คำตอบที่ 1
       1.เช็คว่าช่วงล่างมีอะไรหลวมไหม เช่น ลูกหมากทั้งหลาย บูชปีกนก และ บูชอื่นฯมันไม่แน่ เปลี่ยนสะ ถ้ายังไม่หาย ก็เช็คระบบเบรค ลูกสูบ แกนคาลิเปอร์เบรคมันสนิมกินทำให้เบรคซ้าย ขวา แรงดันไม่เท่าเลยกินไปข้างหนึ่ง
2.ดีเซล ฟิตเครื่องจะดีกว่า
ส่วนตัว3000มีระบบไฟฟ้ามาควบคุมแล้ว ทำระบบไฟไม่ดีพอ แย่เลย ราคาเครื่องดีเซลมือสองมันไม่ถูกฯเหมือนเครื่องเบนซิล ลองเช็คราคาดูก่อนซิ

คำตอบที่ 2
       เบรคแล้วกินซ้ายขวา มาจาก 2 ส่วนหลักๆ เพราะว่ารถผมเองก็เป็น แก้แล้วดีขึ้นแต่ก็ไม่หายซะทีเดียว
1.พวกจุดหมุนต่างของช่วงล่างมันสึกหรอให้ตัวได้ เช่น ลูกหมากต่างๆ บูชปีกนกต่างๆ กล้องยา
ถ้าใช้รถมาเยอะแล้ว กลั้นใจเปลี่ยนเถอะครับ แนะนำให้เปลี่ยนทั้งชุด ถ้าเปลี่ยนทีละจุดมัเบรคแล้วกินซ้ายขวา มาจาก 2 ส่วนหลักๆ เพราะว่ารถผมเองก็เป็น แก้แล้วดีขึ้นแต่ก็ไม่หายซะทีเดียว
1.พวกจุดหมุนต่างของช่วงล่างมันสึกหรอให้ตัวได้ เช่น ลูกหมากต่างๆ บูชปีกนกต่างๆ กล้องยา
ถ้าใช้รถมาเยอะแล้ว กลั้นใจเปลี่ยนเถอะครับ แนะนำให้เปลี่ยนทั้งชุด ถ้าเปลี่ยนทีละจุดมันจะไม่จบ
2.ระบบเบรคทำงานไม่สมบูรณ์ ผ้าเบรคจับไม่เท่ากัน กระบอกเบรคค้าง สังเกตได้ง่ายๆเมื่อถอดออกมา
โดยดูจากความหนาของผ้าเบรค 2 ข้างจะต้องสึกเท่าๆกัน ถ้าไม่เสมอกันต้องไปดูที่สาเหตุว่าอาจเกิดจาก
พวกกระบอกเบรค ลูกสูบ เป็นสนิมค้าง หรือแม้แต่ลูกยางบวม
เป็นผมจะไล่จาก 2 ไปหา 1 เพราะเสียตังค์น้อยกว่า ซ่อมชุคเบรค เปลี่ยนผ้าดีๆ ถ้าจานไม่สึกมาก ก็ไม่ต้องเจียร
ถ้าทำเองไม่เกิน 2 พัน แถมเหลือซื้อเบียร์จิบระหว่างทำได้อีก
เรื่องเครื่องหลวม ไอ้รุ่น 96 เครื่องมังกรฝาทองมันหลวมได้ยากนะครับ ว่าแต่วิ่งไปเท่าไหร่แล้ว รถผมปีเดียวกัน 3 แสนกว่า ก็ยังไม่หลวมนะครับ ถ้าไม่กินน้ำมันเครื่องหรือทุกระยะเปลี่ยนเติมประมาณ 1 ลิตรถือว่าไม่หลวมหรอครับ
ยกเว้นแต่อยากแรงขึ้น ก็อีกประเด็น ถ้าเป็นผมฟิตเครื่องเดิมดีกว่า เปลี่ยนปลอก ลูก แหวน ก็ได้เหมือนเครื่องใหม่แล้วครับ เดิมๆดีกว่าไม่ไต้องมาจุกจิก แล้วแต่ทัศนคติส่วนบุคคลครับ นจะไม่จบ
2.ระบบเบรคทำงานไม่สมบูรณ์ ผ้าเบรคจับไม่เท่ากัน กระบอกเบรคค้าง สังเกตได้ง่ายๆเมื่อถอดออกมา
โดยดูจากความหนาของผ้าเบรค 2 ข้างจะต้องสึกเท่าๆกัน ถ้าไม่เสมอกันต้องไปดูที่สาเหตุว่าอาจเกิดจาก
พวกกระบอกเบรค ลูกสูบ เป็นสนิมค้าง หรือแม้แต่ลูกยางบวม
เป็นผมจะไล่จาก 2 ไปหา 1 เพราะเสียตังค์น้อยกว่า ซ่อมชุคเบรค เปลี่ยนผ้าดีๆ ถ้าจานไม่สึกมาก ก็ไม่ต้องเจียร
ถ้าทำเองไม่เกิน 2 พัน แถมเหลือซื้อเบียร์จิบระหว่างทำได้อีก
เรื่องเครื่องหลวม ไอ้รุ่น 96 เครื่องมังกรฝาทองมันหลวมได้ยากนะครับ ว่าแต่วิ่งไปเท่าไหร่แล้ว รถผมปีเดียวกัน 3 แสนกว่า ก็ยังไม่หลวมนะครับ ถ้าไม่กินน้ำมันเครื่องหรือทุกระยะเปลี่ยนเติมประมาณ 1 ลิตรถือว่าไม่หลวมหรอครับ
ยกเว้นแต่อยากแรงขึ้น ก็อีกประเด็น ถ้าเป็นผมฟิตเครื่องเดิมดีกว่า เปลี่ยนปลอก ลูก แหวน ก็ได้เหมือนเครื่องใหม่แล้วครับ เดิมๆดีกว่าไม่ไต้องมาจุกจิก แล้วแต่ทัศนคติส่วนบุคคลครับ

คำตอบที่ 3
       เครื่องหลวมค่าฟิตแพงนะครับ ของผมเมื่อเดือนที่แล้ว แหวนสูบ 3 หักกินน้ำมันเครื่องเข้าศูนย์ราคาประเมิน 63250 ลมแทบจับก็เลยเข้าไปคุยกับช่างในศูนย์ ให้ประเมินราคาใหม่ ตัดได้เท่าที่ตัด ปลอกสูบไม่เปลี่ยน นู้นนี่ไม่เปลี่ยนสุดท้ายจบที่ 31250.65 บาท ค่อยหายใจโล่ง

อะไหล่โดนไปเยอะครับเท่าที่จำได้ แหวนลูกสูบ 1ชุด 4 pack pack ละ 3 ตัวรวมแหวน 12 ตัว ราคาประมาณ 3 พันกว่า
ประเก็นชุดใหญ่ เกือบ 5 พัน
ระบบน้ำทั้งหมด แปบน้ำ ท่อน้ำ(ยาง) วาล์วน้ำ ตก 3 พันกว่า (อื่นๆอีกเยอะแยะตาแปะไก่)
ค่าแรงอันนี้จำได้แม่นเลย ยกลง+ยกขึ้น 3300
ค่า OVERHAL 5200 ค่าแรงแพงมากๆ เกือบ 9 พันแนะ

ใช้เวลาซ่อมประมาณ 20 วันในศูนย์ตรีเพชรคับ

ผมไม่เปลี่ยนปลอกสูเพราะ ลูกสูบผมไม่ติดและยังเรียบอยู่(ราคาแพงด้วยครับ)ตกปลอกละ เกือบ 4 พันครับ 4 สูบก็ 16000 ลมจับครับ(ปลอกสูบมีหลายเกรดครับแบบถูกก็มี แต่ 4 พันเกรดดีสุด) ในศูนย์มี 3 เกรดครับ

คำตอบที่ 4
       โอว..แม่เจ้า ต้องคิดให้หนักซะแล้ว

คำตอบที่ 5
       เครื่องดีเซลเก่าเชียงกง ตกประมาณ เครืองละ 4-5หมื่น มันไม่ใช่เครือง 1เจ 2เจ เครื่องละ2-3หมื่น ยังไงฮอลดีกว่า
แต่ไม่เอาไอ้กี้อมฮอลหว่า มันยิ่งกว่า ทั้งเหวงทั้งตู่เลย
เครื่อง2500ทำนอกศูนย์ได้ แต่ขออะไหล่แท้ หาช่างฮอลได้ไม่ยาก คุ้นมือช่างครับ เครื่องตัวนี้

คำตอบที่ 6
      

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณสำหรับทุกๆความรู้และคำแนะนำครับผม