WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


jamesmcgovern

จาก Champ079
IP:203.113.0.200

จันทร์ที่ , 17/9/2550
เวลา : 12:33

อ่านแล้ว = 10388 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       air max zero maroon air max zero maroon , nike shox turbo 21 green grey nike shox turbo 21 green grey
jamesmcgovern



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  

คำตอบที่ 121
      

fiogf49gjkf0d
ท่านประธานกลุ่มเหนือล้อและสมาชิก กรุณามอบเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการเด็กดอยคอยหมอ ใคร่ขอขอบคุณท่านและสมาชิกกลุ่มเหนือล้อเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย......สำหรับโครงการเด็กดอยคอยหมอจะดำเนินการอีกครั้งซึ่งเป็นครั้งที่ 3 สถานที่ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา"แม่ฟ้าหลวง" กลุ่ม มอโก้คี อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ในวันที่ 5-11 มกราคม 2551.....ใคร่ขอเรียนเชิญสมาชิก"เพื่อนแชมป์"และเพื่อนพันธมิตร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติโครงการดังกล่าวครับ......ติดตามความเคลื่อนไหวได้ในกระทู้ พอ.สว.ชุดที่3..............





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.199 พฤหัสบดี, 20/12/2550 เวลา : 11:00  IP : 203.113.0.199   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 39130

คำตอบที่ 122
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนกันถ้วนหน้าแล้วนะครับเพื่อนๆ หวังว่าเราคงจะได้รัฐบาลที่ดีมาบริหารประเทศอย่างที่พวกเราต้องการนะครับ เมื่อวานนี้วันจันทร์เป็นวันที่รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุด วันนี้ก็เลยเป็นวันแรกของสัปดาห์สุดท้ายของปี 2550

ปีเก่ากำลังจะผ่านไป ปีใหม่กำลังจะเข้ามา เคยสังเกตบ้างไหม เวลาที่เราเป็นทุกข์นักทุกข์หนา เรามักจะรู้สึกว่าทุกข์เหลือเกิน ไม่รู้จะหยุดทุกข์ได้ยังไง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักแค่ไหน เช่น โดนนินทา ถ้าเปรียบใจเป็นมือ และความรู้สึกทุกข์เป็นก้อนหนามแหลมๆ ใจเราไม่รู้ก็กำก้อนหนามไว้เสียแน่น ยิ่งเจ็บยิ่งทุกข์ ไม่รู้จะช่วยตัวเองได้ยังไง พอเราได้ฝึกตามสังเกตจิตใจตัวเอง เราจะเห็นอาการที่ใจคอยกำความคิดและความทุกข์ไว้แน่น ทันทีที่เราเห็นว่าใจของเรากำลังกำก้อนหนาม กำมีดทิ่มแทงตัวเองอยู่ ขณะนั้นเองที่ใจจะสามารถวางความคิด วางมีดลงได้ชั่วขณะหนึ่ง เรามักจะรู้สึกว่าเราสามารถวางความทุกข์ลงได้เพียงครู่เดียว แล้วมันก็กลับมาอีก

ลองฝึกสังเกตุใจตัวเองดูแล้วเราจะรู้เท่าทันว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจทั้งสิ้น



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 25/12/2550 เวลา : 07:59  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 39736

คำตอบที่ 123
      

fiogf49gjkf0d
....Champ 079 ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่เคารพที่ให้ความสนใจติดตามทุกเรื่องราวในกระทู้ วันนี้...วันจันทร์ ปฐมเหตุมีวัตถุประสงค์เพียงเชิญชวนเพื่อนสมาชิกที่เคารพร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อทำบุญร่วมกันในโครงการเด็กดอยคอยหมอครับ...โดยที่ไม่เปิดกระทู้ชื่อกระทู้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ครับ กระนั้นยังมีเพื่อนสมาชิกให้ความสนใจและติดตามครับ...เพื่อนสมาชิกที่เคารพครับพอเปิดกระทู้ไปก็มีเพื่อนสมาชิกที่ประสงค์จะร่วมทำบุญโดยบริจาคเงินเข้าร่วมโครงการเต็มจำนวนที่จำเป็นต้องใช้ ในเวลาไม่นานครับ จนผู้ตั้งกระทู้เองคิดว่าเพียงพอและพอดีที่จะดำเนินโครงการได้อย่างสมบูรณ์ครับ.. จึงใคร่ขออนุญาตหยุดรับเงินบริจาคเข้าโครงการดังกล่าวครับ...
.......................................................................
เนื่องในโอกาสเทศกาลปี่ใหม่..Champ 079 ก็ขอวิงวอนผ่านไปยังเพื่อนสมาชิกที่เคารพนะครับ เดินทางท่องเที่ยวโปรดใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ยังคงมีความคึกคะนอง ความเมามัน จากเพื่อนร่วมถนนเยอะแยะพอสมควร ระวังเขา...ต้องระวังให้มากกว่าที่เคยปฏิบัตินะครับ หากระวังเขาแล้วอย่าลืมระวังเราเองด้วยนะครับ....ท่องเที่ยวผ่านชุมชนใดสถานที่ท้องถื่นไหน ก็อย่าลืมอุดหนุน สินค้าชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้านนะครับ...ถึงแม้นว่าสถานที่ที่จำหน่ายจะไม่หรูหราใหญ่โตเหมือนบาร์ซ่าใหญ่ๆก็ตาม แต่เม็ดเงินที่เพื่อนสมาชิกที่เคารพแลกเปลี่ยนกับสินค้าชุมชนเหล่านั้น มันมีค่าและจำนวนมากโขสำหรับชาวบ้านครับ.....
.................................................................
เพื่อนสมาชิกที่เคารพครับ...ท้ายสุดนี้ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ Champ 079 ใคร่ขออวยพรให้ท่านเพื่อนสมาชิกที่เคารพดังนี้ครับ... ขออำนาจแห่งพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองและส่งเสริมให้เพื่อนสมาชิกที่เคารพ ด้วยจตุรพิธพรชัยสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ความสุขสมบูรณ์ พูนผล ในสิ่งที่เพื่อนสมาชิกที่เคารพ ปรารถนาทุกประการเทอญ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.199 อังคาร, 25/12/2550 เวลา : 10:24  IP : 203.113.0.199   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 39741

คำตอบที่ 124
      

fiogf49gjkf0d
สำหรับโครงการเด็กดอยคอยหมอที่ ชมรมเพื่อนแชมป์และเพื่อนพันมิตรได้ร่วมมือร่วมใจกันทำสำเร็จด้วยดีจนถึงทริปนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วนะครับ.....ในครั้งนี้กิจกรรมอันเป็นกุศลนี้จะปฏิบัติกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา"แม่ฟ้าหลวง" ที่บ้านมอโกโพคี บ้านมอโกคี บ้านแซนะเดอลู่ บ้านขะแนจื้อคีและบ้านบานมีหย่อโจ ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินโครงการจำนวน 7,000 บาท Champ 079 ได้ส่งให้เพื่อนพันธมิตร คุณอนุชา ปภาวิชญ์(The Explorer Clup) รับไปดำเนินการจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อเด็กดอย ซึ่งลักษณะกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ลักษณะครับ ส่วนแรกจัดซื้ออาหารแห้งเช่น ถั่วเขียว(โปรตีนแทนเนื้อสัตว์) เส้นหมี่สำเร็จรูป น้ำมันพืช เกลือไอโอดิน ปลาแห้ง ส่งเข้าสมทบเพิ่มเติมไว้ในโรงครัวของทุกโรงเรียน เด็กๆจะได้กินได้หลายๆวันหลังจากคณะจากไปก็คงมีกินมีใช้ได้อีกระยะหนึ่งครับ...อีกส่วนก็จะจัดการประกอบอาหารให้เด็กดอยได้ทานกันตอนออกมารับบริการที่หน่วยวันต่อวันครับ.....ก็ขอบคุณอีกครั้งครับในบุญกุศลที่เพื่อนพันธมิตรบริจาคเงินเข้ามาในโครงการเด็กดอยคอยหมอ......หากท่านปราถนาสิ่งใดก็ขอให้ท่านสมปราถนาทุกการครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.199 พุธ, 2/1/2551 เวลา : 15:32  IP : 203.113.0.199   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40438

คำตอบที่ 125
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้...วันจันทร์.. Champ 079 ขออนุญาตเพื่อนสมาชิกที่เคารพ 2 เรื่องครับ เรื่องแรกเป็นกิจกรรมโครงการเด็กดอยคอยหมอ ขอรายงานถึงความสำเร็จของโครงการตลอด 3 ทริปที่ผ่านมา สัมฤทธิ์ผลด้วยดีครับ... ยอดเงินบริจาคเข้าโครงการตามคำตอบที่ 72 จำนวนรวม 24,200 บาท ใช้ดำเนินกิจกรรมไป 3 ทริปๆ ที่ 4,11,13 จำนวนทั้งสิ้น 21,000 บาท คงเหลือ เงินคงเหลือเพื่อดำเนินกิจกรรมต่ออยู่จำวน 3,200 บาท.... Champ 079 ใคร่ขออนุญาตหารือไปยังเพื่อนพันธมิตร กลุ่มเพื่อนอาสา , กลุ่มเหนือล้อ ตลอดจนเพื่อนสมาชิกที่เคารพจากกลุ่มเพื่อนแชมป์ครับ...ว่าเงินจำนวนที่เหลือเราจะนำไปดำเนินกิจกรรมต่อที่ใด ใครจะเป็นผู้รับไปดำเนินการ โปรดได้แจ้งChamp 079 มาเพื่อทราบนะครับ จะได้รีบปฏิบัติตามพร้อมกับเห็นด้วยหนึ่งเสียงกับความคิดเห็นส่วนใหญ่ครับ...และโปรดติดตามภาพกิจกรรมทริปที่13 ที่..http://www.thailandoffroad.com/hall/Question.asp?ID=412&roomid=4........

......อันว่าเรื่องที่ 2 ครับ ไม่พูดก็ไม่ได้ครับเพราะว่ามันได้คิดไปแล้วครับ เรื่องการทำงานเป็นทีมครับ ...ยิ่งเป็นทีมที่ทำงานแบบอาสาครับ ความสามัคคี พึ่งพา ถ้อยทีถ้อยอาศัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นเรื่องสำคัญครับ....ทุกตำแหน่งหน้าที่สำคัญเสมอกันครับ.. ความจริงใจต่อกันในการเอาใจตั้งร่วมกันแล้ว... พึงระวัง และพึงมีครับ.........



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 14/1/2551 เวลา : 13:29  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41674

คำตอบที่ 126
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร ได้อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกดีจริงๆ มีสาระและแง่คิดขอปรบมือให้เพื่อนผู้ตั้งกระทู้ครับ คำตอบที่ 125 "เรื่องการทำงานเป็นทีมครับ ...ยิ่งเป็นทีมที่ทำงานแบบอาสาครับ ความสามัคคี พึ่งพา ถ้อยทีถ้อยอาศัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นเรื่องสำคัญครับ....ทุกตำแหน่งหน้าที่สำคัญเสมอกันครับ.. ความจริงใจต่อกันในการเอาใจตั้งร่วมกันแล้ว... พึงระวัง และพึงมีครับ........." เห็นด้วยจริงๆ ผมได้ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ว่าจะไม่พูด ไม่ฟัง และไม่คิด ในสิ่งที่ไม่ดี และได้ ถ่ายทอดแนวทางปฏิบัตินี้ให้เพื่อนที่ร่วมกิจกรรมในทริป พอ.สว.ทริปที่ 13 ที่ผ่านมาทดลองปฏิบัติดู

เราพูดเราคุยกันแต่เรื่องที่สร้างสรรค์ สนุกสนาน มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ก็ได้เห็นถึงความสบายใจ มีบ้างบางครั้งทีมีคนอื่นมาร่วมพูดคุยในทางที่ไม่สร้างสรรค์มีการพาดพิงถึงผู้อื่นที่ไม่ดี เราก็นิ่งเงียบและมองตากันส่งสัญญานให้รู้ว่า เค้ากำลังกลายเป็นตัวตลกแล้วนะ เมื่อเราคิดดี ทำดี พูดดี เราก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ

เรามักถูกสอนให้มองด้านดีว่า แก้วน้ำที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้วนั้น มีน้ำเหลือตั้งครึ่งแก้วมากกว่าที่จะมองว่าน้ำหายไปครึ่งแก้ว แต่จะมองด้านไหนก็ตามก็ทำให้เราคิดว่า แก้วยังขาด พร่อง ยังต้องหาน้ำมาเติมให้เต็ม

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราจะรู้สึกว่า เรายังมีไม่พอ ต้องมีนั่น มีนี่เสียก่อนแล้วเราจะอิ่มจะเต็ม สิ่งหนึ่งที่เราไม่เคยถูกสอนก็คือ ไม่ว่าเราจะพัฒนาความสามารถในการหาเงิน หาของ หาความรักให้ได้มากสักเท่าไรก็ตาม น้ำในแก้วไม่มีวันเต็ม เพราะความอยากในใจเราไม่เคยหยุด แก้วของเราก็จะโตขึ้นไปเรื่อยๆไม่เคยพอ

เมื่อก่อนที่เราเคยคิดว่า ถ้าเรามีเงินล้าน เราจะมีความสุข พอเรามีเข้าจริงๆ ปริมาณความต้องการ มาตรฐานการครองชีพ ความเป็นอยู่ของเราก็โตรุดหน้าไปจนเราต้องหาเพิ่มตลอดเวลา ซึ่งอย่าว่าแต่คนมีเงินสิบล้านร้อยล้านเลย ขนาดคนที่มีเงินเป็นหมื่นล้านยังหาเงินไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอ คนที่เรารักนักหนายากลำบากกว่าจะได้มา พออยู่กันไปนานๆใจเราก็เรียกร้องมากขึ้นๆ เห็นจุดอ่อนข้อบกพร่อง ไม่อิ่ม ไม่เต็มได้ตลอดเวลา แก้วน้ำในใจเราไม่เคยหยุดอิ่มไม่เคยหยุดโต หาเท่าไรก็ไม่เคยเต็ม

เคล็ดลับของความสุขก็คือ เราสามารถที่จะพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะหาเงินหาความรัก เหมือนหาน้ำมาใส่แก้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับขนาดของแก้วให้พอดีกับน้ำ ให้ใจเราสามารถที่จะมีความสุขสงบพอใจกับขณะนี้ เดี๋ยวนี้ โดยไม่ต้องรออนาคต

ถ้าเรามีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว แต่เราสามารถลดขนาดของแก้วน้ำลงจนเหลือเพียง 1 ใน 4 น้ำที่มีครึ่งแก้ว ก็จะล้นมีเกินอยู่อีกเท่าตัว มีเกินพอสำหรับเรา และพอที่จะแบ่งให้คนอื่น เมื่อเราเต็ม เราก็ไม่ต้องไปวิ่งหาน้ำมาเติมอีก มีเวลาเหลือเฟือให้ลูก ให้คนที่เรารัก ให้กับการพัฒนาจิตใจตัวเอง ให้กับสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิตเราอย่างแท้จริง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 15/1/2551 เวลา : 11:16  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 41958

คำตอบที่ 127
      

fiogf49gjkf0d
.....เพื่อนสมาชิกที่เคารพครับ วันนี้วันจันทร์ มีงานมากมายที่จะต้องสะสาง มีกิจการมากมายที่จะต้องจัดการ เพราะว่า วันนี้...วันจันทร์ ครับ 079เองตั้งใจว่าจะปิดกระทู้ไป หากยังมีเพื่อนสมาชิกหลายคนครับยังคงรออ่านข้อเขียนจากน้าหมูใน พรุ่งนี้วันอังคารครับ หาก079 ไม่เขียนอะไรในวันนี้วันจันทร์ น้าหมูก็จะไม่เขียนในวันอังคารเช่นกันครับ 079 อยากจะอ่านข้อเขียนน้าหมูจึงจำต้องเขียน วันนี้ วันจันทร์ อ่านแบบไม่ต้องสาระอะไรมากมายนะครับ ...079 อยากจะข้อเรียนเชิญ ท่าน132 มาร่วมวงเสวนา ในวันนี้วันศุกรน์นะครับ ข้อคิดมุมมองที่ดีๆจากท่าน132อีกฝากหนึ่งอีกมุมหนึ่งคงจะเป็นประโยชน์ ต่อเพื่อนสมาชิกที่สนใจครับ...หากมีเวลาเรียนเชิญในทุกวันศุกร์เลยนะครับ ขอบขุญล่วงหน้าครับ...
.............................................................................
มีข่าวฝากเพื่อนสมาชิกที่เคารพ2เรื่องครับ เพื่อนสมาชิกสายบุญอีสานจะตุ้มโฮมกัน(แปลว่า รวมกันด้วยความสมัคสมานสามัคคี).สร้างศาสนสถานในพื้นแผ่นดินแม่ เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ทราบว่าหน้าตัก 25 เมตร บุญใหญ่บุญหนักครับ "เพื่อนแชมป์" คงเป็นอีกโอกาสอันดีครับที่จะได้ร่วมกิจกรรมสร้างเสริมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไปคู่กับ ชาติ และองค์พระมหากษัตริย์ พื้นที่เป้าหมายจังหวัดขอนแก่นกำหนดการโดยคร่าว 12 เมษายน ครับ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 114,117,118....รูปแบบเป็นผ้าป่าสามัคคีครับ........ข่าวฝากที่2 เรียนหารือเพื่อนสมาชิกนะครับ แว่วๆจากน้าหมูครับ ทีมงานคนค้นคน สนใจกิจกรรมกลุ่มเพื่อนแชมป์ กับบทบาทในโครงการ พอ.สว. อยากจะติดตาม เพื่อค้นคน คนออฟโรดอย่างเพื่อนแชมป์ครับ ...เป็นไปได้หรือไม่ครับ ที่จะร่วมมือร่วมใจกันอีกซักทริป เพื่อค้นคน ค้นบทบาท ค้นทุกสิ่งใน กิจกรรมแบบอาสา กับโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่ พอ.สว. ครับ........
.......ความรู้สึกวางเฉยเป็นกลาง ไม่ลำเอียงเข้าข้างคนใดคนหนึ่ง เรียกว่าอุเบกขาครับ ...ยิ่งมีอุเบกขาอย่างรู่เท่าทันคน....เชื่อแน่ว่าเพื่อนแชมป์เราก้าวสู่ 1รอบ อย่างสง่างามครับ........



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 21/1/2551 เวลา : 14:53  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42513

คำตอบที่ 128
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร ได้อ่านคำตอบที่ 127 ของ Champ 079 แล้วรู้สึกดีจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้เพื่อนรู้สึกดี ขอบคุณที่ทำให้เพื่อนรู้สึกว่าตัวเองมีค่าต่อคนอื่นบ้าง ขอบคุณที่ทำให้เพื่อนรู้สึกว่ายังมีใครที่รอคอย แค่ประโยคที่ว่า “หากยังมีเพื่อนสมาชิกหลายคนครับยังคงรออ่านข้อเขียนจากน้าหมูใน พรุ่งนี้วันอังคารครับ หาก079 ไม่เขียนอะไรในวันนี้วันจันทร์ น้าหมูก็จะไม่เขียนในวันอังคารเช่นกันครับ 079 อยากจะอ่านข้อเขียนน้าหมูจึงจำต้องเขียน วันนี้ วันจันทร์” เพื่อนๆครับการทีเรารู้ที่จะคิด รู้ที่จะพูด รู้ที่จะทำ ว่ามันจะมีผลอะไรต่อเพื่อน ต่อครอบครัว ต่อคนใกล้ชิด เราคงจะคิดแต่สิ่งดีๆ พูดแต่สิ่งดีๆ ทำแต่สิ่งดีๆ เราคงไม่คิดที่จะคิดร้าย พูดร้าย และทำร้ายใครหรอกครับ แต่หากบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่า เราคิดดี พูดดี และทำดีแล้ว อาจมีผู้ที่ไม่เข้าใจและเข้าใจผิดจนกลายเป็นข้อขัดแย้งจนท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความแตกแยก ขอให้เราย้อนมามองตัวเรา ถ้าคิดว่าเหตุนั้นมันมาจากเราแล้วสามารถยุติได้ที่ตัวเรา เพียงกล่าวคำว่า “ขอโทษ” และคิดเพียงว่า “ให้อภัย” โลกนี้จะสดใสและน่าอยู่ขึ้นอีเยอะเลยครับ ไม่มีการขออะไรและให้สิ่งใดที่จะยิ่งใหญ่เท่าการ “ขอโทษและให้อภัย” หรอกครับ

ชีวิตที่มีคุณภาพเริ่มต้นจาการที่เราใช้ตา หู จมูก ลิ้น ร่างกาน และจิตใจของเราเป็น ใช้อย่างรู้เท่าทัน ใช้เพื่อทำประโยชน์ แต่ส่วนใหญ่ในชีวิตเรามักจะปล่อยตัวเองเป็นทาสแรงผลักในใจ ที่ทำให้เราเป็นปลาที่ฮุบเหยื่อก้อนโตอย่างเต็มเหนี่ยว โดยลืมว่าทุกเหยื่อมีเบ็ดติดมาด้วย กว่าจะรู้ตัว ปากเราก็โดนเบ็ดเกี่ยว ปวดแสบปวดร้อนทุกข์ทรมาน

เราตกเป็นเหยื่อของการโฆษณา วันนี้ในธุรกิจการตลาด ที่มีของขายชนิดซื้อเท่าไรก็ไม่หมด แสตมป์ที่ส่งจดหมายให้ไปลอยเป็นขยะในอวกาศก็ยังขายได้ โฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร กระหน่ำใส่เรา ให้เรารู้สึกว่าเรายังดีไม่พอ ยังไม่เป็นที่ยอมรับ จนกว่าเราจะมีในสิ่งที่เขาต้องการขาย

โฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นหนึ่งใช้ดาราสาวชื่อดังออกมาพูดว่า ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องผิวขาวเท่านั้น ยอมให้ผิวคล้ำ ผิวดำกันไม่ได้เลย ต้องไปซื้อครีมที่เขาโฆษณามาใช้ จึงจะขาวพอยอมรับกันได้ เอ...แล้วถ้าคนบางคนเขาภูมิใจในผิวดำ ผิวคล้ำของเขาบ้างล่ะ จะไม่มีที่ว่างพอต้อนรับคนผิวดำบ้างเลยหรือ

ถ้าเราไม่มีความรู้ตัว ไม่มีสติคอยกำกับการรู้ข่าวสารข้อมูลต่างๆที่สามารถทำให้เราคล้อยตามได้ง่าย ใจเราก็จะไหลตามไปโดยที่เราไม่รู้สึกตัว กว่าที่จะรู้ตัวเราก็มีหนี้ก้อนโต หรือไปรักอยู่กับคนที่เราไม่ต้องการ ทำงานที่ทำให้เราเป็นทุกข์อยู่ทุกวัน แต่ก็ต้องทนทำไป เพราะเรามีภาระหนี้สินมากเกินกว่าที่จะถอยหลังได้

ดังนั้น การรู้เท่าทันจิตใจของเราจะเป็นเข็มทิศในชีวิต ที่คอยป้องกันแต่ละขณะไม่ไห้เราเบี่ยงเบนไปในทางที่ไม่ควรจะไป จนในที่สุดไปจบในที่ที่เราไม่ได้ต้องการไป ชีวิตที่ดี เริ่มต้นที่เรากิน-อยู่เป็น

The best things in lift are free, but it costs a lot of time and money before you find this out.






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 22/1/2551 เวลา : 08:46  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 42614

คำตอบที่ 129
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้...วันจันทร์ จันทร์ที่ 28 จันทร์สุดท้ายของเดือนแรกของปีหนูทอง อีกสิบเอ็ดเดือนเจ้าหนูทอง ก็จะสิ้นสุดรอบวิ่ง ก็หมุนเวียนผ่านไปตามเวลาหล่ะครับ แล้ววันนี้วันพรุ่งนี้มีอะไรที่เราๆท่านๆ จะต้องรีบทำบ้างครับ 079 ขอฝาก2เรื่องนะครับเรื่อง พอ.สว. ที่จะเข้าถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระพี่นาง รายละเอียดตามกระทู้ที่ป้าแอ๊ด เปิดไว้ ส่วนอีกเรื่อง เรื่องเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพคุณพ่อ คุณวรรณ ฤทธิวัชร์ เพื่อนพันธมิตรที่เสมอต้นเสมอปลายตลอดเวลากับเพื่อนแชมป์เราครับ รายละเอียดก็ตามกระทู้ที่ท่านเลขากลุ่มได้เปิดไว้เช่นกันครับ....

ส่วนการเรียนเชิญท่าน132 เข้ามาฝากข้อคิดเห็นในกระทู้นี้ยังเรียนเชิญท่านอยู่นะครับ อยากจะมองเห็นมุมของสหภาพแรงงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อประเด็นสังคมว่าเป็นอย่างไรเอาแบบมีความสุขในวันศุกร์นะครับ อันนี้ก็อยากเรียนเชิญ ท่าน 130 กับรูปแบบมุมมองการบริหารจัดการภาคเอกชนบ้างเอาแบบสาระก็ได้ไม่เป็นสาระก้ดี ต่อกรณีกิจกรรมภาคเอกชนส่วนร่วมสนับสนุนส่งเสริมสังคมที่ด้อยโอกาสกว่า...เรียนเชิญเบาๆชิวๆ ในวันนี้วันอาทิตย์ได้เลยนะครับ....

สุดท้ายเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ไว้ให้ลูกหลานเพื่อนแชมป์ ได้ทำความเข้าใจเพื่อไปตอบการบ้านครู ..จันทร์นี้จะเขียนถึงเรื่องการบริหารและผู้นำมารับใช้ครับ...การบริหาร หมายถึงการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยผู้อื่น...ส่วนผู้นำ หมายถึง ผู้ที่ชักพาคนอื่นให้เคลื่อนไหวหรือกระทำในเป้าหมายที่ผู้นำกำหนดไว้...แล้วมันมาเกี่ยวข้องหนองยุ่งอะไรกันกับคำสองคำสองความหมายนี้...มันเกี่ยวกันตรงที่ต่างก็มุ่งสู่ความสำเร็จของ
งานเช่นเดียวกัน หากแต่ความสำเร็จของงานที่จะเกิดขึ้นผู้นำจะต้องได้รับการยอมรับจากทีมเสียก่อน..แล้วทำยังงัยหล่ะถึงจะได้การยอมรับหรือผู้นำอย่างไรที่ทีมต้องการ....เป็นผู้นำแล้วต้องมีบารมีครับถึงจะได้รับความร่วมมือที่ดีจากทีม บารมีไม่ใช่มีเงินนะครับ หากแต่มีความดีที่ปฏิบัติต่อสิ่งรอบกายอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่สุดโต่งไม่เจาะจง แบบพอประมาณพอดี แล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นทุนความดีทางสังคม ก็จะก่อเกิดเป็นบารมี ส่งเสริมการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยผู้อื่นลุล่วงด้วยดีครับ....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 28/1/2551 เวลา : 11:09  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43124

คำตอบที่ 130
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร วันที่อากาศร้อนมาก ไม่รู้ว่าโลกเรามันคงวิปริตไปแล้วเมื่อวานตอนเย็นฝนตกเช้าวันนี้ร้อนเป็นบ้าเป็นหลัง อีกหน่อยกรุงเทพคงมีหิมะตกเหมือนในหนังโฆษณาชิ้นหนึ่งทางโทรทัศน์ วันนี้ไม่ค่อยเวลาที่จะนั่งเขียนคำตอบในกระทู้สักเท่าไรเพราะว่าตอน 9 โมงต้องเข้าประชุม เลยขอยืมแนวคิดจากคำตอบที่ 129 ของท่าน 079 มาต่อยอดด้วยเรื่องเบาๆเกี่ยวกับการเป็นหัวหน้าว่าควรจะมีคุณสมบัติอย่างไรมาให้ท่านๆ ได้อ่านและนำไปคิดเผื่อจะได้ความหมายอะไรจากมันบ้าง แต่ขอบอกก่อนว่า อย่าไปคิดมากคิดว่ามันเป็นเรื่องชิวๆละกัน

ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาใหม่ๆ

อวัยวะต่างๆในร่างกายก็ทะเลาะกันว่าใครควรจะเป็นหัวหน้า
สมองก็บอกว่า
“ฉันควรจะเป็นหัวหน้า เพราะฉันคิดและตัดสินใจต่างๆ นานา”
เท้าก็เถียงและบอกว่า
“ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
และต้องพาพวกแกทั้งหลายเคลื่อนไปยังจุดหมาย”
มือก็สวนขึ้นมาทันที
“ฉันต่างหากที่ควรเป็นหัวหน้าเพราะฉันทำงานหาเงิน
มาทำให้พวกแกทั้งหลายมีชีวิตอยู่ได้”
แล้วอวัยวะทั้งร่างกาย ก็ต่างยกเหตุผลที่ว่าตัวเองควรเป็นหัวหน้าจนมาถึง “ตูด”
ยังไม่ทันจะเอ่ยเหตุผลของตัวเอง
ทุกอวัยวะก็ขำกลิ้งแล้วพร้อมใจบอกว่า
“ไม่มีทาง พวกเราไม่มีวันให้ตูดเป็นหัวหน้าแน่นอน”
เมื่อเป็นดังนั้น ตูดก็สไตรค์ ไม่ยอมทำงาน
เพียงไม่นาน อวัยวะต่างๆ ก็ปั่นป่วนไปหมด
สมองที่ว่าแน่ๆ ถึงกับสลบเหมือด
จนในที่สุด ต้องยอมให้ตูดเป็นหัวหน้า
จากนั้นทุกอวัยวะก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไป
ในขณะที่หัวหน้าก็มีหน้าที่นั่งเฉย แล้วก็ปล่อยขี้ออกมา

ดังนั้นคุณไม่ต้องคิดว่าจะให้คนที่มีสมองเป็นหัวหน้า
เพราะมันเป็นหน้าที่ของ “ตูด” เท่านั้น

อย่างที่บอกล่ะครับว่าอย่าไปคิดมาก ไม่ได้ว่าใครเอาแค่ขำๆ(บอกตรงๆว่าเดี๋ยวนี้จะพูด จะเขียนอะไรในเว็ปนี้ต้องคิดเยอะ กลัวจริงๆ แม้แต่จะคิดยังไม่กล้าคิดดังเลย ก็เลยต้องคิดในใจ กลัวท่านๆจะเคืองเอา.... )



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 29/1/2551 เวลา : 07:46  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 43301

คำตอบที่ 131
      

fiogf49gjkf0d

“สมศักดิ์ ลูกแสนเพชร หาโอกาสที่คู่ชกเผลอเสยหมัดไป จนกรรมการนับ 9”
คำอธิบาย “หาโอกาส” แปลว่า คอยโอกาสที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการหรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะมีความหมายเป็นกลางๆ มักมีคนใช้สับกับคำว่า “ฉวยโอกาส” ซึ่งมีความหมายว่า คว้าโอกาสไปโดยไว ในการทำสิ่งที่ไม่ดี ทำร้ายผู้อื่น หรือเอาชนะผู้อื่น ประโยคนี้จึงควรใช้คำว่า “ฉวยโอกาส” จะตรงความหมายมากกว่า.
…………มีคนได้โอกาส ยังหล่ะ......ฮา........................

คันเจ้าได้ขี่ช้าง อย่าฟ่าวเบิดดังเหิน อย่าได้เสินเสินหัว แหย่งสะพานพาฮ้าย คันได้บินบนฝ้าเฮือเหาะขับขี่ อย่าสิแงะสิแง้นแงนถ้อยว่าโต ตั้งแต่เซื้อซาตซ้างแห่งหยิ่งสูงศักดิ์ มันกะยังตกตมหล่มคลองคาค้อย ซือว่ากุญซรซ้างนิแนวสูงศักดิ์ไหญ่ ตายย่อนมดแดงน้อย แนวนั่นกะหากมี
.............คำสอนเกิดจากกิริยา ส่วนกิริยาเกิดสกุล....ฮา.................

ให๋..สุขเสมอหมั่น เสมอมันเคลือเกา ขอเชิญไทอิสานเฮา มาเว้าออกแถลง สิขอเว้าแจ้งๆ แถลงก่อน เป็นทางการ ลูกขอวาน นำเสนอ หากเผลอไป อภัยบ้าง จางหรือเค็ม ให้คอยถ่า สิกลับมา น๊อเว้าตอ ขอให้มวลพี่น้อง คอยจ้อง ฉากต่อไป
………ขอให้ท่านผู้อ่านที่เคารพ ที่ภายในเปี่ยมล้นไปด้วยสุข ขอให้ภายนอกยิ่งสุขๆขึ้นไป...สุขมากมายรวมถึงคนรอบกายด้วย...สาธุ...ฮา.......



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 4/2/2551 เวลา : 10:02  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44108

คำตอบที่ 132
      

fiogf49gjkf0d
...อ้าววว แล้ววันอังคารหายไปไหนหล่ะ.....งง..เป็นงง เจอ ผะหยา ...งงหล่ะสิ..555555....

แปลไม่ได ไหว้วานถามท่าน 114,117,118 หรือ 020 นะคร้าบเจ้านายยยยยยย อิอิอิ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 พุธ, 6/2/2551 เวลา : 08:00  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44224

คำตอบที่ 133
      

fiogf49gjkf0d
6 ก.พ. 2551
ขออภัยที่มาช้า แต่มาช้าก็ดีกว่าไม่มานะ เมื่อวานนี้วันอังคารคิดว่าน่าจะเป็นวันเบาๆแต่ที่ไหนได้กลับเป็นวันที่ยุ่งเหยิงดีเหมือนกัน งานที่ประดังเข้ามาเนื่องจากองค์ประกอบภายนอกที่ไม่อาจคาดเดาได้ ทำให้งงไปพักนึงเหมือนกัน แต่ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอถ้าเรามีสติที่จะพิจารณาไตร่ตรองดูดีๆ ถ้าหาทางออกไม่เจอก็ออกมันตรงทางเข้านั่นหล่ะ ตอนที่เราไม่เคยฝึกตามดูจิตใจตัวเอง เราไม่รู้สาเหตุว่าไฟในใจที่เผาไหม้ให้เราร้อนรน เริ่มที่ในใจเราเอง เราก็จะเสาะแสวงหาวัตถุ คน สิ่งต่างๆ หวังว่าเมื่อได้มาแล้วจะทำให้เราสุขมากขึ้น แต่ในความเป็นจริง วัตถุไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้เลย ถ้าเราไม่ได้ฝึกตัวเอง เช่น

เรามีรถยนต์เพื่อประหยัดเวลาเดินทาง แต่เรากลับเสียเวลาบนท้องถนนกับการเดินทางมากขึ้น เราเหน็ดเหนื่อยมากขึ้น เพราะเราเลือกที่จะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยความสะดวกของการมีรถ และเพราะคนอื่นก็ทำเหมือนกับเราเช่นกัน

เราเพิ่มถนนเพื่อให้รถติดน้อยลง ยอมถมคลอง รื้อบ้านคนให้ออกไปอยู่ไกลๆ ทุกคนซื้อรถเพิ่มขึ้น ฝนตกลงมา น้ำท่วม คลองระบายไม่ทัน เพราะถูกถมทำถนนหมด รถติดมากขึ้น เราเสียเวลาในชีวิตมากขึ้นไปอีก

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่นเครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ก็ไม่ได้ช่วยให้เราใช้เวลาทำงานบ้านน้อยลง เพราะถึงจะทำงานเร็วขึ้น แต่เราเพิ่มงานมากขึ้น เพราะเราใช้เสื้อผ้า ใช้จานเปลืองมากขึ้น

เรามีโทรศัพท์เพื่อประหยัดเวลาการติดต่อกับคนอื่น ไม่ต้องเดินทางไปพบหรือเขียนจดหมายส่งไปหา แต่เรากลับเสียเวลามากขึ้นเพื่อพูดคุย แม้กระทั่งในเวลาที่เราอยู่กับครอบครัว

เรามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เครื่องทุ่นแรง มากกว่าชาวบ้านที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่เรากลับมีเวลาให้ตัวเองน้อยลง เพราะเราต้องใช้เวลากับอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้นทำงานที่เมื่อก่อนเราไม่ทำ

ในที่สุดเราก็จะพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราหา โตไม่ทันกับปริมาณความอยากในใจเรา ความสุขสมบูรณ์ในชีวิตจึงไม่เคยมาถึง จนกว่าเราจะรู้จักปรับความอยากในใจเราเอง วัตถุสิ่งของ งาน เพื่อน คนรัก ต่างก็เป็นสิ่งที่มองเห็น จับต้องได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราพบว่าเมื่อเราเบื่อ หงุดหงิด เครียด กระวนกระวาย เราจะหันไปเสพติดสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้เอาใจออกไปจากปัญหาที่แท้จริง คือใจ แม้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวก็ตาม

แต่สิ่งต่างๆ ภาแต่สิ่งต่างๆ ภายนอกที่เราเพียรหามาด้วยความยากลำบาก แลกกับแรงกายแรงใจ เวลาที่จะได้อยู่กับตัวเอง หรือกับคนที่เรารัก นอกจากจะไม่ได้ให้ความสุขกับเราอย่างแท้จริงแล้ว ยังให้โทษกับเราในระยะยาว เพราะมันจะทำให้เราเคยชินกับการแก้ปัญหาแบบหนีปัญหา เหมือนคนติดยาเสพติด ที่ต้องการหนีโดยการเสพยา เพียงแต่เราเสพคน วัตถุสิ่งของ ชื่อเสียง และงานเท่านั้น

ที่สำคัญที่สุด เมื่อเราเสพติดมันไปเรื่อยๆ จะทำให้เราหมดความสามารถที่จะมีความสุขได้ด้วยตัวเอง ชีวิตเราต้องพึ่งพาสิ่งต่างๆ นอกตัวอยู่ตลอดเวลา ในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของอย่างเดิมๆ ให้ความสุขได้น้อยลง ต้องหาชิ้นใหม่สิ่งใหม่เรื่อยไปไม่รู้จบ เพื่อตอบสนองนิสัยเสพติดอันนี้ ทำให้เราต้องทำงานหาเงินมากขึ้น เสี่ยงมากขึ้น เบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายหลักที่แท้จริงของเราไปทีละนิดๆ ทุกวัน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 พุธ, 6/2/2551 เวลา : 11:29  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44255

คำตอบที่ 134
      

fiogf49gjkf0d
สืบเนื่องจากคำตอบที่ 132 คำว่า "เจอ ผะหยา" มันหมายความว่าอย่างไร ท่าน 114,117,118 หรือ 020 ช่วยให้ความกระจ่างทีครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 จันทร์, 11/2/2551 เวลา : 09:57  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44527

คำตอบที่ 135
      

fiogf49gjkf0d
ถีงเพื่อนสมาชิกฯ
แจ้งตัวเลขยอดเงินคงเหลือล่าสุด เป็นจำนวนเงิน 33,174.-
รับค่าสมาชิกเพิ่มเติม 4 ท่าน หมายเลข 015, 022, 060, 078
เพื่อนๆท่านใดที่พอจะมีเวลา อยากให้เสนอตัวเพื่อรับตำแหน่งเหรัญญิกแทน
ไม่มีเหตุผลอันใด เพียงอยากให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามาทำหน้าที่แทน เพื่อให้กลุ่มฯ
เจริญก้าวหน้ามากขึ้นครับ
นับถือ / สถาพร เมฆสุต



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เจต 080 124.120.134.48 จันทร์, 11/2/2551 เวลา : 16:55  IP : 124.120.134.48   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44626

คำตอบที่ 136
      

fiogf49gjkf0d
...วานนี้...วันจันทร์ ครับเพื่อนสมาชิกที่เคารพ ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากิจกรรมทางสังคม งานประจำและส่วนตัวก็มากโขอยู่ครับสำหรับ 079 เอง...บางที่ก็มานั่งนึกตรองดูว่า "ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด" ยิ่งเวลาที่เรามีเท่ากันแต่เลือกที่จะทำหลายๆอย่างพร้อมกันดูมันวุ่นวายดีนักแล ขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ติดตามอ่านกระทู้นี้ หากเพื่อนสมาชิกที่เคารพมีข้อคิดเห็นแนะนำประการใดโปรดแสดงออกในกระทู้ได้เลยครับ ดีกว่าปล่อยให้ 079 และท่าน 012 เดินดุ่มไปแบบสาระบ้างไม่สาระบ้าง อ่านแล้วก็ไม่ต้องน้ำยาอะไรมากมายนะครับ.....
...ส่วนคำตอบที่ 135 ด้วยความเคารพ ความคิดเห็นส่วนตัว 079 ท่านเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในเวลานี้ครับ ส่วนความคิดเห็นเพื่อนสมาชิกเป็นเช่นไร 079 ไม่ทราบครับ บอกแล้วงัยว่าเป็นความเห็นส่วนตัว....
...กลุ่มมีไว้ให้ พี่ป้าน้าอาลุงย่าตายายลูกหลานเหลนโหลน เอาไว้เพื่อมาพบปะพูดคุยสวรเส เฮฮากันตามประสาครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ "รักครอบครัว รักธรรมชาติ ทำประโยชน์เพื่อสังคม" ให้นิยามเช่นนี้ ทำได้อย่างนี้ ก็สมบูรณ์แล้วครับเพื่อนสมาชิกที่เคารพ...ส่วนตำแหน่งแห่งหนต่างๆในคณะกรรมการบริหารกลุ่มก็เป็นเพียงการเสียสละมาทำอย่าไปยึดติดครับ ดำเนินชีวิตในสังคม ในครอบครัว ในตัวเองแบบพอดีๆ ก็เป็นสุขแล้ว "ครองตน ครองคน ครองงาน โดยธรรม" ความสมบูรณ์พูลสุข ก็เกิดแก่ทุกคน... 079 เชื่อเช่นนั้น สวัสดี........



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 อังคาร, 12/2/2551 เวลา : 10:48  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44689

คำตอบที่ 137
      

fiogf49gjkf0d
13 กุมภาพันธ์ 51

เมื่อวานเป็นวันอังคารเข้ามาดูกระทู้ วันนี้วันจันทร์ตั้งแต่เช้าก่อนที่จะเริ่มภารกิจประจำวัน แต่ไม่เห็นบทความของวันจันทร์จากเจ้าของกระทู้ ก็เลยต้องรอจนกว่าจะมีคำตอบ “เมื่อวานนี้วันจันทร์” ขึ้นมา วันนี้เป็นวันพุธ เมื่อวานนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร

เพื่อนฝูงทีสนิทหลายคนมักจะถามเสมอว่า ใช้หนี้ต่างๆที่มีจนเกือบหมดได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ผมมักจะเล่าเรื่องที่มีคนเล่าให้ฟังต่อๆกันมาว่า สารคดีเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิกเคยฉายให้ดูวิธีที่ชาวสวนไทยดักจับลิงที่มาทำลายพืชผล คือปกติลิงจะเป็นสัตว์ที่ว่องไวมาก ทั้งวิ่งหนี ปีนต้นไม้ แต่ชาวสวนไทยจะนำกะลามะพร้าวมาเจาะรู ขูดเนื้อมะพร้าว หรือใส่ถั่วที่ลิงชอบไว้ในกะลา เจ้าลิงพอได้กลิ่นของชอบก็วิ่งมา ล้วงมือเข้าไปในลูกมะพร้าว กำของโปรดของมันไว้แน่น แล้วคราวนี้มันจะพบว่า พอมันจะดึงมืออกมามันกลับดึงออกมาไม่ได้ นั่งรอจนชาวสวนมาจับตัวได้ มนุษย์มากมายหัวเราะเยาะลิงว่า โง่จริงๆถ้าอยากให้มือหลุดออกมา ก็แค่ปล่อยของที่มันกำไว้แน่นแค่นั้นเอง

วันนี้ ทุกปัญหา ทุกความทุกข์ที่เราทุกข์กับมันนักหนา เราก็เหมือนลิงกำถั่ว ที่กำความคิด ความอยาก ความยึดว่านี่ของเรา ต้องเป็นอย่างใจเรา เอาไว้อย่างแน่นหนา

เรากำความคิดว่า หนี้ก้อนนี้ต้องจ่ายเท่านี้ ไม่งั้นก็ยอมยืดเยื้อฟ้องร้องกัน ที่ดินแปลงนี้ต้องขายได้เท่าที่เราอยากได้ ไม่อย่างนั้นก็ยอมให้ธนาคารยึดไป ทั้งๆที่เราขาดทุนมากขึ้นด้วยซ้ำ หรือผู้หญิงคนหนึ่งต้องเป็นคนออกไปจากชีวิตของแฟนเรา ไม่อย่างนั้นก็ยอมทนทุกข์ทรมานกันอยู่แบบนี้ คนนั้นต้องพูดให้ถูกใจเราทำให้ถูกใจเราเสียก่อน หรือฝังใจยึดอยู่กับอดีตที่เราเคยมี เคยรวย เขาเคยรักเรา จมแช่อยู่กับความรู้สึกเศร้าโศก จนพลาดโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ในชีวิตที่อาจจะดีกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ

ผู้ชายคนหนึ่งถูกโกงไปเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท เขาเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัสเสียดายเงินที่ถูกโกงไป จนไม่มีใจที่บริหารกิจการต่อไปจนบริษัทต้องปิดตัว กระแสรายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัวต้องชะงักลง คิดที่จะไปทำร้ายฆ่าฟันคนที่โกงเขาไป และทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง เพียงเพราะใจที่ไม่สามารถวางความรู้สึกเสียดาย เสียใจลงได้

ถ้าเจ้าลิงน้อยมันเคยฝึกดูจิตใจตัวเอง มันจะเห็นเลยว่า ที่มือมันติดอยู่ในลูกมะพร้าว เพราะกำลังกำบางสิ่งบางอย่างไว้ เพียงค่มันปล่อย ชีวิตยังมีทางเลือกอีกมากมาย ถอยหลังมาอีกไม่กี่ก้าว มีผลไม้อีกมากมายให้เลือก หรืออาจจะหาก้อนหินมาทุบลูกมะพร้าวให้แตกไปเสียเลย ก็ยังดีกว่าขังตัวเองไว้ในปัญหา ไว้ในลูกมะพร้าวโดยไม่มีทางออก

ไม่มีอะไรสร้างปัญหาให้เราได้ นอกจากใจเราเอง ทุกอย่างเป็นเพียงแค่เหตุการณ์ณ์ซึ่งเกิดขึ้นกับทุกคนได้ตลอดเวลา แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับเรา เราทุกข์เพราะเราอยากให้เป็นเหมือนอย่างใจเรา เมื่อเราไม่รู้ทันใจตัวเอง เรายึดความคิดและความต้องการของเราอย่างแน่นหนา จนลืมมองว่า ความอยากของเราทำให้ตัวเองทุกข์ทรมานอยู่ขณะนี้ และสร้างเงื่อนไขขังตัวเองจนมองไม่เห็นทางออกรอบตัว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ที่เรารู้สึกว่าหนักทุกข์ใจกับมัน มองให้เห็นทันความอยากในใจเรา ที่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น หรืออยากให้มันเป็นอย่างนี้ ให้ใจมันตื่น หยุดอยาก ผ่อนคลาย รู้สึกตัวให้เต็มที่ ใจจะเบาสบาย เมื่อความอยากถูกปล่อยไป ใจจะเห็นเหตุการณ์ณ์ตามความเป็นจริง มองทะลุไปถึงต้นตอของเหตุการณ์ ทำหน้าที่ด้วยใจตั้งมั่น รู้ทันว่าบางอย่างแก้ไขได้ บางอย่างแก้ภายนอกไม่ได้ แต่แก้ภายในได้ ด้วยใจที่ปล่อยวางความอยากและด้วยปัญญาที่เข้าใจ

ความระลึกได้ รู้เท่าทันใจ เป็นเข็มทิศที่จะนำทางความคิด คำพูด การดำเนินชีวิตของเราไม่ให้ไหลไปตามสถานการณ์ จนชีวิตบิดเบี้ยว หลงทางโดยที่เราไม่รู้ตัว

ลองย้อนดูว่า “วันนี้เรายึด เรากำอะไรไว้จนเป็นทุกข์บ้าง”



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 พุธ, 13/2/2551 เวลา : 08:46  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 44845

คำตอบที่ 138
      

fiogf49gjkf0d
...วันี้...วันจันทร์ครับเพื่อนสมาชิกที่เคารพ เช้านี้เวลาก็เท่ากันทุกท่านไม่ว่าจะเป็น079เอง หรือเพื่อนสมาชิกที่เคารพทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน ...คิดถึงเพื่อนๆทุกคนครับสามสี่วันไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้อ่านข้อคิดต่างๆบนบอร์ดนี้...วันนี้ วันจันทร์ จึงต้องรีบเข้ามาที่บอร์ดนี้ก่อนภาระกิจอื่นใด สงสัยติดไปซะแล้วครับ นี่หล่ะครับเสน่ห์ เพื่อนแชมป์ครับ เสียดายยังมีเพื่อนสมาชิกอีกหลายท่านอยู่ที่ไม่ได้มีโอกาสสื่อสารทักทายกันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์บนบอร์ดนี้...สำหรับเพื่อนสมาชิกที่เข้ามาอ่านหากมีเวลาพอก็ทักทายกันบ้างนะครับ แม้นหากอ่านแล้วข้อเขียนอันใดไปขัดแย้งต่อท่านก็โปรดให้อภัยนะครับ บอกก่อนแล้วงัยไม่ต้องสาระอะไรกับ079.....
......สืบเนื่องจากคำตอบที่134 ....079 ขออนุญาตเรียนรับใช้เป็นดังนี้นะครับ................
คนอีสานมีคำคม สุภาษิตสำหรับสั่งสอนลูกหลานให้ประพฤติตนอยู่ในฮีตคอง (จารีต- ประเพณี) ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คำคมเหล่านี้รู้จักกันทั่วไป ในชื่อ "ผญา" หมายถึง ปัญญา, ปรัชญา, ความฉลาด, คำภาษิตที่มีความหมายลึกซึ้ง (wisdom, philosophy, maxim, aphorism.)

ผะหยา หรือ ผญา เป็นคำภาษาอีสาน สันนิษฐานกันว่าน่าจะมาจากคำว่า ปรัชญา เพราะภาษาอีสานออกเสียงควบ "ปร" ไปเป็น ผ เช่น คำว่า เปรต เป็น เผต โปรด เป็น โผด หมากปราง เป็น หมากผาง ดังนั้นคำว่า ปรัชญา อาจมาเป็น ผัชญา แล้วเป็น ผญา อีกต่อหนึ่ง

..................................................................................
..ผญา คือ คำคม สุภาษิต หรือคำพูดที่เป็นปริศนา คือฟังแล้วต้องนำมาคิด มาวิเคราะห์ เพื่อค้นหาคำตอบที่เป็นจริงและชัดเจนว่า หมายถึงอะไร
ผญา เป็นคำพูดที่คล้องจองกัน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสัมผัสเสมอไป แต่เวลาพูดจะ ไพเราะสละสลวย และในการพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวะหนักเบาด้วย
ผญา เป็นการพูดที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา มีเชาวน์ มีอารมณ์คมคาย พูดสั้นแต่กิน ใจความมาก
.................................................................
ผญาคำสอน

คันได้กินลาบซิ้นอย่าลืมแจ่วแพวผัก ได้กินพาเงินพาคำอย่าลืมกระเบียนฮ้าง
คันเจ้าได้อยู่ยอดฟ้าผาสาทประดับมุข อย่าได้ลืมเฮียมทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า
คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มสัปทน อย่าได้ลืมคนจนผู้แห่นำตีนซ้าง
ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้วก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง
ลาบซิ้น = ลาบเนื้อ, แจ่ว = น้ำพริกปลาร้า, แพวผัก = ผักข้างรั้ว, พาเงินพาคำ = ภาชนะเงิน,ทองคำ
กระเบียนฮ้าง = กระด้งผุๆ, กั้งฮ่ม = กางร่ม, สัปทน = ร่มผ้าสีแดง เป็นเครื่องยศของขุนนาง

............................................................................
ใจประสงค์สร้าง กลางดงกะว่าท่ง ใจขี้คร้าน กลางบ้านกะว่าดง
ถ้าใจสู้ (ขยัน) อยู่กลางป่าดงก็เหมือนกลางทุ่ง ถ้าเกียจคร้านแม้อยู่กลางหมู่บ้านก็เหมือนในกลางป่า
ท่ง = ทุ่ง, ทุ่งนา
.............................................................................
เชื้อชาติแฮ้ง เหม็นสาบกันเอง ปูสอนปูให้ย่างตรง ห่อนฤสิทำได้
ตัวอย่างที่เลวหรือจะทำให้ผู้อื่นทำดีได้
แฮ้ง = แร้ง, ย่าง = เดิน
.............................................................................
คนผู้มีความฮู้ ซูซีเฮ็ดบ่แหม่น ความฮู้มีท่อแผ่นฟ้า เป็นบ้าท่อแผ่นดิน
มีความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด
ความฮู้ = ความรู้, ซูซีเฮ็ดบ่แหม่น = ทำไม่ถูกต้อง, ท่อ = เท่า
.............................................................................
ฝนตกยังฮู้เอื้อน นอนกลางคืนยังฮู้ตื่น ความทุกข์ยังฮู้เตื้อง มีขึ้นเมื่อลุน
ฝนตกยังซาได้ นอนหลับยังรู้ตื่น ความทุกข์ก็มีโอกาสกลายเป็นสุขในวันข้างหน้า (ถ้าพยายาม)
เอื้อน = หยุด (ฝนซา), เตื้อง = กระเตื้อง, ลุน = วันข้างหน้า
...............................................................................
..... มีแล้วอย่าหยิ่ง......
เห็นว่ามีสุขแล้วผักตำนิลบ่อยากเบิ่ง
เห็นว่ามีสุขแล้วบ่เหลียวแลพวกเพื่อน
ในโลกนี้บ่ห่อนอยู่เดียวเป็น
คันว่ามีผืนผ้าบ่หาแพรพาดบ่า
คันได้กินต่อนซิ้นปลากั้งบ่อยากเหลียว
คันบ่สุขอยู่เรื่อยสิเหลียวหน้าเบิ่งไผ
อยู่แต่คนเดียวดายบ่ห่อนเป็นเมืองบ้าน
สินุ่งแต่ผ้าไปได้จั่งใด๋
...............................................................
...สุดท้ายครับเรื่องบุญบาปลองอ่านดูเล่นๆนะครับเพิ่มเติมความเฉลียวให้สมองได้ทำงานนอกลู่นอกทางที่มันทำอยู่ทุกวันครับ...
บุญบาปนี้เป็นคู่คือเงา
คันเฮาพาเล่นพามันเต้นแล่น
เฮานั่งยองย่อเงาก็นั่งลงนำ
คันเฮาโตนลงห้วยภูเขาหลายหลั่น
เงาก็ตามเลี้ยวเก๊าะเกี่ยวพันธนัง
อันนี้สันใดแท้ทั้งสองบุญบาป
เงานั้นไปตามเฮาสู่วันบ่มีเว้น
พามันแอะแอ่นฟ้อนเงานั้นแอ่นนำ
ยามเฮาเอาหลังนอนก็อ่อนลงนอนด้วย
ขึ้นต้นไม้ผาล้านด่านเขา
บ่ได้มียามเหินห่างไกลกันได้
มันก็ติดต่อก้นนำส้นผู้ทำ นั้นแหล่ว
...........................................................................
....คงพอรับใช้ท่าน 012และเพื่อนสมาชิกที่เคารพ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ จันทร์หน้าจะมาเขียนเรื่องสดๆรับใช้ครับ...สวัสดี ความมีโชคชัยจงประสพต่อเพื่อนสมาชิกที่เคารพทุกผู้นาม...




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 18/2/2551 เวลา : 09:21  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45210

คำตอบที่ 139
      

fiogf49gjkf0d
จันทร์นี้มาซะย๊าวยาวเลยนะจ๊ะ079 สงกะสัยว่าอัดอั้นไม่ได้ปลดปล่อยเมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแน่ๆเลยคุคุคุคุคุ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran Champ 130 202.91.19.204 จันทร์, 18/2/2551 เวลา : 12:33  IP : 202.91.19.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45215

คำตอบที่ 140
      

fiogf49gjkf0d
จันทร์นี้มาซะย๊าวยาวเลยนะจ๊ะ079 สงกะสัยว่าอัดอั้นไม่ได้ปลดปล่อยเมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแน่ๆเลยคุคุคุคุคุ
.........................................................................
...ถูกกกกกกกก...ต้องงงงงงง....คร้าบบบบบบบบ......... ท่าน130....โสน่าน่าตัวเอง รับงานไม่ดูคิวตัวเอง.....บอกแล้วงัยคิดถึงเพื่อน...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 18/2/2551 เวลา : 13:31  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45217

คำตอบที่ 141
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร เช้านี้ตื่นนอนขึ้นมา อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปทำงาน ออกจากบ้านสัมผัสกับความเย็นที่มากับสายลม อดแปลกใจไม่ได้ว่านี่มันฤดูอะไรกันแน่ ลมหนาวที่มาสัมผัสผิวกายทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เคยมีเพื่อนนำมาเล่าให้ฟังและยังประทับใจอยู่จนทุกวันนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม 2528
ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ร้านบะหมี่ " ฮอกไก " บนถนนซัปโปโร

การกินบะหมี่โซบะในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่น
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร้านบะหมี่ขายดีในวันสิ้นปี "ร้านฮอกไก" นี้ก็เช่นกัน ในวันนี้คน
แน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น. คนก็เริ่มน้อยลง โดยปกติแล้วบน
ถนนสายนี้คนจะแน่นขนัดไปจนถึงเช้าตรู่


แต่วันนี้ทุกคนจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปต้อนรับปีใหม่กัน ดังนั้นถนนสายนี้จึงปิดร้าน
เร็วกว่าปกติ เถ้าแก่ของร้าน "ฮอกไก" เป็นคนซื่อ และเถ้าแก่เนี้ยก็เป็นคนอัธยาศัยใจ
คอดี

ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลับไปในขณะเถ้าแก่เนี้ยก็จะปิดร้าน
ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบา ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กชายสองคน
คนหนึ่งประมาณ 6 ขวบกับอีกคนหนึ่งประมาณ 10 ขวบเข้ามาในร้าน

เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยมเหมือนกันทั้งสองคน
ส่วนหญิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ทลายสก๊อตเก่า ๆ เชย ๆ

"เชิญนั่งครับ" เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา

หญิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างขลาดกลัวว่า
"ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมค๊ะ"

เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังสบตากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก

"ได้ค่ะ ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ"

เถ้าแก่เนี้ยพาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะเบอร์สองชิดกำแพง
แล้วตะโกนบอกไปทางห้องครัวว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม"
บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่แค่หนึ่งก้อน เถ้าแก่คิดแล้วก็ใส่บะหมี่
เพิ่มไปอีกครึ่งก้อน ต้มบะหมี่ได้ชามเบ้อเริ่ม
ทั้งเถ้าแก่เนี้ยและสามแม่ลูกต่างก็ไม่รู้เรื่อง
สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
กินพลางพูดพลาง

"ทานเถอะครับ" ลูกคนพี่พูด


"แม่ทานหน่อยสิครับ"ลูกคนน้องพูดไปก็คีบบะหมี่ให้แม่กิน
ไม่นานก็กินบะหมี่หมดชาม จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน
แล้วทั้งสามคนก็ชมว่า

"ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ(ครับ)"

พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้วลาจากไป

"ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"

ทั้งเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยต่างก็กล่าวขอบคุณ
ทำงานไปวันแล้ววันเล่ายุ่งตั้งแต่เช้าจรดเย็น และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี
วันที่ 31 ธันวาคมก็เวียนมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ในวันส่งท้ายปีเก่า
ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีที่ผ่านมา
สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง
22.00น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น
ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน
พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และเชย
เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง

"ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยคะ"

"ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะคะ"

เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว โต๊ะเบอร์สอง
ตะโกนไปพลางว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่รับคำพลาง
จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง "ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม"
เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า

"นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ"

"ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย"

สามีตอบพลาง แล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน
เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม ภรรยาก็พูดขึ้นว่า

"เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ"


ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให้สาม
แม่ลูก สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง
เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย

"หอมจังเลย…ยอดไปเลย…อร่อยจริง ๆ "

"ปีนี้สามารถกินบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว"

"ถ้าปีหน้าสามารถมากินได้อีกก็ดีนะสิ"

กินเสร็จก็จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน
แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป

"ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"
มองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป

สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลูกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปได้ระยะหนึ่ง
ในวันสิ้นปีของสามปีมานี้ กิจการของร้านฮอกไกดีมาก
สองตายายต่างก็ยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกัน แต่พอเลย 21.00น.ไปแล้ว
สองตายายก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา พอถึง 22.00น.
พนักงานในร้านต่างก็รับอั้งเปาแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป

พอคนกลับไปหมดแล้วเจ้าของร้านทั้งสองก็ช่วยกันเอาป้ายราคาบะหมี่ในร้านที่เขียน
ไว้ว่า "บะหมี่ชามละสองร้อยเยน" ที่แขวนไว้ตามผนังทั้งหมดพลิกกลับหลัง
แล้วช่วยกันเขียนใหม่ว่า "บะหมี่ชามละร้อยห้าสิบเยน"
30นาทีก่อนเถ้าแก่เนี้ยก็เอาป้าย "จองแล้ว"
ไปวางไว้บนโต๊ะเบอร์สอง


เหมือนกับว่าจะมีเจตนารอแขกที่ลูกค้าออกจากร้านไปหมดแล้วถึงจะมาอย่างนั้นแหละ
22.30น. ในที่สุดสามแม่ลูกก็ปรากฎตัวขึ้น พี่ชายสวมเครื่องแบบมัธยมของรัฐแห่งหนึ่ง

น้องชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ทที่พี่ชายสวมเมื่อปีก่อนดูหลวมและไม่พอดีตัว
เด็กทั้งสองคนโตขึ้นมาก

ส่วนผู้เป็นแม่ก็ยังคงสวมเสื้อโค้ทลายสก๊อตที่ทั้งเก่าและเชยแถมสีซีดตัวเดิม

"เชิญค่ะ เชิญค่ะ"

เถ้าแก่เนี้ยกล่าวทักทายอย่างมีน้ำใจ

มองใบหน้าอันยิ้มแย้มและท่าทางต้อนรับอย่างเต็มที่ของเถ้าแก่เนี้ย

ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นเปล่งคำพูดออกมาอย่างงกงกเงิ่นเงิ่นว่า

"รบกวนช่วยทำบะหมี่น้ำให้สักสองชามได้ไหมค่ะ" "ได้ค่ะ เชิญนั่งทางนี้ค่ะ"

เถ้าแก่เนี้ยนำแม่ลูกไปนั่งยังโต๊ะเบอร์สอง

แล้วรีบเอาป้าย"จองแล้ว"ออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แล้วตะโกนบอกไปทางครัวว่า

"บะหมี่น้ำสองชาม"

"ได้ครับ บะหมี่น้ำสองชามได้เดี๋ยวนี้แหละครับ"

เถ้าแก่พลางตอบ พลางโยนบะหมี่ลงไปในหม้อน้ำสามก้อน
สามแม่ลูกกินไปพูดไป

ดูแล้วเหมือนมีความสุขกันมาก




สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่ได้รับรู้ถึงความสุขที่พวกเขาได้รับกัน
ในใจก็พลอยเบิกบานไปด้วย

"ลูกรัก วันนี้แม่ต้องขอบคุณลูก ๆ เป็นอย่างมาก"

"ขอบคุณ ?"

"ทำไมครับ"

"เรื่องเป็นอย่างนี้


คือคุณพ่อของลูกที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปได้ทำให้คนอีกแปดคนได้รับบาดเจ็บ
และทางบริษัทประกันก็ไม่รับผิดชอบในส่วนนั้น

ในช่วงหลายปีมานี่ทำให้เราต้องจ่ายเงินเดือนละห้าหมื่นเยนทุกเดือน"

"เอ๊ะ เรื่องนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้วนี่ครับ"
ผู้เป็นพี่ตอบ

ส่วนเถ้าแก่เนี้ยได้แต่ตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ
อยู่หลังโต๊ะทำอาหาร

"แต่เดิมนั้นเเราต้องชำระหนี้ไปจนถึงปีหน้าเดือนมีนาคม

แต่ตอนนี้เราได้ชำระหนี้ไปหมดแล้ว"

"จริง ๆ หรือครับ แม่"

"จริงสิจ๊ะ
นี่เป็นเพราะว่าพี่ชายของลูกขยันไปส่งหนังสือพิมพ์

ส่วนตัวลูกเองก็ช่วยแม่ซื้อกับข้าวทำอาหาร
ทำให้แม่ไปทำงานได้อย่างเต็มที่

ทางบริษัทจึงได้ให้เงินเบี้ยขยันพร้อมทั้งเงินโบนัสพิเศษอื่นๆ อีก

จึงทำให้วันนี้สามารถชำระในส่วนที่เหลือได้หมด"

"ว้าว แม่ครับ พี่ครับ อย่างนี้ก็วิเศษสิครับ

แต่ว่าต่อไปขอให้ผมได้ช่วยทำอาหารต่อไปเถอะนะครับ"

"ผมก็จะส่งหนังสือพิมพ์ต่อนะครับ ไอ้น้องชาย

เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันสู้หน่อยแล้วนะ"

"ขอบใจลูกทั้งสองมาก ขอบใจจริง ๆ "


"แม่ครับผมกับน้องก็มีความลับจะบอกกับแม่เหมือนกันครับ
คือในวันอาทิตย์วันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายนโรงเรียนของน้อง
ได้แจ้งให้ผู้ปกครองไปเยี่ยมชมนักเรียนในห้องเรียนในวันพบผู้ปกครอง
คุณครูของน้องยังได้แนบจดหมายมาอีกหนึ่งฉบับว่า
เรียงความของน้องได้ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของฮอกไกโด
เพื่อไปแข่งขันเรียงความทั่วประเทศ นี่ผมได้ยินมาจากเพื่อน ๆ
ของน้องนะครับผมถึงทราบ ดังนั้นในวันนั้นผมจึงไปเป็นตัวแทนแม่
ไปร่วมในงานวันพบผู้ปกครองของน้อง"

"จริงหรือลูก แล้วต่อมาล่ะ"

"หัวข้อที่คุณครูให้เรียงความคือ ความปรารถนาของข้าพเจ้า"

น้องได้เอาเรื่องของบะหมี่น้ำหนึ่งชามมาเขียนเป็นเรียงความ

แล้วยังได้อ่านต่อหน้าทุกคนด้วย"


"เรียงความเขียนว่า…หลังจากที่คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว
ได้ทิ้งหนี้สินให้เรามากมาย เพื่อที่จะชำระหนี้ คุณแม่ต้องทำงานดึกดื่นหาม
รุ่งหามค่ำทุกวัน แม้แต่เรื่องของผมที่ต้องไปส่งหนังสือพิมพ์
น้องก็ยังเอาไปเขียนเลย…"

"ยังมีอีก น้องยังเขียนถึงในคืนวันที่ 31 ธันวาคม
พวกเราสามคนแม่ลูกได้มาล้อมวงกันกินบะหมี่น้ำ
อร่อยมาก…สามคนกินบะหมี่น้ำแค่ชามเดียว
คุณตาคุณยายเจ้าของร้านยังกล่าวขอบคุณพวกเราอีก
แล้วยังอวยพรวันปีใหม่ให้พวกเราอีก

เสียงเหล่านั้นเหมือนกับว่าให้กำลังใจให้เข้มแข็งที่จะยืนหยัดมีชีวิตอยู่ต่อไป
พยายามปลดเปลื้องหนี้สินทั้งหลายของคุณพ่อให้หมดให้เร็วที่สุด…"


"ด้วยเหตุนี้น้องจึงได้ตัดสินใจว่าโตขึ้นน้องจะเปิดกิจการร้านบะหมี่
แล้วจะต้องเป็นเจ้าของร้านบะหมี่ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย
แล้วยังจะให้กำลังใจแก่ลูกค้าทุกคน…ขอให้มีความสุขครับ…ขอบคุณครับ…"

สองตายายเจ้าของร้านบะหมี่ที่ยืนฟังอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่จู่ ๆ
ก็หายตัวไป

พวกเขาไม่ได้หายไปไหนเลยเพียงแต่คุกเข่ากันอยู่ใต้โต๊ะ
ในมือถือปลายผ้าขนหนูกันคนละข้าง

พยายามซับน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุดเหมือนทำนบพังนั้นอย่างไม่ลดละ

"พอน้องอ่านเรียงความจบ คุณครูก็พูดว่า

"วันนี้พี่ชายได้มาเป็นตัวแทนของคุณแม่ ดังนั้นขอเชิญพี่ชายขึ้นมากล่าวอะไรสักหน่อยค่ะ "

"จริงหรือลูก แล้วลูกทำอย่างไรหล่ะ"

"ก็มันกระทันหันเกินไป ตอนแรก ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
ผมจึงพูดว่า…ขอบคุณทุกคนที่เอาใจใส่น้องผมเป็นอย่างดี
น้องผมต้องไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวกลับมาหุงหาอาหารทุกวัน
ดังนั้นในเวลาที่เพื่อน ๆ ทุกคนมีกิจกรรมกันในตอนเย็นก็มักจะ
อยู่ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ได้เพราะต้องรีบกลับบ้าน
เมื่อเป็นอย่างนี้คงจะทำให้ทุกคนวุ่นวายกันพอสมควร"

"เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้ยินน้องอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่น้ำหนึ่งชาม
ผมรู้สึกอายมาก แต่พอได้เห็นน้องยืดอกอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่
น้ำหนึ่งชามด้วยเสียงอันดังนั้นจนจบ ถึงได้รู้สึกว่าความรู้สึกอายเมื่อ
สักครู่นี้ถึงจะเรียกว่าเป็นความอายจริงๆ "

"หลายปีมานี้ ความกล้าของคุณแม่ที่จะสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามนั้นเพื่อกิน
กันสามคนนั้นผมกับน้องจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด ผมและน้องจะต้องขยัน
และดูแลแม่เป็นอย่างดี และผมขอฝากน้องของผมให้ทุกคนช่วยดูแลด้วยครับ"

สามแม่ลูกกุมมือกันเงียบ ๆ ตบไหล่ กินบะหมี่หมดอย่างมีความสุขกว่าทุก ๆ ปี

จ่ายเงินไปสามร้อยเยนกล่าวขอบคุณค้อมตัวลงเคารพและเดินออกจากร้านไป

มองตามหลังสามแม่ลูกไป เจ้าของร้านจึงได้รู้สึกว่าปีนี้ได้ผ่านไปแล้วจริง ๆ

พร้อมกับกล่าวว่า "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"

และแล้วก็ผ่านไปอีกปีหนึ่ง




พอถึงเวลา21.00น.ทางร้านฮอกไกก็วางป้าย"โต๊ะจอง"ไว้บนโต๊ะเบอร์สองและเฝ้ารอคอย
การมาเยือนของสามแม่ลูกเช่นเคย

แต่ในปีนั้นสามคนแม่ลูกไม่ได้มาปรากฏตัวที่ร้านเลย

ปีที่สอง ปีที่สาม
โต๊ะเบอร์สองก็ยังคงว่างอยู่เช่นเดิม

สามแม่ลูกไม่ได้มาที่ร้านฮอกไกอีกเลย
กิจการของร้านฮอกไกดีมาก

เรียกว่าดีวันดีคืนเลยทีเดียว
ภายในร้านมีการตกแต่งใหม่

โต๊ะเก้าอี้ก็มีการเปลี่ยนใหม่

จะมีก็แต่โต๊ะเบอร์สองที่เก็บรักษาไว้เหมือนเดิม

"นี่มันเรื่องอะไรกัน"
ลูกค้าหลายคนต่างก็ถามด้วยความกังขา


เถ้าแก่เนี้ยก็เลยเล่าเรื่องบะหมี่หนึ่งชามให้แก่ลูกค้าฟัง

โต๊ะเก่าตัวนั้นวางอยู่กลางร้านเหมือนกับว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่ง

และก้อไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งลูกค้าทั้งสามอาจจะกลับมาอีก

พวกเขาหวังว่าจะใช้โต๊ะเก่าตัวนั้นในการต้อนรับลูกค้าทั้งสามของเขา

โต๊ะเบอร์สองตัวนั้นเปลี่ยนเป็นชื่อว่า "โต๊ะแห่งความสุข"

ลูกค้าต่างก็พูดต่อๆ กันไป



มีนักเรียนหลายคนอยากเห็นโต๊ะตัวนี้ถึงขนาดที่ว่านั่งรถมาจากที่ไกลแสนไกลมากิน
บะหมี่ และเจาะจงที่จะนั่งโต๊ะตัวนี้

ผ่านวันที่ 31 ธันวาคม ไปอีกหลาย ๆ ปี

พอถึงวันสิ้นปีหลังจากปิดร้านแล้ว เจ้าของร้านค้าในระแวกใกล้เคียงร้านฮอกไก

ก็มักจะมารวมตัวฉลองโดยการกินบะหมี่ที่ร้านฮอกไก
กินไปพลาง

ก็รอเสียงระฆังส่งท้ายวันสิ้นปีเก่าไปพลาง

แล้วทุกคนก็ไปวัดเพื่อไหว้พระด้วยกัน
เป็นธรรมเนียมมา 5-6 ปีแล้ว

ในวันนี้พอเลย 21.30น.ไปแล้ว

เจ้าของร้านขายปลามาถึงก่อนพร้อมทั้งนำซาซิมิมาด้วย

ต่อจากนั้นก็มีคนมาเรื่อยๆ เป็นระยะ บ้างก็เอาเหล้ามา
บ้างก็เอาอาหารกับแกล้มมา

ปกติแล้วก็จะรวมตัวกันได้ประมาณ 30-40 คน
ต่างก็คึกคักกันมาก

ทุกคนที่มานั้นต่างก็รู้ตำนานเกี่ยวกับโต๊ะเบอร์สอง

ทุกคนก็พยายามไม่เอ่ยถึงมันแต่ในใจต่างก็คิดกันว่า

วันนี้"โต๊ะจอง"ตัวนั้นไม่มีคนที่พวกเขาเฝ้ารอมานั่ง

มันคงจะว่างเปล่าเพื่อส่งท้ายปีเก่าอีกเช่นเดิม

พวกเขาบ้างก็กินเหล้า บ้างก็กินบะหมี่ บ้างก็เข้า ๆ
ออก ๆ

พอเตรียมกับข้าวกับแกล้ม ต่างก็กินกันไปคุยกันไป
พูดเรื่องการค้าบ้าง

คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แม้แต่น้ำทะเลขึ้นลง

ในระยะนี้บ้านไหนมีเด็กเกิดใหม่

ก็นำมาพูดคุยในวงสนทนา คุยมันทุก ๆ เรื่อง

จนเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

เวลาผ่านไปจนถึง 22.30น.
ทันใดนั้นเองประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ

ทุกคนในร้านหยุดพูดคุยกัน
สายตาทุกคู่มองตรงไปยังประตูร้าน

ชายหนุ่มสองคนยืนสง่าในชุดสูทสากล
พาดโอเวอร์โค้ทไว้บนแขน


พอเห็นว่าผู้ที่มาเป็นใครทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง

และเริ่มสนทนากันต่อไปอย่างคึกคัก
ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะพูดว่า

"ขอโทษค่ะ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ"

เพื่อปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ได้รับเชิญอยู่นั้น



ก็มีหญิงคนหนึ่งสวมชุดกิโมโนเดินเข้ามายืนระหว่างกลางของชายหนุ่มทั้งสองคน


ทุกคนในร้านแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินคุณนายผู้นั้นพูดว่า

"เอ้อ…รบกวน…รบกวนช่วยทำบะหมี่ให้สามชามได้ไหมคะ"

ทันทีที่เถ้าแก่เนี้ยได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เวลาผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว

ภาพของสามแม่ลูกในความทรงจำ
กับภาพของสามแม่ลูกตรงหน้า

เธอพยายามจะนำทั้งสองภาพมาวางซ้อนกัน

เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ที่โต๊ะทำบะหมี่

ชี้นิ้วไปยังทั้งสามแม่ลูก "พวกคุณ .. พวกคุณ"
เขาพูดได้เพียงแค่นั้น

คำพูดทุกคำจุกอยู่ที่คอ




ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนเห็นท่าทีของเถ้าแก่เนี้ยที่ทำอะไรไม่ถูกก็เลยพูดกับ
เถ้าแก่เนี้ยว่า

"พวกเราสามคนแม่ลูกที่เมื่อสิบสี่ปีก่อนในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มา
สั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามทานกันสามคนไงครับ
และพวกเราก็ได้รับกำลังใจจากบะหมี่น้ำชามนั้น
พวกเราจึงได้สามารถยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้"


"หลังจากนั้นก็อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับยายที่อำเภอชิกะ
ปีนี้ผมสอบผ่านได้เป็นนายแพทย์แล้ว
ตอนนี้ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดแผนกกุมารเวชที่โรงพยาบาลเกียวโต
ปีหน้าเดือนเมษายนก็จะย้ายมาประจำโรงพยาบาลกลางของซัปโปโรแล้ว"

"วันนี้พวกเราก็เลยแวะมาที่โรงพยาบาลเพื่อทำความรู้จักและฝากเนื้อฝากตัว
แล้วเลยไปไหว้สุสานของคุณพ่อ
และน้องชายที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันว่าจะเป็นเจ้าของกิจการร้านบะหมี่นั้น

ขณะนี้ได้ทำงานในธนาคารเกียวโต
ได้เสนอความคิดที่เลิศเลออย่างหนึ่งก็คือ

ปีนี้ในวันส่งท้ายปีเก่า


พวกเราสามคนแม่ลูกจะมาเยี่ยมคารวะเจ้าของร้านบะหมี่ฮอกไกที่ซัปโปโร

และทานบะหมี่น้ำสามชามของร้านฮอกไกด้วย"

สองตายายฟังไปพลาง พยักหน้าไปพลางด้วยน้ำตาคลอเบ้า

เถ้าแก่ร้านขายผักที่นั่งอยู่ตรงหน้าประตู


พยายามใช้แรงอย่างเต็มที่ที่จะกลืนบะหมี่คำที่คาอยู่ในปากลงไปในคอ

แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า "อ้าว…เถ้าแก่… เป็นอะไรไปหล่ะ

อุตสาห์เตรียมการมาตลอดสิบปีเพื่อเฝ้าคอยวันนี้
"โต๊ะจอง"

ตัวนั้นไงที่พวกเถ้าแก่จองให้ลูกค้าที่จะมาตอนหลังสิบโมงของคืนวันสิ้นปีไง

รีบๆ ต้อนรับพวกเขาสิ เร็วเข้า"

ในที่สุดเถ้าแก่เนี้ยก็ได้สติ
ตบไหล่ของเถ้าแก่ร้านขายผัก แล้วพูดว่า


"ยินดีต้อนรับค่ะ…เชิญนั่งข้างในค่ะ…นี่ตาเฒ่า…บะหมี่น้ำสามชามโต๊ะสอง"

เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ก็รีบปาดน้ำตาแล้วรับคำว่า
"ครับ..บะหมี่น้ำสามชาม"

หากดูกันตามจริงแล้ว


สิ่งที่เถ้าแก่ร้านบะหมี่ทั้งสองได้ให้ไปมันไม่ได้มีค่ามากมายอะไรเลย

มันเป็นแค่เพียงบะหมี่ไม่กี่ก้อน
คำพูดที่จริงใจและให้กำลังใจเพียงไม่กี่คำ

รวมทั้งคำอวยพรว่า "ขอบคุณค่ะ(ครับ)
สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"ก็เท่านั้นเอง


แต่มันกลับให้ผู้ที่ถูกความจริงอันโหดร้ายบีบให้จมอยู่ในสถานการณ์
คับขับได้สามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ---

อย่าพยายามมองข้ามตัวเอง

ตัวเราเองสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ได้



บางทีมันอาจจะเป็นแค่เพียงความใส่ใจความห่วงใยอันจริงใจ
ของคุณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ก็สามารถนำพาเอาแสงสว่างอันเจิดจรัสอย่างไม่มีขีดจำกัดมาสู่โลกได้

ด้วยเหตุนี้ความหวังความใฝ่ฝันที่แรงกล้าของพวกเรา …
เพื่อนพ้องทั้งหลาย …

อย่ามัวเห็นแก่ตัวกันหรือเสียดายมันอยู่เลย
หวังว่านับแต่บัดนี้เป็นต้นไป


พวกเราจะสามารถมอบหัวใจแห่งความรักและความเมตตาที่เราอัดเก็บ
ไว้ในใจมาเป็นเวลานานแสนนานนั้นมอบให้กับคนอื่นด้วยความเต็มใจ
จุดประกายแห่งความสว่างแก่โลก

….

ถึงแม้จะเป็นแสงเพียงริบหรี่เท่านั้น

แต่สำหรับคืนอันหนาวเหน็บอันเย็นยะเยือกของฤดูหนาว


มันเป็นประกายแห่งความอบอุ่นและแสงสว่างอันสุกสกาวจริงๆ


ไงจ๊ะ…อ่านบทความนี้จบแล้วรู้สึกเมื่อยตาบ้างหรือเปล่า
บริหารสายตาหน่อย

กรอกตาซ้ายไปมา เสร็จแล้วก็หันมากรอกตาขวา

หลังจากนั้นก็กรอกตาทั้งสองข้างพร้อม ๆ กัน


หากทำแล้วลูกตากระเด็นออกมานอกเบ้าแล้วล่ะก้อไม่ต้องมาหาฉันนะจ๊ะ

ไปหาหมอเถอะ…

เรื่องนี้ตอนที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น

ทำให้คนญี่ปุ่นรู้สึกประทับใจมานับไม่ถ้วนแล้ว
ดังนั้นจึงมีคนพูดกันว่า

"ใครที่อ่านนิทานเรื่องแล้ว
ไม่มีใครเลยที่จะไม่หลั่งน้ำตาให้"

ถึงแม้คำพูดนี้ออกจะเกินจริงไปบ้าง

แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ได้อ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว
รู้สึกประทับใจจริง ๆ

จนน้ำตาร่วง และน้ำตาที่ร่วงรินเหล่านั้น
มันไม่ใช่น้ำตาจากความรันทดใจ


แต่เป็นน้ำตาที่หลั่งให้แก่ความประทับใจต่อความห่วงใยอย่างจริงใจ


และน้ำใจไมตรีอันกว้างขวางที่มอบให้แก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 19/2/2551 เวลา : 08:24  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45292

คำตอบที่ 142
      

fiogf49gjkf0d
"จันทร์นี้มาซะย๊าวยาวเลยนะจ๊ะ079 สงกะสัยว่าอัดอั้นไม่ได้ปลดปล่อยเมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแน่ๆเลยคุคุคุคุคุ "

...........................................

...คิดว่าจะมีแต่ผมคนเดียวที่อัดอั้นครับท่าน130.....ดูท่าน012ดิ อั้นมากกว่าผมอีก......55555....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 พุธ, 20/2/2551 เวลา : 09:13  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45403

คำตอบที่ 143
      

fiogf49gjkf0d
เหนือคำบรรยาย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran Champ 130 202.91.19.192 พุธ, 20/2/2551 เวลา : 13:14  IP : 202.91.19.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45409

คำตอบที่ 144
      

fiogf49gjkf0d



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kid cowboy cmp 067 58.136.206.171 พุธ, 20/2/2551 เวลา : 14:26  IP : 58.136.206.171   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45410

คำตอบที่ 145
      

fiogf49gjkf0d
...วันนี้...วันจันทร์ ที่25เดือนกุมภาพันธ์ 2551 เป็นวันทำงานสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแล้วครับเพื่อนสมาชิกที่เคารพและเป็นเรื่องที่ยินดีในปีนี้มีเวลาทำงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน กุมภาในปีนี้มี29วันครับ...079บอกจะเขียนเรื่อสดๆ..ก็เอาสดๆแบบเดือนนี้มี29วันนี้ล่ะครับ ฮา...ส่วนเรื่องคำเตือน คำสอนสั่ง ปรัชญาในการดำเนินชีวิต สภาษิตใดๆก็ต่างมุ่งหวังให้มนุษย์ทุกคนอยู่ร่วมกันแบบสังคมความสุขครับ....นิทานน้าหมูเริ่มเรื่องด้วยการกินบะหมี่ หากแต่ลงท้ายด้วยสาระมากมายในการในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ยินดีด้วยครับ...ยินดีกับน้าหมูด้วยนะครับ... 079 บอกแล้วงัยชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แต่ชีวิตมันก็ไม่ยากหากเข้าใจ....เนี่ยก็เรื่องสดๆเหมือนกันครับ....อันว่าเรื่องสุขภาพก็สำคัญนะครับเพื่อนสมชิกที่เคารพ ไอ้แค่เรื่องง่ายๆเรื่องเล็ก อย่างเช่นเปิดแอร์นอนที่21องศา ตื่นเช้ามามีอาการเจ็บคอปวดหัวคั่นเนื้อคั่นตัวได้เหมือนกันครับ.....สุดท้ายเอาเป็นว่าจะข่าวดีหรือข่าวร้ายก็แล้วแต่มุมมองและสถานะของเพื่อนสมาชิกก็แล้วกันเถิดนะครับ...ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้....ก็น่าจะบอกเป็นภาษาแบบนักเลงโบราณกงๆว่า ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องพี่ป้าน้าอา ทั้งหลายมากู้เงินไปใช้สอยตามสดวกสบายสะดือกันเถิดครับ เพราะเงินมันล้นธนาคารแล้วหลังจากเก็บไว้เกือบ2ปี......พอเงินมันออกมาเพ่นพ่านกันเยอะๆทีนี้ก็สนุกกันล่ะครับท่านผู้อ่านที่เคารพ...มันต้องมีส่วนหนึ่งไม่มากก็น้อยมาเข้ามือท่าน081ในเรื่อผ้าม่านตกแต่งบ้าง...ไม่มากก็น้อยเข้ามาร้านกาแฟบ้าง มากโขอยู่สำหรับม่าน118,114 และอื่นๆที่ประกอบอาชีพด้านอสังหาฯ...ไอ้ความอยากจะได้วินส์ติดรถซักตัวคราวนี้ล่ะ เสร็จ079แน่ครับ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.203 จันทร์, 25/2/2551 เวลา : 11:17  IP : 203.113.0.203   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45626

คำตอบที่ 146
      

fiogf49gjkf0d
ขอให้เป็นดั่งคำ 079 เถิดเจ้าข้า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Anan :: Champ :: 118 124.120.64.6 จันทร์, 25/2/2551 เวลา : 19:00  IP : 124.120.64.6  แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45662

คำตอบที่ 147
      

fiogf49gjkf0d
26 ก.พ. 2551

เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร อากาศช่วงนี้มันแปรปรวนซะจนทำให้ร่างกายของเราปรับตัวไม่ทันกับสภาวะแวดล้อมของอากาศ ทำให้เกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาได้ ต้องระวังรักษาสุขภาพมากๆครับ จริงๆแล้ววันนีอยากจะเขียนเรื่องราวอะไรๆที่ได้เก็บเกี่ยวไว้มากมาย แต่เผอิญว่าต้องเตรียมข้อมูลเข้าประชุมในเช้านี้ ก็เลยขอยกเอาเรื่องราวที่ได้อ่านเจอและเก็บไว้มาเล่าให้ฟังเพื่อให้ลูกๆที่ยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่ห่วงใยได้รับรู้ความรู้สึกของท่านจากเรื่องนี้บ้าง

อยากจะมอบเรื่องนี้ให้กับผู้ที่ไม่ค่อยได้อยู่ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่

เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของลุกผู้ชายคนหนึ่ง
ที่ตระเวนทั้งเรียนทั้งทำงานไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
แม้เขาจะเติบโต กล้าเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ ความรู้เพิ่มมากขึ้น
โลกใบนี้เริ่มเล็กลง แต่พ่อแม่ที่อยู่บ้านเดิม(ในเมืองจีน)ก็เริ่มแก่ตัวลง

ลูกคนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ
ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่ ได้แต่ติดต่อกันทางจดหมาย
โชคดีต่อมามีไอพีการ์ด เลยได้คุยสดกันบ้าง
ทุกครั้งแม่ก็จะคอยเตือนให้ระวังสุขภาพของตัวเอง
ตั้งใจทำงาน ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ
เพราะจะสิ้นเปลืองเงินทอง... ยิ่งพูดก็ยิ่งซ้ำๆซากๆ
เขารู้ดีว่าแม่เริ่มคิดถึงเขามาก

จนกระทั่งปีนี้
แม่อายุ 75 เขาจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแม่
โดยตั้งใจว่าจะอยู่สัก 1 เดือน จะไม่ทำอะไรเป็นพิเศษ
แต่ขอเป็นเพื่อนแม่เพียงอย่างเดียว

พอบอกข่าวนี้ให้แม่ทราบ
แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2 เดือนเศษ แม่ก็เริ่มเตรียมตัวในการต้อนรับการกลับมาเยี่ยมบ้านของลูก
แม่ดึงเอาสมุดบันทึกมาจดสิ่งที่ต้องตระเตรียม
แม่เตรียมรายการอาหารที่ลูกชอบ ดึงเอาผ้าห่มที่ลูกเคยชอบห่มมาปะชุนใหม่...
สำหรับคนอายุ 75 เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

พอกลับถึงบ้าน
ตอนอยู่บนเครื่องบิน เคยตั้งใจว่าจะขอกอดแม่ให้ชื่นใจสักครั้ง
แต่พอมาเห็นแม่ แม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผอมแห้ง
หน้าตาเหี่ยวย่น ช่างไม่เหมือนแม่คนก่อนหน้านี้เลย...

แม่ใช้เวลาทั้งชั่วโมงเตรียมอาหารที่ลูกเคยชอบ
โดยที่หาทราบไม่ว่า เดี๋ยวนี้ลูกไม่ได้ชอบอาหารแบบนั้นแล้ว
และเพราะแม่ตาไม่ค่อยดี รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ
บางจานก็เค็มจัด บางจานก็จืดสนิท ผ้าห่มที่แม่อุตส่าห์เตรียมให้
ทั้งหนาทั้งหยาบ ไม่สบายกายเลย แม่หารู้ไม่ว่า
เดี๋ยวนี้ลูกนอนห้องแอร์และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว
แต่เขาก็ไม่บ่นอะไร เพราะเขาตั้งใจจะกลับมาเป็นเพื่อนแม่จริงๆ

สองสามวันแรก แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ
จนไม่มีเวลาพักผ่อน พอเริ่มได้พัก แม่ก็เริ่มพูดมาก
สอนโน่นสอนนี่ พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น
10กว่าปีก่อนก็เคยพูดแล้ว พอลูกบอกให้ฟังว่า
ปรัชญาเหล่านั้นไม่ทันสมัยแล้ว แม่ก็เริ่มนิ่งเงียบและเศร้าซึม

“เหตุการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
ผมพบว่าสุขภาพแม่แย่ลง โดยเฉพาะสายตา อาหารบางจานมีแมลงวันด้วย
บางทีอาหารหกบนเตา แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิม
ครั้นผมพยายามชวนแม่ไปกินนอกบ้าน แม่ก็บอกอาหารข้างนอกไม่สะอาด
ของแปลกปลอมเยอะ เมื่อผมบอกแม่ว่าจะหาคนรับใช้มาช่วยแม่สักคน
แม่ก็โวยวายว่า แม่เองยังสามารถทำงานเลี้ยงดูเด็กให้ผู้อื่นได้เลย
ผมเลยพูดไม่ออก พอผมจะออกไปช้อปปิ้ง แม่ก็จะตามไปด้วย
ทำเอาวันนั้นทั้งวัน พวกเราไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย...”

“พอพวกเราเริ่มคุยกันในเรื่องทันสมัย
แม่ก็จะหาว่าพวกเราเพี้ยน ผมก็เริ่มบอกแม่อย่างไม่ค่อยเกรงใจว่า
แม่ นี่มันสมัยใหม่แล้ว แม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆบ้าง...
ช่วงครึ่งเดือนหลังที่อยู่กับแม่ ผมเริ่มขัดแม่มากขึ้นเรื่อยๆ
และรู้สึกรำคาญเพิ่มมากขึ้น แต่เราไม่เคยทะเลาะกันนะ
พอผมขัดแม่ แม่ก็หยุดกึกลง ไม่พูดไม่จา
ในตามีแววเหม่อลอย – โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ชักหนักขึ้นเรื่อยๆ”

“ได้เวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ
แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมา ในนั้นเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่แม่ตัดเก็บไว้ในช่วงที่ผมไปอยู่เมืองนอก
แม่เริ่มสนใจข่าวต่างประเทศเมื่อผมเดินทางไปนอก
ทุกครั้งที่มีข่าวตึงเครียดในประเทศนั้นๆ
แม่จะตัดข่าวเก็บไว้ ตั้งใจจะมอบให้ผมตอนที่ผมกลับมา
แม่พูดอยู่เสมอว่า อยู่นอกบ้านนอกเมือง
ต้องระวังตัวให้มากๆ ครั้งหนึ่งมีเรื่องคนญี่ปุ่นต่อต้านและข่มเหงคนจีน
มีการปะทะกันด้วย แม่เป็นห่วงมาก ถามเพื่อนบ้านว่าจะส่งข่าวไปเตือนผมที่ญี่ปุ่นได้อย่างไร
ตอนนั้นผมสอนอยู่ที่ญี่ปุ่น”

แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้นออกมาอย่างยากลำบาก
วางใส่ในมือผมเหมือนของวิเศษชิ้นหนึ่ง
มันหนักมาก ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจ เพราะผมไม่อยากนำกลับไป
มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ผมรู้ว่าแม่เก็บมันด้วยความยากลำบาก
แม่สายตาไม่ค่อยดี ต้องใช้แว่นขยาย อ่านได้วันละ
2 หน้าก็เก่งแล้ว นี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้
ทันใดนั้นมีข่าวแผ่นหนึ่งปลิวหลุดลงมา
แม่รีบเอื้อมไปหยิบ แต่แทนที่แม่จะเก็บเข้ากองเดิม
แม่กลับพับเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเอง

ผมรู้สึกเอะใจ
เลยถามว่า “แม่ นั่นกระดาษอะไร ขอผมดูหน่อยนะ”
แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั้น
แล้วหุนหันเข้าครัวไปทำกับข้าวทันที

ผมหยิบแผ่นข่าวนั้นขึ้นมาดู
มันเป็นบทความบทหนึ่ง ชื่อว่า “เมื่อฉันแก่ตัวลง”
ตัดจากหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม
2004 เป็นช่วงที่ผมเริ่มเถียงกับแม่ถี่มากขึ้นทุกที
บทความนั้นคัดมาจากนิตยสารฉบับหนึ่งของเม็กซิโก
ฉบับเดือนพฤศจิกายน ผมอ่านบทความนั้นรวดเดียวจบทันที
....

เมื่อฉันแก่ตัวลง
ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็น ขอโปรดเข้าใจฉัน มีความอดทนต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด

ตอนฉันทำแกงหกใส่เสื้อตัวเอง
ตอนฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า ขอให้คิดถึงตอนแรกๆที่ฉันใช้มือสอนเธอทำทุกอย่าง

ตอนฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่องเดิมๆที่เธอรู้สึกเบื่อ
ขอให้อดทนสักนิด อย่าเพิ่งขัดฉัน ตอนเธอยังเล็กๆ
ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆซากๆ จนเธอหลับเลย

ตอนฉันต้องการให้เธอช่วยอาบน้ำให้ อย่าตำหนิฉันเลยนะ
ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆ ฉันต้องทั้งออดทั้งปลอบเพื่อให้เธอยอมอาบน้ำได้ไหม

ตอนฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆ
อย่าหัวเราะเยาะฉัน จำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถาม
“ทำไม ทำไม”ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม

ตอนฉันเหนื่อยล้าจนเดินต่อไม่ไหว
ขอจงยื่นมือที่แข็งแรงของเธอออกมาช่วยพยุงฉัน
เหมือนตอนที่ฉันพยุงเธอให้หัดเดินในตอนที่เธอยังเล็กๆ

หากฉันเผอิญลืมหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่
ให้เวลาฉันคิดสักนิด ที่จริงสำหรับฉันแล้ว
กำลังพูดเรื่องอะไรไม่สำคัญหรอก ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน
ฉันก็พอใจแล้ว

ตอนเธอเห็นฉันแก่ตัวลง
ไม่ต้องเสียใจ ขอให้เข้าใจฉัน สนับสนุนฉัน
ให้เหมือนตอนที่ฉันสนับสนุนเธอตอนเธอเพิ่งเรียนรู้ใหม่ๆ

ตอนนั้นฉันนำพาเธอเข้าสู่เส้นทางชีวิต
ตอนนี้ขอให้เธอเป็นเพื่อนฉันเดินไปให้สุดเส้นทาง
ให้ความรักและอดทนต่อฉัน

ฉันจะยิ้มด้วยความขอบใจ
ในรอยยิ้มของฉันมีแต่ความรักอันหาที่สิ้นสุดมิได้ของฉันที่มีให้กับเธอ

ผมอ่านบทความนั้นรวดเดียวจบ
เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ (ใจแข็งจริง
ไอ้หมอนี่) ตอนนั้น แม่เดินออกมา ผมแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนแรกแม่คงอยากให้ผมได้อ่านบทความนี้หลังจากผมกลับไปแล้ว
จึงคะยั้นคะยอให้ผมนำข่าวปึกนั้นกลับไป
ตอนผมจัดกระเป๋าเดินทาง ผมต้องสละไม่เอาสูทกลับไป
1 ตัว จึงยัดเก็บปึกข่าวเหล่านั้นเข้าไปได้
รู้สึกแม่จะดีใจมาก เหมือนกับว่าหนังสือพิมพ์เหล่านั้นเป็นยันต์โชคลาภสำหรับผม
และเหมือนกับว่าการที่ผมยอมรับหนังสือพิมพ์เหล่านั้น
ผมได้กลับมาเป็นเด็กดีของแม่อีกครั้งหนึ่ง
แม่ตามมาส่งผมจนถึงรถแท็กซี่เลยที่เดียว

หนังสือพิมพ์ที่ผมนำกลับมาเหล่านั้น
ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรเลย แต่บทความ
“เมื่อฉันแก่ตัวลง” บทนั้น ผมได้ตัดเก็บไว้ในกรอบ
เอาไว้ข้างตัวฉันตลอดไป






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 26/2/2551 เวลา : 08:02  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45718

คำตอบที่ 148
      

fiogf49gjkf0d
ทาม....มาย.....มัน.....ยาวววววว.......จางงงงงงงงงง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก AOD 081 124.121.124.96 อังคาร, 26/2/2551 เวลา : 10:46  IP : 124.121.124.96   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 45761

คำตอบที่ 149
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้...วันจันทร์ สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกที่เคารพ จันทร์นี้ก็เป็นจันทร์แรกของเดือนที่สามครับ อีก28วันก็จะจบไตรมาสแรกของปีครับอะไรต่างคงจะดีตามมาในไตรมาสที่สองครับ หากแต่อย่ากระพริบตาในไตรมาสที่สี่นะครับ ใครใคร่หาใคร่เก็บรีบหาและเก็บกันเยอะๆครับ..
.....พระคุณของแม่ยากแท้เปรียบปานครับ ท่านใดที่แม่ยังอยู่ขอวิงวอนโปรดกรุณาดูแลท่านอย่างดีเยี่ยมเลยนะครับ ..079 เองแม่ก็เสียด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี2539 ครับ ขณะนั้นยังหาเงินไม่ค่อยจะได้ยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณท่านเท่าทีควรจะเป็น พอมาถึงวันนี้คิดถึงแม่ครับ ยิ่งอ่านบทความน้าหมู ก็ยิ่งคิดถึงครับหากวันนี้มีแม่อยู่ด้วยคงมีความสุขกว่านี้อีกเยอะครับ....
.....เรื่องลูกหลานของเราเองก็ต้องระมัดระวังครับ สังคมมันไปไกลวัฒนธรรมเปลี่ยนไปเกินกว่าคนเก่าๆอย่างเราจะตามทันครับ ก็ดูแลสั่งสอนแบบนักเลงโบราณนี้หล่ะครับได้ผลดี คุณพ่อคุณแม่ท่านยังอบรมดูแลสั่งสอนเรามาไม่ให้เป็นภาระสังคมท่านก็มีความสุขเราก็อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขเหมือนกันครับ...เรื่องใกล้ตัวก็โปรดแนะนำหรือห้ามลูกหลานบ้างนะครับ อย่างเช่นไอ้ชุดนักศึกษาหญิงที่รัดติ้ว กระโปรงสั้นจู๋ เสื้อบางๆเอวกระโปรงเกือบหลุดสะโพก อันนี้เข้าใจครับว่าป็นแฟชั่นส์แต่ก็เอาแต่พองามเถิดครับ รวมถึงการแต่งหน้าทาปากเพ้นท์เล็บทำผมผิดสีด้วยมันน่ามองครับสำหรับ079.. หากพ่อแม่เราที่มองลูกอยู่ทุกวันบอกไม่ได้ อย่าได้หวังว่าใครจะบอกได้ห้ามได้ครับ...คนอื่นเขาไม่อยากจะยุ่งหรอกครับเขามองว่าพ่อแม่เขาคงเห็นมั้ง....ส่วนเจ้าลูกชายคนโปรดอันนี้ต้องพิเศษหน่อยครับ ทำทุกอย่างครับไม่ให้เขาไปสร้างปัญหาให้สังคมเป็นภาระของสังคมโปรดใช้กลยุทธ์ใครมันครับ .........
.....คนกรุงเทพเกือบ13ล้านคน ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ กินข้าววันละ3มื้อ กินน้ำวันละกี่แก้ว กินแล้วขี้ออก(อุจจาระ) ท่านคิดดูซีครับมันต้องใช้วัตถุดิบซึ่งเป็นทรัพยากรมากมายเท่าไร หากมองว่าจะทำมาหากินเกี่ยวกับเรื่องกินเข้าคลายออก มันก็จะเข้าท่าเหมือนกันนะครับ...ท่านสมชิกท่านใดมีแนวทางดีๆเกี่ยวกับด้านนี้โปรดอนุเคราะห์แนะนำ079หน่อยเถอะครับ จะเป็นพระคุณอันสูงยิ่ง...สุดท้ายความสำเร็จที่ท่านหวังและตั้งใจจะทำในวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์นี้ ขอให้จงประสบความสำเร็จดังหวังครับ...สวัสดี....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.205 จันทร์, 3/3/2551 เวลา : 13:38  IP : 203.113.0.205   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 46431

คำตอบที่ 150
      

fiogf49gjkf0d
4 มีนาคม 2551

เมื่อวานนี้วันจันทร์ วันนี้ก็ต้องเป็นวันอังคาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคงได้ออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง สว.กันถ้วนหน้านะครับ ถึงวันนี้คงจะรู้ผลแล้วว่าใครจะเป็นหนึ่งใน 35 ผู้สมัครของ กทม.ที่ได้เข้าไปเป็นตัวแทน หลายคนบอกว่าไม่รู้จักสักคนไม่รู้จะเลือกใคร ผมเองก็ไม่รู้จักใครเหมือนกันในด้านตัวบุคคล แต่รู้จักผลงานเลยเลือกคนที่ทำผลงานเข้าไปเป็นตัวแทน

วันนี้เป็นช่วงต้นเดือนของเดือนสุดท้ายในไตรมาสแรกของปีที่อากาศมันแปรปรวนอย่างรุนแรง ขับรถออกจากบ้านอากาศเย็นมากๆจนเครื่องปรับอากาศไม่มีความจำเป็น บางครั้งร่างกายของคนเราอาจจะปรับตัวไม่ทันก็ต้องดูแลกันให้ดีนะครับ

วันนี้เอากันแบบเบาๆไม่ต้องหาสาระอะไรมากมายละกัน แต่หากจะเก็บเกี่ยวสาระหรือแง่คิดในความไม่มีสาระในบทความหรือข้อเขียนของน้าหมู ก็เป็นที่มุมมองของแต่ละคนที่จะแงะหรืองัดออกมาเองนะครับ เพราะในความไม่มีสาระของน้าหมู มันจะกลั่นออกมาจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอมาตลอดเท่าที่พอจะจำได้เท่านั้นเอง

วันนี้จึงเอาเรื่องของสุราที่แปลว่า "เหล้า" ซึ่งอยากจะนำมา "เล่า" ให้ท่านๆได้ฟังดังนี้

สุรา รสชาติคล้ายกันทั้งโลก
คุณสมบัติก็ เหมือนกัน คือ กินแล้วเมาเหมือนกันหมด
คนที่ดื่มสุรามากๆ มักจะมีคอแข็ง แกร่งประดุจเหล็กไหล
เวลาตายไปตกนรก โดนยมบาลเอาน้ำร้อนกรอกปากก็ไม่สะทก สะท้าน
เนื่องจากตอนเป็นคนเตรียมการมาดี ผมขอเสนอว่า
นรกขุมนี้ควร
เปลี่ยนวิธีการลงโทษ เป็นแบบใหม่
การสังสรรค์ในหมู่ชายฉกรรจ์ ถ้าขาด สุราไป
ก็คล้ายกับการสั่งเกาเหลาไม่เอาน้ำ การสนทนาในวงเหล้า
จะทวีความ มันส์ เมื่อสุราเริ่มทยอยเข้าปากไป
ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็จะสนิทดั่ง ญาติมิตรชนิดตายแทนกันได้
การพูดจาก็จะดังระงมคล้ายมีไมค์มาจ่อปาก
และ อาการทั้งหมดจะสงบลง เมื่อบิลเก็บตังค์มา
การดื่มสุราเอาสนุก บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเมา
โดยเฉพาะผู้ชาย ยามเมาแล้วไม่ค่อยน่าคบ
เพราะมักมีวิญญาณ โผน กิ่งเพชร เข้าสิง
อยากบู๊ท่าเดียว พวกนี้อันตราย
ส่วนรายไหนเมาแล้ว ใจป้ำ ควักตังค์จ่ายเป็นระวิง อันนี้ท่านว่า น่าคบ
ผู้หญิงก็คน ใช่ว่าจะเมา ไม่เป็น พอเมาถึงจุด
จะมีคำพูดประจำว่า "ชั้นไม่มาว แต่ไม่เหมือนเดิม
" ส่วนคำพูดแรกหลังจากถูกจีบ คือ "นายมารถอะไร"
การดื่มสุราในงานวันเกิด เจ้าภาพจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ
จะตดจะเรอก็ไม่มีใครว่า พูดจาอะไรก็ถูกก็ดีไป หมด
แต่คนเป็นเจ้าภาพมักไม่ค่อยสนุก เพราะต่างรู้ชะตากรรมว่า
มื้อนี้กู แน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดื่มสุรา ก็คือการชนแก้ว
อันนี้ไม่เหมาะกับ พวกมือตีนหนัก แก้วอาจร้าวบาดปากได้
การชนแก้วอย่างถูกวิธี อาจทำให้คุณได้ เบอร์สาวโต๊ะข้างๆ

สูตรต่างๆ ในการมิกซ์สุรา
4-4-2 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเฉพาะของเฟอร์กี้ หลังปึ้ก
กลางเปรี๊ยะ หน้าหวดเพี้ย เหมาะ สำหรับท่านที่ดื่มเรื่อยๆ
หวังเก็บแต้มเสมอนอกบ้าน
4-3-3 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเด็ดของแวนเกอร์ หลังขาด กลางขึง
หน้าตะบึง เหมาะสำหรับท่านที่ ดื่มเอามันส์ หวังเก็บสามแต้มเต็ม
3-5-2 ( โซดา-โค้ก-สุรา ) เป็นสูตรลับของ ราฟาเอล หลังเสียบ กลางซ่า
หน้าซิ่ง เหมาะสำหรับสตรีและกระเทย
4-4-2 defense ( น้ำแดง-เหล้าขาว-ลิโพ ) อันนี้โค้ชหรั่ง ช้อบชอบ
ทานง่าย ประหยัดงบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยๆ
สุรา มีชื่อสามัญว่า เหล้า คำว่า สุรา อาจจะมา จาก สุระ ที่แปลว่า
ยิ่งใหญ่
เพราะเห็นใครๆสุราเข้าปากไป มักจะยิ่งใหญ่คับ โต๊ะเกินกว่าบุคคลธรรมดา
ร่างกายของคนเรา ทางพระเรียกว่า
อินทรีย์ธาตุ
รับความรู้สึกผ่านทางทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย
โดยมีประสาท เป็นผู้สั่งการ สิ่งที่เรารับเข้าทางทวารทั้งห้า
ทางพระเรียกว่า ทุกขัง คือ สภาพจริงที่ทนได้ยาก
การดื่มสุราเข้าไปมากๆ จะทำให้ประสาทสั่งการได้ช้า ลง
เพราะสุรามีฤทธิ์กดประสาท ส่งผลให้ทวารทั้งห้าทำงานได้ช้าลงไปด้วย
คนเราก็รับทุกขังได้น้อยลง เมื่อคนเราขาดทุกขัง
ก็เหมือนขาดสภาพจริงที่ทนได้ ยาก
เหลือแต่จิตเปล่าๆ เวลาสนุกก็สนุกสุดๆ ทุกข์ก็ทุกข์สุดๆ
รวมทั้ง โมโห โกรธ กล้า ก็จะมากกว่าคนในภาวะปกติ

โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการ สุรา ยังกล่าวไว้ว่า "ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา
แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำ สุรา"
เฮียฮ้อ อาร์เอส ก็ออกมาย้ำว่า "อย่าอุดหนุน สุราผี โซดาเถื่อน"
น้าหมัก ก็สนับสนุนว่า
"การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการจีบหญิงเพิ่มขึ้น"
ส่วนไอ้กระผม ก็ตั้งมั่นอยู่ในหลัก "เมาจัง ตังค์อยู่ครบ"
อันนี้ไม่ค่อยดีครับ ไม่ขอแนะนำ
เพราะท่านอาจถูกบอยคอตจาก องค์การสหสุราชาติได้
หลายคนถก เถียงกันว่า สุราอะไรอร่อยที่สุด ชีวาส แบล็กเลเบิล หรือว่า
สวิง
ผมขอตอบ ให้เลยครับว่า เหล้าฟรีอร่อยที่สุด
ท่านทั้งหลายต่างก็รู้กันอยู่ว่า หลัง ดื่มจะต้องเมา
ก็ขอให้เตือนใจไว้เสมอว่า เมาไม่ขับ กับ ต้องใส่ถุง แล้วท่าน
จะไม่ตายเพราะการดื่ม
อันความคิดก๊อกก๊อกของผมคิดว่า ทำปัจจุบันขณะเมาให้ดี ที่สุด
ก็พอแล้ว เพราะการดื่มสุรา ก็แค่การยกน้ำขมๆผสมโซดาเข้าปากไป
แล้วคุณจะหวังอะไรให้มากกว่านั้น






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) Champ 012 จาก น้าหมู Modern 9 202.142.200.252 อังคาร, 4/3/2551 เวลา : 08:13  IP : 202.142.200.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 46537

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,22 พฤศจิกายน 2567 (Online 9194 คน)