คำตอบที่ 1
       ผมว่าไม่น่ามีผลมากขนาดนั้นนะครับ โล่งดีด้วยครับ แต่มันไม่โล่งเกินไปหรอกครับ เพราะเราก็มี พักกลางอยู่อีกตัวนี่ครับ แค่ตัดออกจะวิ่งดีด้วยว้ำไม่อั้น มันแค่กรองมลภาวะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ข้อเสียมีแน่ครับ คือ ไอเสียมีโลหะ หนักที่เป็นพิษมากกว่าปกติ ตัวกรองรวงผึ้งของแคทเคลือบด้วยอนุภาคของทองคำขาว มีหน้าที่ดักจับโลหะหนักที่เป็นพิษจากไอเสีย ก่อนปล่อยออกสู่สภาพแวดล้อม ช่วยให้อากาศ สะอาด ถ้ารถยังไม่ถึง 120000 อัพก็อย่าไปตัดทิ้งเลยครับ ช่วยกันคนละเล็กละน้อยโลกจะได้ดีขึ้นบ้าง แต่ถ้าเกิน แล้วก็ตัดได้เพราะแคทก็เสื่อมตาอายุใช้งานครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รับทราบครับน้า โอ๊ต แต่ผมดันตัดออกซะและครับ รถยังไม่ถึง 120000 โลเลยครับ แต่ความรู้สึกคือเสียงท่อเปลี่ยนไปครับ ดังขึ้น แต่ก็ไม่มากครับ อัตราเร่งก็ดีขึ้นนิดหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ตัดแคทออกก็มีผลอย่างน้าโอ๊ตว่าละครับ เรื่องแรงผมคิดว่ามีผลนิดเดียว แต่หากตันมันจะลามมาที่ระบบไอเสีย ตัว TURBO และสุดท้ายอาจจะมาจบที่ฝาวาล์วครับ (เครดิตน้านพดล) หากเกิน 100000 กิโลแล้วเอาออกดีกว่าครับ แล้วก็หมั่นตรวจสอบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์เอา หากเสื่อมสภาพก็นำไปปรับปรุงซะ ก็จะช่วยให้บรรยากาศของโลกเสื่อมช้าลงนิดหนึ่ง...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       +++ว่าจะไม่ตอบกระทู้นี้แล้วเชียวกลัวโดนรุมด่าเอาครับ
+++ไอ้เรื่องภาวะโลกร้อนหรือมลพิษอันเกิดจากควันจากท่อไอเสียรถเครื่องยนต์ดีเซล เราจะตัดแคทหรือไม่ตัดแคทก็อาจเป็นเพียงตัวการเล็กน้อยที่ทำให้โลกร้อนขึ้น
++++++มองต่างมุมมั่งครับ+++++++++
ข้อ 1.ถ้าเราไม่ตัดแคทออก รถเราก็จะมีอาการวิ่งอืดทำให้กินน้ำมันมากขึ้นสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น โรงกลั่นน้ำมัน(ผู้ต้องสงสัยรายใหญ่ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน)ก็ต้องทำการผลิตน้ำมันมากขึ้นเป็นผลทำให้บรรยากาศของโลกยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
ข้อ 2.ทีนี้ถ้าเราตัดแคทออกแล้วทำให้รถวิ่งดีขึ้นประหยัดมากขึ้น โรงกลั่นก็ไม่ต้องทำการผลิตเพิ่มขึ้นโลกน่าจะดีขึ้นนะ
ข้อ 3.รถที่มีปัญหาวิ่งไม่ค่อยออกที่เกิดจากสาเหตุแคทอุดตัน ส่วนมากก็เป็นรถที่วิ่งทางยาวๆประมาณว่ากรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดหรือระหว่างจังหวัด เพราะถ้ารถที่ใช้งานอยู่ในกรุงเทพฯเป็นหลักก็ไม่ทันได้สังเกตุว่ารถวิ่งอืดไหม ความคิดเห็นส่วนตัวว่ารถประเภทนี้ไม่น่าจะทำให้โลกร้อนขึ้นเท่าใดนักครับเพราะควันไอเสียที่ถูกปล่อยออกมาน่าจะถูกดูดซึมจากสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติในต่างจังหวัดต่างๆครับ

ท้ายสุด เมื่อตัดแคทออกแล้วก็ควรเปลี่ยนหม้อพักปลายด้วยครับ อย่าเอาออกจนโล่งเลยล่ะ หลีกเลี่ยงการจอดรถแล้วสตาร์ทเครื่องจะดีมากๆเลยครับ


หมายเหตุ...ความคิดเห็นส่วนตัวครับ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       โดยส่วนตัวผม ไอ้เรื่องการช่วยกันรักษาโลกร้อน ผมไม่คิดว่าการตัดแคทจะส่งผลให้โลกร้อนได้มากขนาดนั้นหรอกครับ โรงงานอุตสาหกรรม น่าเป็นห่วงกว่าเยอะ (เห็นด้วยกับน้าช้าง)ที่ว่าทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ที่สงสัยคือ พอจัดแคทออกจะส่งผลเสียกับเครื่องยนต์อย่างไรบ้างครับ (ไม่ใช้กับสภาพแวดล้อมอะครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ตัดออกแล้วก็เก็บกลับบ้านด้วยนะครับ ขายได้หลายตังค์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ข้อเสียของการไม่มีcatหนูมักจะมาทำรังที่ห้องเครื่องครับถ้าจอดนานๆและใกล้ท่อน้ำทิ้งครับอิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       "แต่ที่สงสัยคือ พอจัดแคทออกจะส่งผลเสียกับเครื่องยนต์อย่างไรบ้างครับ (ไม่ใช้กับสภาพแวดล้อมอะครับ)"

ชิ้นสวนนี้ ไม่มีหน้าที่ ที่เกียวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์
เมื่อตัดออกแล้ว ก็ไม่มีผลเสียกับเครื่องยนต์ ไม่ทำให้เครื่องเสียหาย ไม่เกิดความผิดปกติใดๆกับเครื่องยนต์ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       มันอยู่ตรงไหนครับเจ้าตัวที่กล่าวถึง ใช้มาแสนกว่าโลแล้วจะได้เอาออกครับ หน้าตามันเป็นแบบไหนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       หน้าตาแบบเนี๊ยครับ สังเกตุดูจากใต้ท้องรถ จากเครื่องก็ออกสู่แคท จากแคทก็จะมีหม้อพักครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย