คำตอบที่ 17
เอ้า....แบบนี้จะไปกันได้ไม๊เนี่ย....
น้ำป่าถล่มปราจีนบุรีกลืน 4 ศพ
หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลถล่มหลายพื้นที่อย่างกะทันหัน โดยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 20 ก.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอนุสรณ์ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนักท่องเที่ยว ซึ่งพักแรมอยู่ในบ้านพักป่าไม้ บริเวณน้ำตกตะคร้อ ใกล้ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ข.ญ. 10) หมู่ 8 อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากพัดสะพานขาด ทำให้นักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมจำนวน 16 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 8 คน และเด็กอีก 4 คนติดค้างอยู่ ขอให้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือด้วยหลังจากรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.ประจันตคาม นำกำลังกว่า 100 นาย พร้อมเรือท้องแบนไปช่วยเหลือ โดยใช้เส้นทางถนนสายประจันตคาม-ตะคร้อ เพื่อเข้าสู่ตัวน้ำตก แต่เมื่อเข้าไปได้แค่ครึ่งทาง ปรากฏว่าถนนถูกน้ำป่าท่วมสูงจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้ จึงต้องนำเรือท้องแบนแล่นฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากเข้าไปท่ามกลางความมืด กระทั่งใกล้ถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์ อุทยานฯ พบรถยนต์ 3 คันของนักท่องเที่ยวจมอยู่ใต้น้ำ เห็นแต่หลังคาโผล่มาเล็กน้อย
ส่วนนักท่องเที่ยวทั้งหมดพบว่าติดค้างอยู่ในบ้านพักป่าไม้ บนเกาะกลางน้ำใกล้น้ำตกตะคร้อ จึงเข้าช่วยเหลือเพื่อจะนำขึ้นเรือท้องแบน แต่ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่อนุญาตให้หน่วยกู้ภัยอพยพนักท่องเที่ยวออกไป เนื่องจากเกรงว่าในช่วงการเดินทางเข้าไปยังตัวอำเภอจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว โดยให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวว่า ระดับน้ำไม่สามารถท่วมถึงบริเวณเกาะที่ตั้งบ้านพักอย่างแน่นอน ประกอบกับนักท่องเที่ยวเป็นห่วงทรัพย์สิน เลยตัดสินใจขออยู่ต่อ ทางหน่วยกู้ภัยจึงเดินทางกลับ โดยระหว่างทางได้ ช่วยเหลืออพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงของราษฎรในท้องที่ 9 และหมู่ 10 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม ที่ถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ขึ้นไปไว้บนถนนและที่สูง
ต่อมาในช่วงเช้า วันที่ 21 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบความเสียหายบริเวณน้ำตกตะคร้อ พบว่าระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ โดยทิ้งร่องรอยความ เสียหายไว้มากมาย สะพานไม้ที่ทางอุทยานฯสร้างไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้ข้ามไปบ้านพัก และทางเดินชมธรรมชาติถูกกระแสน้ำพัดพังพินาศ บริเวณลานจอดรถเต็มไปด้วยดินโคลน ส่วนรถยนต์ของนักท่องเที่ยวทั้ง3 คัน ประกอบด้วยรถเก๋งมาสด้า 323 สีแดง ทะเบียน 9 จ-2036 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์ ทะเบียน กง 1319 ปทุมธานี และรถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์ ทะเบียน กค 7558 อุบลราชธานี ถูกน้ำท่วมจนเสียหายใช้การไม่ได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้ง 16 คนที่ติดค้างในบ้านพักอยู่ในสภาพอดโซ
ขณะเดียวกัน ได้เกิดน้ำป่าไหลเข้าท่วมรีสอร์ตและที่พักหลายสิบแห่ง ที่อยู่ติดกับน้ำตกแก่งหินเพิง ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวล่องแก่งอันดับ 1 ของจังหวัด ระดับน้ำสูง 3-4 เมตร นักท่องเที่ยวต้องรีบอพยพออกจากที่พักอย่างโกลาหล บริษัททัวร์ต่างยกเลิกการจองที่พัก ส่งผลให้ธุรกิจเสียหายหลายล้านบาท ส่วนที่หมู่ 6 บ้านคลองปลาดุกลาย ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.นาดี รับแจ้งพบศพนายนพ ล้ำแก้ว อายุ 30 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ และนางศรีไพร ศรีทาสังข์ อายุ 29 ปี ชาว จ.พิษณุโลก 2 สามีภรรยา เสียชีวิตติดคาอยู่กับรากไม้และโขดหิน ในแก่งหินเพิง สอบสวนทราบว่า ผัวเมียเคราะห์ร้ายคู่นี้ได้มาปลูกเพิงพักอาศัย และขายอาหารติดกับแก่งหินเพิง โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าพัดเพิงพักพังเสียหายทั้งหลัง กระแสน้ำหอบร่าง 2 ผัวเมียจมหายไป กระทั่งรุ่งเช้าจึงพบศพ
ส่วนที่ จ.นครนายก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ภายหลังจากน้ำป่าจากเทือกเขาใหญ่ไหล ลงสู่แม่น้ำนครนายก ทำให้ ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 3-5 ต.สาริกา และพื้นที่หมู่ 7-8 ต.หินตั้ง อ.เมืองนครนายก มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังจมอยู่ใต้น้ำ ไร่นาและสวนผลไม้เสียหายหลายหมื่นไร่ สัตว์เลี้ยงสูญหายนับร้อยตัว ในจำนวนนี้มีฝูงวัวเกือบ 30 ตัว ของนางสุภี นันทโกวัฒน์ อายุ 50ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 3 ต.สาริกา ถูกกระแสน้ำพัดหายไป นอกจากนี้ ยังมีรถเก๋งและรถปิกอัพอีก 3 คัน ถูกน้ำท่วมจมมิดคัน ส่วนบริเวณถนนสายนครนายก-สาริกา ช่วงสี่แยกประชาเกษม และถนนสายนครนายก-น้ำตกนางรอง มีน้ำท่วมทาง ระดับน้ำสูงเกือบ 30 ซม. รถทุกชนิดวิ่งผ่านได้ช้าๆ การจราจรติดขัดยาวเหยียด
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองนครนายก ได้ รับแจ้งทางวิทยุจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างอาริยะว่า มีชายไม่ทราบชื่อ 2 คน กระโดดน้ำลงไปในแม่น้ำนครนายก หลังวัดบ้านใหม่ หมู่ 6 ต.สาริกา เพื่อช่วยชีวิตลูกวัวตัวหนึ่งที่ลอยคอมากับน้ำ แต่เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากและไหลรุนแรง ทำให้ชายทั้งคู่ถูกน้ำพัดจมหายไปพร้อมกับลูกวัวตัวดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมถึงตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ร่องความกดอากาศต่ำ หรือร่องฝนพาดผ่านภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น ทำให้สภาวะน้ำหลากและน้ำล้นตลิ่ง ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังมีต่อไปอีก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังภัยธรรมชาติในระยะนี้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง เนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่น "ฉอหวั่น" กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางพื้นที่