คำตอบที่ 1300
เช็คโค๊ด ก็ เปิด-ปิด สวิทย์กุญแจในตำแหน่ง off กับตำแหน่ง run หรือพร้อมสตาร์ท (ก่อนสตาร์หนึ่งตำแหน่ง) ติดต่อกัน 5 ครั้ง (โฉมเหลี่ยม) และ 3 ครั้ง (โฉมมล)check engine จะติดแล้วดับสักพักแล้วก็เริ่มติดใหม่เป็นจังหวะ คือ 1 ครั้ง และ 2 ครั้ง (12 คือ การสตาร์ท 50 ครั้งหลังสุด ซึ่ง 12 จะเป็นการเริ่ม check cood ) หลังจากนั้นก็จะเป็น code ที่มีการผิดพลาด จนหมดแล้วจะขึ้น 55 คือติดดับต่อกัน 5 ครั้งสองรอบ สำหรับ code ของ o2 คือ 21 คือ อาการหนา หรือบางกว่าปกติ จะขึ้นแทรกระหว่าง 12 กับ 55 ( 12 21 55)
ส่วนการจะตรวจสอบดูว่า o2 ของท่านเสียหรือไม่นั้น จะทำไม่ได้โดยตรงครับ เพราะไม่มีเครื่องมือมาตรวจจับมัน มิตเตอร์ธรรมดาไม่สามารถวัดได้ครับ แต่ผมมีทริ๊กไว้ให้เพื่อเป็นตัวบงชี้ได้ว่าการทำงานมันยังถูกต้องอยู่หรือไม่ คือ check code ก่อน ถ้าเจอหรือไม่เจอ 21 แล้วลองถอดขั้วแบตเพื่อ reset ECU แล้วต่อขั้วแบตกลับเข้าไปใหม่แต่ก่อนต่อนั้น ลองมุดใต้รถเข้าไปด้านหลังล้อหน้าซ้าย ไล่จากจุดรวมท่อไอเสียจะเจอ o2 sensor ให้ลองถอดปลั๊กออก(คือปลด o2 sensor ออกจากระบบ) แล้วสตาร์ทและขับออกไปสักระยะหนึ่ง แล้ว check code อีกครั้ง แต่ต้องสังเกตุการเดินของเครื่องยนต์ดูว่าเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับตอนแรก
ผลคือเมื่อ check code แล้วจะต้องเจอ code 21 เพราะเนื้องจากเราปลด O2 ออกจากระบบ และถ้าไม่มีความแตกต่างของสภาวะการเดินของเครื่องยนต์ มีความน่าจะเป็นสูงที่ O2 sensor เสีย แต่ถ้าก่อนที่จะปลด O2 sensor ออกเครื่องยนต์เดินนิ่งเรียบ แต่เมื่อปลดออกแล้วเครื่องยนต์เดินไม่เรียบนั้น อาจสรุปได้ว่า O2 sensor ไม่มีปัญหาก็ได้ ให้ไปตรวจสอบระบบปริมาณของอากาสเข้าว่าเพียงพอหรือไม่ ครับ
ลองดูนะครับครูเล็ก หรือว่าช่วงเย็น ๆ วันไหนเจอกันก็ได้ครับ