คำตอบที่ 61
      

fiogf49gjkf0d

โฆษกคณะปฏิรูปฯวอนปชช.อย่าเชื่อใบปลิวแต่งดำประท้วง

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 11:01 น.

พล.ท.พลางกูร ชี้แจงประชาชนอย่าหลงเชื่อใบปลิวเรียกร้องให้ประชาชนแต่งกายชุดสีดำประท้วง คณะปฏิรูปฯ ต้องการให้เกิดความสับสน ยืนยันกองทัพต้องการให้เกิดความสงบโดยเร็ว

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข(คปค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวใบปลิวเรียกร้องให้ประชาชนแต่งกายชุดสีดำประท้วง

โดยเป็นการกระทำที่ต้องการไม่ให้เกิดความสงบสุขภายในประเทศ ทั้งนี้ เห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยต่อการปฏิบัติของกองทัพ แต่ยืนยันว่ากองทัพทำดีที่สุดแล้วเพื่อที่จะรักษาความสงบสุขให้เกิดขึ้นภายในประเทศชาติ

“ผมคิดว่าเป็นขบวนการที่ไม่พึงประสงค์ต่อคนไทย จึงได้พยายามออกใบปลิวสร้างกระแสให้สังคมเกิดความสับสน ทั้งนี้ผมอยากให้ประชาชนอย่าไปหลงเชื่อของคนกลุ่มนี้ เพราะเขามีจุดประสงค์ที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง” พล.ท.พลางกูร กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า การออกใบปลิวโจมตีต่อต้านการยึดอำนาจรัฐบาลของกองทัพครั้งนี้ เป็นการกระทำของ 4 แกนนำของพรรคการเมืองใหญ่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 62
      

fiogf49gjkf0d

โฆษกคณะปฏิรูปฯระบุอีก1-2 วันได้นายกฯคนใหม่

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 11:42 น.

โฆษกคปค.เผยอีก1-2วันรู้ตัวคนนั่งนายกฯ ขณะที่'อักขราทร'ปฏิเสธถูกทาบทาม ด้าน'โฆสิต'ปฏิเสธทุกตำแหน่ง หากถูกทาบทาม เชียร์'ม.ร.ว.ปรีดิยาธร'นั่งคลัง

พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ ผู้ช่วยโฆษกคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) คาดว่าการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะมีความชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ โดยหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ จะนำรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ใน 1-2 วันนี้น่าจะทราบ

สำหรับขั้นตอนการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ก็จะออกประกาศให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปฏิเสธว่า ไม่มีใครมาทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือเข้ามาช่วยงานของรัฐบาลชุดใหม่ แต่หากทาบทามมาจริง คงไม่สามารถทำหน้าที่ได้ เพราะมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติที่ธนาคารกรุงเทพและถือเป็นประโยชน์เช่นกัน ส่วนผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าใจว่า อยู่ระหว่างการคัดเลือก โดยนายกรัฐมนตรีเป็นใครก็ได้ แต่ต้องมีคุณสมบัตินำประเทศไปสู่รัฐธรรมนูญใหม่ จัดการระบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง หากผู้นำมีความรู้ด้านเศรษฐกิจก็จะเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสานต่องานจากรัฐบาลเดิม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจคงไม่มีปัญหา ซึ่งธนาคารกรุงเทพคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 4-4.5 โดยภาคการส่งออกยังเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ และคาดว่าเศรษฐกิจปี 2550 จะเติบโตประมาณร้อยละ 3-4

นายโฆสิต กล่าวถึงกรณีที่มีข่าว ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นคนมีประสบการณ์สูง เข้าใจในทุกเรื่องของเศรษฐกิจ ไม่ใช่เฉพาะด้านการเงินและธนาคารพาณิชย์

“สิ่งสำคัญในขณะนี้คือ เรื่องความสงบ หากมีความสงบเกิดขึ้น จะเป็นสิ่งที่ดี ขณะนี้ถือว่าประเทศสงบแล้วและไม่ได้ยินข่าวลืออะไร อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ปรับแผนในการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์เช่นกัน” ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าว

'อักขราทร'ปฏิเสธถูกทาบทาม

ด้านนายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าได้รับการทาบทาบจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่รอเพียงการตัดสินใจเท่านั้น ว่า ยังไม่รู้ และยังไม่มี เมื่อถามว่าได้รับการติดต่อมาแล้วจริงหรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า ตอบได้เลยว่ายังไม่มี และวันนี้ก็มีประชุมทั้งวัน งานเต็มมือ ถึงเวลาทำงานแต่ละวันก็ทำไป เมื่อถามย้ำว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา นายอักขราทร กล่าวว่า ไม่มี ถ้ามีก็บอกแล้ว เพราะเรื่องนี้มีกระบวนการทำเยอะ ตนไม่ใช่คนพูดกลับไปกลับมา ไม่มีก็คือไม่มี ถ้ามีก็บอกว่ามี

เมื่อถามว่า ถ้าถึงเวลาต้องตัดสินใจจะรับตำแหน่งหรือไม่ นายอักขราทร ย้อนถามกลับว่า ใครเป็นคนให้ตำแหน่ง บอกแล้วไม่มีคำว่าถ้า และคงบอกไม่ได้ว่าใครเหมาะสม รอให้ใครต่อใครมีความแน่นอนก่อน เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่านายอักขราทร มีความเหมาะสมเพราะเป็นนักกฎหมายมหาชน และสามารถประสานงานกับทุกฝ่ายได้ นายอักขราทร กล่าวว่า คนที่เป็นนักกฎหมายมหาชนเป็นมีจำนวนมาก และตนเป็นเพียงนักกฎหมายธรรมดา เพียงแต่ทำงานด้านนี้มานานเท่านั้น

ต่อข้อถามว่า ส่วนตัวมีความพร้อมที่จะมาทำงานรับใช้ชาติ นายอักขราทร กล่าวว่า “ผมพร้อมทุกงานอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดไม่ได้” ส่วนบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นแบบไหนนั้น นายอักขราทร กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะไม่ใช่คนแต่งตั้ง และหลายคนคงรู้แล้วว่าใครเหมาะสมกับงานในสถานการณ์ขณะนี้ ตอบไม่ได้ เดี๋ยวไม่ตรงสเปกกับคนที่จะมาเป็น แล้วจะยุ่ง เมื่อถามว่า ถ้ามีคำสั่งจริงจะยอมรับหรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้น ของสูงทำเล่นไม่ได้ ถึงเวลาก็เป็นไปตามนั้น เราก็ทำงานของเราไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดเดินทางมาถึงศาลปกครอง เมื่อเวลา 09.00 น. ตามปกติ และมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าได้ยกเลิกกำหนดการสัมมนาและตรวจเยี่ยมศาลปกครอง จังหวัดระยอง ซึ่งเดิมต้องเดินทางไปในวันนี้ (22 ก.ย.)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 63
      

fiogf49gjkf0d

"พล.อ.สนธิ" นำคณะปฏิรูปฯ รับสนองพระบรมราชโองการ

โดย matichon วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 13:33 น.

วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบก ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการออกปฏิวัติยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ซึ่งมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ซึ่งตลอดคืนที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ได้อยู่บัญชาการและพักผ่อนภายในกองบัญชาการกองทัพบก ก่อนจะเดินทางออกจากกองทัพบกในช่วงเช้าและกลับเข้ามาอีกครั้งในเวลา 08.00 น.

จากนั้น พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ที่ปรึกษาคณะปฏิรูป ฯ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข รองคณะปฏิรูปฯ และ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการคณะปฏิรูป เดินทางเข้ามาในกองทัพบก เพื่อเข้าร่วมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการ

รายงานข่าวบรรยากาศ เมื่อเวลา 09.00 น. พิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) โดยพล.อ.สนธิ และคณะ ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบขาว พร้อมรับฟังพระบรมราชโองการ โดยพล.ต.มาโนช เปรมวงศ์ศิริ เจ้ากรมสารบรรณทหารบก เป็นผู้อัญเชิญพระบรมราชโองการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่ออ่าน ความว่า


ประกาศแต่งตั้งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

พระปรมาภิไธยภูมิพลอดุลยเดช ปร.


ด้วย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ได้นำความกราบบังคมทูลว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล อันมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแบ่งฝ่าย สลายความรู้สึกรู้รักสามัคคีของคนในชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฎ ในประวัติศาสตร์ของคนในชาติไทย ประชาชนส่วนใหญ่เครือบแคลงสงสัยว่า การบริหารราชการแผ่นดิน ส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง หน่วยงานอิสระถูกการเมืองครอบงำ ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เกิดปัญหาและอุปสรรคหลายประการ และหลายภาคส่วนของสังคมจะได้พยายามประนีประนอม คลี่คลายสถานการณ์โดยต่อเนื่องแล้ว ก็ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้ คณะทหารตำรวจและพลเรือน ซึ่งมีพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้า ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองไว้ได้ และทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยแก่ประเทศ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอให้ประชาชนทั้งหลายจงอยู่ในความสงบ และให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายฟังคำสั่งพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2549 เป็นปีที่ 61 ในรัชกาลปัจจุบัน


ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

ผู้บัญชาการทหารบก



หลังอ่านพระบรมราชโองการเสร็จแล้ว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการ

จากนั้นพล.อ.สนธิ เปิดกรวยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายคำนับ เป็นอันเสร็จพิธี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 64
      

fiogf49gjkf0d

เตือนกลุ่มต้านรัฐประหารยุติ หวั่นผู้ไม่หวังดีก่อความไม่สงบ

โดย komchadluek วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 14:24 น.

นักวิชาการ แนะเครือข่ายต้านรัฐประหารอย่าเคลื่อนไหว ชี้รอดูสถานการณ์คณะปฏิรูปฯไปก่อน ระบุนายกฯเป็นใครก็ได้แต่ขอให้เร่งปฏิรูปการเมืองทันที ด้านเครือข่าย 14 ตุลาขอนแก่น หวั่นกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่อความไม่สงบในบ้านเมือง

(22กย.) นายสัมพันธ์ เตชะอธิก นักวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า จากแถลงการณ์ของเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ที่นัดแต่งชุดดำ รวมตัวกันที่ลานน้ำพุ สยามพารากอน ในช่วงเย็นวันที่ 22 ก.ย.นี้ โดยตนไม่รู้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มไหน ซึ่งอาจเป็นกลุ่มผู้สูญเสียอำนาจไปก็ได้ที่ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้

"ยอมรับว่าการรัฐประหารในครั้งนี้ต่างจากทุกคราวที่เกิดขึ้น จริง ๆ แล้วการทำรัฐประหารเราไม่มีหน้าที่ที่จะให้การสนับสนุน แต่ปัจจุบันการเมืองไทยเดินมาถึงทางตัน และวิกฤติมานาน ซึ่งการรัฐประหารในครั้งนี้มีเงื่อนไขเฉพาะ ต้องดูพฤติการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยว่าที่ทำลงไปเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือบ้านเมือง ซึ่งเท่าที่ดูทั้งประชาชน นักศึกษา และสื่อมวลชน ก็ไม่ได้ถูกอำนาจครอบงำแต่อย่างใด ต่างจากอดีตที่ใช้อำนาจครอบงำทุกอย่าง"นายสัมพันธ์ กล่าว

นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าแนวโน้มการรัฐประหารจะเป็นเพียระยะสั้น เป็นแก้วิกฤติการเมืองชั่วคราวเท่านั้น แต่ก็คงต้องติดตามคณะปฏิรูปต่อไป ถ้าทำดี กระแสคัดค้านการรัฐประหารก็ฟังไม่ขึ้น และเชื่อว่ามีเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ออกมาคัดค้าน และ เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหารก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งตนเห็นว่าน่าจะอยู่นิ่ง ๆ รอดูสถานการณ์ไปก่อน

"ตอนนี้ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สำคัญ เท่าที่ดูการวางตัวทุกคนก็มีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป แต่เพียงต้องการให้คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เร่งปฏิรูปการเมืองใหม่ แก้ไขกฏหมายรัฐธรรมนูญ สร้างรากฐานให้มั่นคง และแก้ไขการเลือกตั้งไม่ให้อยู่ในวงจรอุบาทเหมือนเดิม"นายสัมพันธ์กล่าว

++14 ตุลาขอนแก่นหวั่นผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสก่อความไม่สงบ

นายสมภพ บุนนาค เครือข่าย 14 ตุลา ขอนแก่น กล่าวว่า กับการต่อต้านของเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร ในทัศนะของตนมองว่าเป็นแรกคือสิทธิของเขา แต่ขณะเดียวกันต้องมาสิทธิที่แสดงออกมามันสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าตนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นสิทธิของเขาก็ตาม เพราะเกรงว่าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ส่งผลให้มีเหตุการณ์บานปลายในที่สุด

จากสถานการณ์ที่ผ่านมาข้อเท็จเราต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งคนอาจมองว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่จริง ๆ แล้วเป็นการฉวยโอกาสทำลายประชาธิปไตยโดยการใช้อำนาจรัฐแทรกแซง และครอบงำองค์กรต่าง ๆ ซึ่งหากเอาการเลือกตั้งมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ จะเหมือนกับการเอามือเปล่าไปสู้กับเผด็จการครบทั้งเงินและอำนาจที่จะส่งลงโทษใครก็ได้

นายสมภพ เปิดเผยอีกว่า กองทัพที่มีอารมณ์ความรู้สึกได้พิจารณาสถานภาพความเป็นจริง จึงออกมาปกป้องประเทศ และที่ผ่านมาที่ทำรัฐประหารก็อยู่ในกรอบที่รับได้ คือไม่มีการเข่นฆ่าเว้นแต่ในอนาคตจะมีการผูกขาดเหมือนเผด็จการทหารที่ผ่านมา และหากเป็นอย่างนั้นจริงอีกไม่นานคงมีการต่อต้านแน่นอน

"จริง ๆ แล้วผมไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร แต่เท่าที่ผ่านมาทุกอย่างก็เป็นปกติ และทางคณะปฏิรูปก็ออกมาประกาศว่าจะใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ผมจึงรอดูพฤติการณ์ต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพราะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น และส่งผลให้คนที่ฉวยโอกาสก่อความไม่สงบได้"นายสมภพ กล่าว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 65
      

fiogf49gjkf0d

โพลล์ชี้ ปชช.ต้องการลงโทษยึดทรัพย์รัฐบาลทักษิณ 74.5%

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 14:47 น.

ผลสำรวจเอแบคโพลล์ เสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่องความคิดเห็นและความต้องการของสาธารณชนต่อคณะปฏิรูปฯ:กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ พบควรลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุดกับรัฐบาลทักษิณ 74.5%

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ความคิดเห็นและความต้องการของสาธารณชนต่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข: กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ” ในครั้งนี้ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศทศ จำนวนทั้งสิ้น 4,250 ตัวอย่าง ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน 2549 ประเด็นสำคัญที่ค้นพบจากการสำรวจในครั้งนี้ มีดังนี้

เมื่อสอบถามความคิดเห็นของตัวอย่างกรณีความถี่ในการติดตามข่าวการเมืองโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์นั้นผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 91.1 ระบุติดตามอย่างน้อย 1-2 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่ร้อยละ 6.3 ระบุไม่ได้ติดตามเป็นบางสัปดาห์ และร้อยละ 2.6 ระบุไม่ได้ติดตามเลย

เมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามตัวอย่างต่อไปถึงความรู้สึกหลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีปฏิบัติการทางการทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลชุดก่อนได้สำเร็จนั้น ผลสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 82.7 ระบุคิดว่าการเมืองจะสงบนิ่ง ในขณะที่ร้อยละ 66.5 ระบุเศรษฐกิจจะฟื้นตัว

นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงความวิตกกังวลของตัวอย่างต่อเหตุการณ์การเมืองในขณะนี้นั้นผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 36.8 ระบุรู้สึกวิตกกังวล ซึ่งมีสัดส่วนที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจก่อนหน้าที่จะมีปฏิบัติการฯ ของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ซึ่งในครั้งนั้นมีตัวอย่างกว่าร้อยละ 62.5 ที่รู้สึกวิตกกังวลต่อเหตุการณ์การเมือง

เช่นเดียวกับสัดส่วนของตัวอย่างที่ระบุรู้สึกเครียดต่อเรื่องการเมืองและความขัดแย้งกับคนใกล้ชิดเรื่องการเมือง ที่ผลสำรวจในครั้งนี้พบว่า มีสัดส่วนลดลงจากการสำรวจก่อนหน้าปฏิบัติการของคณะปฏิรูปการปกครองฯ โดยสัดส่วนของตัวอย่างที่ระบุเครียดต่อเรื่องการเมืองลดลงจากร้อยละ 36.1 ในครั้งก่อน มาเป็นร้อยละ 26.6 จากการสำรวจในครั้งนี้ สำหรับความขัดแย้งกับคนใกล้ชิดเรื่องการเมืองนั้นพบว่ามีสัดส่วนที่ลดลงจากร้อยละ 20.2 เป็นร้อยละ 10.9

และเมื่อคณะผู้วิจัยได้สอบถามตัวอย่างต่อไปถึงความต้องการในประเด็นสำคัญต่างๆ ต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ นั้นพบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 90 ได้ระบุมีความต้องการต่อคณะปฏิรูปการปกครองฯ ในประเด็นสำคัญกว่า 10 ประเด็น ทั้งนี้ประเด็นที่พบว่าประชาชนมีความต้องการสูงที่สุดได้แก่การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการสร้างความรู้รักสามัคคีของคนในชาติในสัดส่วนที่เท่ากัน (ร้อยละ 99.4) รองลงมาคือ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ(ร้อยละ 99.1)ทำการเมืองไทยให้ใสสะอาด(ร้อยละ98.9) และการมีรัฐธรรมนูญที่ประชาชนทั่วไปอ่านเข้าใจ เข้าถึงได้ง่าย (ร้อยละ 98.6) ตามลำดับ

ผลการสำรวจของตัวอย่างต่อการยุติบทบาทการชุมชนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้นพบว่า ตัวอย่างร้อยละ87.8 ระบุเห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 3.9 ระบุไม่เห็นด้วย และร้อยละ 8.3 ไม่ระบุความคิดเห็น

ประเด็นสำคัญสุดท้ายคือความคิดเห็นของตัวอย่างกรณีการดำเนินการกับรัฐบาลชุดก่อนหากพิสูจน์พบว่ามีความผิดจริงนั้น ผลสำรวจพบว่า ตัวอย่างร้อยละ 74.5 ระบุควรลงโทษตามกฏหมายจนถึงที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 9.9 ระบุควรให้อภัย และร้อยละ 15.6 ไม่ระบุความคิดเห็น

ดร.นพดล กล่าวว่า อยากให้ประชาชนทั้งประเทศพิจารณาทบทวนดูว่า ทำไมต้องเกิดเหตุการณ์รัฐประหารทำนองนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่เกิดขึ้นก็จะมีการอ้างเหตุผลเดิมๆ คือ ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นและความเคลือบแคลงสงสัยของสาธารณชนต่อรัฐบาล ความผิดปกติและอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับการปกครองประเทศของสังคมไทยซ้ำซากเช่นนี้น่าจะมีเหตุผลสำคัญอยู่ที่ความถดถอยของคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ใหญ่ที่ขึ้นมีอำนาจในสังคมโดยเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องมากกว่าประโยชน์สุขของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้น ข้อเสนอแนะที่ค้นพบจากการวิจัยหลายครั้งที่ผ่านมาพอสรุปได้ดังนี้

ประการแรก การเข้ามาปฏิบัติการของคณะปฏิรูปการปกครองประเทศจึงควรปฏิรูปที่รากฐานทางจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนให้รับรู้ เข้าใจ มีจิตสำนึก การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นอย่างต่อเนื่องยั่งยืน

ประการที่2 คณะปฏิรูปฯ ควรมีการสานต่อนโยบายที่ดีของรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ สร้างการรับรู้และเข้าใจอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนว่า นโยบายที่ดีต่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนยังคงได้รับการสนับสนุนต่อไป เช่น การแก้ไขปัญหายาเสพติด โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การแก้ไขปัญหาความยากจน และระบบสาธารณสุขของประเทศ เป็นต้น

ประการที่3 ถ้าสถานการณ์ของประเทศสงบอย่างแท้จริง คณะปฏิรูปฯ ควรเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ได้พิจารณาโครงการพระราชดำริต่างๆ เข้าสู่นโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เช่น หลักการเศรษฐกิจพอเพียง การจัดสรรทรัพยากรและพลังงานต่างๆ ของประเทศ

ดร.นพดล กล่าวอีกว่า ปฏิกิริยาของสาธารณชนในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงจิตวิทยาที่ตอบรับต่อปฏิบัติการของคณะปฏิรูปฯ แต่จะเป็นไปในระยะสั้นเท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นๆ มารองรับสร้างความเชื่อมั่นของสาธารณชนว่ากองทัพเป็นกองทัพของประชาชนอย่างแท้จริง การเชิญอดีตรัฐมนตรีบางท่านที่เคยทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงเข้ามาร่วมรัฐบาลเฉพาะกิจด้วยเป็นสิ่งที่น่าจะพิจารณา เช่น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นต้น โดยเข้ามาเพียงเพื่อจัดระบบโครงสร้างและกลไกของรัฐให้ผ่านวิกฤติของประเทศไปได้เท่านั้น จากนั้นเปิดกว้างให้การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยเต็มรูปแบบเข้ามาได้เช่นเดิม โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การรักษาไว้ซึ่งความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนทั้งประเทศอย่างยั่งยืนบนรากฐานของวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามและเอกลักษณ์ของความเป็นคนไทย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 66
      

fiogf49gjkf0d

คณะปฏิรูปฯตั้งป.ป.ช.ชุดใหม่ 'กล้านรงค์'ร่วมเป็นกรรมการ

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 17:02 น.

คปค.ประกาศบังคับใช้กฎหมายป.ป.ช.และกฎหมายดำเนินความผิดคดีอาญานักการเมือง พร้อมตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ทำหน้าที่ 9 คน 'กล้านรงค์'ร่วมเป็นกรรมการด้วย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)ออกประกาศฉบับที่ 19 แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชุดใหม่

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สมควรปรับปรุงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 และมีผลบังคับใช้ต่อไป

นอกจากนี้ ให้งดการบังคับใช้บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการสรรหา และให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มีผลใช้บังคับต่อไป

คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหม่ประกอบด้วย

1.นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ

2.นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ

3.นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ

4.นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ

5.ศาสตราจารย์ภักดี โพธิศิริ กรรมการ

6.ศาสตราจารย์เมธี กรองแก้ว กรรมการ

7.นายวิชา มหาคุณ กรรมการ

8.นายวิชัย วิวิชเสวี กรรมการ

และ 9.นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 67
      

fiogf49gjkf0d

สตง.เตรียมชงผลสอบหุ้นชินคอร์ป ส่งป.ป.ช.ชุดใหม่

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 17:00 น.

สตง.เตรียมสรุปผลการตรวจสอบการซื้อหุ้นชินคอร์ป หลังจากเรียกสอบข้อมูลครบทั้ง 5 คนและพร้อมเชิญบุคคลภายนอกแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม โดยเมื่อได้สรุปทั้งหมดแล้ว ก็จะส่งเรื่องเพื่อให้ป.ป.ช.ชุดใหม่ดำเนินการต่อไป

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายพิสิฐ ลีลาวัชโรภาส ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบกิจกรรมพิเศษ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ สตง.ได้เชิญ นางเบญจา หลุยเจริญ รองอธิบดีกรมสรรพากร มาให้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ได้เชิญระดับผู้บริหารของกรมสรรพากรทั้ง 5 คน เช่น นาย ศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมสรรพากร นางไพฑูรย์ พงษ์เกสร รองอธิบดีกรมสรรพากร นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ซึ่งจากการได้เชิญบุคคลดังกล่าวมาให้ข้อมูล นับว่าข้อมูลประกอบการพิจารณาเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ยังรอเอกสารที่ต้องการขอเพิ่มเติมอีก รวมถึงอาจต้องเชิญ น.ส.ปราณี เวชพิทักษ์ ซึ่งเป็นบุคคลนอกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และหากสรุปได้แล้วก็จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ซึ่งกำลังดำเนินแต่งตั้งอยู่ดำเนินการต่อไป

นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเดินทางมาให้ข้อมูลว่า เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับการยื่นหนังสือถามกรมสรรพากร ของ น.ส.ปราณี เกี่ยวกับการเสียภาษีในการซื้อขายหุ้น ซึ่งได้ตอบคำถามไปเหมือนกับบุคคลทั่วไปที่ทำหนังสือมาถามสรรพากร ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน แนวปฏิบัติที่ทำมา และวันนี้เจ้าหน้าที่ สตง.ได้เข้าให้กำลังใจ และรับฟังนโยบายการทำงานจาก นางจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจสอบดังกล่าวเนื่องจากการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำนวน 1,157 ล้านหุ้น(เฉพาะในส่วนที่มีชื่อในครอบครัวชินวัตร-ดามาพงศ์ ไม่รวมในนอมินี) ให้แก่กองทุนเทมาเสกของสิงคโปร์ในราคาหุ้นละกว่า 50 บาท มูลค่ารวมประมาณ 70,000 ล้านบาท ผู้ที่เคยซื้อหุ้นมาราคาพาร์เพียงหุ้นละ 1 บาท จากพ.ต.ท.ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน ได้แก่ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่บุญธรรมคุณหญิงพจมาน จำนวน 268 ล้านหุ้น (แตกพาร์แล้ว) นายพานทองแท้ ชินวัตร 733 ล้านหุ้น, นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 20 ล้านหุ้น หรือแม้แต่น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ซื้อหุ้นต่อมาจากนายพานทองแท้ 367 ล้านหุ้น ในราคา 1 บาท จะต้องเสียภาษี "ส่วนต่าง" ราคาหุ้นที่ซื้อต่ำกว่า ราคาตลาดหรือไม่

โดยกรมสรรพากรได้ยืนยันหลายครั้งว่า การซื้อขายหุ้นกันระหว่างเครือญาติชินวัตรในราคาต่ำกว่าราคาตลาดนั้นไม่ต้องเสียภาษี เพราะการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ถือไม่ได้ว่า ผู้ซื้อได้รับประโยชน์จากการโอนหุ้น ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน ซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (4) (ช) ตามประมวลรัษฎากร เนื่องจากยังมิได้ก่อให้เกิดรายได้แก่ผู้ซื้อแต่ประการใด จนกว่าผู้ซื้อจะได้ขายหุ้นดังกล่าวไปโดยได้รับผลประโยชน์ ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าเงินที่ลงทุนนั้น สตง.จึงต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 68
      

fiogf49gjkf0d

ทหารล็อกตัว'พายัพ ชินวัตร' คาสนามบินเชียงใหม่

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 17:10 น.

ทหารล็อกตัว'พายัพ ชินวัตร'คาท่าอากาศยานเชียงใหม่เข้าค่ายทหาร ขณะที่โฆษกคปค.ปฏิเสธข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.ย. เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนายพายัพ ชินวัตร อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย เขต 2 จ.เชียงใหม่ หลังจากเดินทางด้วยสายการบินไทยจากกรุงเทพฯ มายังท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่เที่ยวบินทีจี 932 โดยเจ้าหน้าที่ได้รอควบคุมตัวนายพายัพตั้งแต่บันไดลงเครื่องบิน

จากนั้นได้ควบคุมตัวออกประตูผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศเช่นเดียวกับผู้โดยสารคนอื่นๆ โดยนายพายัพมีสีหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงบริเวณด้านนอกอาคารเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นรถเมอซิเดสเบนซ์ที่มารอรับ แต่ให้นั่งไปกับรถตู้ที่ทหารจัดไว้รอรับ โดยนายพายัพยินยอมที่จะนั่งรถตู้ออกไปโดยมีรถฮัมวี่ติดปืนกลปิดหัวท้ายรถตู้

รายงานแจ้งว่าทหารได้นำตัวนายพายัพไปยังมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ. เชียงใหม่ โดยคาดว่าจะมีการชี้แจงถึงนโยบายของคณะปฏิรูปฯ โดยไม่มีการระบุว่าจะกักตัวไว้ หรือจะปล่อยให้กลับบ้าน

อย่างไรก็ตาม พล.ท.พลางกูร กล้าหาญ โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองฯ ปฎิเสธกระแสข่าวการจับกุมหรือควบคุมตัวนายพายัพ ชินวัตร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นน้องชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 69
      

fiogf49gjkf0d

'ผบ.ตร.'ตั้ง ก.ตร.ใหม่เตรียมล้างบาง'เด็กทักษิณ'

โดย Bangkokbiznews วัน ศุกร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 17:33 น.

ผบ.ตร. ตั้งก.ตร.ใหม่ พร้อมเตรียมแต่งตั้งนายตำรวจระดับนายพลล้างบางเด็ก"ทักษิณ" ขณะที่บรรดานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าพบ ผบ.ตร. ด้วยหน้าตาเคร่งเครียด

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : (22ก.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 17 ลงวันที่22 กันยายน

เรื่องมอบอำนาจบริหารราชแผ่นดินโดยให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร. )มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งในหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรี

แทนหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ รวมทั้งมีคำประกาศคณะปฏิรูปฯฉบับที่ 18 เรื่องการยกเลิกตำแหน่ง คณะกรรมการ ก.ตร.และ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ ก.ตร.ใหม่โดยให้ ผบ.ตร.เป็นประธาน รอง.ผบ.ตร.2 คนเป็นกรรมการ และกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน นั้น

มีรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงถึงบ่าย วันเดียวกัน ได้มีบรรดานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.โกวิท ที่ห้องทำงานชั้น 5 อาคาร 1 เป็นจำนวนมาก

อาทิ ในเวลา 13.40 น. พล.ต.ท.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ผบช.สตม. เดินทางเข้าพบนานประมาณ 5 นาที ก่อนกลับออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

ต่อมาเวลา 15.00 น . พล.ต.ท.ถาวร จันทรยิ้ม ผบช.ส. เดินทางเข้าพบนานประมาณ 5 นาที ซึ่งในระหว่างนั้น ผบ.ตร.ได้เรียก พ.ต.อ.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ รอง.ผบก.กพ. เข้าพบ คาดว่าจะเป็นการสั่งการเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย

เนื่องจาก พ.ต.อ.นิทัศน์ ได้หอบแฟ้มบัญชีรายชื่อนายตำรวจที่คาดว่าน่าจะได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาเสนอ ผบ.ตร. และ อาจจะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายตำรวจระดับ รอง.ผบ.ตร.จนถึง ผบช.ทั่วประเทศแม้ก่อนหน้านี้ได้พิจารณาแล้วเสร็จไปแล้ว

ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการปรับเปลี่ยนนายตำรวจที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปจากตำแหน่งสำคัญๆ

ส่วนบรรยากาศทั่วไปในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังจากมีคำสั่งโยกย้าย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง.ผบ.ตร.ปป. พี่ชายภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสำนักงาน ได้เก็บข้าวของส่วนตัว รวมทั้งเอกสารของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ลงในกล่องหลายใบก่อนที่จะขนย้ายออกไป โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไม่ได้เดินทางมาที่สำนักงาน

ก่อนหน้านี้ในเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผช.ผบ.ตร. เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานชั้น 8 อาคาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามปกติ โดยไม่มีทีท่าว่าจะขนย้ายข้าวของในสำนักงานออกไปแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีรายงานอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.เป็นต้นไป ในเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.โกวิท ต้องเดินทางไปร่วมประชุมกับคณะปฏิรูปฯที่ กองบัญชาการกองทัพบก พร้อมกับร่วมรับประทานอาหารก่อนที่จะกลับมาทำงานที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำหรับรายชื่อ คณะกรรมการ ข้าราชการตำรวจ ก.ตร.ใหม่ที่คาดว่าอาจจะได้รับการแต่งตั้ง ประกอบด้วย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เป็นประธาน ก.ตร. ส่วนกรรมการประกอบด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง.ผบ.ตร. พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ รอง.ผบ.ตร.

พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมศักดิ์ แขวงโสภา ผบช.ตชด. พล.ต.ท.นพ.นุกูล เจียมอนุกูลกิจ พตร. พล.ต.ท.ภิรมย์ บุญรอดพานิช อดีต.ผบช.ส.ก.ตร. พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุปผาสุวรรณ อดีต ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ท.อุดลย์ แสงสิงแก็ว ผบช.ภ.9.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ได้กันให้สื่อมวลชนออกจากหน้าห้อง ทำงานของ ผบ.ตร.โดยมีการปิดประตูทางเข้า

ซึ่งคาดว่า ผบ.ตร.จะเรียกประชุม รอง.ผบ.ตร.ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น คณะกรรมการ ก.ตร. ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกคณะกรรมการ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 6 คนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากประชุมที่สำนักงาน ผบ.ตร.ชั้น 5 ได้ประมาณ 1 ชม. ทั้งหมดก็ได้ย้ายขึ้นไปประชุมที่สำนักงานผบ.ตรชั้น 7

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 70
      

fiogf49gjkf0d

การเมืองมันร้อน หนูขอเป่าให้เย็นๆหน่อย อย่าว่ากันนะคะ พอรับได้มั๊ยแบบนี้อ่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย