คำตอบที่ 622
หนุกหนานคลายเตรียดครับ กับ.... "ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์"
ไอ้หนุ่มคนหนึ่งใฝ่ฝันมานาน...อยากได้ ฮาร์เลย์ ซักคัน ...วันหนึ่งเขาก้อเก็บเงินพอซื้อ ฮาร์เลย์ กะเค้าได้ แต่ตอนจะออกจากร้านคนขายแนะนำเขาให้ระวังชิ้นส่วนที่เป็นโครเมียม "ถ้าโดนฝนมันจะหมอง" ให้พกวาสลีนติดตัวไว้เวลาฝนจะตกให้ทาตรงที่เป็นโครเมียมป้องกันได้ ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์ก้อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยความรักรถสุดที่รัก
ต่อมา...ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์ได้พบรักกะน้องนางหนึ่งเข้า พากันซ้อนท้ายไปไหนมาไหนๆกันตลอดไม่ห่างกัน จนความรักสุกงอมน้องนางก้อเลยเอ่ยปากชวนไอ้หนุ่มฮาร์เลย์ไปกินข้าวเย็นที่บ้านกะครอบครัวของเธอ แต่ก้อยังอดบอกธรรมเนียมของบ้านเธอไม่ได้ว่า"หลังกินอาหารเสร็จ หากใครเอ่ยปากพูดขึ้นมาเป็นคนแรก คนนั้นจะต้องเป็นคนล้างจาน" ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์นึก "เอ้อ..แปลกๆ"
หลังรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ทุกๆคน ประกอบด้วย พ่อ, แม่ของฝ่ายหญิง กะคู่รักก้อพากันหุบปากเงียบ.. เวลาผ่านไป ไอ้หนุ่มทนอึดอัดไม่ไหว
เลยคิดอุบาย หันมากอดจูบแฟนสาวอย่างดุเดือดต่อหน้าอนาคตพ่อตาแม่ยาย แต่ผิดคาด...ไม่มีใครพูดออกมาซักคำ.. ไอ้หนุ่มยังไม่ยอมง่ายๆ จับแฟนสาวขึ้นนอนบนโต๊ะกินข้าวแล้วก้อจัดการตลุย.... แต่ก้อยังเงียบ ไอ้หนุ่มนึกประหลาดใจนักแต่กัวเสียฟอร์ม หันมาจับอนาคตแม่ยายขึ้นโต๊ะแล้วก้อ จ้ดการ....อย่างเร่าร้อน เหมือนเดิม...ยังไม่มีใครปริปากพูดอะไรซักคำ
จะห้าทุ่มแล้วยังไม่มีใครพูดออกมาซักคำ ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์เริ่มถอดใจยอมแพ้ เอาวะยอมล้างถ้วยล้างชามจะได้กลับ ช่วงวินาทีระหว่างนั้นไอ้หนุ่มได้ยินเสียงฟ้าร้อง เห็นฟ้าแลบวาบๆ "เฮ้ย...ฝนจะตกแล้ว" (ไอ้หนุ่มนึกในใจ) ด้วยความเป็นห่วงสิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องเอาวาสลีนไปทามอไซค์สุดที่รักก่อนที่ฝนจะตก
คิดได้งั้น ไอ้หนุ่มฮาร์เลย์ก้อล้วงเอาวาสลีนออกมา.... " อื้มม.... เอาหล่ะๆ " มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่มีมานานกว่า 4ชั่วโมง
ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาผู้นั้นคืออนาคตพ่อตาของไอ้หนุ่มฮาร์เลย์นั่นเอง "ถ้ามันจะเอากันขนาดนี้ กูล้างจานเองก้อได้" แถ่แลม ๆ ๆ แถ่แลม แท้แหล่ม.....