คำตอบที่ 1
       ในอดีตน้ำมันเกียร์สีดำ หรือน้ำตาลใหม้ รึเปล่าครับ

เกียร์อาจจะอยากกลับบ้านเก่าแล้วครับ

แนะนำว่าสำหรับ Jeep ถ้าจะเอาชัวร์ ๆ ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 10000 ก.ม. ไปเลยครับ....อย่าประหยัดตังค์เปลี่ยนทุก 20000 ก.ม.เลย ยิ่งรถใช้ใน กทม. เจอรถติดทั้งวัน เครื่องยนต์+เกียร์ ร้อนมาก ๆ เกียร์อายุสั้นกว่าปกติครับ .....โดยเฉพาะ ZJ เกียร์มือสองแพงมาก ถนอม ๆ กันหน่อยครับ

ถ้ารถที่วิ่งแค่ไปเช้า - เย็นกลับ หรืออยู่ ตจว. ไม่เข้าข่ายครับ

อย่าคิดว่าเกียร์ Jeep ทนเหมือนแรด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ถามคุณอิ๊ดเพิ่มเติมครับ...จะเป็นเฉพาะเครื่องเย็นใช่หรือเปล่า...พอเครื่องร้อนแล้วจะเปลี่ยนตามปกติ...ประมาณ2-3พันรอบจะเปลี่ยนเกียร์หรือขึ้นอยู่กับวิถีการขับครับ รอผู้รอบรู้ตอบให้กระจ่างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ของผมเคยเป็น......เป็นอยู่ได้ประมาณ1ปีแล้วก็พัง.....คลัดหมด(ใหม้ดำไปหมดเลย น้ำมันมีกลิ่นเหม็นใหม้)ตอนนี้เปลี่ยนเกียร์ไปแล้วสบายเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       พี่เสือ..รบกวนเล่ารายละเอียดอีกหน่อยครับ..อาการ/สังเกตุ/วิธีซ่อม/ราคา..เอ้....ถามเยอะจัง ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ลองตั้งสายคิกดาวน์ดูหรือยังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       อาการคือว่าเวลาตอนเช้าเครื่องเย็นพอออกตัวมาจากเกียร์1จะเปลี่ยนไปเกี่ยร์2มันเปลี่ยนยากมากตองกดคันเร่งให้ได้ความเร็วประมาณ40Km/h(ถ้าเกียร์ปกติความเร็ว25-30มันก็จะเปลี่ยนให้แล้วมัน)จึงจะเปลี่ยนแต่พอเครื่องร้อนแล้วก็ไม่มีปัญหา แล้วอีกอย่างนึงก็คือเวลาออกตัวเครื่องมันจะเป็นเหมือนเกียร์ว่างซักประมาณ1วินาที ประมาณว่าอาการคลัสเลื่อนนะ เครื่องจะอื้ออยู่นิดนึงแล้วก็กระตุกออกตัวไป

อาการตอนที่มันเสียจนพังก็คือ วิ่งไปกดคันเร่งเท่าไหร่มันก็ไม่วิ่งแล้วดูน้ำมันเกียร์ปรากฏว่าร้อนจัดและเหม็นใหม้

ตอนซ่อมจัดการโทรหาช่างKปรึกษาว่ามันเป็นยังไงต้องทำยังไง(อยู่ต่างจังหวัด)และจากการวิเคราห์ว่าน่าจะคลัดหมดจัดการเช็คอะไหล คลัดของใหม่ 19000 แต่ถ้าหาเกียร์มือสอง13000ได้ทั้งเกียร์ด้วย ก็เลยยกเกียร์มือสองมาดีกว่า13000

จัดการถอดเกียร์ด้วยตังเองทั้งๆที่ไม่เคย
ถอดเพลาขับ หน้า-หลัง
ถอดท่อไอเสีย
ถอดเกียร์ทรานเฟอร์
ถอดเกียร์หลัก
ถอดคลัด(ฝักทอง)
แล้วเอาของใหม่(มือสองใส่กลับ) ลองเทส200กิโลผ่าน

หมดค่าเกียร์ไป 13000
ค่าน้ำมันเกียร์ใหม่ 650
ค่ามแรงไม่ต้องเพราะทำเอง
ผมใช้เวลาถอดเกียร์ 3วัน จึงเอาลงมาได้ 3วันนี้โทรหาช่างKตลอดเลยปรึกษาว่ามันติดอะไรตรงใหนบ้าง เพราะผมไม่รู้ว่าน๊อตมันแอบอยู่ตรงใหนบ้างถอดคิดว่าหมดแล้วแต่ดึกอยู่ครึ่งวันมันก็ไม่ออกเลยโทรหาช่างKจนได้พบว่ามันมีน๊อตอยู่อีกจึงได้เอาเกียร์ลงมาจนได้ สรุปว่า4วันเต็มๆแต่ก็ได้ความรู้ขึ้นมาอีกหน่อย
ต้องขอขอบคุณช่างKอีกครั้งครับที่ให้คำปรึกษาตลอง ขอบคุณครับ

ตอนนี้ผมก็มีเกียร์นอนอยู่ที่บ้านอีกลูกนึงเป็นอะใหล่ ใครอยากเปลี่ยนเกียร์เองก็ลองดูนะครับสนุกอย่าบอกใครเชียว ลุงตุ้งลองดูใหม๊คราบบบบบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       สุดยอดครับ.. เพื่อเก็บเป็นความรู้
4วันๆๆๆๆๆคงไม่ไหว...เพียงแต่ทุกวันเสาร์จะต้องดูแลรถ..
ผบ.ก็งอแง(ไม่อยู่บ้าน)
(ผมงงเหมือนกันครับ ทำไมเราใช้จิ๊บทั้งๆที่ดีและทนทาน..ใช้งานได้ปกติ..ยังต้องหาเรื่อง..เพิ่มเติมเป็นพิเศษ..โดยที่ยี่ห้อคันอื่นๆไม่เสีย/ไม่พัง/ไม่ซ่อม อิๆๆ)
ขอขอบคุณอย่างสูงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       จอง แก่นเกียร์ สำหรับเพลาหลัง
ติเอาไปทำเพลาแปดทิศ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
      
รถผม เกียร์ก็เปลี่ยนช้า-ลากรอบ คล้ายๆขับอยู่ในโหมด Sport
สรุปว่า เซนเซอร์ TPS เสีย - ลองดูจุดนี้ด้วยนะครับ (อยู่ที่ปากผีเสื้อ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อาการเดียวกันนี้

ของผม O2 เสีย
เกียร์เปลี่ยนช้า 2 ไปหา 3 รอบกระตุกขึ้น

O2 เสีย บางครั้งไม่ขึ้น Check Engine ครับ

ตรวจ O2 รึยังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ของผมก็เคยเป็นครับ(ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า)ผมให้เค้าจูนแก๊สใหม่ครับมันแปลกครับวิ่งดีขึ้นเกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       มันไม่แปลกครับ
อาหารไม่พอ เกียร์จะเปลี่ยนช้า ลากรอบยาวมาก
พอจูนให้อาหารพเพียงพอ เครื่องยนต์มีกำลัง
เกียร์ก็เปลี่ยนเป็นปกติ

แสดงความคิดเห็นย่อย