คำตอบที่ 1
รายงานเขาฟ้าแล่บหรือเขาตับแล่บก็ไม่รู้
เริ่มกันด้วย เช้าเก้าโมงเช้านัดเจอกันที่วัดซับตะกั่ว มีชาว BPMTB ทั้งหมด 34 คน
การปล่อยตัวเริ่มด้วยคุณ Pupe ทำหน้าที่อธิบายเส้นทาง พร้อมทั้งระเบียบในการขี่กันก่อน
โดยมีลุงหนวดถ่ายวีดีโอไปด้วย แล้วจึงทำการปล่อยออกทีละคัน
ทางช่วงแรกเป็นดินร่วนๆ มีหินเล็กน้อย ด้วยเพราะฝนตกทำให้ทางเละพอควร
เขาลูกแรกที่เราจะข้ามไปนั้น มองเห็นทางตั้งแต่อยู่ข้างล่าง แต่พอขึ้นไปจริงๆ กลับต้องเข็นกันตลอดทางเลย
เรียกได้ว่ากว่าจะขึ้นมากันหมด ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเลย กลุ่มเรามีผมกับคุณ DS2 ขึ้นไปกันก่อน
แต่วิวบนนั้นสวยมากเลยครับ เมื่อขึ้นมากันครบ เราจอดแวะพักกันที่แค้มปลูกป่าของปตท.ก่อนสักพักจึงไปต่อ
เขาลูกที่สอง ขี่ขึ้นไปได้แป๊บเดียว เข็นอีกแล้วเพราะว่ามันชันมาก ขึ้นถึงด้านบนมีทางพอจะขี่ขึ้นๆลงๆ
ได้ไกลพอควร เรียกเหงื่อได้ดีมาก พอไหลลงเขาลูกที่สองมา ก็เจอลูกที่สาม ขี่ได้ครึ่งเดียว เข็นอีกแล้วครับ
คราวนี้สูงมากถึงมากที่สุด คิดถึงภาพยังเหนื่อยเลย พอสุดเขาเราก็เจอวิวที่สวยที่สุด มองเห็นเขื่อนป่าสัก
แล้วก็วิวโดยรอบ เพราะเป็นเขาที่สูงที่สุดใช้สังเกตุไฟป่า ผมไปถึงคนที่สามหรือสี่นี่แหละ ขึ้นไปพร้อมคุณ DS2 ครับ
โดยมีทีมคุณ Chanchai P. ขึ้นไปถึงก่อนสองคน (อึดจริงๆ) เรานั่งรออยู่ที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ
กว่าทุกคนจะเข็นขึ้นกันมาครบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ ปตท. ก็ให้เราปลูกต้นไม้กันคนละต้น ผมได้ปลูกต้นตะแบก
ปลูกต้นไม้เสร็จเราก็นั่งกินอาหารกลางวันกันที่นี่ โดยมีรายการแจกข้าวเหนียวหมูปิ้งจากคุณ DS2 ด้วย
เพราะแบกขึ้นมาตั้งสี่สิบไม้แน่ะ ข้าวเหนียวอีกหกห่อ โห่ะๆๆๆๆๆ สมาชิกหลายคนก็พยายามลดน้ำหนักกระเป๋าตัวเอง
เป็นการใหญ่เลยแหล่ะ ผมกินเสร็จก็เบาหวิวเลย ทั้งน้ำทั้งข้าว กว่าจะกินข้าวบวกพักผ่อนเสร็จ ก็เกือบบ่ายสองแล้ว
เราจึงออกเดินทางกันอีกครั้งนึง เส้นทางช่วงนี้ลงเขาตลอดและอันตรายมาก เพราะชันและหินลอยเยอะมาก
เรียกได้ว่า เข็นลงกันเป็นแถวๆเลย เพราะเบรคแรงไม่ได้ ล้อหลังจะแซงล้อหน้าตลอดเวลา
ผมลงไปเป็นกลุ่มแรกๆ ก็ขี่ไหลลงไปเรื่อยๆ พอลงมาข้างล่าง แหงนกลับขึ้นไป จ๊าก ลงมาได้ไงเนี่ย
มองดูไม่ชัน แต่ทำไมมันสูงขนาดนี้ วาดภาพก็ประมาณ ไหลลงจากเขาฉลากแต่ระยะทางสั้นแค่ประมาณ
กิโลเดียว เลยชันแล้วก็ลื่นมาก จุดนี้ คุณมะม่วงจากกลุ่ม BPMTB ล้มข้อมือเคล็ดเล็กน้อย
ลงเนินมาแล้วเราก็ขึ้นเนินกันบ้าง เข็นอีกเช่นเคย แต่คราวนี้ชันมากเลย จุดหมายเราอยู่ที่แค้มปตท. ซึ่งต้องข้ามเขาไป
พอเข็นขึ้นจนสุดทางเราก็ไหลลงมาเรื่อยๆ ผมจำทางตรงนี้ไม่ค่อยจะได้ ขึ้นๆลงๆ ข้ามห้วย
จนสุดท้ายไปถึงแค้มได้ อิอิอิ ผมไปถึงคนที่สาม ที่นี่มีน้ำขายแจกด้วย น้ำตราสิงห์ด้วยนะฟรี
กาแฟก็มี อยากกินสปอนเซอร์ก็ซื้อได้ เป๊บซี่ก็มีด้วย ดีจัง พักกันที่นี่นานพอควร ประมาณเกือบชั่วโมง
เราก็กลับช่วงนี้ทางลงเขาตลอด สลับกับข้ามลำธารประมาณยี่สิบครั้ง ผมไหลลงมากับกลุ่มแรก เลยไม่รู้ว่ามีอุบัติเหตุ
ซึ่งรุนแรงมาก เพราะรถล้มแล้วมือเบรคแทงเข้าไปที่ต้นขาด้านใน สมาชิกในกลุ่มต้องช่วยกันรื้อจักรยาน
เผื่อจะย้ายคนเจ็บ โชคดีที่รถบริการของกลุ่มปลูกป่าของปตท. ขับรถลงมาส่งด้านล่างเพื่อไปส่ง รพ.
ได้ข่าวว่าตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ย้าย มาอยู่รพ. ที่กรุงเทพแล้วครับ
ช่วงสุดท้ายไหลมาเรื่อยๆ ผ่านลำธารเยอะมาก จนมาสุดทางที่ลำธารยาวประมาณห้าสิบเมตร
ก็เข็นมาตามลำธาร ก็กลับมาถึงวัดกันประมาณเกือบหกโมงครับ สมาชิกก็แยกย้ายกันกลับบ้านบ้าง
ไปที่พักที่รีสอร์ทก็เยอะครับ
ขอบคุณกลุ่ม BPMTB ที่จัดแจงเรื่องทุกอย่างครับ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ปลูกป่าทุกท่านครับ
ขอให้คุณติ๋มหายเร็วๆครับ กลับมาขี่จักรยานได้เร็วๆครับ ขอบคุณคุณ Pupe กับลุงหนวดครับ
ที่เป็นพ่องานได้น่ารักมากครับ ขอบคุณน้าแอ๋งกับพี่ Peter ที่ให้อาศัยรถไปกลับระหว่างรีสอร์ทกับวัดครับ
ขอบคุณทุกๆคน ที่ตั้งใจไปเข็นจักรยานด้วยกันครับ
คราวหน้าไปกันใหม่ดีมั๊ยครับ (ไปเข็นกันใหม่ครับ)