คำตอบที่ 46
.............น้องเณรของพี่หลวง จั้วหัว....หน้าแรกได้เยี่ยมมาก เราไม่มีบนมีล่าง มีนู้นี้นั้นแล้วต่อไปนี้
...............เรามีแต่ JEEP UNITY CLUB ภาคใต้..... เป็นหนึ่งเดียว
ผมถึงสุไหงโกลกแล้วครับ ยังหายใจไม่เต็มปอดเลย แต่ก็อยากออกมาขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน พี่ไก่ กระโสม , เพื่อนนักร้องเอ้ยนักเรียน ขอโทษติดปากทุกที , คุณศักดิ์ สามก้าน และทีมงานฝังอันดามันทุกท่านรวมถึงบรรดา ผบทบ (ผู้บัญชาการที่บ้าน...ครับ) ประทับใจมากๆ
ไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ไปกันแบบไร้จุดหมาย แต่สิ่งที่ไปพบมา เกินความคาดหมาย กับระยะทางแค่ 10 กว่ากิโล ใช้เวลาเดินทางไป 7 ชั่วโมง เดินทางกลับอีก 7 ชั่วโมง พี่ไก่ทำให้เราได้รู้ว่า ป่าหลังฝนเป็นยังไง เพราะเราเป็นทีมแรกที่ขึ้นไปหลังฝนตก พี่ไก่ทำให้เรารู้สึกรัก JEEP ขึ้นอีกมากมายมหาศาล เราได้เรียนรู้ว่า JEEP ยังมีสมรรถณอีกหลายๆอย่างที่เราไม่รู้ นอกจากที่เราแต่งหล่อไว้ขับในเมือง ได้รู้ว่า...ที่คุณคิดว่าแน่แล้ว มันต้องเจอของจริง ถึงจะพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า กูซิแน่.... ทริบนี้เราเจอมาเกือบทุกรสชาด
17 ตค 52 เดินทางไป อ.กะทูน พักกางเต้นน้ำตกเหนือฟ้า ได้บรรยากาศแบบสบายๆ เพราะน้องเณรดูแลเป็นอย่างดี เส้นทางสบายสะบายตามสไตล์ทีมเรา
18 ตค 52 เดินทางกลับ ทุกคนยังมีอารมณ์ค้างกับการเที่ยว ไม่ถึงใจของเพื่อนสมาชิก พลังยังเหลือเฟือ ตกลงกันว่า 23 - 25 เจอกันใหม่ แต่ยังไม่กำหนด แต่คิดว่าน่าจะเป็นฝั่งอันดามัน เพราะคำชวนของ..พี่ไก่ กระโสม
เช้า 23 ตค 52 รวมตัวกันใหม่ พวกไฟแรง (อาด) มีชำนาญ ผ้าม่าน , บ่าววี , พี่เบิ้ม , สหัส ออกจากหาดใหญ่
พบกับ ซาไก นราฯ ร้าน ข้าวแกงข้างทาง ตรงข้ามทางหลวง (ใครผ่านต้องแวะกินให้ได้ขอบอก..แต่สงสัยไม่ทันนายแบงค์แล้ว.. 555) กินข้าวเสร็จยังไม่รู้กันเลยว่าจะไปใหน หนุกจริงทริบนี้ แถมสหัสยังพาน้องกายมาด้วย (นึกว่าหนุกเหมือนครั้งก่อน
)
- จอดครั้งแรกของการเดินทาง แวะกินกาแฟ ร้านซาไก ท่าเขาตก จัดบ้านเป็นบ้านกาแฟน่านั่งมาก พร้อมกับเมฆฝนตั้งเค้า เจ้าบ้าน แม่บ้าน น้องสาว ต้อนรับอย่างอบอุ่น และ อิ่มเอม เพราะมีหมูย่างเมืองตรังมาให้กิน ....กินกาแฟกับเพื่อนที่รู้ใจ กินเท่าไหร่ก็ไม่ง่วงนอน
ชอบห้องน้ำบ้านท่านซาไก ท่าเขาตกมาก ยังรักษาวัฒนธรรมคนหลังเขาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม แต่เสียดายไม่ได้เดินทางไปด้วย เพราะล่ามรถ เหมือนล่ามวัว ให้กินหญ้า ไว้ใต้โคนขามข้างบ้าน ( ชาดหน้าเห็นดู JEEP 2.5 จริงๆ วันๆ ไม่รู้มันให้น้ำกินมั้งม้าย ) พอฝนเริ่มแล้ง พร้อมกับหมูย่างหมดจานเราก็เดินทางต่อ ว่าจะขอหมูย่างคดหอก็เกรงใจ ทีหลัง ซาไก - ท่าเขาตกถามมั้งน๊ะว่าเอาใสรถม้าย เราจะได้ตอบว่า...เอา... ออกเดินทางตอเราก็ยังไม่รู้กันเลยว่าจะไปใหนกัน คุย ว. หนุกกันไปตลอดทาง
- ผ่านตลาดนาโยง คิดถึงเพือนร่วมอุดมการณ์ (จริงๆแล้วเราลืมข้าวสารขอบอก
) รู้ว่านาโยงเปิดกิจการร้านขายข้าวสาร แทนที่จะแวะอุดหนุนร้านใหม่ กลายเป็นเลยแวะจิ๊กข้าวสารเสีย 5 กิโล (..ความจริงน่าจะเอาเป็นกระสอบ ไปฝากพี่ๆบนเขาชาลี..) นาโยงชวนกินข้าว เราเล่นตัวบอกซอรี่ไม่หิว เกรงใจ ความจริงอิ่มหมูย่างอยู่เหลย คุยกับนาโยงพักหนึ่งก็เดินทางต่อ นาโยงบอกว่า...บางทีเย็นๆจะตามไป... พูดจบเราก็ได้คำตอบเลยว่า ไม่ไปแน่ อิ..อิ.. คบกันมานานจนรู้ใจ พวกเราก็ยังไม่รู้กันเลยว่าจะไปใหนกัน คุย ว. หนุกกันไปตลอดทางเหมีอนเดิม
.........ผ่านเมืองตรังสู่จังหวัดกระบี่........เริ่มคิดได้ว่าไกลบ้านมามากแล้ว ถ้ายังหาที่นอนไม่ได้ หนุกแน่ๆ แต่ก็ยังหนุกกันเหมือนเดิม เราคิดถึงอ้ายมดเขียว V 8 ลุงแช็ค ทริบนี้เราไม่ครบทีมหัวเยื้อ ได้ข่าวว่า ไปเจรจาธุรกิจสำคัญ ประมาณ พันแปดร้อยล้าน เราเลยให้อำภัยกัน
- เลยเที่ยงไปมาก เริ่มหิวกันทุกคัน โดยเฉพาะคันของสหัส น้องกายบอกแต่ว่า เซเว่น ๆ เฮ้อ....ลูกหนอลูกเกิดมาเป็นลูกพ่อหัส สมัยพ่อดูดแต่ในลูกม่วง พี่เบิ้มบอกแวะแมคโคร กระบี่ มีอาหารกิน ทุกคันพร้อมใจกันเข้าแมคโคร ปรากฎว่า เดินเข้าไปหาฟาสฟู้ดม้ายไหรเลย ยังแต่สบู่กับแปรงสีฟัน ม้ายมีข้าว พนักงานบอกว่า ...ฟาสฟูด... อยู่ข้าง...ฟูดดดดดบาด... เลยต้องเดินออกมากินข้าวแกงข้าง ที่ฟูดดดดบาดข้างทาง เลยได้ความรู้ใหม่ว่า เวลาหิวกินอะไรก็...อาหย่อย
กินอิ่มก็ยังไม่รู้กันเลยว่าจะไปใหนกัน คุย ว. หนุก หนานกันไปตลอดทางเหมือนเดิม เป็นคนไร้อนาคตจริงๆเลยงานนี้
- บ่ายๆ กินอิ่ม เริ่มคิดถึงที่นอน ทีมพังงาโทรเข้ามา นำเสนอพื้นที่กางเต้น 2 แห่ง อุทยานแห่งชาติศรีพังงา กับน้ำตกทางขึ้นทุ่งหราแลน คุยกันไปคุยกันมา ก็ตกลงว่าไปนอนอุทยานแห่งชาติศรีพังงา เพราะตอนเช้าจะขึ้นไปเขาชาลี ทั้งๆที่เรายังไม่รู้เลยว่าเขาชาลีมันเป็นพันปรือ ได้ฟังแต่เขาว่ามา เอาว่ะ... เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน... เหมือนที่คนรวยหัวล้านบางคนบอก เราผมเต็มเหม็ด แต่ม้ายเบี้ย ไม่ต้องกลัว
- เย็นๆถึงพังงา เข้าทางเขาหัวช้าง เพื่อนนักร้อง เอ้ย เพื่อนนักเรียน พร้อมแม่บ้าน คุณศักดิ์ สามก้าน พร้อมแม่บ้านมารอรับที่สวนสาธารณะพังงา ทักทายจูบปากกันแบบหอมปากหอมคอ ก็เดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติศรีพังงา รวมเป็น 6 คันขึ้นมาแล้ว (...ทีมพังงาถามถึงแต่บังแมวจนน่าอิจฉา...) พี่ไก่ กระโสม โทรมาบอกกะลังจะออกตามไปสมทบด้วย ยังตบท้ายถามว่า บังแมวมาม้าย...พี่แกแรงจริงๆ... ฟ้าเริ่มมัวๆ แลม้ายค่ายชัด QRK แสง ประมาณ 2-3 มีแวบๆเล็กน้อย สงสัยพระอาทิตย์ไม่ได้ชาร์ตแบต หรือว่า คนละดวงกับบ้านเรา G P S ( ก พ ศ = กู พา เศร้า ) ของแต่ละคน ให้ผลงานที่แตกต่างเหมือนอยู่คนละโลกทั้งๆที่ขับรถตามหลังกัน ของสหัส ไม่มีใครเชื่อถือเลย เพราะผลงานพาเจ้าของหลง มีมาแล้ว ของบ่าววี ถึงกอนเพื่อนทั้งๆที่ยังไกลอีกหลายโล ไม่อยากบอกว่า ม้ายเกีย (Nokia)ของซาไก ตรงเผงเลย เพื่อนนักเรียน พาไปเติมแก๊ส LPG ที่แพงที่สุด ที่เราเคยพบ เราไม่กล้าเติมกลัวแพง ได้แต่เล็งๆ รอให้มันจนมุมค่อยว่ากัน พี่ไก่ตามมาสมทบกันที่ปั้มแก๊สได้เวลาพอดี แถมยังรู้ทันว่าเราไม่กล้าเติมแก็สเพราะราคาแพง ช่างรู้ใจจริงพี่ไก่
- ก็ถึงอุทยานแห่งชาติศรีพังงาเวลามุ้งมิ้ง เข้าใต้เข้าไฟพอดี ลานกางเต้นตัดหญ้าไว้เรียบเหมือนสั่งไว้ต้อนรับล่วงหน้าเลย กว้างประมาณ 5 สนามบอล ติดลำธาร มีสมาชิก อีซูซุ มากางเต้นรออยู่ก่อนหนึ่งคัน กางเต้นกันหนุกหนาน ขอชมว่าสถานที่สะอาดมาก ห้องน้ำที่ขี้ขาวจั๊วะ จนท.มาเก็บตางค์ พี่เบิ้มว่า ...ตอช้าวด้ายม้าย.. จนท..บอกว่า...ด้ายๆๆ... ( รุ่งช้าวไม่รู้ใครเสีย อิอิ ช่างจริงพี่เบิ้มเรา ..พี่บึ้ม ของเจ้าแก้ว ที่หลังเขียนให้มันโถกมั้งน๊ะเจ้าแก้ว เบิ้ม ม้ายช่าย บึ้ม อ้าย..บึ้ม.มันที่นราน้องเหอ ) ทำกับข้าวกินกันหรอย โดยเฉพาะ ...ข้าวผัดเคยซาไก...ขายดีมาก เคยฉาบหมดปุก
- พอมืดลง ค้างคาว เอ้ย น้องเณร Srt 19 ก็ตามมาพร้อมด้วยศรีภรรยา ที่ข่าวว่า อ้วก มาตลอดทาง เณรขับรถไม่เก่ง หรือว่าเจตนา เคลียกัน เอารถเก๋งมา กลัวทำใจไม่ได้ที่ เขาจะไปเขาชาลีกัน ค่ำคืนก็ตามสไตล์รอบกองไฟนีออนแก๊ส กินกาแฟ เล่าความ ถามประสพการณ์ ประจานคนชั่ว นัวเนียกัน แล้วก็หลับไปเพราะความเหนื่อยล้า... รุ่งเช้าจะเข้าไปเขาชาลีแชบปลิ้น หรือเขาชาลาล่า ......ยังอิหนุกเหลย ช่างไม่รู้ที่ตายเอาเสียเลย เจ้าเด็กน้อย ได้ยินเสียงทีมพังงาแว่วๆมา....
ใครจะเติมตรงใหนก็เติมกันเอาเอง หวันเย็นค่อยมาตอ