คำตอบที่ 11
บูรพาออฟโีรดนี่ ถล่ม เอ้ย!!ถ่อมตัวน่าดูเลยครับ แต่ละคันซ่อนเขี้ยวเล็บเด็ดๆทั้งนั้นเลย ซ่อนซะจนพวกเดียวกันเองยังไม่รู้เลยอ่ะ ขอเผาหน่อย ขอเผาม้ากระโดดหน่อยนะ เมื่อปีที่แล้วได้มีโอกาสขึ้นตะกอคะกับท่านพี่ๆ ก็มีนี่แหละพี่หนุ่ย,ลุงแดง ยอดดอย,เฮียจุ้ย ยอดดอย,พี่เปิ้ล กลุ่ม11 และก็พี่ณรงค์ ม้ากระโดดแห่งบูรพาออฟโรด ขาไปมีผมคันเดียวที่ต้องวิ้นส์ที่เนินฝุ่น นอกนั้นขึ้นมาผ่านได้หมด แม้กระทั่งไทเกอร์ปีกนกของลุงแดงก็ผ่านเนินนี้ได้โดยไม่ต้องวิ้นส์ แต่นั่นแหละเป็นเหตุทำให้หม้อน้ำของม้ากระโดดรั่วจากการที่จั้มพ์ขึ้นเนินแล้วเครื่องมันโย้ยเอาพัดลมหน้าเครื่องไปกินเอากะรังผึ้งหม้อน้ำเข้า ก็ขับจนถึงที่พักที่หมู่บ้านตะกอคะได้ ในคืนนั้นก็ตั้งวงรับประทานอาหารเย็นและล้อมวงดื่มกันเป็นปรกติ ทุกคนลงความเห็นว่าขากลับต้องขึ้นเนินห้าร้อยที่เป็นเนินยาว หากม้ากระโดดยังหม้อน้ำรั่วอยู่จะเป็นปัญหาได้ เฮียจุ้ยจึงได้ให้น้องที่นั่งเป็นเนว์ฯมาด้วยช่วยถอดหม้อน้ำออกมาใช้กาวอีป็อกซี่อุดซะในคืนนั้นเลย เช้ามากาวแห้งก็จะได้ประกอบกลับได้จะได้ไม่ช้า ทุกคนก็นั่งคุยกันรอบกองไฟเป็นปรกติ ยกเว้นน้องที่เป็นช่างต้องไปถอดหม้อน้ำอยู่คนเดียว ตั้งนานก็ถอดไม่ออกซักกะที จนพวกผมก็เข้าไปช่วยถอดกันอีกหลายคน น้องที่เป็นช่างแกก็บอกว่าที่ช้าเพราะหม้อน้ำเขาแปลงมา ถอดน็อตยึดแล้วดึงขึ้นมาตรงๆแบบปรกติมันดึงไม่ออกต้องถอดกรอบด้านข้างออกก่อน จังหวะนั้นเองพี่โรสแกก็คงสงสัยทำไมถอดหม้อน้ำม้ากระโดดแค่นี้ต้องช่วยกันตั้งหลายคนและนานด้วยจึงเดินออกจากวงรอบกองไฟมาช่วยดูอีกคน น้องคนที่เป็นช่างจึงอธิบายบอกว่า
"ที่มันถอดยากและช้าเพราะเป็นหม้อน้ำแปลงมา ถ้าเป็นหม้อน้ำในเครื่อง 2LT ป่านนี้ถอดออกไปแล้ว"
"อ้าว!!รถพี่ไม่ใช่เครื่อง 2LTแล้วเหรอ" พี่โรสงง
"ไม่ใช่เครื่อง 2LTแน่นอนพี่ ที่เห็นอยู่ใต้ฝากระโปรงเนี่ยบ้านผมเรียกเครื่องเคแซ่ดครับพี่" ช่างตอบ
"อ้าว!!ไปเปลี่ยนมาตอนไหนหว่า มิน่านั่นมาเที่ยวคราวนี้เครื่องมันแรงปรี้ดๆผิดปรกติ" พี่โรสบ่นเบาๆ
"ไปเปลี่ยนเครื่องมาตอนไหน เมื่อไหร่ณรงค์" พี่โรสหันไปตะโกนถามคนที่นั่งรอบกองไฟ
แล้วก็มีเสียงตะโกนสวนมาอ้อแอ้ อ้อแอ้ว่า"งบลับ งบลับ เปลี่ยนมานานแหล่ว เอิ๊ก ความลับแตกซะแหล่ว" ตกลงในคืนนั้นก็มีเสียงเฮมาจากรอบกองไฟพักใหญ่ เรื่องต่อจากนั้นไปอย่างไรคนนอกอย่างผมไม่อาจทราบได้ สมาชิกบูรพาคงต้องไปสืบกันเอาเองครับ