คำตอบที่ 1
       ตั้งกระทู้ พิมพ์ตัวหนังสือให้มันเยอะๆ
แต่จริงๆ แล้วมันก็แค่ O-Ring ตัวเดียวเอง

O-Ring ตัวนี้ อยู่ที่ Pump Module
ต้องยกถังน้ำมันลงมา

ที่เห็นสีขาว นั่นแหละ ชอบมากๆ ขาวๆ เนียนๆ

ขั้นตอนการถอด ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ครับ
ขออนุญาตข้ามไปแล้วกัน

ทำงานคนเดียวครับ บางรูป ก็เลยไม่ได้เก็บรูปไว้ เพราะมือเลอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ลืมรูปครับ
งานประจำเยอะ เลยไม่ได้เรียบเรียง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ออกตัวก่อน ว่าไม่ได้เรียบเรียง Wording ครับ

ถอด Pump Module ออกมา เพื่อเปลี่ยน O-Ring

เสียเวลาถอดเกือบครึ่งวัน

เพื่อเปลี่ยน O-Ring ราคา 30 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       สภาพของ ที่ผ่านการใช้งานมา 70,000 กว่ากิโลเมตร
O-Ring ขาด เหลืออยู่เท่าที่เห็น

O-Ring ตัวนี้ทำหน้าที่เหมือน Seal ในกระบอกโช๊ค หรือกระบอก Hydrualic
คือ กั้นไม่ให้น้ำมันแรงดันสูงที่ถูก Pump น้ำมันเชื้อเพลิง
ปั๊มขึ้นมา แล้วส่งออกไปที่กรองน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Pressure Regulator นอกถัง
ซึ่งปกติแล้ว ตัว Pressure Regulator ไม่ค่อยจะเสีย (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เสีย)

ค่อยๆ ติดตาม ตอนต่อไป ครับ ว่าจะพิสูจน์ ได้ยังงัย ว่า Pressure Regulator ไม่เสีย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       สุดๆๆๆๆยอด..................

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       การแกะ Pump Module
มีเขี้ยว Lock อยู่ 3 ตำแหน่ง

หาเครื่องมือที่สะดวกๆ ในการแงะๆ ออกมา
เขี้ยว Lock พลาสติคส์ ทั้ง 3 ตำแหน่ง ออกมา
ขั้นตอนนี้ ต้องระวัง อย่าให้เขี้ยวพลาสติคส์ หัก

ผมใช้ไขควงตัวเล็ก ค่อยแงะออกมา

แล้วแต่เทคนิค ของแต่ละท่านครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ตำแหน่งที่ตั้งของ O-ring ในวงกลมสีแดง
แต่ตอนนี้ ขาดหลุดหลุ่ย ไปแล้ว

ค่อยติดตามครับ
จะมีบทวิเคราะห็ ว่าทำไม O-Ring ถึงขาด
พร้อมการเลือกใช้ วัสดุที่นำมาใช้ผลิต O-Ring

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ท่อส่งน้ำมันขึ้นไปที่ ด้านบนของ Pump module

ที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่า
O-Ring ตัวนี้ ทำหน้าที่คล้าย Seal ในกระบอก Hydrualic ก็เพราะ
มันทำหน้าที่กั้น ไม่ให้ น้ำมันแรงดันสูง ที่ถูก Pump น้ำมันเชื้อเพลิง ปั๊มขึ้นมา
ไหลกลับไปที่เดิม (อะไรที่เดิมๆ ก็ไม่ดี มีปัญหาอย่างกรณีนี้แหละ)

ตรวจสอบสถาพภายในกระบอกหรือรู (แหม...ชอบจัง อะไรๆ ที่เป็นรูเนี่ย)
มีครบ ร่องรอย ของสนิม
ตำแหน่งนี้ ก็ควรทำความสะอาด เพื่อป้องกัน เศษสนิมที่จับ ฝังแน่นอยู่
อาจจะ บาด - ครูด กับผิวของ O-Ring ภายหลังการประกอบกลับ
อาจจะมีการรั่ว ไหลกลับถัง เป็นสาเหตุของแรงดันน้ำมันตก สตาร์ทยาก อีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       จับมาแปรงฟัน ขัดๆ ถูๆ ทำความสะอาดภายใน ซะนิดหนึ่ง
เพื่อความมั่นใจว่า ไม่มีเศษสนิมเล็กๆ ตกค้างอยู่

ผมเลือกใช้ของ OTOP แปรงสีฟันใช้แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       O-Ring ครับ

ผมเทียบเอา

วงละ 5 บาท ก็มีขาย ตามร้านขายอะหลั่ยรถ ทั่วๆไป
แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิต ไม่เหมาะกับน้ำมัน เพราะมันคือ NBR

NBR ใช้เป็น O-Ring หรือ Seal ในระบบ นิวเมติคส์ หรือระบบลม
ที่มีน้ำมันหล่อลื่นบ้างเล็กน้อย (แต่ไม่แนะนำ เห็นอากู๋เค้าบอกมา)

/////

O-Ring เดิมๆ ของ Jeep ใช้ BUNA-N

ชุด O-Ring ที่ใช้ซ่อม Pump MOdule ของ WJ ที่เห็นๆ รู้ๆ กัน

บางท่านจะใช้ O-Ring ตัวเล็กๆ ในชุดซ่อม Pressure Regulator ของ XJ
ซื้อมาทั้งชุด มี 2 ตัว

ผมงบน้อย และไม่อยากเสียเวลารื้อถังลงเปลี่ยน O-Ring บ่อยๆ
จะใช้ NBR ตัวละ 5 บาท ก็เกรงว่าจะต้องมาเสียเวลา
รื้อถังลงมาเปลี่ยน O-Ring ภายในเวลาไม่กี่ปี ข้างหน้า
ยิ่งไม่ค่อยจะขยันๆ เหมือนท่านอื่นด้วย

นั่งศึกษา และปรึกษาจากผู้รู้ อากู๋ Google
ก็พบว่าวัสดุที่ทนน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง
ที่เหมาะสมคือ Viton

ขนาดเดิมๆ คือ 3/8" X 3/32"

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       เสร็จเรื่อง O-Ring ไปเรื่องหนึ่ง

ประกอบแล้ว นั่งพักเหนื่อยรอประกอบกลับ

////

นึกถึงผู้รู้ ท่านกล่าวไว้

" ข้ามแม่น้ำสะโตงไปแล้ว ไม่กินกุ้งเผา ก็แสดงว่ายังไม่ถึงย่างกุ้ง"



แก Pump Module มาศึกษา ดูหน้าค่าตา กันซะหน่อย
เพื่อว่าจะได้คุ้นเคยกัน

ก่อนถอด ขั้นตอนต่อไป
ถอดลูกลอย ออก่อน มันแกะกะ เดี๋ยวขามันจะพาลคด
หน้าสัมผัสของ ความต้านทานบอกระดับน้ำมันในถัง กับขาลูกลอย
จะเบี้ยวๆไป อาจจะเสียเงินมากกว่าที่เป็นอยู่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ไม่ได้เก็บรูปขั้นตอนการแกะ
มือมันเลอะน้ำมัน

อีกประการ
กล้องถ่ายรูป ขณะใช้งาน มันมีประกายไฟ
(ปุ่มกดชัตเตอร์)
เพื่อความปลอดภัย เพราะลูก อยู่ใกล้ๆ นั่งให้กำลังใจ (หรือว่าป่วน)
ถังน้ำมันก็ เปิดฝา อยู่ใกล้ๆ ไม่ถ่ายดีกว่า


แกะออกมา หน้าตาตัวปั๊มติ๊ก ก็เป็นอย่างที่เห็น
มีกรอง 2 ตัว

อีกตัวอยู่นอก Pump Module ไม่ได้แสดงในรูป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       หน้าตา ปั๊มติ๊ก หรือ Electric Fuel Pump

ใกล้ๆ พร้อม Part Number ของ Bosch

กล้องผม Macro ได้แค่นี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ลักษณะของปลั๊ก Connector สายไฟ

เผื่อใครจะไปเทียบๆ หาตามเซียงกง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       วางคู่กันกับของ DENSO ใน TOYOTA ทั่วๆไป

ซ้ายมือ คือ DENSO

ขวามือ คือ BOSCH ใน WJ V8

หน้าตา ไม่ผิดฝา ผิดตัว กันเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       เฝ้าจับตามอง ...มิให้คลาดสายตา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       สามหนุ่ม สามมุม

จากบน ลง ล่าง

DENSO ใน TOYOTA
BOSCH ใน XJ เหลี่ยม ปี 95-97
BOSCH ใน WJ V8 ปี 1999-2000

ใช้แทนกันได้หมด
ทั้งอัตราการไหล
และแรงดัน
(อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นครับ มันต้องพิสูจน์)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       แต่ปั๊มติ๊ก ของเดิม ไม่ได้เป็นอะไร (พิสูจน์แล้ว)

ก็เลยประกอบกลับ
แกะมาเพื่อดูหน้าค่าตา ทำความคุ้นเคยกันไว้ก่อน
เผื่อว่าน้อยใจ วันไหน หนีกลับ อเมริกา ก็จะได้หา สาวญี่ปุ่น มากอดแก้ขัด


เจอรูป ตอนถอดกรอง ก่อนเข้าปั๊มติ๊ก (ตัวที่อยู่ใน Module)

สาธิตการใช้เครื่องมือแงะๆ แซะๆ กรอง ออกจากยางประกบด้านล่างปั๊มติ๊ก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       แงะๆ แซะๆ ออกมา อย่าให้กรองขาด
เดี๋ยวงานเข้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       แหวนกลม Lock ด้านล่าง เพื่อยึดยางดำๆ ที่งัดๆ แงะๆ แซะๆ ด้านบน

ตอนถอดออกมาจะเสียรูป และสวมไม่แน่น
ต้องมีการแก้ไขให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ก่อนประกอบกลับ
ต้องทำการแก้ไข แหวน Lock ให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ

ใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่
แต่ก็ใช้ได้
ในรูป ผมใช้ ต้ามต่อ ไขควง ในกล่องเครื่องมือ ที่ JUC นิยมใช้กัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       สวมยางรองด้านล่างของปั๊มติ๊ก เข้าที่เดิม
ตรวจสอบว่าเข้าที่เข้าทาง โดยการดูว่าแนบสนิท กับตัวปั๊มหรือยัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เมื่อแน่ใจว่ายางรองด้านล่างของปั๊มติ๊ก แนบสนิท เข้าที่เข้าทางดีแล้ว
ก็สวมแหวน Lock แล้วอัดแหวนให้ Lock แน่น

ผมใช้ Block # 4 ในกล่องเครื่องมือประจำรถ
ในการตี ส่ง แหวน Lock ให้สวมแน่นพอดีกับปั๊มติ๊ก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       หลังจากพิจารณา รูปโฉม โนมเนื้อเสร็จแล้ว
ก็ได้เวลาประกอบกลับ

สิ่งที่ต้องระวังคือ

ท่อส่งน้ำมัน หรือ Discharge tube ของปั๊มติ๊ก
จะต้องสวมลงพอดีกับท่อพลาสติคสีขาว ซึ่งด้านบน เป็นตำแหน่งที่เราจะเปลี่ยน O-Ring
ในงานนี้


นั่งเล็ง แยงๆสายตามเข้าไป ตรวจสอบ
ก็ปรากฏว่า สวมกันในตำแหน่งเดิมๆ กับตอนถอด
แสดงว่าถูกต้อง ตรงตำแหน่ง เนื่องจาก ตำแหน่งนี้
สามารถหมุนได้รอบตัว 360 องศา

จึงต้องมรการตรวจสอบกันก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ไม่ต้องสาธยาย กันมาก เพราะไม่ได้ขับมาหลายแล้ว

ทั้งนี้ เพราะตามหา O-Ring ตาม SPect ที่อากู๋ Google บอกมา

(ข้อแนะนำการเลือกใช้ O-Ring สำหรับ น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้ง Gasoline เบ็นซินธรรมดา และ Gasohal หรือฝรั่งมังค่า เค้าเรียก Ethanol Blend ตาม API RP 1626)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       สาเหตุการชำรุด สึกหรอ ของ O-Ring เอาไว้ค่อยว่ากัน นั่นมันวิชาการ
ผมมันผู้ชอบใช้แรงงาน

ประกอบ Pump Module เข้ากับถังก่อน

แต่ยังไม่ยกขึ้นที่เดิม
เกิดผิดพลาดอะไรมา ไม่อยากจะเสียแรงถอด แล้วต้องยกลงมาอีกรอบ

วางไว้ไกล้ๆ คานหลัง พอที่จะต่อสายไฟ เข้ากับ Connector ของรถ ก็เพียงพอที่จะทดสอบ ตรวจสอบ
(เดี๋ยวจะหาว่า ศิษย์ไม่มีครู )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       ลืมรูปครับ
ข้าวยังไม่ได้กิน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ต่อเกจน์วัดความดัน

เกจน์ที่ใช้ ก็ตัวเดียวกับที่ใช้วัดแรงดันน้ำยาแอร์
หาเอาง่ายๆ

เพราะเรา ไม่มี DRB-III ไว้วิเคราะห์ปัญหา

เรามีแต่ DIY
แต่ใช้ได้ เหมือนๆ กัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
      
สุดยอดครับ..............ทั้งรายละเอียดที่แน่น รูปภาพที่ชัดเจน

นับถือครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       วัดแล้ว ได้ความดัน 85 PSI
แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้

ขั้นตอนนี้ สำคัญมาก หากวัดความดันได้ ป้วนเปี้ยนๆ แถว 50 PSI ก็ไม่ต้องยกถังขึ้นประกอบ
ต้องทำการเปลี่ยนปั๊มติ๊ก ก่อน

ตามภาพ ทำการวัดแรงดันก่อนเข้า Pressure Regulaotr เพื่อพิสูจน์ว่า

ปั๊มติ๊กแรงดันตก หรือ
Pressure Regulator ลากลับบ้าน ที่อมเริกา

ในขั้นตอนนี้ ได้ 85 PSI ก็ถือว่าปั๊มติ๊ก ยังใช้งานได้ตามปกติ

ข้ามขั้นตอนไป ต่อ Pressure Regulaotr เข้ากับท่อที่มาจาก Pump Module ตามภาพ

แล้วใช้เกจน์วัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงอีกที
(แต่ทั้งนี้ ต้องทำการระบายแรงดันน้ำมันที่ตกค้าง ระหว่างการทดสอบแรงดันของปั๊มติ๊กออกให้หมดก่อน ต้องทำด้วยความระมัดระวังครับ เผลอๆ อาจมีกระเด็นเข้าตา)

แสดงความคิดเห็นย่อย