คำตอบที่ 61
       ถูกต้องครับ ตามที่คุณ คน(โรง)เหล็ก ว่ามาตามนั้นเลย
พอดีผมชอบทำอะไรมิต่ออะไร เกินมาตราฐานกำหนดเสมองะ (ดับเบิลสแตนดาด อิอิ)
จารบีมันไม่แพง ก็เลยใส่ๆ ยัดๆไปตามรูป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 62
       คุณ Skk ครับ...ขอเบอร์ โทร หน่อย จิ....อยากคุยด้วย....หรือ Chat_chu733@hotmail.com

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 63
       ปัญหารถนะพอคุยใหว ปัญหาชีวิตนะไม่ขอคุยนะ ของตัวเองก็ยังแก้ไม่หมดซะกะที

081-8124340

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 64
       ขอบคุณครับ... ว่าจะโท ....ยืมตังค์ อิ อิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 65
       ปีละครั้งกับการถ่ายน้ำ ในหม้อน้ำพร้อมกับเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นด้วย (รักษาจุดเดือด)

แต่ครั้งนี้เพิ่มรายการเข้าไปอีกหนึ่งอย่างนึงคือ ล้างสนิมในหม้อน้ำด้วย ด้วยอุปกรณ์ที่เราหาซื้อได้ทั้วไปนี่แหละ (ไม่แนะนำให้ทำบ่อยๆ หากแต่ว่าเราต้องถ่ายน้ำแล้วเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 66
       เปิดน้ำทิ้งในครั้งแรก

ขั้นตอนต่างๆ ก็ปฏิบัติตามรายละเอียดตามข้างขวดได้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 67
       นี่น้ำแรกที่เปิดทิ้งยังสปกขนาดนี้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 68
       พอเจอน้ำยาขจัดสนิมเข้าไป มันก็ออกมาอีก

หลังจากนั้นก็ให้ถ่ายน้ำทิ้งหลายๆครั้ง จนกว่ามันไม่มีออกมาอีกแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 69
       แล้วก็เติมน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ เข้าไป 1 ขวดพร้อมเติมน้ำให้เต็ม ไล่ลมออกด้วย

อ้อ..น้ำในหม้อพักก็ดูดออกทิ้งไปด้วยแล้วเติมน้ำลงไปใหม่

 แก้ไขเมื่อ : 2/3/2553 12:56:59

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 70
       ขอแจมครับ มีข้อแนะนำสำหรับน้ำยาเติมหม้อน้ำethylene glycolตามคู่มือ มีขายเป็นลิตรของESSOลิตรละประมาณร้อยกว่าๆ ซื้อมาเติมหม้อน้ำได้เลย เนื่องจากเค้าผสมน้ำมาแล้ว แบบที่รถออกมาจากโรงงานก็เติมแบบนี้ เต็มเลยก็ไม่กี่ร้อยบาท หรือว่าใครจะประหยัดหน่อยก็เอาน้ำกลั่นเติมเสริมก็ได้ ลองดูนะครับ

http://www.engineeringtoolbox.com/ethylene-glycol-d_146.html

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 71
       ได้เลย ช่วยกันแนะนำแหล่งซื้อเพื่อเป็นทางเลือก

แต่ที่สังเกตุตั้งแต่ใช้ยี่ห้อนี้มา เข็มความร้อนจะอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าตอนใช้ยี้ห้อ วาโวลิน (เนื่องจากถ้าดู คตที่ 65 ข้างกระป๋องจะเขียนใว้ 84F นะ)

แต่ก็ดีกว่าแบบเดิมๆ เครื่องมันจะร้อนกว่านี้เยอะมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 72
       น่าจะเป็นที่เปอร์เซ็นส่วนผสมของEthylene Glycol ครับ ดูจากตารางปริมาณEthylene Glycol จะมีผลกับจุดเดือดน้ำ Ethylene Glycolมากจุดเดือดจะสูง
http://www.engineeringtoolbox.com/ethylene-glycol-d_146.html

Boiling Points Ethylene Glycol Solutions
(% by volume) 0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100
Temperature (oF) 212 214 216 220 220 225 232 245 260 288 386
(oC) 100 101.1 102.2 104.4 104.4 107.2 111.1 118 127 142 197

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 73
       ว่ากันด้วยเรื่องการดูแล เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ AUTO (ตัวอย่างเป็นรุ่น V8)

จัดชุดอุปกรณ์ตามนี้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 74
       เริ่มต้นโดยการเปิดท้องอ่าง เอาน้ำมันเก่าออกก่อนเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 75
       ออกมา... ออกมาให้หมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 76
       จะเห็นสีของน้ำมันออกแดงๆ เกือบดำ
ทำความสะอาดบริเวณศรแดงชี้ และสังเกตุมีแม่เหล็กตรงศรสีน้ำเงินมันเป็นตำแหน่งที่ติดใว้ครับ ช่วยดักจับเศษผงเหล็กต่างๆที่หลุดออกมา แล้วไม่ทำให้กลับเข้าไปอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 77
       ทำความสะอาดบริเวณขอบตรงศรชี้ให้รอบ ขันน๊อตตรงศรน้ำเงินออก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 78
       เฝ้าติดตาม ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 79
       ขันกรองกรมออกด้วย ก็จะเห็นตำแหน่งติดตั้งกรองเกียร์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 80
       จับของใหม่ใส่ไป

ตรงรูที่จะติดตั้งกรองแบนนั้น ให้เอาปลอกแหวนที่ติดมากับกรองตอนซื้อ ใส่เข้าไปก่อนที่ตัววาร์วบอดี้ อย่าเอาไปสวมที่ปลายท่อกรองแล้วเอาไปใส่ตัววาร์วบอดี้นะ มันจะพังทำให้ซีลน้ำมันไม่ดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 81
       ทำความสะอาด เช็ดให้แห้ง เป่าลม หากมีปะเก็นก็ใช้ปะเก็นไป หากไม่มีก็ให้ใช่กาวทา แต่ต้องทำดีๆนะ ไม่งั้นน้ำมันรั่วออกมาแน่

ขันน๊อตให้แน่นทุกตัว ตรวจความเรียบร้อย เติมน้ำมันเข้าไปแค่กระติกใหญ่ก่อน หลังจากนั้นสตาร์ทเครื่อง เยียบเบร็คใว้ โยกเกียร์มาที่ 1 (ทิ้งใว้ 2-3 นาที) แล้วก็ดันไปเกียร์ 2 (ทิ้งใว้ 2-3 นาทีเช่นกัน) ทำไปให้ครบทุกเกียร์เหมือนกัน

ดึงเบร็คมือให้ตึง โยกเกียร์มาที่ N ค้างใว้ แล้วไปดึงฟูลวัด-วัดน้ำมันดูระดับ ค่อยๆเติมส่วนที่เหลือให้ได้ตามขีดที่กำหนด (วัดดูเป็นระยะๆไป)

โยกเกียร์กลับไปที่ P ดับเครื่อง เก็บเครื่องมือให้เรียบร้อยตรวจดูโดยรวมอีกรอบ แล้วก็ไปนอนหลับซะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 82
       ต่อไปว่าด้วยเรื่องแก้ปัญหาสตาร์ทติดยาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 83
       แบบว่างานช้าง แต่เรื่องมดๆ เสียเวลามากตอนถอดถังน้ำมันลงมา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 84
       ถอดออกมาแล้วโมดูลปั๊มติก

ขวดแดงที่ศรชี้ คือการทดสอบโอริงทิ้งใว้นานแล้วละ หลายเดือนอยู่ (แช่ทิ้งใว้) ก็คิดว่าน่าจะผ่านการทดสอบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 85
       ถอดปลั๊กและกิ๊บล็อคออก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 86
       จุดนี้แหละ เจ้าตัวปัญหาที่ทำให้น่าเบื่อเวลาสตาร์ท 2ที 3ที่ ก็ไม่ค่อยจะติด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 87
       ที่ศรแดงชี้ คือของเดิมที่ถอดออกมา มันเสียรูปทรงไปเลย ออกเป็นเหลี่ยมๆ บุบๆ
ศรน้ำเงินชี้คือของใหม่ที่ดองแช่น้ำมันเบนซิลใว้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 88
       ทำความสะอาด ลมเป่า แล้วใส่โอริงอันใหม่กับไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 89
       อันนี้เห็นจุกยางของเดิมมันพังแล้ว มีประโยชน์ก็คือลดการกระแทกที่ก้นถัง มันอาจทำให้ถังทะลุได้หากกระแทกบ่อยๆ

ก็เลยเดินไปหาโอริงของรถแบ็คโฮ ที่ทิ้งตามโรงรถมาอันนึง โอ๊ะ...พอดีเลย โมฯใส่ซะ

 แก้ไขเมื่อ : 21/6/2553 16:14:43

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 90
       เสร็จแล้วก็ใส่กลับเข้าดังเดิม ทดสอบ ชึ่งเดียวติด แม้...หายเซ็งซะที

แสดงความคิดเห็นย่อย