จาก pree IP:27.254.15.4
อังคารที่ , 30/7/2556
เวลา : 11:45
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ระบบแอร์ อัตโนมัติ ในรถ ตระกูล toyota camry ตั้งแต่ ปี 2,000 ขึ้นมา เป็นระบบแอร์ อัตโนมัติ คอมเพรสเซอร์ แอร์ไม่มีการหยุดการทำงาน มีการทำงาน ตลอดเวลา ความเย็นที่ได้รับ ดีกว่า แอร์ บ้านซะอีก แอร์ บ้าน เดี่ยวจับเดี่ยวปล่อย พอคอมจับ ก็เย็น ขึ้น พอแอร์ ปล่อย ก็เริ่ม ร้อน อีก
แบบนี้ ถ้าใคร ไม่ค่อยชินแอร์ อาจไข้ขึ้นได้
หลักการควบคุมความเย็น ทำโดย เอาน้ำร้อน เข้าไป ควบคุม อุณภูมิ
ข้อดีของแอร์ แบบนี้ อุณหภูมิ เย็นสม่ำเสมอ รักษาอุณหภูมิได้คงที่ตลอด ไม่ต้องเดี่ยวร้อน เดี่ยวเย็น เหมือน ระบบแอร์ ทั่วไป ที่คอมเพรสเซอร์ มีการจับ ปล่อย ตามอุณหภูมิ ทำให้อุณหภูมิ ไม่สมำเสมอ
จุดนี้ สำหรับ คนที่สังเกต จริงๆ จึงจะรู้สึกได้ครับ
ทีนี้ รถพวกนี้ กินน้ำมัน มั้ย ก็ต้องตอบ ว่ากิน ครับ
แต่ สำหรับ คนที่ซื้อ แคมรี่ มาขับ เรื่องน้ำมัน เป็นเรื่องเล็กครับ
ทีนี้ การดึงน้ำร้อน รถพวก นี้ ที่ถูกต้อง คือ
1 ตัด ท่อ ฮีดเตอร์ เลยครับ แต่ ต้องตัดทั้งสอง ท่อ ห้าม ถอดท่อ เดียว แล้วนำมาคล่อม หม้อต้ม แล้วค่อยกลับไปอีก ทำแบบ นี อุณหภูมิ ที่ไปยัง ฮีตเตอร์ มีปัญหาได้ เป็นการต่อ น้ำแบบ ขนานออกมา
ข้อเสียแบบนี้ ท่อน้ำโดนตัด อาจเกิดการรั่วซึมของน้ำได้ น้ำแรงดันสูง ซะด้วย ครับ
2 ดึง น้ำจากท่อเล็ก ตรงลิ้นปี ผีเสื้อมา แล้ว มาผ่านข้อต่อ เพิ่ม เป็นท่อใหญ่ แล้ว เข้าหม้อต้ม แล้ว วนไปเข้าที่เดิม อีก
เรียกว่า เป็น การ ต่อ แบบอนุกรม ก็ได้
ข้อดี แบบนี้ ท่อน้ำไม่ต้องตัด ไม่ต้องเสี่ยงน้ำรั่ว งานสวยงาม แต่ น้อยคน จะรู้ ว่าน้ำจุดนี้ ก็ใช้งาน ไม่เสี่ยงด้วย ครับผม
ในรถยุคใหม่นั้น การที่ปรับความเย็นด้วยการตัดต่อคอมเพรสเซอร์แอร์นั้น เหล่าลูกค้าที่แสนดีทั้งหลายท่านว่า ท่านทนไม่ได้ครับ ท่านว่าอุณหภูมิ มันสวิงขึ้นลงมากเกินไป ควบคุมให้คงที่ยาก ปรับอุณหภูมิให้คนขับกะคนนั่งต่างกันก็ไม่ได้ รถยุคนี้เลยต้องตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ตัดที่ประมาณ 2 องศาเซลเซียส แล้วเอาลมร้อนจากน้ำระบายความร้อนเครื่องยนต์มาผสมกับลมเย็นให้ได้ 20-25 องศา ร้อนไปก็หรี่ลมที่วนเข้าไปรับความร้อนจากฮีตเตอร์ เย็นไปก็เพิ่มลม (ด้วยใบเปลี่ยนทิศทางลม) ปรับอุณหภูมิ 2 จุด ก็มีทางเดินลม 2 ทาง
ที่นี้พอช่างทั้งหลายถอดท่อน้ำเข้าฮีตเตอร์ออก ก็ ตู้เย็นดีๆนี่เองครับ 2 องศา ประมาณนี้ จากเครื่องปรับอากาศกลายเป็นตู้เย็น ด้วยประการฉะนี้
|