คำตอบที่ 2
เฮ้อ
.กลับมาแล้วครับ ทริปสำรวจ น้ำตกอีเกก ในเขตอำเภอ แก่งหางแมว จังหวัดจันทรบุรี
แทบตาย ผมเอาเจ้าหนูขาว ไปกับไพลิน เท่านั้น คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเพราะเป็นทริปสำรวจ และอยู่ไกลแค่ 100 กว่ากิโลเมตรเอง ผมเดินทางกันเช้าวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง
ลางร้ายแต่เช้าเลยเมื่อก่อนออกเดินทาง แค่ครึ่งชั่วโมง ผมโดนมีดคัตเตอร์ขนาดใหญ่บาดเอาที่หัวแม่มือซ้าย เป็นแผลใหญ่และลึกพอสมควร แต่เพราะกลัวจะเดินทางล่าช้าจึงไม่ไปหาหมอ (จริง ๆ แล้วกลัวหมอมากกว่า) เราออกเดินทางกันประมาณ 9 โมงเช้า ใช้เส้นทางสาย 36 ออกไปทะลุ เส้น 331 (ระยอง - โคราช) แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงสี่แยก บ้านมาบเอียง หรือถ้าวิ่งมาจากสวนเสือ ศรีราชา ก็จะตรงทะลุข้ามสี่แยกมาเลย ไปตามป้าย อ. บ้านค่าย ประมาณ 50 กิโลเมตร จนถึงอำเภอ บ้านค่าย ค่อยแยกซ้าย ออกไปทางอำเภอ วังจันทร์ อีกประมาณ 35 กิโลเมตรและอีกแค่ 18 กิโลเมตร พวกเราก็มาถึงตัวเมืองแกลง แวะกินก๋วยเดี๋ยวธัญรส เจ้าอร่อยและแวะเติมนำ้มันที่ปั๊ม Jet ห่างจากตัว เมืองมาแค่ 1 กิโลมตร วิ่งเลยมาแค่ 12 กิโลเมตรก็แยกซ้ายไปตามป้ายอำเภอแก่งหางแมว วิ่งทางลาดยางไปอีก ประมาณ 50 กิโลเมตรก็ถึงจุดแยกเข้าน้ำตก โดยที่จะมีป้ายเขียนไว้ว่า ทางไปน้ำตกน้ำเป็น อีก 8 กิโลเมตร เวลาที่เข้าตอนนั้นก็ประมาณเที่ยง ก็ใช้เส้นทางลูกรังเข้ามาตามป้าย จนเริ่มเข้าทาง Offroad ระดับประมาณ 2 ดาวก็จะมาถึงทางแยกที่มีต้นประดู่ต้นใหญ่ หร้อมมีป้ายเขียนบอกว่า น้ำตกอีเกก ให้ไปทางซ้าย แต่ถ้าน้ำตก น้ำเป็น ให้ไปทางขวา
พวกเราแยกซ้ายไปตามป้ายน้ำตกอีเกกก็ได้เรื่องละครับ 1 กิโลเมตรแรกก็เริ่มทักทายพวกเราด้วย ป่าดิบ ชื้นที่ยังมีต้นไม้ใหญ่และเถาวัลย์ขึ้นกันอย่างหนาแน่น ร่องทางรถจะพอดีกับตัวรถพอดี ไม่สามารถออกนอก ร่องทางเดิมได้เพราะจะติดไม้ใหญ่ในทันที ยิ่งเข้ามากิโลที่ 2 , 3 ก็ยิ่งเป็นป่าดิบเข้าไปใหญ่ มาถึงตอนนี้ปรากฏว่า ไพลินและหนูขาววิ่งไปตามทางที่มีแต่น้ำท่วมร่องล้อจนมองไม่เห็นลายน์เดิมเหมือนกับวิ่งไปตามบึง หรือลำคลองยังงัยอย่างนั้น จนมาเริ่มกิโลที่ 3 ก็ต้องลงมาดูลายน์ให้กันบ่อยครั้งยิ่งขึ้น และแล้วไพลินก็ติดจนได้ ด้วยความสูงขนาดยาง 31 และยกอีก 2 นิ้วก็ยังติด โดยแขวนอยู่บนร่อง เรียกได้ว่าออกแรงวินช์กันพักหนึ่งเชียว
แหละ
ยังครับยังไม่เท่านั้น ยิ่งวิ่งลึกเข้ามาเริ่อย ๆ เริ่มมีข้ามลำธารที่ไม่ลึกเท่าไรนักเข้ามาจนกิโลที่ 4 , 5 จากความยากระดับ 3 ดาวก็เริ่มเพิ่มมาอีก 1 ดาว
เพราะถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าเกือบ 70 % ของเส้นทางเป็นบ่อโคลน ยาว ๆ ทั้งนั้นเลย บางช่วงยาวถึง 100 เมตรก็มี เรียกได้ว่ามีลุ้นตลอด จนไพลิน ถึงกับหมดฟอร์มก็คราวนี้แหละ
. วินช์ของไพลินถูกนำออกมาดึงตัวเองให้พ้นจากปลักโคลนไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง !!!!!!! เรียกได้ว่างานนี้ถ้าเป็น รถเดิม ๆ ที่ต่ำกว่า สตาร์ดายกสูง 2 นิ้ว ใส่ยาง 31 และถ้าไม่ใช่ยาว MUD ละก็ไม่ต้องมาเลยดีกว่า (เสียดายรถ)
และยิ่งลึกเข้าไปอีก กิโลที่ 6,7,8 มาถึงตอนนี้ก็เป็นป่าดิบเลยหละ !!! ขนาดเวลา 3 โมงเย็นกว่า ๆ ก็ต้องเปิดไฟหรี่ กันแล้วเพราะด้วยสภาพของป่าทำให้แสงน้อยกว่าปรกติ
ยิ่งเข้าลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เส้นทางก็เริ่มแคบลง ๆ
จนถึงขนาด รถเล็ก ๆ เจ้าหนูขาวต้องสังเวยสปร์ตไลท์ที่ติดอยู่ตำแหน่งเดียวกับกระจกมองข้าง ให้กับความรก ของเส้นทาง เรียกได้ว่าถ้าใครชอบขับสมุนไพร มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังแน่ ๆ
แม้กระมั้ง Rack บนหลังคาของไพลิน ร่วงลงมากองอยู่บนถนน โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยละกัน หนำซำ้ กระจกข้างไพลินก็หลุดอีก.. จนเวลาล่วงมาจนถึง 4 โมงเย็น ก็ยังไม่มีวึ่แววว่าจะถึง ผมเลยตัดสินใจยกเจ้าเอาจักรยานเสือภูเขาขับลุยเข้าไปต่ออีก
ได้เรื่องเลยครับเข้าไปได้ แค่ 300 เมตรก็เจอ Down hill ลงเนินชันและเป็นเส้นทางโคลน ส่งให้ผมลงไปนอนบนกอหนาม ตามองยอดไม้ และคิดว่า กูมาทำอะไรที่นี่วะ (จุกครับลุกไม่ขึ้น) ซักประมาณ 5 นาทีได้ถึงยักแย่ยักยันขึ้นมาได้
แต่ที่แย่ไป
กว่านั้นคือมันทำให้แผลมีดบาดเมื่อเช้ากลับเหวอะขึ้นมาอีก
เลือดสด ๆ ทะลักออกมาอย่างไม่มีวี่แววว่าจะ
จนชุ่มและเหนียวถุงมือไปหมด ผมไม่รู้ว่าจะห้ามเลือดและหรือหยุดเลือดยังงัยดี มันไหลท่วมแขน ขา และ จักรยานไปหมด ก็เลยตัดสินใจ จูงกลับรถ (สงสัยต้องไปร่วมทริปกับ UCC MTB บ้างซะแล้ว) มาถึงตอนนี้เราเลยตัดสินใจกลับกันก่อนจุถึงจุดหมาย ช่วงขากลับก็มีวินช์กันเป็นระยะ ๆ เรียกได้ว่างานนี้ ไพลิน วินช์กันจนเปื่อย !!!! เลย ด้วยเวลาแค่ 5 โมงเย็นก็ตอ้งเปิดไฟหน้ากันแล้ว คิดกันเอาเองละกันว่า ป่านี่ดิบขนาดไหน
ขากลับผมลองแยกเข้าไปทางน้ำตกน้ำเป็นเพื่อสำรวจอีกเส้นทาง จึงพบว่าเส้นทางโหดน้อยกว่า เส้นน้ำตก อีเกก มีข้ามลำธารประมาณ 3 4 ลำธารแต่เข้าไปได้ไม่ลึกมากเพราะมีไม้ใหญ่ล้มขวางทางอยู่ อีกทั้งก็มืดแล้วจึงล่าถอยออกมา เรียกได้ว่างานนี้ ทั้งคน ทั้งรถ พังกันไปตาม ๆ กัน กว่าจะกลับมาถึงบ้านได้ก็ ตีหนึ่งละครับ
สรุปทริปนี้ โหด เอาเรื่องครับ
ประมาณ 3 ดาว ถึง 4 ดาวครึ่ง
. เพื่อน ๆ ว่างัยดีครับ
อย่าบอกนะว่า ผมไปมาแล้ว
ไม่มีอะไรหรอก ข้างใน นะ