คำตอบที่ 1164
ยึดหลักการนี้ง่ายสุดครับ.................
กินอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันแบบคนธรรมดา และอาหารเย็นแบบยาจก
เห็นความสำคัญของอาหารเช้าอย่างนี้แล้ว ได้เวลาหรือยังครับที่จะเลิกมองอาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่ไร้ความสำคัญ และปรับเปลี่ยนอุปนิสัยการกินจากเดิมที่ผิด ๆ ให้กลายเป็นแบบ กินอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันแบบคนธรรมดา และอาหารเย็นแบบยาจก
เริ่มจากตอนเย็นออกกำลังกายแบบแอโรบิคสัก 30 นาที รับประทานอาหารเย็นแต่พออิ่ม งดอาหารมื้อย่อย ๆ หลังจากนี้ ตกกลางคืนก็ทำงานเบา ๆ พยายามผ่อนคลายจิตใจ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด เช่น ดูหนังฆาตกรมมสยองขวัญ เหล่านี้จะช่วยห้เรานอนเร็วขึ้นและหลับสนิทได้นาน ตื่นเช้ากว่าเดิมสักนิด อาบน้ำแปรงฟันให้ลมหายใจสดชื่นแล้วมานั่งรับประทานอาหารเช้า เติมพลังงานหยอดน้ำมันให้ฟันเฟือนเล็ก ๆ ในร่างกายสักนิดก่อนออกไปเผชิญวันใหม่
ที่สำคัญต้องกินอาหารอย่างมีความสุขด้วย ดังนั้นระหว่างรับประทานอาหารควรอยู่ภายใต้บรรยากาศที่สงบ ไม่ควรพูดเรื่องเครียด ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเมือง ศาสนา ความเชื่อ หลีกเลี่ยงการดูข่าวที่ไม่ดีระหว่างกินอาหาร ไม่ควรพูดนินทาชาวบ้าน สนทนากันแต่เรื่องที่มีความสุข ขำขัน ท่องเที่ยว หรือจะฟังเพลงเพราะเคล้าคลอไปด้วยก็ไม่ว่ากัน
เวลาเคี้ยวอาหารก็ให้กินช้า ๆ เคี้ยวอย่างละเอียด กินนานมื้อละ 15 นาที จะทำให้เราได้ปริมาณอาหารน้อยลง ไม่มากจนเกินไป และเป็นการรอให้รสชาติและกลิ่นของอาหารค่อย ๆ ซึมซาบไปยังโสตสัมผัสจนเกิดเป็นความสุข ฮอร์โมนการย่อยอาหารได้ออกฤทธิ์เต็มที่
ทุกวันนี้มนุษย์ต่างรีบเร่งแข่งกับเวลา-คู่ต่อสู้ที่ไม่มีวันชนะ-จนลืมแม้กระทั่งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญ นั่นก็คือสุขภาพของตัวเอง
ให้เวลาแก่อาหารเช้าเพิ่มขึ้นสักนิด มอง 15 นาทีที่เรายกให้ทุกเช้าไม่ใช่การเสียเวลาแต่เป็นเสมือนรางวัลให้ตัวเองและทำให้มันเป็น 15 นาทีแห่งความสุข (คิดเล่น ๆ หากทุก 15 นาทีที่เรารับประทานอาหารเป็นเวลาดี ๆ แล้ว เราก็จะมีเวลาที่น่าประทับใจตุนไว้แล้วอย่างน้อย ๆ เกือบ ๆ 1 ชั่วโมงต่อวัน)
รู้จักหาความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ใกล้ตัว...แล้ววันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีสำหรับคุณ
ขอให้ทุกคนมีวันใหม่ที่สดใสครับ
Tags: breakfast, eat, exercise, food, happy, health