสด้วย น้ำตาลแว่น น้ำปลา
หมายเหตุ
- ปลาโอน หรือปลาเนื้ออ่อน
- ปลาโอนเป็นปลาไม่มีเกล็ดที่มีกลิ่นคาวน้อย
- มะปริงใส่ทั้งผลจะไม่ทำให้น้ำแกงดำหรือคล้ำ
แกงส้มยอดมะขามกับเนื้อย่าง
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ยอดมะขาม 3 ถ้วย
เนื้อย่าง (ปลาย่าง) ? ก.ก.
น้ำปลา
น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ยอดมะขามล้างสะอาด ดึงก้านใบออก ขยำเบาๆ พอใบช้ำ พักไว้
3. เนื้อย่างหั่นเป็นชิ้นบางๆ (ปลาย่างแกะเอาแต่เนื้อ)
4. เนื้อย่างใส่หม้อ ละลายเครื่องแกง เติมน้ำให้ท่วมเนื้อตั้งไฟให้เดือด
5. ใส่ยอดมะขามจนออกรสเปรี้ยว ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น น้ำปลา ชิมรสตามชอบ
แกงส้มมะม่วงเบากับปลาทู
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาทูขนาดกลาง 3 ตัว
มะม่วงเบา 5 - 7 ผล
น้ำปลา
น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ปลาทูล้างให้สะอาด ควักไส้เหงือกออก ตัดกลีบตัดหาง ตัดหัวออกล้างให้สะอาด ตัด
สองท่อน
2. มะม่วงเบาปาดหัวล้างยางออกให้หมด ผ่าเอาเมล็ดออก
หั่นส่วนละ 3 - 5 ชิ้น
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อ ตามด้วยปลาเติมน้ำให้ท่วมปลาตั้งไฟปานกลางจนปลาสุกใส่
มะม่วง รอจนมะม่วงสุกตักบางส่วนโขลกตักใส่หม้อ (เพิ่มความเปรี้ยว) ปรุงรสด้วยน้ำ
ปลา น้ำตาลแว่น ชิมรสดูตามชอบ
แกงส้มปลากด (มะนาว)
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลากด (ขนาดกลาง) 1 ตัว
มะนาวหรือมะนาวควาย 5 - 7 ผล
น้ำปลา, น้ำตาลแว่น
วิธีทำ
1. ตำเครื่องแกงให้ละเอียดใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ล้างปลาตัดครีบ เงี่ยงออก ขูดเมือกออก ล้างน้ำเกลือ 2 - 3 ครั้ง จนหมดเมือก
บั้งตลอดตัว ตัดเป็นชิ้นพอเหมาะ
3. มะนาวคั้นน้ำใส่ถ้วยเคลือบ
4. ปลาล้างสะอาดใส่หม้อละลายเครื่องแกงใส่หม้อให้ท่วมปลา ตั้งไฟให้เดือด รอให้ปลา
สุก ตักน้ำแกงผสมกับน้ำมะนาวคนพอเข้ากัน ใส่หม้อแกง ปรุงรสด้วยน้ำตาลแว่น
น้ำปลา ตามชอบ
หมายเหตุ
- มะนาว, มะนาวควาย ก่อนปรุงรสในแกงหรือต้มส้ม
ต้องใช้น้ำร้อนผสมก่อนเพื่อไม่ให้มีรสขม ผิวมะนาว สมัยก่อน ใช้ถ่านติดไฟใส่ลงไปใน
น้ำมะนาว ๆ จะไม่ขมของผิวมะนาว
- มะนาวส่วนใหญ่จะแกงกับปลาไม่มีเกล็ด หรือปลาที่มีกลิ่น
คาวจัด มะนาวจะดับกลิ่นคาวได้
แกงส้มมันขี้หนูกับปลากด
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลากด (ช่อน , ดุก , กระบอกหรือกุ้ง) ? ก.ก
มันขี้หนู 2 - 3 ขีด
มะขามสด (มะขามเปียก) 3 - 5 ฝัก
วิธีทำ
1. ขูดผิวมันขี้หนู แช่น้ำพักไว้
2. มะขามเปียกล้างน้ำ แช่น้ำพักไว้
3. เครื่องแกงโขลกให้ละเอียด เติมกะปิตำให้เข้ากัน
4. ล้างปลาขูดเมือกออก ตัดเงี่ยง ครีบ หาง ผ่าท้องควักไส้ ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเกลือจน
หมดเมือก ใส่หม้อ
5. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อปลาเติมน้ำให้ท่วม ตั้งไฟ รอให้ปลาสุกใส่มันขี้หนู รอจน
มันขี้หนูสุก
6. ขยำมะขามเปียกคั้นเมล็ดออก ตักใส่หม้อเติมน้ำปลา น้ำตาลแว่น ชิมดูรส
หมายเหตุ
1. ผักแกงส้มจะใช้ มันเทศ มะเขือ หน่อไม้ดอง หยวกกล้วย กล้วยแก่ ผักริ้น
แกงส้มสะตอกับปลาดุก
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก)ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
สะตอแก่จัด 3 - 5 ฝัก
ปลาดุกขนาดกลาง 2 ตัว
มะขามสด 5 - 7 ฝัก
น้ำตาลแว่น, น้ำปลา
วิธีทำ
1. สะตอล้างทั้งฝักขูดผิวออก ตัดเป็นเม็ดๆ ล้างผิวออกให้หมดแช่น้ำเกลือพักไว้
2. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากันอีกครั้ง
3. ปลาดุกขูดเมือกออกล้างน้ำเกลือให้หมดเมือกตัดครีบ เงี่ยง ผ่าท้องควักไส้ออกล้างน้ำ
อีกครั้ง บั้งตลอดตัวตัดเป็นชิ้นพอเหมาะ
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่ปลา พอสุกใส่สะตอ
จนสุกใส่มะขามพอสุกโขลกพอแตกใส่น้ำแกงละลายน้ำแกงใส่หม้อ (อย่าเติมน้ำเย็น
จะทำให้น้ำแกงมีสีคล้ำ) เติมน้ำตาล น้ำปลา ชิมดูรส
หมายเหตุ
1. ถ้าชอบสะตอกรอบให้ใส่มะขามก่อนสะตอ
2. ไม่เติมน้ำเย็นขณะปรุงจะทำให้สะตอและน้ำแกงคล้ำ
3. จะใช้กุ้งสด ปลาช่อนหรือปลาอื่นๆ ตามชอบ
แกงส้มลูกมุดกับปลาหลาด
เครื่องแกง
พริกขี้หนูสดสุก 15 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
ขมิ้น (ปอกผิวออก) ยาว 2 ซ.ม. 1 ชิ้น
กระเทียม 3 - 5 กลีบ
หอมแดง 2 - 3 หัว
เกลือ 2 ช้อนชา
กะปิ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องปรุง
ปลาหลาด ? ก.ก.
ลูกมุดลูกโต 1 ผล
น้ำตาลแว่น 1 - 2 แว่น
น้ำปลา พอสมควร
วิธีทำ
1. ปลาหลาด ล้างน้ำขอดเกล็ด ควักไส้ออก ล้างน้ำอีกครั้ง บั้งถี่ๆ ตลอดตัวตัดเป็นชิ้น
พองาม
2. ลูกมุดล้างให้สะอาด ปอกเปลือกล้างน้ำให้ยางออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นหนาพอควรพักไว้
3. ตำเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กะปิตำให้เข้ากัน
4. ละลายเครื่องแกงใส่หม้อใส่ปลาตั้งไฟให้เดือด รอให้ปลาสุกจึงใส่ลูกมุด รอจนลูกมุดสุก นำบางส่วนมาโขลก (เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว) ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลแว่น ชิมดูรสตามชอบ