จาก หนูขาว IP:203.146.32.181
อาทิตย์ที่ , 27/6/2547
เวลา : 22:30
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
แดดอ่อน ๆ ยามบ่ายทะลุม่านไพรบังตาที่เสแสร้งแต้มแต่งให้เหมือนบรรยากาศพงไพรในยามบ่าย สบาย ๆที่บ้านพักของผม ในวันสุดสัปดาห็ที่ผ่านมา พร้อมกับสิ่งมีค่า ในมือผมที่ไม่สามารถละวางลงไปได้เลยนับแต่หยิบขึ้นมาพลิกอ่าน ครับผมกำลังใช้เวลาพักผ่อนต่อนบ่าย ๆที่บ้านกับหนังสือ เดินบนถนนมิตรภาพ ของพี่เชน หรือ ม.ล ปริญญากร วรวรรณ นักเขียน นักล่า (ด้วยกล้อง) คนไทยคนแรกที่ได้รับเชื้อเชิญจากสถาบัน Smithsonian อันเก่าแก่ของอเมริกาให้ไปแสดงผลงานภาพถ่ายที่นั่น ความยิ่งใหญ่ในวิถีชีวิตของคน ทำงานที่ถือกล้องแทนปืน เดินท่อม ๆ อยู่คนเดียงกลางป่า บางครั้งเป็นแรมเดือนเพียงเพื่อได้ภาพชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์ป่าที่น้อยคนนักจักได้เป็นในวิถีอารยธรรมคนเมือง หลากหลายเรื่องราวที่ถ่ยทอดออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ว่าจะเป็นการล่าที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าป่าอย่างเสือลายพาดตะกอน หรือความสามัคคีของฝูงหมาไน และที่สำคัญโดนพระธุดงค์ด่าว่า ไอ้คนไม่มีศาสนา เมื่อเข้าไปถวายคำขอร้องคณะธุดงค์และคนติดตามกลุ่มใหญ่ให้ออกห่างจากโป่งที่สัตว์ป่าเค้าหากินกัน แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือบท ๆ หนึ่งของการเฝ้ารอ ติดตามถ่ายภาพเลียงผาบนยอดดอยที่มีอากาศปิด ท่ามกลางเมฆฝนเต็มฟ้าถึงเดือนเต็ม ๆ กว่าจะได้รูป ๆ นั้นมาได้ เพียงแต่เรื่องของผมที่ผ่านมาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วที่ป่าเมืองกาญจน ถึงเลียงผาตัวหนึงเหมือนกัน แต่ต่างวิถีทางแห่งกรรมโดยน้ำมือมนุษย์เหมือนกัน
ผาสวรรค์บน เค้าปิดแล้วนะพี่ เสียงเจ้าหน้าที่พิทักษ์หน่วยน้ำตกผาสวรรค์ล่างเอ่ยปากกับผมอย่างคุ้นเคย ขณะที่ผมกำลังยืนสองขาย่ำบนลำธารใสที่ไหลผ่านอยู่ข้างแค้ม พัก อ้าวทำไมหละ เพราะพวกออฟโรดเหรอ ผมเอ่ยถามกลับในขณะที่ตัวเองก็กำลังสาละวนกับการล้างถ้วยชาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอาหารเย็นวันนั้น เปล่าหรอกครับ น้อง เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาพร้อมสำทับว่า พวกล่าสัตว์นะพี่ มันไล่เลียงผามาจากผาสวรรค์บนจนเค้าวิ่งหนีลงมาตกหน้าผาที่ชั้นเจ็ดผาสวรรคฺล่างนี่แหละ
. เสียงบอกเล่านั้นทำให้ผม ต้องละหน้าจากลำธารนั้นขึ้นมามองเจ้าหน้าที่ทันทีเหมือนกับยังไม่เชื่อในสิ่งที่พึ่งได้ยินมา เฮ้ยที่นี่มีเลียงผาด้วยเหรอ
เก้งหรือปล่าว ผทย้อนถามด้วยความคลางแคลงใจด้วยเชื่อ ว่าเลียงผามันเป็นสัตว์สงวนที่มีอยู่ในที่ที่จำกัดเท่านั้นไม่น่าจะมาอยู่ในป่าแถบนี้ได้ เลียงผาพี่ ผมเป็นคนฝังกันมือผมเอง พรุ่งนี้ผมจะพาพี่ไปดู
แล้วไอ้พวกที่ล่านะก็จำได้ด้วยนะพี่ ยังลงหนังสือพิมพ์เลยมากันตั้ง 5 - 6 คนมีฝรั่งมาด้วยคนนึง ผมรู้สึกดึใจขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินน้องคนนั้นเล่าต่อมา แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วพวกนี้เค้ารู้ได้งัยว่าที่ไหนมีสัตว์ป่า ก็พวกชาวบ้านนะแหละพี่มันพากันเข้าไป พอล่าได้มันก็แล่รมควันใส่ย่ามแล้วเดินป่าอ้อมหน่วยออกมา. ส่วนพวก ทีมันล่าก็ขับแต่รถออกมา เหมือนพวกออฟโรดอย่างพี่นี่แหละ ถึงค้นก็ไม่เจออะไร น้ำเสียงสุดท้ายบ่นออกมาเหมือนกับท้อแท้กับตัวเองยังงัยก็ไม่รู้ ผมเดินถือถ้วยชามขึ้นมาจากลำห้วย เข้ามาชายคาแค้มป์พักพร้อมกับความมือที่เรื่มย่างกรายมาเยือนรายรอบบริเวณพร้อมทั้งนึกในใจว่า เมื่อไรหนอ การล่าอย่างเหี้ยมโหดที่มีต่อสัตว์โลกด้วยกัน ถึงจะหมดไปสักที อีกสักกี่ ชีวิติที่ล้มตายเพืยงเพื่อเป็นเกมสนองตัณหาสันดานการล่าของมนุษย์สองขาที่เรียกตัวเองว่า
ผู้มีอารยธรรม
|