คำตอบที่ 1
fiogf49gjkf0d
การคำนวณเพื่อหาอัตราทดที่เหมาะสม ไม่ใช่เรื่องยากเย็น ข้อมูลประกอบต่างๆที่ใช้ในการคำนวณก็สามารถหาได้จากแคตตาล็อกของรถรุ่นนั้นๆ ส่วนข้อมูลของยางก็ดูได้จากแก้มยาง อย่างแรกที่ต้องรู้คือขนาดยางที่เราต้องการนำมาเปลี่ยนใส่ แต่ก่อนอื่นเราต้องรู้สเปคยางที่ติดมากับรถก่อนโดยดูจากแคตตาล็อก แล้วแปลงหน่วยให้เป็นนิ้ว (ถ้ายางที่เราจะนำมาเปลี่ยนระบุสเปคมาเป็นนิ้ว เช่น 33, 35 นิ้ว) ที่สำคัญต้องเตรียมเครื่องคิดเลขกับกระดาษทดให้พร้อมด้วยนะครับ
ตัวอย่าง ยางติดรถรุ่นหนึ่งขนาด 265/75 R 15 ตัวเลข 265 คือหน้ากว้างของยาง 75 คือซีรี่ย์ของแก้มยาง R 15 คือเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ เริ่มด้วยการหาความสูงของแก้มยางเป็นอันดับแรก โดยเอา 75 ตั้งคูณด้วย 265 แล้วหารด้วย 100 ก็จะได้ตัวเลข 198.75 หน่วยเป็นมิลลิเมตร ตัวเลขนี้คือความหนาของแก้มยางเพียงด้านเดียว ดังนั้นต้องคูณด้วย 2 ก็จะเท่ากับ 397.5 มม.
ต่อไปต้องแปลงหน่วยจากมิลลิเมตร เป็นเซนติเมตรก่อน ง่ายๆก็คือเอา 10 ไปหาร 397.5 จะเท่ากับ 39.75 เซนติเมตร ต่อไปก็ทำตัวเลขนี้ให้เป็นหน่วยนิ้ว เอา 39.75 ตั้งหารด้วย 2.54 (1 นิ้วเท่ากับ 2.54 เซนติเมตร) เท่ากับว่าแก้มยางทั้งสองด้านมีความสูง 15.6 นิ้ว
ยังไม่เสร็จแค่นั้นเพราะเราต้องเอาเส้นผ่าศูนย์กลางของกระทะล้อบวกเข้าไปด้วย ก็จะเป็น 15.6+15 1 ผลลัพธ์คือ 30.6 นิ้ว หมายความว่ายางเส้นนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30.6 นิ้ว นั่นเอง ซึ่งยางขนาดนี้ผู้ผลิตรถยนต์ได้คำนวณเฟืองท้ายมาให้เหมาะสมกับ ยางขนาดนี้แล้ว ทีนี้ถ้าเราต้องการเปลี่ยนไปใช้ยางขนาด 35 นิ้วเราก็สามารถคำนวณได้ว่า ต้องเปลี่ยนอัตราทดเฟืองท้ายเป็นเท่าใด จึงจะให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยางขนาดเดิมที่ออกมาจากโรงงาน