สายพานลากรถ
มาอ่านคนที่ 24901
Truehits.net
สวัสดีพี่ๆเพื่อนๆทุกคนที่ชอบขับรถท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางเรียบหรือ
ทางลูกรัง-ทุรกันดารขนาดไหน จะขับเคลื่อน 2 ล้อหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ(off
road 4x4) ก็แล้วแต่ ในการเดินทางไปในที่ต่างๆ บางครั้งผู้ขับขี่อาจจะพบอุปสรรค
บางอย่างในระหว่าง การเดินทางนั้นๆ สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือได้คือ
สายพานลากรถ ผมแนะนำให้ทุกคนควรจัดหามาไว้ประจำรถ
กันทุกคัน ประโยชน์ของเจ้าสายพานลากรถนี้สามารถช่วยเหลือตัวเอง,ช่วยเหลือผู้อื่นก็ได้
, หรือลากสิ่งกีดขวางออกก็ได้ ที่สำคัญราคาไม่แพงมากจนเกินไป
ผมมีเรื่องจริงที่เคยประสบมาเมื่อ
4-5 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับการใช้สายลากที่ผิดวิธี(อันตรายมาก) มาเล่าให้เพื่อนๆฟัง
โดยในทริปนั้นมีรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ของเพื่อนคันหนึ่งล้อหน้าติดหล่มโคลนอยู่ไม่สามารถขับขึ้นมาได้
ก็มีเพื่อนร่วมขบวนคันหนึ่ง อาสานำสลิงมาลากรถที่ติดหล่มอยู่ให้ ปรากฎว่าขณะที่กำลังทำการลากรถอยู่นั้นก็เกิดเหตุการณ์
ที่ไม่คาดคิดขึ้น สายสลิงที่ถูกดึงจนตึงขาดทันที และปลายสายพร้อมกับแคล้มรัดสลิงอีก
2-3 ตัว ดีดพุ่งเข้าหาหน้ารถ ของคันที่ติดหล่มอยู่อย่างแรง (พอๆกับกระสุน
M-16) โชคดีที่เสียหายเฉพาะหน้ารถเท่านั้น ลองนึกดูซิครับ ถ้าหากว่าปลายสายสลิง+แคล้มรัดนั้นพุ่งขึ้นสูงมาที่กระจกหน้ารถ
จะเกิดอันตรายกับ คนขับขนาดไหน นึกแล้วขนลุกจริงๆ
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะสายสลิงเส้นเล็กๆขนาด
1-2 หุน และเชือกลากที่ขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ,มินิมาทหรือปั้มน้ำมันทั่วๆไป
เขาออกแบบมาให้ใช้งานลากจูงไม่หนักมาก(600-1500 กก.) บนพื้นถนนที่ราบเรียบ
และรถถูกที่ลาก ไม่มีน้ำหนักบรรทุกมากนัก ดังนั้นเมื่อมันถูกนำไปใช้งานลากรถในสภาวะที่บรรทุกสัมภาระสิ่งของ
แถมซ้ำยังติดอยู่ในหล่มโคลนอีกด้วย จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานได ้และเกิดผลอันตรายเสียหายตามมา
ที่นี้บางคนก็คงสงสัยว่าแล้วต้องใช้อะไรลากรถ ในสถานการณ์แบบนี้หละ
คำตอบก็คือต้องใช้ สายพานลากรถ ครับ
มีผลิตออกมาหลายยี่ห้อหลายแบบให้เลือกกันมากมายทีเดียว
การเลือกซื้อก็ต้องดูขนาดประเภทรถ ของตนเองและน้ำหนัก ของที่บรรทุกเป็นแนวทาง
ถ้าเป็นรถขนาดใหญ่ก็ให้เลือก สายพานลากขนาดหน้ากว้าง 3" ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นรถขนาดกลาง-เล็ก
ก็เลือกใช้สายพานลากขนาดหน้ากว้าง 2" ก็เพียงพอ โดยที่สายพานลากขนาด
3" สามารถลากดึงได้ไม่เกิน 9 ตัน ส่วนขนาดหน้ากว้าง 2" ลากดึงได้ไม่เกิน
6 ตัน ถ้าหากต้องการเผื่อ เหลือไว้ก่อนก็คงต้องเลือกหน้ากว้าง 3" ครับ
แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วยอีกเช่นกัน ส่วนความยาวของสายพานลาก จะมีหลายขนาดตามลักษณะการใช้งาน
เช่น สายพานคล้องต้นไม้,เสาหลักดึง จะมีความยาวประมาณ 1.80ม.จนถึง 3 ม. (จะจัดเป็นประเภทสายคล้องสิ่งต่างๆ)
ถ้าเป็นสายพานลากรถก็ควรเลือกที่มีความยาวตั้งแต่ 5 ม.จนถึง 9 ม.
ในการใช้งานเจ้าสายพานลากรถนี้ควรใช้คู่กับห่วงเหล็ก
(สเก็น) จะเป็นห่วงตัวยู หรือห่วงโอเมก้า (ห่วงโอเมก้าจะแข็งแรงกว่าตัวยู)
แบบไหนก็ใช้ได้ครับ โดยเลือกขนาดที่พอเหมาะกับสายพานลากและหูลากที่ตัวรถคุณเป็นเกณท์
เพียงเท่านี้คุณก็จะอุ่นใจ ในระดับหนึ่งแล้ว ในการออกทริปหรือท่องเที่ยวไปกับเพื่อนๆ
เพราะอย่างน้อยก็มีสายลากที่พร้อม จะนำออกมาช่วยเหลือตนเอง หรือผู้อื่นให้ผ่านอุปสรรคนั้นๆ
ได้ทันทีและปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่พบเจอรถขนาดใหญ่(หนักมาก) ติดหล่ม-ตกข้างทาง,ขึ้นทางชัน
ใช้วินซ์ก็ไม่ขึ้นครับ แต่ถ้าเรามีรถ 4x4 (คงมีกันอยู่แล้วนะ)พร้อมกับสายพานลากรถ
2-3 เส้น มีเทคนิคคือให้ต่อสายพานเข้ากับรถสัก 2-3 คัน เรียงลำดับโดยให้รถที่มีขนาดใหญ่
(แข็งแรง-มีคัทซี) อยู่ท้ายสุด และทำการขับเคลื่อนลากดึงไปพร้อมๆกัน แรงลากดึงจำนวนมากที่เกิดจาก
การขับเคลื่อนของรถจำนวนหลายคัน จะสามารถลากดึงรถขนาดใหญ่ๆได้อย่างง่ายดาย
ทีนี้คงเห็นประโยชน์ของเจ้าสายพานลากรถนี้แล้วใช่ไหมครับ
บทความจาก พี่ขนมิ้งครับ
ขอบคุณครับ
|