คำตอบที่ 12
fiogf49gjkf0d
ไม่อยู่ศปภ.สั่งเปิดประตูน้ำ/กทม.-4จังหวัดจ่อจม48ชม.อันตราย
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2554 01:50:20 น.
ปทุมฯ-นนท์-นครปฐม-สมุทรสาครอ่วม
รัฐบาลปรับแผนระบายผ่านท่าจีนออกทะเล
สุขุมพันธุ์เตือน7เขตเสี่ยงภัยรีบเก็บของ
เฝ้าระวังพิเศษ24ชั่วโมงสายไหม-บางเขน
บางบัวทอง-รังสิตสาหัสหนัก-มิดทั้งเมือง
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ 7 เขตอันตราย เก็บของ ขึ้นที่สูงและเตรียมรอรับฟังข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหากมีความจำเป็นต้องประกาศให้อพยพ เนื่องจากสถานการณ์ น้ำเหนือที่ไหลบ่าเข้ามาประชิด กทม. เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติมากขึ้นเรื่อยๆ
น้ำ1.2พันล้านลบ.ม.รอถล่มกรุง
โดยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ตุลาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. แถลงว่า กทม.ได้รับแจ้งจาก ศปภ.ว่า ปริมาณน้ำในคลอง 2-6 ซึ่งอยู่ในเขตแนวประชิดพื้นที่รอบนอก กทม. ได้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มเติม ทำให้ ปริมาณน้ำในคลองต่างๆ ของ กทม. เพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยสถานการณ์ขณะนี้จะมีปริมาณน้ำกว่า 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากตอนเหนือของกทม. ไหลผ่านเข้ามายังทุ่งรังสิต ซึ่งรับน้ำได้เพียง 400 ล้าน ลบ.ม. เท่านั้น
เตือน7เขตอันตรายน้ำท่วม
สถานการณ์ดังกล่าวจึงอาจกระทบต่อคันกั้นน้ำตะวันออก ทำให้น้ำท่วมพื้นที่ 7 เขต ได้แก่ สายไหม บางเขน คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และคันนายาว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท จึงขอให้ประชาชนทั้ง 7 เขต เตรียมขนย้ายสิ่งของไปยังที่สูง
ไม่ถึงขั้นอพยพ-ให้ติดตามใกล้ชิด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวอีกว่า การแจ้งเตือนครั้งนี้ ถือเป็นการเตือนครั้งแรกของ กทม. แม้จะยังไม่รุนแรงถึงขั้นอพยพ แต่ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดผ่านทาง www.bangkok.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกทม.จะประชุมประเมินสถานการณ์และแถลงข่าวให้แก่สื่อมวลชนเพื่อแจ้งประชาชนทราบ ทุก 3 ชม. ถึงแม้จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงก็ตาม
เพิ่มความสูงแนวกั้นคลองหกวา
ต่อมาเวลา 13.30 น. ซึ่งครบ 3 ชั่วโมงจากการแถลงครั้งแรก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ แถลงข่าวเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างเดินทางไปโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 เขตสายไหม เพื่อให้กำลังใจอาสาสมัครที่กำลังเร่งมือบรรจุกระสอบทรายสร้างแนวกั้นที่คลองหกวา ว่า กทม. วางกระสอบทรายได้ตลอดแนว 6 กิโลเมตรของคลองหกวาแล้ว จากนี้จะเสริมความกว้างเป็น 3 แถว และเพิ่มความสูงอีก 1 เมตร ให้เป็น 3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งมีความจำเป็นต้องปิดถนน จึงประสาน สน. สายไหม และสำนักงานเขตให้ประชาสัมพันธ์ แก่ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ
อพยพ200ครัวเรือนนอกแนวกั้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ผอ.เขตสายไหมไปทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมคลองหกวาประมาณ 200 ครัวเรือน ให้อพยพออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยให้อพยพไปที่ศูนย์อพยพ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 และโรงเรียนสายไหม ซึ่งสามารถ รองรับผู้อพยพได้กว่า 1,000 คน
ย้ำ7เขตรอฟังข่าวสารใกล้ชิด
สำหรับประชาชนใน 7 เขต พื้นที่เสี่ยง ที่ได้ประกาศเมื่อเช้านี้ ขอแนะนำให้เก็บข้าวของขึ้นที่สูง นำรถยนต์ไปจอดในที่ที่ปลอดภัย แต่ไม่ได้ประกาศให้อพยพ หากต้องมีการอพยพจะประกาศให้เตรียมตัวล่วงหน้าให้เร็วที่สุด ยืนยันว่า น้ำที่จะเข้ามาใน กทม. จะแตกต่างกับต่างจังหวัดอื่นเนื่องจากสภาพพื้นที่ ที่ไม่เหมือนกันทำให้กทม.สามารถประเมิน สถานการณ์ได้ล่วงหน้า
น้ำถึงคลองรังสิตคืนพฤหัสฯ
ต่อมาเวลา 16.47 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์เป็นครั้งที่ 3 ว่า มวลน้ำจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครจะมาถึง กทม. ก่อน แล้วตามด้วยจากคลองรพีพัฒน์ โดยในขณะนี้คาดว่า มวลน้ำจะมาถึงคลองรังสิตคืนวันพฤหัสบดี และลงคลองหกวาวันศุกร์นี้ ดังนั้น กทม. จึงขอโยกย้ายประชาชนริมน้ำ นอกคันกั้น 200 ครอบครัว และประชาชน แถบคลองสองอีก 1,200 ครัวเรือน เข้าศูนย์อพยพที่เขตสายไหม จัดไว้ให้ภายในวันที่ 20 ตุลาคม
เรื่องถุงกระดาษเข้าใจไม่ตรงกัน
ส่วนกรณีถุงกระสอบทรายกระดาษที่รัฐบาลส่งมาให้นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ถุงกระดาษที่พบนั้น ขอให้นึกภาพว่า กระสอบทราย ที่รัฐบาลให้มาต้องเป็นแบบของ กทม. เมื่อเห็นเป็นถุงกระดาษก็ตกใจ คงต้องปรับความเข้าใจ ให้ตรงกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เราจะเก็บไว้สำรองก่อนเผื่อทำแนวกั้นที่ 3 แต่เมื่อใดที่นำไปใช้จะต้องมั่นใจว่ามีคุณภาพ
หญิงหน่อยโผล่ศปภ.ดูน้ำท่วม
ด้านความเคลื่อนไหวของศูนย์ปฏิบัติการ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ท่าอากาศยาน ดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. พร้อมด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะที่ปรึกษา ผอ.ศปภ. ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสถานการณ์น้ำที่บริเวณคลองรพีพัฒน์ คลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลอง 1-12 และคลองหกวา สายล่าง
ถกปูด่วนเปลี่ยนแผนระบายน้ำ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ทั้งหมด เดินทางกลับมาถึง ศปภ. พล.ต.อ.ประชา จึงแจ้งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายก รัฐมนตรี เพื่อขอประชุมด่วนถึงแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำ โดยรายงานข่าวแจ้งว่า จุดประสงค์ของการขอหารือด่วนครั้งนี้ เพราะต้องการขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปลี่ยนมาตรการ ระบายน้ำทันที หากไม่ทำภายใน 1 วัน จะไม่สามารถป้องกันพื้นที่ชั้นในเอาไว้ได้
แฉก้อนน้ำมหึมารอถล่มแนวกั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำที่เข้ามาประชิด กทม. เริ่มเข้าขั้นวิกฤติอย่างหนัก โดยมีปริมาณน้ำที่ค้างอยู่ในทุ่งรังสิต ทุ่งบางปะอิน พื้นที่รอยต่อพระนครศรีอยุธยา-ปทุมธานี-กทม. อย่างน้อย 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแนวคันกั้นน้ำตามคลองต่างๆ ไม่สามารถรับแรงน้ำจำนวนมหาศาลขนาดนี้ และคันกั้นน้ำจะพังลง เกือบทุกจุด เพราะการระบายน้ำเป็นไปได้ช้า
คลองใกล้ล้นประชิดด่านสุดท้าย
นอกจากนี้ จากการบินสำรวจยังพบว่า ปริมาณน้ำในแต่ละคลองอยู่ในสภาพเกือบล้น ต่ำกว่าแนวคัดกั้นคลองอยู่เฉลี่ยเพียง 30 ซม.เท่านั้น ส่วนที่บริเวณคลองรพีพัฒน์ก็ยังมีจุดแตกรั่วเป็นระยะแห่งละ 30-70 เมตร ซึ่งแม้หน่วยทหารจะพยายามเข้าไปซ่อมแซม แต่ก็ถูกชาวบ้านออกมาขัดขวาง เพราะต้องการ ให้มีการระบายน้ำออกจากพื้นที่ของตัวเองที่สูงเกือบ 4 เมตร
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่คลอง 1-12 รังสิตใต้ ก็พากันออกมาปักหลักรวมกลุ่มต่อต้าน การเปิดประตูระบายน้ำของกรมชลประทาน ทำให้สามารถเปิดประตูระบายน้ำคลอง 3 คลอง 4 และคลอง 8 จนส่งผลกระทบไปถึงระดับน้ำที่คลอง 6 ที่เอ่อสูงเลยคันคลองและไหลเข้าท่วมพื้นที่รังสิต-องครักษ์ รวมทั้งมีน้ำบางส่วนไหลเข้าไปใกล้บริเวณโรงเรียน ฤทธิยะวรรณาลัย 2 ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ กทม. ใช้เป็นจุดบรรจุกระสอบทรายสร้างแนวกั้นน้ำบริเวณคลองหกวาสายล่าง อันเป็นปราการด่านสุดท้ายก่อนที่น้ำจะทะลักเข้าสู่ กทม.
หน่อยชี้ยิ่งกั้นยิ่งเพิ่มแรงดันน้ำ
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า เท่าที่ดูสถานการณ์เห็นว่า การระบายน้ำทำได้ยาก และอาจต้องให้ผลักดันออกทะเลตามแนวทางเดิม เพราะการทำคันกั้นน้ำไว้เป็นบล็อกๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ จะยิ่งเพิ่มแรงดันน้ำมากขึ้น ส่งผลให้น้ำทะลุตรงกลาง อาจท่วมเข้าถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัย สมรภูมิ ได้ในเวลาไม่นาน
ชงดันน้ำเข้านครนายก-แปดริ้ว-กทม.
ดังนั้น จึงเสนอให้ผันน้ำออกไปทาง จ.นครนายก และ ฉะเชิงเทรา รวมถึง กทม. ก็ต้องยอมรับน้ำบางส่วนเข้ามา เพื่อแบ่งเบาภาระและเฉลี่ยปริมาณน้ำ ทำให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วม จะมีน้ำท่วมไม่สูงถึง 3-4 เมตร ซึ่ง พล.ต.อ.ประชา เห็นด้วยกับแนวทางนี้ และจะนำไปหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า จะตัดสินใจอย่างไร
ชี้ขืนปล่อยไว้เจอน้ำก้อนใหญ่ตีแน่
ดิฉันมาวันนี้ ก็มาช่วย ไม่ได้รับ คำสั่งจากใครมา แต่ก็ยอมรับว่ามีคำแนะนำมา จากหลายที่ ซึ่งต้องนำมาดำเนินการช่วยกันระดมสมองให้ระบายน้ำออกไป เพราะน้ำจำนวนเป็นหมื่นกว่าล้านลูกบาศ์กเมตร จะต้องหาทางระบายออกทะเลให้เร็วที่สุด จะให้มากองไว้พร้อมจะโจมตีเข้ากรุงเทพฯได้อย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ต้องปล่อยน้ำผ่านกทม.ลงทะเล
พล.ร.อ.เกาะหลัก เจริญรุกข์ รองประธานคณะกรรมการระบบเตือนภัยแห่งชาติ ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมด้วย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้รัฐบาลต้องตัดสินใจว่า จะระบายน้ำจำนวนมหาศาลที่กองอยู่เหนือ กทม. อย่างไร และต้องระบายลงทะเลทันที เพราะธรรมชาติของน้ำต้องไหลลงทะเล แต่รัฐบาลกลับไปกั้นไว้ เหมือนไปเพิ่มแรงน้ำให้อาละวาดได้มากขึ้น ยิ่งกั้นมากเท่าไรแรงก็ยิ่งมาก ก็ยิ่งกลายเป็นสึนามิที่พุ่งเข้าโจมตี กทม. ที่ผ่านมา ก็เห็นอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเอาอะไรมากั้น น้ำก็โจมตีได้หมด ดังนั้นนายกฯต้องตัดสินใจได้เลยว่า ให้ปล่อยน้ำระบายผ่านกทม.ไปลงทะเลไปเลย เพราะความจริงแล้ว กทม. คือ ทางผ่านของน้ำเหนือที่จะออกไปสู่ทะเล
ปูดแม้วไม่แฮปปี้น้องแก้ปัญหา
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสาเหตุที่ คุณหญิงสุดารัตน์ และทีมงานคนอื่นๆ ต้องเข้ามาช่วยงาน ศปภ. ครั้งนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เริ่มไม่พอใจการบริหารงานรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ไม่สามารถ บริหารจัดการปัญหาได้ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ก็ทำงานโดยไม่มีความชัดเจน จึงสั่งการให้มีคนเข้ามาช่วยดูแลโดยด่วน
ปูอ้อมแอ้มรับศปภ.สุดมั่ว
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 11.15 น. ถึงกรณี นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่าน้ำจะทะลักเข้ามาท่วมเขตดอนเมืองสูง1-2 เมตร ว่า ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน ยังไม่อยากให้ ประชาชนตื่นตระหนก แต่ต่อไปจะมีการเตือนภัย อย่างเป็นทางการ โดยศปภ.จะปรับปรุง ทำเป็นแถลงการณ์มีรายละเอียดชัดเจน เพื่อ ไม่ให้ประชาชนสับสน
โอดคนเยอะต่างคนต่างพูด
เมื่อถามว่า วันนี้ประชาชนไม่เชื่อถือข้อมูลของ ศปภ. แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ขอน้อมรับในเรื่องนี้ และต้องขอความเห็นใจ เพราะเป็นการทำงานรวมหลายองค์กร บางครั้งจากการพูดคุยกันและมุมมองความตื่นตระหนก ของแต่ละคน อาจทำให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร แล้วตกใจ ซึ่งเราจะปรับปรุงให้มีการแถลงการณ์ เป็นทางการ
เริ่มเปิดประตูคลอง1-6แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการแก้ปัญหาน้ำ นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เรื่องการเปิดประตู ระบายน้ำคลองรังสิต 1-6 ขณะนี้มีการเปิดแล้ว จึงต้องพยายามรักษาแนวคลองรังสิตทั้งหมด โดยขอร้องประชาชนอย่าพังแนวกั้นน้ำหรือกระสอบทรายออก ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถควบคุมผลกระทบได้
ซักว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่าแนวกั้นสามารถรับน้ำได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เราจะพยายามทำแนวกั้นเป็นระยะ เพื่อรองรับ เรื่องนี้มันเป็นปัญหาที่มากจริงๆ อีกทั้งน้ำก็มีมาก ซึ่งเรากำลังหารือถึงการป้องกัน เรื่องนี้เป็นธรรมชาติของน้ำที่มามากกว่าทุกปี หากระบายไปทางใดก็จะเกิดปัญหา
ไม่ยอมบอกน้ำมาแค่ไหน
ที่ทำการของ ศปภ. จะรอดพ้นจากน้ำท่วมหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และเชื่อว่ายังป้องกันศูนย์นี้ได้ ยังไม่จำเป็นต้องย้ายศูนย์
เมื่อถามว่า น้ำที่จะทะลักเข้ามาในกทม.มีระดับสูงเท่าใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ทีมงานกำลังหารืออยู่ ซึ่งระดับของน้ำขึ้นอยู่กับพื้นที่และจะขอแจ้งอีกครั้ง หากบอกไปตอนนี้แล้ว นำไปประยุกต์หมดเราก็เหนื่อย และมีปัญหาขึ้นมาอีก
ปัดปิดบังความจริงประชาชน
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า วันนี้น้ำท่วมรอบเมืองแล้ว ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลต้องพูด ความจริง และแจ้งเตือนประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เราพูดความจริงและไม่ได้ปิดบังประชาชน เราทำทุกวิถีทาง แต่ต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นวิกฤติใหญ่ของประเทศ ลำพังคนเดียวเราทำไม่ได้ เราต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน วันนี้เราต้องเอาเกมการเมืองออกไป ต้องทำเพื่อแก้ปัญหาประชาชน
โบ้ยข้อมูล2แหล่งไม่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำอีกครั้งว่า ปริมาณน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่กทม.จะมีปริมาณเท่าไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก ต้องขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบ เพราะเราเองยังไม่รู้ว่าการพยากรณ์อากาศของพายุลูกใหม่จะเป็นอย่างไร แต่วันนี้เราได้แหล่งข้อมูลมา 2 ข้อมูล และไม่ตรงกัน ซึ่งเรา ก็พยายามหาผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเรื่องน้ำมาหารือร่วมกัน เพราะบางครั้งก็ได้ข่าวว่าพายุลูกใหม่จะมาอีก แต่บางท่านก็บอกว่า ไม่มา วันนี้ไทยยังไม่มีระบบการประมาณการ ที่แม่ยำ
จุกอก!น้ำตาคลอเจอไล่เบี้ยหนัก
เมื่อถามว่า แสดงว่ากรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ไม่แม่นใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี และเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า พร้อมกับกลืนน้ำลายก่อนกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยว่า ไม่ใช่ แต่มาจากหลายแหล่งข้อมูล ถ้าคุยอย่างนี้ ต้องขอความกรุณาสื่อมวลชน ถ้าท่านถามแบบนี้มันยิ่งทำให้ไม่เกิดประโยชน์ ต้องขอจริงๆ ถ้าถามแบบนี้เราควรจะนั่งคุยพร้อมกับผู้ที่มีความรู้ ดิฉันเป็นผู้ที่มารับหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ประสานงานทุกหน่วยงาน
ดังนั้นเราควรจะคุยกันพร้อมกับผู้ที่มีความรู้และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ขอความกรุณาดิฉัน อาจไม่สามารถให้ข้อมูลสื่อมวลชนได้ครบ เพราะเกรงว่า การสื่อสารในมุมที่มองจากความ รู้สึกส่วนตัว หรือจากการสัมผัสจะทำให้ประชาชน ขาดความมั่นใจและไขว้เขว อันนี้ขอความกรุณา ดิฉันคงไม่สามารถให้ข้อมูลตรงนี้ได้ จะขอให้ข้อมูลที่เป็นทางการเท่านั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ปัดหนีไปดูคอนเสิร์ตYanni
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังได้ปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่ลือสะพัดในเครือข่าย โซเชียลเนตเวิร์กว่า เมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาไปดูคอนเสิร์ต ของศิลปินชื่อก้องโลก ยานนี (Yanni) ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยระบุว่า ช่วงเวลาระหว่างนี้ต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับประชาชน ไม่ได้ไปงานบันเทิงอื่นเลย แม้แต่ทานข้าวนอกบ้านก็ไม่ได้ไป
โทรโข่งปัดวางยาส่งถุงกระดาษ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ศปภ.ส่งกระสอบกระดาษไปให้บรรจุทรายว่า ความจริงกระสอบกระดาษที่ด้านในเป็นพลาสติกโพลิเอสเตอร์ ศปภ. ยังไม่ได้จัดส่งไปให้ กทม. ซึ่งการที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บอกว่า ไม่อยากคิดว่า รัฐบาลจะวางยานั้น ขอบอกว่าท่านคิดถูก และจะถูกยิ่งขึ้น ถ้าท่าน นำไปคิดต่อว่า รัฐบาลไม่ได้เอ๋อ ที่คิดจะไปวางยาใครในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
โวยงบ5หมื่นล.ถุงทรายยังต้องขอ
ความจริงหลายคนก็สับสนกับหลักคิด ของท่านผู้ว่าฯ ที่แต่ละปี กทม. มีงบประมาณ เกือบ 5 หมื่นล้านบาท ตั้งใจจะทำแค่ติด กล้องดัมมี่ กับเก็บโฟมคืนลอยกระทงแค่นั้นหรือ ไม่มีศักยภาพอะไรเพิ่มเติม เพื่อป้องกันน้ำท่วมเลยหรือครับ แค่จะหาถุงทราย ยังต้องแบมือขอจากรัฐบาล ขอเรียนว่า ถ้าน้ำท่วม กรุงเทพฯ ท่านต้องร่วมรับผิดด้วย ไม่ใช่รับชอบ อย่างเดียว นายอนุสรณ์ กล่าว
ทำเนียบระทึกรับมือน้ำทะลัก
ส่วนสถานการณ์น้ำและการป้องกันน้ำท่วมกทม.ชั้นในของหน่วยงานต่างๆ นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ฝ่ายสำนักสถานที่และรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วนในวันที่ 20 ตุลาคม เพื่อเตรียมความพร้อม ในการรับมือน้ำ ที่อาจทะลักเข้ามาในกทม.ชั้นในโดยผ่านคูคลอง และท่อระบายน้ำ เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลอยู่ติดกับคลองเปรมประชากรพอดี
ทบ.วางแผนย้ายกองบัญชาการ
เช่นกันกับ กองทัพบก พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบก มีแผนการเตรียมการสำหรับเหตุน้ำท่วมไว้ 2 ขั้นตอน คือ ให้รักษาพื้นที่กองทัพบก โดยวางกระสอบทราย รถดูดน้ำไว้รอบๆ จุดที่เสี่ยง แต่หากน้ำมีปริมาณมากจนไม่สามารถที่จะกู้กองทัพบกกลับมาได้ เรามีแผน สำรองโดยการย้ายกองบัญชาการกองทัพบกไปยังสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี เป็นการชั่วคราว เพราะมีความกว้างขวางอยู่สูง น่าจะสามารถ รองรับน้ำได้
ทอ.ยันไม่ย้ายกองบัญชาการ
ด้านพล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า เรามีแผนเชิญเหตุรองรับอยู่แล้ว เราประมาณว่าน้ำอาจจะท่วมกองบัญชาการกองทัพอากาศประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะกินพื้นที่ชั้นหนึ่ง แต่ตัวกองบัญชาการยังมีชั้น 2 และ 3 อยู่ โดยอาจจะให้เจ้าหน้าที่ย้ายไปทำงานชั้นบน แต่หากเกินกำลังไม่สามารถ ทำงานได้จะพิจารณาเป็นส่วนๆไป ส่วนห้องทำงาน ผบ.ทอ. คงไม่มีปัญหาเพราะท่าทำงานอยู่ชั้น 2-3 โดยเรามีวิธีการที่จะนำมา ผบ.ทอ. ขึ้นไปได้หากน้ำท่วมชั้นล่าง
มธ.ยืนยันไม่ปิดศูนย์อพยพ
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า น้ำยังไม่ท่วมภายในบริเวณมหาวิทยาลัยอย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัย ได้เตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างถึงที่สุด โดยมีแนวป้องกันน้ำที่อาจจะเข้าท่วมด้านหลังมหาวิทยาลัยสูงถึง 6 เมตร และแม้น้ำจะเข้ามาท่วมภายในมหาวิทยาลัย ก็จะไม่มีการปิดศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย และจะไม่มีการอพยพผู้ประสบภัยออกไปที่อื่น โดยเตรียม แผนสำรองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
พิษข่าวลือทำอาสาสมัครหาย
นายปริญญากล่าวต่อว่าสำหรับอาสาสมัครที่มาช่วยงานภายในศูนย์นั้น ขณะนี้มีจำนวนน้อยลง เนื่องจากน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่รังสิตและบริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัย ทำให้การเดินทางมาลำบาก ประกอบกับมีข่าวลือผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่า มีอาสาสมัคร ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้ผู้มีจิตอาสาหลายคนเกิดความไม่มั่นใจ ทั้งนี้ทางศูนย์พักพิงยังต้องการให้นักศึกษาและประชาชน ผู้มีจิตอาสาเป็นจำนวนมาก มาเป็นอาสาสมัคร ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสามารถเดินทางมา ได้ด้วยเส้นทางถนนพหลโยธิน โดยวิ่งเส้นตรงกลาง และเลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัยทางประตู เอไอที
นวนครวุ่น!ปชช.เร่งขนสัมภาระ
ด้านความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วม นิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งล่วงเข้าสู่วันที่ 3 แล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แทบจะเรียกได้ว่าเขตเศรษฐกิจแห่งนี้เสียหายยับเยินเกือบ 100% ระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 1 เมตร และบรรยากาศ ตลอดช่วงเช้ายังสับสนอลหม่านเนื่องจากคนงาน ส่วนหนึ่งยังอพยพออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ส่วนหนึ่งต้องการเข้าไปเก็บสัมภาระภายในนิคม หลังหนีเอาตัวรอดออกมาเมื่อสองวันก่อน
บิ๊กซี-โลตัสรถจมน้ำนับสิบคัน
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าบริเวณโดยรอบ นวนครทั้งบิ๊กซี โลตัส ระดับน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง บางจุดสูงเกือบ 2 เมตร รถยนต์หลายสิบคันที่จอดไว้บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าจมน้ำ ส่วนผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 100 ราย ต้องการเข้าไปเก็บสัมภาระด้านใน แต่ไม่สามารถทำได้ ต้องปล่อยให้จมน้ำ
คลองรพีพัฒน์วิกฤติเร่งอพยพ
ส่วนสถานการณ์คลองรพีพัฒน์แตกตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมานั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ และกระแสน้ำยังได้ทำให้พนังกั้นน้ำพังเพิ่มเป็น 120 เมตร แล้วจากเดิม 40 เมตร ขณะที่องค์การ บริหารส่วนตำบล เร่งอพยพประชาชนที่ติดค้าง อยู่ภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระบุว่า การกู้พนังกั้นน้ำดังกล่าวเป็นเรื่องยาก เนื่องจาก กระแสน้ำรุนแรง
คันดินกั้นคลอง5แตกยาวกว่า100ม.
นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ. ปทุมธานี เผยว่า การซ่อมแซมคันกันน้ำคลอง 3-4-5-6 ซึ่งพังตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ยังไม่คืบหน้ามากนักเพราะกระแสน้ำเชี่ยวมาก ตอนนี้คลอง 5 คันกั้นพังเพิ่มไปอีก 100 เมตร อีกทั้งคันกั้นก็สูงร่วม 2 เมตร หากขนเครื่องมือหนักเข้าไปอีกเกรงว่าจะพังทลายลงมาทั้งหมด แต่ถ้าไม่ปิดเลยก็เสียหาย มาก ก็ต้องเสี่ยงดู
ทะลักเข้าท่วมรังสิต-เซียร์จมแน่
ขณะนี้น้ำในคลองรพีพัฒน์สูงมาก ต้องเอาคนออกมาก่อนเพราะมีคนติดมาก ตอนนี้นำไปพักอยู่ที่โรงเรียนทีปังกร ที่คลอง 5 จุดนี้น้ำก็จะลงมาที่ธัญบุรี และเข้ามาช่วงรังสิต ตอนนี้หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี น้ำก็ เต็มไปหมดแล้ว และยังกังวลน้ำจากวังน้อยที่จะเข้ามา ตอนนี้หน้าเซียร์ รังสิต ท่วมแล้ว ถนนคลองหนึ่ง คลองสอง ของคลองหลวง ก็ท่วมหมดแล้วนายชาญ กล่าว
ตชด.เร่งอพยพคนคลอง5
พ.ต.ท.รังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการตำรวจตระเวน ชายแดน (ตชด.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.50 นาย ได้เข้าไปอพยพชาวบ้านในหมู่ที่ 16 ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังแนวกั้นน้ำคลอง รพีพัฒน์ระหว่างคลอง 5-6 แตก ระยะทางกว่า 100 เมตร ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสูงกว่า 2 เมตรแล้ว
แจ้งไวท์เฮ้าส์อพยพ-น้ำสูง3.40ม.
นายพิเชษฐ์ หาญจางสิทธิ์ สมาชิก สภาจังหวัดคลองหลวง เผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ล่าสุด ที่ชุมชนหมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ระดับน้ำนอกคันกั้นน้ำของหมู่บ้านเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่ประมาณ 3.40 เมตรแล้ว ซึ่งถือว่าเข้าระดับอันตราย คันดินอาจะพังลงมาเวลาใดก็ได้ ทางตนเองจึงเสนอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว เก็บข้าวของที่จำเป็นเตรียมตัวอพยพออกจากพื้นที่ทันที
ขนประชาชนไปอยู่ดอนเมือง
ต่อมานายผล ดำธรรม นายอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ว่า เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้วซึ่งจากการประเมินต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยด่วน เพราะน้ำสูงมาก โดยในชุมชนแห่งนี้ มีประชากรประมาณ 1,000 ครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะอพยพไปสนามบินดอนเมือง ในขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยเหนือ ในการนำรถมารับประชาชนอยู่
ปทุมธานีจมทั้งเมือง-ตัดน้ำ ไฟ
เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่อ.เมืองปทุมธานี ขณะนี้เข้าขั้นวิกฤติทุกตำบลและ หมู่บ้านจมบาดาลหมดแล้ว ตั้งแต่แยก ปทุมวิไลไปถึง เขต อ.ลาดหลุมแก้ว ชาวบ้าน เดือดร้อนไปทั่ว ขณะที่ศูนย์อพยพมีไม่เพียงพอ ต้องอาศัยเกาะกลางถนนเป็นที่พักพิง ถนนทุกเส้นน้ำท่วมกว่าหนึ่งเมตรแล้ว การสัญจร ตอนนี้ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำกว่าเมตรออกมาหาอาหาร ข้าวสาร น้ำดื่ม เครื่องใช้ที่จำเป็น บางรายมีเรือก็พายเรือกันออกมา และบางหมู่บ้านก็ถูกตัดน้ำตัดไฟแล้ว
ชาวบ้านโวยลั่นเทศบาลไม่ดูแล
นายโยธิน ชมพูพาน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บ้านเอื้ออาทร กล่าวว่า น้ำได้ท่วมมา เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่มีหน่วยงานของทางเทศบาลเมืองปทุมธานีมาดูแลเลย มีแต่เจ้าหน้าที่ทหารที่คอยอำนวยความสะดวก รับ-ส่งในการเข้า-ออกหมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้อาหาร ก็หาซื้อลำบากจะไปไหนก็ไม่มีรถโดยสารถ้าอยู่ในสภาพนี้ไปเป็นเดือนต้องเดือดร้อนกันไปทั่วแน่และยังไม่เห็นมีวี่แววน้ำจะลดลงบ้างเลยมีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน
หมู่บ้าน200ปี-บางพูนอ่วมหนัก
ที่หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น้ำเอ่อ จากท่อผุดขึ้นทำให้ระดับน้ำในหมู่บ้านเพิ่ม สูงขึ้น 50-80 ซม. ส่วนแนวคันกั้นน้ำบริเวณ ริมทางรถไฟระดับน้ำปริ่มคันกั้น เจ้าหน้าที่เทศบาลนครรังสิตได้ประกาศประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนย้ายรถยนต์ออกไปไว้ข้างนอก และขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ประชาชนหลายคนเริ่มอพยพออกจากพื้นที่แล้ว
ล้นเปรมประชากรท่วมบางพูน
ส่วนที่หมู่ 4-หมู่ 5 ต.บางพูน อ.เมือง ปทุมธานี ถูกน้ำจากคลองเปรมประชากรและคลองเชียงราก เข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือให้
เจ้าหน้าที่เข้าไปอพยพคนในพื้นที่ และที่ ต.สวนพริกไทย ต.บางพูด อ.เมือง ก็ถูกน้ำจากคลองเปรมประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเข้าท่วม พื้นที่ทั้งหมด ต้องการเจ้าหน้าที่นำเรือเข้าไป ช่วยเหลือ เนื่องจากถนนทางเข้าทุกเส้นทางรอบพื้นที่ทั้ง 4 ตำบลนี้รถเล็กไม่สามารถสัญจรเข้าไปได้
บางกะดีจุดพลุเตือนชาวบ้าน
อีกจุดหนึ่งที่เข้าขั้นวิกฤติคือสวนอุตสาหกรรมบางกะดี ต.บางกะดี จ.ปทุมธานี โดยเมื่อเวลา 07.00 น. ทางเทศบาลบางกะดี ได้จุดพลุดังขึ้น 3 ครั้ง ครั้งละ 5 นัด เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าเทศบาลไม่สามารถรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากคลอง เชียงราก เนื่องจากขณะนี้น้ำหลากออกมาจาก คลองเชียงรากจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องแจ้งให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว เร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
นายกฯเล็กเตรียมพร้อมอพยพ
ด้านนายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางกะดี กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ เข้าขั้นวิกฤติแล้ว หลังจากน้ำจำนวนมหาศาล ได้ไหลทะลักมา ทางคลองเชียงราก เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชน ในเขตเทศบาลในหลายหมู่บ้านแล้ว ทำให้ทางเทศบาลจำเป็นต้องจุดพลุสัญญาณเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากบ้านเรือนโดยด่วน
คอสะพานวัดสังลานขาด
ขณะที่คอสะพานวัดสังลาน หมู่ที่ 3 ต.บางกะดี ได้ขาดลงเพราะถูกกระแสน้ำ กัดเซาะเป็นช่องกว้าง 3-5 เมตร ทำให้ปริมาณ น้ำไหลเข้าท่วมชุมชนวัดสังลาน ชุมชน ซอยอำภา ชุมชนสามแยกบางกุฏีทอง และชุมชนศรีชัยทอง มีการอพยพประชาชนประมาณ 300 หลังคาเรือน และกังวลว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมถนนติวานนท์ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งหากไหล ข้ามถนนติวานนท์จะเป็นจุดเสี่ยงที่น้ำจะไหล เข้าพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดีได้
นิคมฯบางกะดียันน้ำยังไม่ท่วม
นางสุจินต์ วาสสนิท ผู้จัดการอาวุโส บริษัทสวนอุตสาหกรรมบางกะดี กล่าวว่า ขณะนี้น้ำยังไม่เข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี แต่อย่างใด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าน้ำเข้านิคม ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้น้ำยังอยู่ถนนเลียบคลองเชียงราก หรือถนนเลียบคลองรังสิต ยังไม่สู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ได้เตรียม ความพร้อมอย่างเต็มที่อยู่ 3 ด้านคือคันดินรอบนิคมและมีถนนติวานนท์เป็นด่านที่ 2 และมีถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นด่านที่ 3
น้ำถล่มศูนย์พักพิงราชมงคลฯ
ผศ.ดร.สุภัทรา โพธิ์พ่วง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม กล่าวว่า ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนมายังสถาบัน ภายใน 12 ชม. จึงได้เตรียมแผนเคลื่อนย้าย ผู้พักพิงที่มาจากนวนครและวัดพระธรรมกาย จำนวนกว่า 470 คน ขึ้นอาคารเรียนสูง 13 ชั้น ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด แต่ยังห่วงในเรื่อง ของกระแสไฟฟ้า เพราะจะถูกตัดอย่างแน่นอน
ฟิวเจอร์พาร์คปิด-รถเล็กวิ่งไม่ได้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานจากรังสิตว่ากำลังจะกลายสภาพเป็นเมืองบาดาล เช่นเดียวกัน โดยบริเวณหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์คมีน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้การจราจรขาออกบนถนนวิภาวดีรังสิตติดขัด รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ และจุดกลับรถ ที่มุ่งหน้าไป จ.นครนายก และ จ.ปทุมธานี ก็เป็นอัมพาต มีน้ำท่วมขังไม่สามารถใช้งานได้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ทั้งนี้ศูนย์การค้าฯได้ประกาศปิดห้าง 1 วัน
ไหลบ่าเข้าท่วมนนท์วิกฤติแล้ว
ส่วนสถานการณ์ที่จ.นนทบุรีก็อยู่ภาวะวิกฤติไม่ต่างกัน โดยนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯนนทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำ ในพื้นที่จ.นนทบุรี ถือว่าเข้าขั้นวิกฤติ เนื่องจาก สองวันที่ผ่านมา ปริมาณน้ำที่ไหลมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี มีปริมาณ เยอะมาก ไหลบ่ารุนแรงจนไม่สามารถประเมินปริมาณน้ำไว้ก่อนได้ แตกต่างจากน้ำเจ้าพระยา ซึ่งสามารถประเมินปริมาณน้ำได้
บางบัวทอง-ปากเกร็ดหนักสุด
เวลานี้พื้นที่จ.นนทบุรีเดือดร้อน กันเกือบทุกอำเภอแล้ว น้ำขยายวงเร็วมากโดยเฉพาะพื้นที่อ.บางบัวทอง และปากเกร็ด ถือว่าหนักสุด อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดติดค้างอยู่ภายในบ้าน หรือต้องการให้ ทางการเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการอพยพหรือถุงยังชีพ ขอให้แจงสายด่วนมาที่ 1131 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง นายวิเชียร กลว
พัดบ้านพังชาวบ้านติดค้างออกไม่ได้
มีรายงานว่าที่หมู่บ้านชัยพฤกษ์ อ.บางบัวทอง กำแพงหมู่บ้านได้ถูกกระแสน้ำพัดจนพังลง โดยที่ซอย 10/11 มีชาวบ้านติดค้างอยู่ เพราะออกจากพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจาก น้ำสูงและเชี่ยว เช่นเดียวกับที่หมู่บ้านชลลดา อ.บางบัวทอง ที่มีทั้งคนแก่และคนป่วยติดค้าง อยู่ในพื้นที่ แต่ยังประสานขอเจ้าหน้าที่เข้าไป ช่วยเหลือไม่ได้
น้ำท่วมบางบัวทองเกือบ100%
มีรายงานด้วยว่า ชาวบ้านใน ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้โทร.ประสานขอความ ช่วยเหลือไปยัง สภ.คลองข่อย ให้เข้าไปช่วยเหลืออพยพออกนอกพื้นที่ หลัง น้ำท่วมสูง จนทำให้รถเล็กผ่านเข้าไปไม่ได้แล้ว ขณะที่ชาวบ้านย่านตลาดบางบัวทองได้ทำการ ทยอยอพยพออกจากบ้านพักของตัวเอง
หลังจากแนวคันกั้นน้ำคลองพระยาบรรลือแตก นายสมจิตร์ จันทร์แตน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่ ต.บางบัวทอง ถูกน้ำท่วม 97-98 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงหมู่ 6 และ 7 บางส่วน เท่านั้นที่น้ำยังไม่ท่วมโดยมวลน้ำดังกล่าวมาจาก จ.ปทุมธานี
ผญบ.ทะเลาะลูกบ้านพังคันกั้นน้ำ
ที่วัดละหารพนังกั้นน้ำแตกยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ โดยจุดวิกฤติที่สุด ระดับน้ำอยู่ที่ 2.50 เมตร บ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร เสียหายทั้งหมด และยัง ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น พื้นที่น้ำท่วม 97-98 เปอร์เซ็นต์ เพราะผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ทะเลาะกับลูกบ้าน ลูกบ้านจึงดึงกระสอบทราย ออก ทำให้น้ำไหลเข้าหมู่ 8-11 และหมู่ 6 และ 7 บางส่วน หากน้ำท่วม ต.พิมลราช มวลน้ำจะเข้าสู่กรุงเทพฯทันที
พนังกั้นน้ำโรงพักนนท์แตก
เวลา 11.00 น. พนังกั้นน้ำในโรงพัก สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี ซึ่งติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้พังทลายลงทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลานจอดรถของโรงพักอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีการระดมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลนำกระสอบทรายอีกจำนวน 150 ใบ มาเร่งเสริมแนวกั้นน้ำใหม่จึงสร้างป้องกันน้ำไม่ให้เข้าท่วมโรงพักเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้นน้ำจะไหลทะลักเข้าท่วมตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรีและชุมชนต่างๆ รวมทั้ง เรือนจำกลาง บางขวาง เรือนจำจังหวัดนนทบุรีได้ทันที
เร่งกู้คันกั้นน้ำปากเกร็ดพัง3ม.
ขณะเดียวกันคันกั้นน้ำบริเวณวัดโพธิ์ทองบน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกความแรงของแม่น้ำเจ้าพระยาดันแนวกระสอบทรายแตกยาว 3 เมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำบางส่วนทะลักเข้าพื้นที่ชุมชน จนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน เร่งเสริม แนวกระสอบทรายอุดรอยรั่วดังกล่าวของ คันกั้นน้ำ โดยมีนายก อบต.บ้านใหม่ เดินทาง เข้ามาควบคุมการอุดรอยรั่วของแนวคันดินกั้นน้ำดังกล่าว ซึ่งสามารถควบคุมได้ สถานการณ์ ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
ราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์ใช้ไม่ได้
มีรายงานว่า เส้นทางสายราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ที่จะมุ่งหน้าไป อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะนี้ ไม่สามารถสัญจรได้แล้ว เนื่องจากถนนมีน้ำท่วมค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยังมีการก่อสร้างอุโมงค์และขยายถนนหลายจุด ตั้งแต่ช่วงรัตนาธิเบศร์ ถึง 5 แยกปากเกร็ด ทำให้ผิวถนนเหลือน้อย ส่งผลให้สภาพจราจรแออัดและเคลื่อนตัวช้าเป็นอย่างมาก
รร.วัดเขมาฯระดับน้ำสูง1.50ม.
นายจารึก ศรีเลิศ โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ถนนพิบูลย์สงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า โรงเรียน อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูงขึ้น แนวกระสอบทรายที่กั้นไว้ไม่สามารถต้านกระแสน้ำได้ น้ำทะลักเข้าโรงเรียนสูงประมาณ 1.50 เมตร ขณะนี้เทศบาลเมืองนนทบุรี เตรียม ซ่อมแซมเขื่อน หากซ่อมเสร็จเรียบร้อยจะสูบน้ำ ออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม ประชาสัมพันธ์เลื่อนเปิดภาคเรียน จากวันที่ 25 ตุลาคมนี้ เป็นวันที่ 30 ตุลาคม
กรมชลเตือนให้อพยพแล้ว
เวลา 12.30 น. กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด ที่ อ.บางบัวทอง พร้อมประกาศเตือนให้ประชาชน ในพื้นที่ขนย้ายทรัพย์สินและรถยนต์ขึ้นที่สูงทันที ส่งผลให้ประชาชนนำรถยนต์ขึ้นไปจอด บนสะพานข้ามถนนที่แยกบางพลูช่องซ้ายสุดทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด
กปน.เชื่อไม่กระทบผลิตประปา
นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปา นครหลวง (กปน.) กล่าวว่า ได้เสริมแนวคัน กั้นน้ำตลอดแนวคลองประปาให้สูงขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะบริเวณตลาดคลองรังสิต ได้เสริมระดับคันคลองสูง 5 เมตร ด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก กระสอบทราย และ ค้ำยันเหล็กเพื่อความแข็งแรงสามารถรับระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ตั้งแต่คลองประปา ถึง ถ.ติวานนท์ พื้นที่ อบต. บ้านใหม่ ระยะทาง 3 กิโลเมตร พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
หากกทม.สามารถป้องกันคลองรังสิตในช่วงบ้านใหม่ และหลักหก ได้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวคลองประปา และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการบริการน้ำประปา
ยงยุทธติดตามสถานการณ์
ต่อมานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รอง นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและคณะเดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำในจ.นนทบุรี ที่วัดไทรม้าใต้ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีผู้ว่าฯนนทบุรี บรรยายสรุปสถานการณ์
นายยงยุทธ กล่าวว่า เดินทางมาที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อวางแนวทางในการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล ป้องกันไม่ให้กรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วม หลังจากได้วางแนวทางกับทางผู้ว่าฯ นครนายก เพื่อผันน้ำจากคลองต่างๆไปลงที่คลอง15 จ.นครนายกใช้เป็นแก้มลิงต่อไป
ผู้ว่าฯนครนายกลุยเปิดทางสู่ทะเล
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าฯนครนายก กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจชาวองครักษ์มากที่ต้องรับน้ำเพิ่มจากที่มีน้ำท่วมขังอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถูกทอดทิ้ง โดยตนได้เร่งผันน้ำจากคลองรังสิตออกผ่านไปทางบางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อลงสู่แม่น้ำบางปะกงและออกสู่ทะเลในที่สุด พร้อมระบุที่ผ่านมาได้ดำเนินการรื้อสิ่งที่ขวางทางน้ำไหลทำให้ไหล สะดวกมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการเร่งผันน้ำ โดยตนกำลังจะใช้รถแบกโฮไปขุดรื้อประตูน้ำบางกระต่ายของกรมชลซึ่งขณะนี้เป็นคอขวดเพื่อให้น้ำไหลสะดวกมากยิ่งขึ้น
บางน้ำเปรี้ยวเตรียมรับน้ำก้อนใหญ่
ขณะที่นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ประสาน ชมรมร่มบินบ้านบึง จ.ชลบุรี นำพารามอเตอร์ ขึ้นสำรวจพื้นที่น้ำท่วมทางอากาศ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ตอนนี้คือต.โยธะกา บางขนาก ดอนฉิมพลี ดอนเกาะกา ต้องเตรียมรับมือ มวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะผันมาจากกรุงเทพฯ ขณะนี้ มีแผนอพยพประชาชนโดยจัดตั้งศูนย์ 72 ศูนย์ พร้อมสิ่งอำนายความสะดวกเอาไว้พร้อมแล้ว
วธ.เร่งเข้าไปช่วยเหลือปชช.
นายสุระ เตชะทัต ที่ปรึกษารมว. วัฒนธรรม กล่าวว่า นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนและสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพิ่มเติมหลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าไปให้ความ ช่วยเหลือมาแล้วหลายครั้ง โดยได้สั่งกำชับหน่วยงานในสังกัดเร่งเข้าไปช่วยเหลือแบบบูรณาการและเร่งด่วน โดยเฉพาะการช่วยเหลือ เฉพาะหน้าแก่ประชาชน พระสงฆ์ สามเณร รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายของโบราณสถาน วัดวาอาราม และมัสยิดอย่างทั่วถึงแล้ว
ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยผู้ประสบภัย
วันเดียวกันนายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธาน บริษัท เอเชีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด พร้อมด้วยนายชญานิน เทพาคำ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ได้นำสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ตามโครงการ สิงห์อาสา นำเรือยนต์ขนาดใหญ่ และเรือลากจูงที่ใช้ในการขนย้าย รวมทั้งน้ำดื่มสิงห์ 200 แพ็ก และข้าว พันดี 100 ถุง พร้อมห้องน้ำฉุกเฉิน 10 ห้อง และข้าวกล่องปรุงสำเร็จวันละ 500 กล่อง ไปมอบ ให้กับวัดกุฏีประสิทธิ์ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งจัดจุดบริการอาหารตามจุดต่างๆ
ปูเรียกประชุมด่วนปรับแผนปล่อยน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เรียกประชุมด่วนผู้นำเหล่าทัพ ผู้ว่าฯกทม. รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน โดยคาดว่าจะเป็นการหารือเรื่องการปรับแผนการแก้ไขปัญหา โดยยอมปล่อยให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ กทม. บางส่วน เพื่อลดแรงปะทะซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายที่หนักกว่า การปล่อยให้ไหลเข้าเมืองตามธรรมชาติได้
เตือน28เขต4จังหวัดเก็บของ
ขณะที่เวลา 20.30 น. พล.ต.อ.ประชา ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่า ศปภ. ได้ ออกประกาศ ศปภ.ฉบับที่ 4 ดังมีรายละเอียด ต่อไปนี้ เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำจำนวนมาก ไหลผ่านทำนบชั่วคราวในพื้นที่คลองรพีพัฒน์ แยกตก และค่อยๆไหลท่วมทุ่งรังสิตบริเวณ คลอง 1-13 อย่างต่อเนื่อง มีผลให้ปริมาณน้ำ ในบริเวณโดยรอบเพิ่มขึ้น
ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมเป็นต้นไป ศปภ. มีความจำเป็นให้ประชาชนต้องรองรับสถานการณ์ต่างๆ โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ประกอบด้วย
1.จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ อ.เมือง คลองหลวง หนองเสือ สามโคก และลาดหลุมแก้ว ซึ่งจะมีปริมาณน้ำสูงขึ้นอีก 50 ซม.-1 เมตร 2.จังหวัดนครปฐม ได้แก่ อ.เมือง บางเลน นครชัยศรี สามพราน ดอนตูม กำแพงแสน และ พุทธมณฑล ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีก 30-50 ซม. 3.จังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ อ.เมือง บ้านแพ้ว และ กระทุ่มแบน ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีก 30-50 ซม. 4.จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ อ.เมือง บางใหญ่ ปากเกร็ด บางบัวทอง บางกรวย และไทรน้อย ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีก 50 ซม.-1 เมตร และ 5.กรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตคลองสามวา หนองจอก มีนบุรี คันนายาว และลาดกระบัง ซึ่งปริมาณน้ำคงที่ที่ระดับ 1 เมตร-1.20 เมตร หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รวมถึงเขตที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ เขตสายไหม และบางเขน
ให้ย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเกินระดับน้ำ
ที่สูงขึ้น และเฝ้าติดตามการประกาศของ ศปภ. อย่างต่อเนื่อง ถ้าจำเป็นต้องอพยพในพื้นที่ใดทาง ศปภ.จะแจ้งให้ทราบโดยด่วนต่อไป พล.ต.อ.ประชา กล่าว
เผยศปภ.ปรับแผนระบายน้ำ
ขณะที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยหลังการประชุมว่า ศปภ.จะใช้แนวทาง ใหม่ในการระบายน้ำลงสู่ทะเล โดยสร้างคันกั้น เพิ่มเติมในจุดต่างๆ เพื่อให้น้ำไหลไปทางทิศทาง จากที่สูงลงไปสู่ที่ต่ำ ซึ่งจะมีการเสริมคันกั้นบริเวณพื้นที่คลองต่างๆ ในย่านรังสิต เช่น การ เสริมคันกั้นบริเวณริมคลองรังสิตไปจนถึงคลอง 10 รวมถึงการเสริมคันกั้นคลองหกวาให้ไปบรรจบ กับคลอง 13 เพื่อให้น้ำไหลจากคลองรังสิต เข้าสู่คลองหกวาและลงสู่คลองระบายน้ำฝั่งตะวันออก เพื่อไปสู่แม่น้ำท่าจีน และลงสู่ทะเล
ให้กทม.เปิดระบายน้ำ3คลอง
นอกจากนี้จะให้มีการระบายน้ำใน กทม. โดยขอให้ระบายน้ำใน 3 คลอง ได้แก่ คลองสองต้นนุ่น คลองแสนแสบ และคลองประเวศ โดยให้ระบายน้ำเต็มระดับเท่าที่จะระบายได้
คาดว่าการสร้างคันกั้นน้ำทั้งหมดตามแผนจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 2 วัน เพื่อรับมือน้ำเหนือที่ทยอยไหลลงมา ซึ่งน้ำที่เข้ามา เราไม่สามารถลดความกดดันน้ำได้ แต่เราจะให้น้ำไหลไปตามทางเพื่อลดความกดดันต่อคันกั้นน้ำลง โดยโอกาสในการอยู่รอดสูงกว่าการตั้งรับ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
เสริมแนวประตูจุฬาภรณ์บังคับน้ำ
ขณะนี้มวลน้ำที่ค้างอยู่ตอนกลางประเทศ ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา และจ.ปทุมธานี เป็นมวลน้ำขนาดใหญ่มีอัตรา การไหลที่ 1,100 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะไหลลงมาสู่คลองรังสิต ดังนั้น ต้องเสริมแนวกั้นบริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้แข็งแรงเพื่อให้ น้ำไหลไปในทิศทางตามแผนการระบายน้ำ โดย เรามีเวลาดำเนินการเรื่องดังกล่าว 48 ชั่วโมง
กทม.ปัดข้อเสนอรับน้ำเต็มคลอง
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ข้อเสนอ ศปภ. ที่ต้องการให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำเข้ามาในคลองชั้นในของกรุงเทพฯ เพื่อบรรเทา พื้นที่ชั้นนอกจากอุทกภัยนั้น กทม.คงต้องขอดูเป็นกรณีไป จะรับทั้งหมดไม่ได้
ถ้าทำได้เราก็จะทำและเปิดให้ แต่ต้องรอให้ฝนหมดไปก่อน ถ้าปลอดภัยจากฝน แล้วและไม่มีปัญหาในการพร่องน้ำเราก็จะเปิดให้ เพราะกทม.ต้องบริหารความเสี่ยง เรื่องน้ำมีตัวแปรหลายอย่าง เช่น เรื่องภูมิศาสตร์ และการบริหารจัดการน้ำ จึงไม่สามารถตอบเรื่องนี้ได้ แต่การเปิดน้ำเข้าคลองชั้นในของกทม.นั้น เราทำทุกปีของช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว แต่ตราบใด ที่ยังมีฝนตกอยู่จะปล่อยให้น้ำเข้ามาเต็มทุกคลองในกทม.ไม่ได้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ผ่าน24ชม.ได้ก็ไม่มีปัญหา
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว. กลาโหม กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอมวลน้ำจากคลองรพีพัฒน์ที่จะเข้ามา ซึ่งหากภายใน 24 ชั่วโมง ผ่านไปได้ก็ไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้
เมื่อถามว่า มีการประเมินปริมาณสูงสุด ที่จะเข้ามาหรือไม่ว่ามีเท่าใด พล.อ.ยุทธศักดิ์ตอบว่า ไม่เข้า เพราะมีการวางแนวป้องกันที่คลองรังสิตไปถึงคลองแปดเพื่อดันน้ำออกไปข้างล่างจนถึงคลองหกวา เพื่อดันออกไปทางแม่น้ำ บางปะกงและออกทะเล โดยน้ำจะไม่เข้ามาข้างใน
วัดดวงสามารถยันอยู่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ว่าฯกทม. ยืนยันว่า น้ำจะไม่เข้ากทม.แน่นอน จะเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ตอบว่า ต้องรอดูมวลน้ำใน 24 ชั่วโมง ที่จะมาจากคลองรพีพัฒน์จะถูกยันไว้ที่คลองรังสิตได้หรือไม่ ส่วนจากแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดนั้นพบว่ากทม.มีพื้นที่ท่วมแล้วหลายแห่ง รมว.กลาโหมกล่าวว่า อีกหน่อยน้ำจะไหลออกทางแม่น้ำท่าจีน
ย้ำ7เขตรอฟังคำประกาศกทม.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากนี้ แม้จะป้องกันไม่ได้ 100% เพราะทำไม่ได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำอย่าง เต็มที่ สิ่งที่จะทำ คือ พยายามซื้อเวลาระบายน้ำ ไปทางตะวันออก แต่หากซื้อเวลาไม่ได้และมีน้ำทะลักแนวป้องกันขึ้นมา ก็ต้องมีแผนอพยพ ซึ่งมีการเพิ่มสถานที่รองรับไว้แล้วทั้ง 7 เขตที่ กทม. แจ้งเตือน แต่ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ และรอฟังคำประกาศของกทม.
คาดดอนเมือง-สายไหมจม1เมตร
มีรายงานข่าวจาก ศปภ. แจ้งถึงการประเมินสถานการณ์น้ำที่จะท่วม กทม. โดยเฉพาะ พื้นที่เขตดอนเมือง สายไหม ที่จะถูกน้ำเข้าท่วม ก่อนว่า ถ้าประเมินสถานการณ์อย่างเลวร้ายที่สุด คือ หากน้ำเข้าท่วมพื้นที่ทั้ง 2 เขตจริง ระดับน้ำ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร และน้ำจะท่วมขังอยู่นานอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน ซึ่งการประเมินนี้ถือว่าเป็นการประเมินขั้นร้ายแรงที่สุด
แจ้งสถานทูตก่อกำแพงกั้นน้ำ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้สั่งการให้เลขานุการส่วนตัวประสานมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ทำการแจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตทุกแห่งที่มีที่ตั้งในกทม. โดยเฉพาะ สถานทูตย่านถนนวิทยุ ให้ก่อกำแพงป้องกันน้ำท่วมรอบๆ สถานทูตและบ้านพักทูตให้สูงกว่า 1 เมตร เพราะคาดว่าน้ำจะทะลักเข้าท่วม ไม่น้อยกว่าระดับดังกล่าว
