คำตอบที่ 40
fiogf49gjkf0d
หลังจากกิจกรรมวันเด็กที่โรงเรียนบ้านห้วยกบเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงทั้งคณะต่างคาราวานแยกย้ายกันท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองสังขละและใกล้เคียง ตามแต่จิตนิยมใครมันมีนัดหมายค้างแรมกันที่จุดชมวิว สามประสบ คำว่า สบ หมายถึงปากนะครับท่านผู้อ่าน สามประสบคือบริเวณที่ลำห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบรวมกันตรงจุดนี้ ก่อนที่ทั้ง 3 สายน้ำจะร่วมหัวจมหางกันกลายเป็นแม่น้ำแควน้อย ไหลลอยล่องไปตามพื้นราบหุบเขา จนหัวขบวนถูกกักกั้นบริเวณแถวตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิสายน้ำแห่งนี้จึงท่วมเอายอดภูตีนเขาบ่าท่วมยาวขึ้นมาร่วมร้อยกิโลเมตร จนเกิดภาพเบื้องล่างผืนน้ำ เบื้องบนแผ่นฟ้า เบื้องหน้าคือยอดเขาแหลมสลับซับซ้อนกันแล้ว ทั้งหมดถูกเหมารวมยกเข่งให้เป็นชื่อว่า เขื่อนเขาแหลม ครับ
ชุมชนเมืองสังขละเก่า ตอนนี้จมอยู่ใต้น้ำไม่ไกลจากจุดชมวิวสามประสบนี้นัก วันดีปีไหนน้ำแล้งแห้งขอดเมืองเก่าก็จะโผล่จากบาดาลขึ้นมาให้เห็นรวมทั้งวัดวังกะเก่าอันลือชื่อที่มีหลวงพ่อเชื้อสายมอญเป็นผู้สร้าง และยังเป็นผู้นำจิตวิญญาณ เป็นผู้ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยเชื้อสายมอญ พม่า รามัญ กะเหรี่ยง ในหุบเขาเขตแคว้นแดนด้านตะวันตกแถบนี้ครับ หลวงพ่ออุตตมะ หรือ พระราชอุดมมงคล ที่ผู้คนในแถบนี้เรียกขานกันว่า "เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำสามประสบ" ผู้สยบทัพ มอญ กะเหรี่ยง พม่า ทำให้เกิดความสงบสุขแก่ผู้คนในบริเวณเมืองสังขละ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของประชาชนชาวไทย ถึงแม้จะมีหลายเชื้อชาติแต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันด้วยความสุข มีความสงบ มีธรรมะเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ มาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อท่านนี้บวชที่เมืองมะละแหม่ง ใฝ่เพียรศึกษาพระธรรมวินัยจนจบชั้นเปรียญธรรม 8 ประโยคซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ต่อมาการเมืองวุ่นวายภายในพม่าแบ่งเป็นฝักฝ่ายไร้รักสามัคคี หลวงพ่อเกิดความเบื่อหน่ายจึงธุดงค์หนีเข้ามาไทยทางช่องผ่านบ้านอีต่อง ตำบลปิล็อค อำเภอทองผาภูมิ จากนั้นไม่นานญาติพี่น้องชาวมอญของหลวงพ่อต่างอพยพตามมามากมาย หลวงพ่อจึงให้ปักหลักสร้างฐานรวมกันอยู่ที่บ้านวังกะอันอยู่ตรงหน้าจุดชมวิวสามประสบแห่งนี้ที่เราท่านทั้งหลายเรียกกันติดปากกันว่า บ้านมอญ โดยมีสะพานไม้มอญเป็นหน้าตาชูโรงของหมู่บ้าน ปัจจุบันหลวงพ่ออุตตมะท่านละสังขารไปราว 6 ปีแล้วครับ