คำตอบที่ 35
กลับถึงบ้านที่ กทมแล้ว ขาไปรถติดมาก ๆ ความร้อนขึ้นเลยเกือบ 110 แต่ของพี่วัฒณ์ ความร้อนตีสุดหน้าปัดเลยครับ ทีแรกคิดว่าเกจวัดความร้อนเสีย ที่ไหนได้หม้อต้มแก็ส น้ำรั่วออกได้เลยจอดซ่อมกันเป็นที่สนุกสนาน
ส่วนรถสมาชิกที่เสียเป็นรถของคุณทด แกจะเดินทางไปสุรินทร์ พอเราไปถึงก็ไล่หาสาเหตุไปที่ละจุด ล้างปีกผีเสื้อไม่หาย ลองเปลี่ยนสายหัวเทียนก็ยังไม่หาย คอยล์มีรอยร้าวเราก็ทำมัมมี่ให้ก็ยังไม่หายอีก สุดท้ายเลยลองโทรหาช่างมานะ เล่าอาการรถให้ฟังแกบอกว่าเปลี่ยนฟลายวิน เซ็นเซอร์ ได้เลยไม่ต้องทำอย่างอื่นแล้ว แต่ว่าของที่พกมามันใช้กับ 2.5 มิได้ ก็เลยโทรสั่งทางพี่แป๋วของเราว่าช่วยหาอะไหล่ไว้ให้ด้วยเดี๋ยวเราจะเข้าไปทุบหม้อข้าวที่บ้านลุงแป๋วกัน การเดินทางจากกลางดงไปโคราช ก็ใช้เวลาพอสมควรขับตามกันไปเรื่อย ๆ ไม่มีทิ้งกันอยู่แล้ว ถึงบ้านพี่แป๋วก็ดึกเอาเรื่อง ก็เริ่มซ่อมแซมกันเลย เหล้ามา น้ำแข็งใส่แก้วก็บรรเลงเลยครับ หาอะไหล่ไม่ได้ก็ถอดอะไหล่จากรถท่านระพินไปใช้ก่อน เจ้าของรถก็ใจดีให้ถอดไปใช้ก่อนเลย ซ่อมเสร็จก็นอนหลับเป็นตายเลยครับ เช้ามาว่าจะออกกันแต่เช้าพอติดเครื่องมีเสียงประหลาด ๆ อ้าวลูกปืนลูกรอกหน้าเครื่องดังสนั่นเลย จัดการซ่อม เปลี่ยนต่อ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยเดินทางต่อได้ กลับบ้านปีนี้สนุกมาก ๆ ครับพี่น้อง