คำตอบที่ 1
       ผมใช้ caltex delo sport ก็ใช้ดีครับ
ซื้อ 5 ลิตร แถม 1 ลิตร แถมเสื้อด้วย (แบบ semi นะครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เคยใช้ Castrol Maxnatic ดูแล้วก็งั้นๆ ตอนหลังมาใช้ Castrol GTX กระป๋องดำก็ใช้ได้ดีนะ(ถูกกว่าด้วย) เสียงเครื่องเงียบกว่าเดิม แต่ต้องหมั่นเปลี่ยนถ่ายที่ 5-6,000 โล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ผมใช้BPครับ 6ลิตรแถม1ครับ BP3000 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ผมใช้ conoco HD Fleet 10 W 30 ถูกดี 6 ลิตร (5+1) 1,100 บาท เปลี่ยนที่ 10,000 โล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมใช้น้ำมันเครื่องมาหลากหลาย แต่คุณภาพก็ใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่างกันเท่าไร มีเพื่อนแนะให้ผมลองใช้ น้ำมัน MSP เติมผสมลงในน้ำมันเครื่อง เติมแล้ว ผมแปลกใจมาก การเร่งเครื่องดีขึ้นจริง เครื่องลื่นขึ้น ผมประทับใจมากจริงๆครับ ใช้มาแล้วเกือบปี ผมรัก MSP รู้สึกเลยว่าเครื่องสะอาด ไปถ่ายน้ำมัน น้ำมันไม่ดำเหมือนที่ผ่านๆมา ยอดไปเลย เพื่อนๆเชื่อไหม ลองได้ ไม่หวงเคล็บ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ของ ปตท ดีไหมครับตัวเซเนติกครับ แนะนำด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมใช้ cocono เปลี่ยนถ่ายที่ 10,000 กม.ก็ไม่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างเห็นได้ชัดเจน ความเห็นส่วนตัวคุณภาพแต่ละยี่ห้อคงไม่แตกต่างกันมากนักครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เปลี่ยนมาแล้วครับ ใช้ ปตท แบบ semi sin 6 แถม 1 บวก เสื้อีก 1 ตัว 5 ร้อยกว่าบาท บวก กรอง ไมตี้เอกส์ แท้ 80 บาท ถ้าเทียม 50 ค่าถ่าย 100 แบบ ยก ขึ้น ฮ้อย จะได้ ดู เช็คใต้รถด้วยครับ รวมๆ แล้ว ไม่เกิน 800 ประหยัดไปได้เยอะ เลยครับ เท่าที่ ใช้ได้ดู ก็ดีนะครับเครื่องเงียบกว่าเก่า อัตราเร่งก็เดิมๆ ดีเหมือนเดิม แต่ คงเพราะ น้ำมันยังใหม่ได้ คงต้องใช้ไป ซํก พักก่อน ถึงจะบอกได้ ว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่าขับรถอะไรและชอบรถนิสัยยังไงแล้วแต่ชอบแต่รูจักร้านนึงขายน้ำมันถูกมากอยู่ถนนเอกชัย ชื่อร้าน พี ที ออยล์เซ็นเตอร์ โทร02-4513041-2

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       น้าปลากัดป่า นม เครื่อง ปตท.semi sin 6 แถม 1 สเปคบอกใช้ได้ 10000 โล นะครับ ลองเช็คดู ผมก็ใช้อยู่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ลองใช้ ยี้ห้อซันโนโก้ แลวจะติดใจ คับ แต่ราคาแพงหน่อยคับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ลองใช้ ยี้ห้อซันโนโก้ แลวจะติดใจ คับ แต่ราคาแพงหน่อยคับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       Extra Plus 1&2 ที่สุดของน้ำมันหล่อลื่นถ้ายี่ห้ออื่นลื่นกว่าทนต่อการสึกหรอมากกว่าทนต่อความร้อนมากกว่าผมให้ใช้ฟรีครับผมลองแล้วที่สุดของน้ำมันเครื่องจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       สาดพ่อมิงตาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       น.ม. เครื่อง ปตท.semi sin 6 แถม 1 แถมเสื้อ เบอร์ 10w30 คอมมอลเรล ซื้อมา 630 บาท ผมใช้มา 6000 กว่าโลแล้วครับ กับเรนเจอร์ ไม่โบ ก็ถือว่าใช้ดีครับ ผมวิ่งแช่ 140/ชม.ระยะ 5-10 โลตามสภาพถนนก็ขึ้นได้ไวดี จะวิ่งไล่เขม่าทุกอาทิตย์ที่กลับบ้าน ก็จะใช้ประมาณ 10,000 โลถึงเปลี่ยนพร้อมกรองเครื่องครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       วาโวลีน ดีที่สุด ดีกว่าทุกยี่ห้อที่เคยใช้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       คราวนี้ลองมาใช้ ตัว คลาสตอล แกลลอนขาว ที่ออกใหม่ครับ เกรด 5-8000 20w-50 ปรากฏว่าหนึดขึ้น รู้สึกว่าอึดขึ้นนิดหน่อย แต่ รถผม ใช้งานบรรทุกหนักอยู่เป็นนิจ ก็เลย ลองดู กะว่า พอซัก 6000 จะเปลี่ยน แล้วจะลองดูว่า น้ำมันที่ถ่ายออกมาเป็นยังไง บ้างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       หากใครสนใจน้ำมันเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง เสริมประสิทธิภาพเครื่องยนต์อี-ซี่ ลูโปรแมกซ์ ได้แชมป์ แรลลี่โลก ปี 2000 น้ำมันเครื่อง อี-ซี่ ลูโปรแมกซ์ ซูพรีม 4 ลิตร มาตรฐานคุณภาพ EXCEED API : SG/CF-4 SAE : 15 W 40 : CEME D4/ G4/ P02, : MERCEDES-BENZ SHEET 228.1, VW 501.01/505.00 (10.9X) : MIL-L-2104 E, MIL-L-4615E, น้ำมันเครื่องอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน (SJ) และเครื่องยนต์ดีเซลรอบจัด (CG-4) ทุกชนิด และ ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกองน้ำมันเชื้อเพลิงเรียบร้อยแล้ว อี-ซี่ ลูโปรแมกซ์ เป็นน้ำมันเครื่องเกรดพิเศษ ที่มีส่วนผสมหลักที่สำคัญ คือ น้ำมันพื้นฐานคุณภาพสูง และ สารเพิ่มประสิทธิภาพเกรดสูงสุด เหนือชั้นด้วยคุณสมบัติที่พิเศษสุด 1. สารเพิ่มประสิทธิภาพในน้ำมันเครื่อง จะช่วยลดการเสียดสี และลดการสึกหรอ จึงยืดอายุของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น 2. น้ำมันพื้นฐานมาตรฐานสูง ช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องให้ยาวนานขึ้นถึง 15,000 กิโลเมตร 3. ป้องกันปัญหาการเกิดความข้นเหนียวของน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยมจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง อันเกิดจาการอุดตันของตะกอน 4. ขจัดคราบสกปรกภายในห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์สะอาด ยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้นานกว่าสองเท่าของการใช้งานปกติ 5. เครื่องยนต์ทำงานเรียบและเงียบลง อุณหภูมิเครื่องลดลง 6. ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 7. เพิ่มอัตราเร่งขณะออกตัว
สนใจติดต่อ (คุณอังคณา) 08-19140550

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ตอบคำถามข้อที่ 18 มันแพงครับ ราคาตั้ง 3000 บาท
Extra Plus 1&2 แค่ 1470 เองลดแล้ว อายุการใช้งานตั้ง 12000 - 15000 ก.ม. เยี่ยมจริง ๆ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ซื้อใช้ 1 แกลลอน (1470.-บาท)
แนะนำให้เพื่อนซื้อใช้ 1 แกลลอน จำนวน 6 คน
คุณได้ค่าแนะนำ 1440 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ลองดูตรงนี้ประกอบการตัดสินใจก่อนมั้ยครับ

http://www.optraclub.com/board/forum_posts.asp?TID=6411&; PN=1&TPN=1

http://www.preludethailand.com/forums/index.php?topic=1913.0
รับประกันคุณภาพครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       http://www.thaitritonclub.com/new/show.php?Category=board5&No=2790

http://www.thaitritonclub.com/new/show.php?Category=board3&No=2791

ถ้าเปิดไม่ได้ให้ก๊อปลิงค์ไปวางที่ addres bar นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เพนซอยสิ เนียน...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ช่วยตอบด้วยค่ะ....
รถใหม่เครื่องคอมมอนเรลควรถ่ายน้ำมันเครื่องกี่กม.แล้วน้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนดีค่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ไดเกียว สิ
เพราะ

เครื่องฟิต สตาร์ทติดง่าย ;)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       ใช้แต่ ปตท. เซมิ 6 แถม 1 ซื้อรอบที่แล้วแถมเสื้อตกแกลลอนละ 500 บาท ซื้อรอบใหม่นี้ ได้แค่ 6 แถม 1 ราคา 460 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       .ใช้แคปตท.ไดนามิด 6ลิตรแถม1 530บาท กับ นิสสันฟรอนเทียเทอโบ 3,000 CC. เปลี่ยนทุก6,000 กม. ใช้มาเกือบ4ปีแล้วเครื่องยังเหมือนใหม่
ขอบใจปตท.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       SM น้ำมันเครื่องเกรดใหม่ตาม API แต่หลายคนยังไม่รู้จัก SL SJ API
สถาบันปิโตรเลียมชื่อดังในสหรัฐอเมริกา เตรียมประกาศใช้เกรดคุณภาพใหม่ SM ในกลางปีนี้ SJ กำลังจะไม่ใช่ดีที่สุด ในขณะที่คนไทยรู้เกี่ยวกับน้ำมันเครื่องน้อยมาก เลือกกันตามยี่ห้อดัง ตามโฆษณา ตามราคาถ้าถูกไปก็คิดว่าไม่ดี ตามความเชื่อมั่นต่อผู้ที่เติมให้ เข้าใจผิดกันทั้งผู้บริโภค ผู้ขาย รวมทั้งช่าง !

เชื่อยี่ห้อดัง เชื่อราคา เชื่อโฆษณา เชื่อข้างกระป๋อง เชื่อคนใส่ให้

-เชื่อยี่ห้อดัง

คนส่วนใหญ่ก็ไว้ใจและคิดไปเองว่าผู้ผลิตน้ำมันเครื่องชื่อดังต้องกลัวเสียชื่อเสียง ทั้งที่ก็มีหลายรุ่นหลายระดับราคาแตกต่างกันหลากระดับคุณภาพออกมาขาย ตั้งแต่คุณภาพต่ำกระป๋องละ 200 บาทจนถึงเป็นพันบาท

-เชื่อราคา

หลายคนตัดสินจากราคารถ ความแรงของเครื่อง หรือความใหม่ของรถ ว่าควรใช้น้ำมันเครื่องราคาเท่าไร คิดว่ารถแพงหรือรถใหม่ต้องใช้น้ำมันเครื่องแพงๆ

-เชื่อโฆษณา

ด้วยสารพัดคำสารพัดประโยค ถ้าเป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อดัง คนก็จะเชื่อได้ง่าย เช่น โฆษณาว่าเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องดีเซล เทอร์โบ รอบจัด คนก็เชื่อและมองว่ารถตนเองมีคุณสมบัติเช่นนั้นไหม ถ้าใช่ ก็จะซื้อมาใช้ ประโยคและคำต่างๆ ที่สรรขึ้นมาใช้ในโฆษณา อาจไม่ได้แสดงถึงคุณภาพที่แท้จริงเลย !

-เชื่อข้างกระป๋อง

บางครั้งคำโฆษณาหรือชวนเชื่อต่างๆ อาจถูกนำมาพิมพ์ไว้ที่ข้างกระป๋อง เพื่อเพิ่มแรงจูงใจอีกด้วย ทั้งที่อาจไม่เกี่ยวกับคุณภาพที่แท้จริงก็เป็นได้ อีกประเด็นสำคัญ คือ การระบุว่าสำหรับเครื่องเบนซินหรือดีเซลที่ข้างกระป๋อง หลายคนคิดว่าใช้น้ำมันเครื่องข้ามประเภทระหว่างเครื่องเบนซินกับดีเซลไม่ได้เลย ถ้าใช้แล้วจะพังในความเป็นจริง การชักจูงนั้นอาจเกิดขึ้นจากการหวังผลด้านการขายพยายามเน้นขายน้ำมันเครื่องรุ่นนั้นให้กับเครื่องประเภทหนึ่งทั้งที่ถ้าใช้กับเครื่องอีกประเภทก็ใช้ได้ดี แต่ไม่บอกแล้วไปเน้นขายน้ำมันเครื่องอีกรุ่นหนึ่งที่แพงกว่ากับเครื่องอีกประเภท

-เชื่อคนใส่ให้

เช่น นำรถเข้าศูนย์บริการ ศูนย์ซ่อมด่วน หรืออู่มาตรฐาน ก็คิดไปเองว่า เขาต้องคัดสรรน้ำมันเครื่องที่มี่คุณภาพดีมาให้ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ยังไงต้องพอใช้ได้ ใช้แล้วเครื่องไม่พัง ถ้าถูกหน่อยก็พอใช้ได้ ถ้าแพงก็ยิ่งคุณภาพดี พบว่าในปี 2004 ปัจจุบันนี้มีบางแห่งใช้น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพ API SG SH เติมให้ลูกค้า ห่างจากเกรดคุณภาพสูงสุด SL หลายระดับ

++ตัวย่อ API ตามด้วยเกรดคุณภาพ++

ถ้าผลิตอะไรออกมาแล้วต้องขายและใช้ทั่วโลก ย่อมต้องหาคนกลางมาตั้งมาตรฐานให้น่าเชื่อถือ องค์กร สถาบัน หรือหน่วยงานที่วิจัยเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องมีอยู่ทั่วโลก นับร้อยนับพันแห่งแต่ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตน้ำมันเครื่องทั่วโลกมีไม่กี่สิบแห่ง เพราะหลายหน่วยงานก็มีการกำหนดมาตรฐานคล้ายๆ กันAPI เป็นสถาบันด้านปิโตรเลียมของสหรัฐอเมริกา (AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE) มีความลงตัว คือ

1. เป็นสถาบันขนาดใหญ่ มีความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญ คือ ความเป็นสหรัฐอเมริกาที่เป็นยักษ์ใหญ่ของโลก

2. ระดับมาตรฐานระบุเป็นตัวย่อแค่ 2 ตัวอักษร ไล่ลำดับ คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย แต่มีอีกนับสิบสถาบัน แต่คนทั่วไปไม่ค่อยสนใจ เพราะยาวทั้งชื่อย่อของสถาบันและระดับมาตรฐาน จดจำและเข้าใจยากกว่าของ API

ตัวอย่างของตัวย่อและระดับมาตรฐานต่างๆ ที่ระบุข้างกระป๋องน้ำมันเครื่อง (คัดลอกมาจากข้างกระป๋องของน้ำมันเครื่องของไทยยี่ห้อหนึ่ง)

API CH-4 / CG-4 /CF-4 / CF / SJ ACEA B2 / B3 / E2 / E3 / E5 / A3 MB 228.1 / 228.3 / 229.1 VW 501 / 505 MAN M 3275 VOLVO VDS / VDS-2 / VDS-3 MACK EO-M / EO-M PLUS ALLISON C4 CUMMINS CES 20071 / 20072 / 20076 / 20077

++เกรดคุณภาพ API รู้และจำง่ายมาก ++
เช่น API SJ, API CI-4 มี 2 ตัวอักษร ระบุตามท้ายตัวย่อสถาบัน API เสมอ เช่น API ?? รวมแล้วแค่ 5 ตัวอักษร และมีเฉพาะตัวอักษรด้านท้ายตัวเดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง แบ่งเป็น 2 มาตรฐาน คือ เกรดคุณภาพน้ำมันเครื่องของเครื่องเบนซิน จะขึ้นต้นด้วยตัวย่อ S - STATION SERVICE เสมอ เช่น API S?

เกรดคุณภาพน้ำมันเครื่องของเครื่องดีเซล จะขึ้นต้นด้วยตัวย่อ C - COMMERCIAL SERVICE เสมอ เช่น API C? ถ้ามีขีดแล้วเลข 4 ตามท้าย หมายถึงเหมาะสำหรับเครื่องดีเซล 4 จังหวะ ซึ่งทั่วไปก็เป็นเช่นนั้น ไม่ได้เป็นเครื่อง 2 จังหวะตัวอักษรท้ายสุด จะเริ่มต้นตามภาษาอังกฤษ คือ A B C ... ไล่ไปเรื่อยๆ ยิ่งไกลจากตัว A เท่าไรแสดงว่า เป็นเกรดคุณภาพสูงขึ้น API มีการประกาศใช้ระดับมาตรฐานใหม่ไม่บ่อยทุก 3-10 ปี ไล่ห่างจากตัว A และบางตัวอักษรก็ข้ามไป ของเบนซินและดีเซล ไล่ออกมาไม่เท่ากัน

ส่วนระดับมาตรฐานเก่าๆ ก็จะไล่ยกเลิกไปโดยปริยาย เพราะใครผลิตออกมาก็ขายไม่ได้ เบนซิน ไล่ตามนี้ API SA SB SC SD SE SF SG SH SJ SL SM ดีเซล ไล่ตามนี้API CA CB CC CD CE CF-4 CG-4 CH-4 CI-4 ในเบนซินข้าม SI SK ไปด้วยเหตุผลที่ API บอกว่าตั้งใจไม่ใช้ข้ามไป

แต่ไม่ระบุว่าเพราะอะไร เดาว่าคงจะไปซ้ำกับมาตรฐานอะไรสักอย่างของสถาบันอื่น จึงต้องจำไว้ว่าไม่มี SI SK แต่ดีเซลไล่ตามไปเรื่อยๆ เกรด API SJ สูงสุดของเบนซิน ประกาศใช้เมื่อกลางปี 2001 ล่าสุดกลางปี 2004 ห่างกันแค่ 3 ปีก็จะประกาศใช้ API SM แล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงรอให้ผู้ผลิตปรับตัวหรือส่งน้ำมันไปทดสอบ ก่อนประกาศใช้จริง


++เลือกเกรดคุณภาพใดดี ? ++
เครื่องเบนซิน ใช้ API SL จะดีเยี่ยม แต่ถ้าจะใช้ API SJ SH ก็ดีแล้ว เครื่องดีเซล ถ้าใช้API CI-4 ก็ดีเยี่ยม แต่ถ้าจะใช้ API CH-4 CG-4 ก็ดีแล้ว ปี 2005 เปลี่ยนไปแนะนำ SM แล้วเมิน SH

++ผ่าน API จริง ต้องมีวงกลมโดนัท ++
สัญญลักษณ์แสดงที่ข้างกระป๋อง โดยมีตัวย่อ API และระดับมาตรฐานอยู่ตามแนวโค้งด้านบน และในวงกลมตรงกลางระบุค่าความหนืดตาม SAE แต่ถ้าผู้ผลิตทดสอบเอง จะเป็นตัวอักษรย่อ ไม่มีวงกลมโดนัท ไม่ว่าจะมีวงกลมโดนัทที่ข้างกระป๋องหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำใจให้เชื่อใจว่า น้ำมันเครื่องนั้นได้มาตรฐานตามนั้นจริงๆ

++ไม่จบแค่ API อะไร ต้องดูความหนืดตาม SAE และชนิด++
นอกจากเกรดคุณภาพแล้วยังต้องดูเกรดความหนืดตาม SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) และชนิดของน้ำมันเครื่องว่าจะเลือกแบบธรรมดา กึ่งสังเคราะ หรือสังเคราะห์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องของระยะทางที่ถกเถียงกันงงกันว่า ยุคนี้ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ระยะทางเท่าไรกันแน่ ที่สำคัญ คือ ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความหนืด และชนิดของน้ำมันเครื่องอยู่อีกมากที่ต้องปรับความเข้าใจให้ถูกต้อง

เกรดน้ำมันเครื่องตาม API เข้าใจและจำง่าย แต่ไม่ค่อยมีใครบอกหรือตั้งใจจะทราบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       EZI LUPRO MAX CONCENTRATED OIL
สารเสริมประสิทธิภาพเครื่องยนต์ อี่-ซี่ ลูโปรแมกซ์

สารเสริมประสิทธิภาพเครื่องยนต์ชนิดเข้มข้น สูตรพิเศษเพิ่มความลื่น และลดการสึกหรอให้กับชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ รักษาเครื่องยนต์และคุ้มครองชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ขระทำงานได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 13-18%
หลังจากเติมEZI เพียง 5นาที จะเกิดฟิลม์บางๆแทรกซึมอยู่ตามผิวโลหะ ณ.จุดที่มีการเสียดสีของเครื่องยนต์ ช่วยป้องกันการเสียดสีได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่มีน้ำมันเครื่องหล่อเลี้ยงอยู่เลยก็ตาม

คุณสมบัติพิเศษ
1. สามารถป้องกันการสึกหรอจาการเสียดสี เมื่อเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
2. ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องเดินเรียบและเงียบลง
3. ช่วยให้น้ำมันเครื่องไม่เสื่อมสภาพได้ง่าย ภายใต้การใช้งานอย่างหนัก
4. ทำให้เครื่องสตาร์ทติดง่ายและเร่งความเร็วได้ดีขึ้น
5. ป้องกันเครื่องยนต์ไม่ให้ร้อนจัดแม้ว่าจะใช้รอบสูงเป็นเวลานาน
6. เติม1ครั้งใช้งานได้ระยะทางถึง20,000Km

ราคาจำหน่าย 1500 บาท ( 250 ml )
สามารถลดได้อีก ติดต่อคุณวิ0813768601
ทดสอบจริง
บทความทดสอบนี้สัมภาษณ์จากการใช้งานจริงของ เพื่อนในกลุ่ม118bikes ทดลองใส่กับรถที่ใช้งานเป็นประจำวัน ต้องออกตัวก่อนว่า สินค้าตัวใหม่นี้เอามาทำตลาดเพราะสามารถใช้งานได้จริงสมราคาที่โฆษณาไว้ และอีกอย่างนึงที่น่าสนับสนุนเพราะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ได้การรับรองมาตราฐาน และส่งออกไปยังต่างประเทศกว่า30ชาติทั่วโลก
แนะนำตัว บุคคลที่ทดสอบและใช้งานจริง

ชื่อ จ.ส.อ. สันติ ................
สถานที่ทำงาน กรมสารวัตรทหาร ( สห.ทบ. )
รถที่ใช้งาน Yamaha FJR1300 ปี2002
สอบถาม
1. ถาม ปัจจุบันใช้รถ??
ตอบ Yamaha FJR1300 ปี2002
2. ถาม ใช้งานรถbigbike มากี่ปีแล้ว
ตอบ ประมาณ10ปีมาแล้ว
3. ถาม รถรุ่นที่งานปัจจุบัน ใช้งานมานานแล้วรึยัง
ตอบ เกือบ 3 ปีแล้ว
4. ถาม ทำไม่ถึงใช้ EZI LUPROMAX
ตอบ บังเอิญได้ไปดูการทดสอบ สาธิตของEZI โดยใช้อุปกรณ์จำลองสถานะการณ์ในเครื่องยนต์ ทดสอบกับน้ำมันเครื่องหลายยีห้อ ดังๆในท้องตลาด เทียบกับ EZI LUPROMAX เห็นว่าเข้าท่าดี แล้วพอดีกับต้องออกทริปไปต่างจังหวัดด้วย ก็เลยถือโอกาศลองซะหน่อย ว่าจะได้ผลมั๊ย
5. ถาม ผลที่ได้รับหลังจากใช้ EZI LUPROMAX
ตอบ รถคันที่ใช้งานอยู่ ธรรมดาแล้วก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เพราะเข้ารับการเซอร์วิสจากred baron ตลอด การใช้งานในเมืองก็ปรกติดี ค่าความร้อนช่วงรถติด มาตรจะขึ้นประมาณ 4 ขีด( รถวิ่ง ) และ5 ขีด ( รถจอดสนิท ) และต่างจังหวัด ค่าความร้อนจะอยู่ที่ 2 ขีด
หลังเติม EZI LUPROMAX แล้ว ในเมืองแม้รถติด ค่าความร้อนจะเหลือแค่3 เท่านั้น และอย่างนึงที่สังเกตุได้ชัดเจนหลังจากใส่ใหม่ๆคือ เกียร์เข้าง่ายมาก เครื่องยนต์เดินเรียบขึ้นกว่าแต่ก่อน การสตาร์ทง่ายขึ้น
6. ถาม ระหว่างออกทริปต่างจังหวัด มีผลรึเปล่าว
ตอบ มีผลมากๆ ผมสูง 187 cm. น้ำหนัก 130 Kg แฟนผมสูงประมาณ 165cm.น้ำหนัก55 ของติดรถก็มีกระเป๋า GIVI 3ใบ ธรรมดาความเร็วเดินทางปรกติจะอยู่ประมาณ150 - 160 Km/h น้ำมันเต็มถังจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ230- Km แต่หลังจากเติม EZI LUPROMAXแล้ว ประหยัดน้ำมันมากขึ้นจนน่าตกใจคือ เต็มถัง วิ่งได้ระยะทาง 330-350 Km เพิ่มขึ้นเกือบ100km ในสถานะการณ์ปรกติ ทั้งน้ำหนักบรรทุกและความเร็วเดินทาง
7. ถาม แนะนำเพื่อนๆหน่อย
ตอบ บอกตรงๆว่า ทีแรกคิดว่าไม่ค่อยน่าเชื่อถือ แล้วอีกอย่างนึงที่กังวลคือ กลัวว่าใส่ไปแล้วคลัชจะลื่น แต่หลังจากทดลองใช้งานไปเกินกว่า1000Kmแล้ว ปัจจุบันรถก็ยังใช้งานได้เป็นปรกติดีอยู่ อีกอย่างคือ ธรรมดาเคยถ่ายน้ำมันเครื่องที่3,000 Km แต่หลังจากใช้ตัวนี้ระยะที่ต้องเปลี่ยนถ่ายก็นานขึ้นเป็น5,000Km ทริปที่ผ่านมาประหยัดค่าน้ำมันไปมากเลย ผมว่าก็คุ้มค่านะ เลยอยากให้เพื่อนๆทดลองดู

หมายเหตุ...เสนอแนะ
รถบางรุ่นที่แครงก์เครื่องจุน้ำมันเครื่องแค่3ลิตร ไม่ต้องเติมทั้งหมด250ml แต่ให้เติมแค่ครึ่งเดียว ยังเหลือไว้ใช้ครั้งหน้าได้อีก ประป่องนึงเติมได้2ครั้งก็เป็นระยะทาง40,000km หรือจะหาร2แชร์กันจ่ายกับเพื่อนซี้ ทดลองใช้ดูก่อนก็ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       น้ำมันเครื่อง ZIC ดีที่สุดในโลก.....เชื่อลองดูดิ

แสดงความคิดเห็นย่อย