คำตอบที่ 2
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ป่าวประกาศออกไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมแก่ผู้มีรายได้น้อย ให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยมาตรการเพิ่มเงินเข้าสู่ระบบ คือ การปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่ข้าราชการทุกระดับร้อยละ 5 และการเพิ่มเงินบำนาญให้แก่ข้าราชการบำนาญอีกร้อยละ 5 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2548 เป็นต้นไป โดยใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
นอกจกานี้ยังให้คณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำร่วมกัน โดยให้ปรับเพิ่มขึ้น สำหรับแรงงานไร้ฝีมือ และการให้ผู้ประกอบการจัดการอบรม พัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพ เช่น การท่องเที่ยว ให้ฝึกภาษาอังกฤษแก่พนักงาน เมื่อพนักงานมีคุณภาพมากขึ้นก็ให้ปรับเพิ่มเงินเดือน โดยให้เอกชนนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการฝึกอบ นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า หรือร้อยละ 200 และเพื่อเป็นการเพิ่มค่าครองชีพให้แก่แรงงานที่มีรายได้น้อยไม่ถึง 10,000 บาทต่อเดือน เช่น หากเงินเดือน 7,000 บาท ก็ให้บริษัทเอกชน เพิ่มค่ายังชีพจากเงินเดือน ประมาณ 1,000-10,000 บาท โดยค่ายังชีพยังบวกเงินเดือนแล้วเงินเดือนที่ได้รับต้องไม่ต่ำกว่า 7,000 บาท โดยเงินค่ายังชีพส่วนที่เพิ่ม สามารถนำมาหนักลดหย่อนภาเสียภาษีได้ 1.5 เท่า หรือร้อยละ 150 แต่ห้ามบริษัทเอกชนนำค่ายังชีพโอนไปเป็นเงินเดือน เพื่อแอบนำมาหักลดหย่อนภาษี
สำหรับการช่วยเหลือ คนชรา ที่มีอยู่ประมาณ 6 ล้านคน โดยเป็นผู้ยากไร้ ประมาณ 1.1 ล้านคน ได้รับเงินดูแลน้อยประมาณเดือนละ 300 ต่อเดือน จำนวน 5 แสนคน ดังนั้นรัฐบาลจะให้เงินดูแลผู้ยากไร้ให้ครบ 1.1 ล้านคน ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ทำงานให้กับภาครัฐ หรือ อสม. ซึ่งได้รับเงินสำหรับการทำงาน 7,500 บาท ดังนั้นปี 2549 จะได้รับเพิ่มเป็น 10,000 บาท แต่ในช่วงนี้ก่อนถึงเดือน ต.ค. รัฐบาลจะเพิ่มให้หมู่บ้านละ 2,500 บาท รวมเป็น 10,000 บาท และเมื่อถึงเดือน ต.ค. ก็จะได้เพิ่มเป็น 10,000 บาท ตามกำหนด
มาตรการสนับสนุนให้กลุ่มแม่บ้านรวมตัวกันทำกิจกรรม เพื่อเพิ่มอาชีพให้ชุมชน และบรรเทาความเดือดร้อน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนเงินทุน นอกจากนี้ยังมีการจัดงบประมาณภาคประชาชน โดยรัฐบาลจะโอนเงินให้กองทุนหมู่บ้านเอสเอ็มแอล หมู่บ้านละ 250,000 บาท ในการพัฒนาโครงการต่างๆในชุมชน
มาตรการ 30 บาทรักษาทุกโรค จะให้กองทุนที่มีอยู่ ทั้งกองทุนประกันสังคม กองทุนสวัสดิการของรัฐต่างๆ ใช้ระบบการจ่ายเงินรวมกัน แต่ไม่ใช่เป็นการรวมกองทุนต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการเบิกจ่ายรักษาพยาบาลที่มีความซ้ำซ้อน และโครงการ30 บาทรักษาทุกโรค จะขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น การรักษาฟันให้แก่เด็ก เพื่อป้องกันฟันผุ การตรวจมดลูกป้องกันมะเร็ง การให้ยารักษาโรคเอดส์ การตรวจสุขภาพของคนงาน นอกจากนี้ยังได้ต้องกองทุน 2 กองทุน เพื่อให้การช่วยเหลือทางการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษา ทั้งการให้เงินเปล่า และการกู้โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตลอดจนการให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องแก่เด็กนักเรียน รวมถึงการให้เงินพิเศษแก่นักเรียนอาชีวะออกสนาม ซ่อมอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า แก่ประชาชนฟรี และการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้คนมีรายได้น้อย โดยสร้างบ้านน็อคดาวน์ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยใน 5 ปี ให้ได้ 5 แสนหลัง
และยังมีมาตรการอื่นๆอีกหลายมาตรการที่จะใช้เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หากพิเคราะห์เจาะลึกลงไปแล้วจะเห็นว่ามาตรการต่างๆเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นมาตรการเดิมๆที่ทำไปแล้วก่อนหน้านี้
แต่ถึงกระนั้นมาตรการเหล่านี้ ก็สามารถจุดความหวัง และเพิ่มบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องจับตามองกันว่านับจากนี้ไปรัฐบาลจะสามารถสานฝันจากมาตรการเหล่านี้ให้เป็นจริงเป็นจังได้มากน้อยเพียงใด และดูเมื่อว่าเวลาที่จะพิสูจน์ฝีมือในการแก้ไขปัญหา หวังว่าได้ข้อมูลพอนะครับมีปัญหาอะไรอีเมล์มา 6240@mthai.com ยินดีต้อนรับครับแล้วก็ตั้งใจเรียนนะ