WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


สนทนาภาษาเครื่องเสียงทั้งของบ้านของรถกันที่นี่ครับ
manisamut
จาก นพดล
IP:115.87.107.222

อาทิตย์ที่ , 29/7/2555
เวลา : 18:36

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ตัวแยกความถี่เสียง ของลำโพงแยกชิ้น ยี่ห้อAQ ผมต่อลำโพงมาจากแอมป์ฯตามปกติ ที่ตัวแยกความถี่ในรูป มีสวิทช์2ตัวที่ผมวงกลมสีแดงไว้ ผมต้องปรับสวิทช์ทั้ง2ตัวอย่างไรครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

คำตอบที่ 211
       เป็นบทความที่ไม่เจาะลึกทางเทคนิคมากเกินไป ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางอิเล็คโทรนิคก็สามารถเข้าใจได้ เลยเอามาให้ดูนะครับ ความเข้าใจผิดๆหลายๆอย่างกับการเล่นเครื่องเสียงนั้นมีมากมาย ทำให้เราเสียเงินที่จ่ายไปเพื่อซื้อประสบการณ์ที่แสนแพงในหลายครั้งหลายหน กว่าจะเห็นแนวทางก็หมดไปเยอะล่ะครับ

นานาเรื่องน่ารู้เพาเวอร์แอมปลิไฟร์เออร์

ในบรรดาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ "ซิสเต็มเครื่องเสียง" ที่มีความสำคัญด้วยกัน
"แอมปลิไฟร์เออร์" มักจะถูกประเมินคุณค่ากันผิด ๆ เสมอมา

บ้างก็คำนึงถึงแต่ขนาดกำลังขับของภาคขยายเสียง

บ้างก็ให้ความสนใจลักษณะวงจร

และหลายคนก็มักจะให้ความสำคัญของเรื่องเกรดอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในเครื่องนั้น ๆ แต่การให้ความสนใจถึงเรื่องโครงสร้างและระบบพลังขับ ดูจะได้รับความสนใจมากมายเกินกว่าการคิดคำนึงถึงเรื่องคุณภาพเสียง

คำถามที่ว่า "แอมป์เครื่องนั้นกำลังขับกี่วัตต์" ดูจะเป็นคำถามท็อปฮิตเสียจริง ๆ ต่อเมื่อมีการเข้ามาคลุกวงในเล่นเครื่องเสียงอย่างจริง ๆ จัง จนถึงระดับหนึ่ง นักเล่นเครื่องเสียงจะพิจารณารายละเอียดในการเลือกซื้อเครื่องหลายประการประกอบกันไป มิใช่การพิจารณาแต่เฉพาะกำลังขับของแอมปลิไฟร์เพียงอย่างเดียว

เครื่องที่จัดเป็นแอมปลิไฟร์เออร์ที่ให้พลังขับเสียงนั้น คือ "เพาเวอร์แอมป์" ซึ่งเป็นภาคขยายเสียงแท้ ๆ กับ "อินทิเกรทเดดแอมป์"

เพาเวอร์แอมป์ มีเพียงวงจรขยายเสียงเท่านั้น จะต้องจัดซิสเต็มคู่กับภาคขยายเบื้องต้น คือ "ปรีแอมป์" เพื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ในขณะที่อินทิเกรทเตดแอมป์มีคุณสมบัติที่เป็นทั้งภาคขยายกำลัง การเลือกเล่าเพาเวอร์แอมป์โดด ๆ กับอินทิเกรทเตดแอมป์นั้น ย่อมจะมีข้อถกเถียงกันอีกมากกว่าอย่างไหนจึงจะเหมาะสมกัน ในบทความตอนนี้ ผมคงจะเน้นถึงวิธีการพิจารณาเพาเวอร์แอมป์จากรายละเอียดทั่ว ๆ เพราะโอกาสที่คุณจะเข้าไปนั่งฟังโดยไม่รูแบ็กกราวด์ต่าง ๆ ของเครื่องเลย คงยากจะตัดสินใจได้ว่าจะเล่นแอมปลิไฟร์เครื่องใดดี

ทำความเข้าใจกันง่าย ๆ เสียก่อนเป็นการเริ่มต้นว่าแอมปลิไฟร์ที่พูดถึงนี้ ก็คือเพาเวอร์แอมป์นั่นเอง ความจริงอยากจะให้ท่านผู้อ่านย้อยกลับไปอ่านบทความตอนต้น ๆ ว่าด้วยเรื่องการขยายเสียง ผมจึงขอพูดถึงรายละเอียดที่ง่าย ๆ ในการทำความเข้าใจก็แล้วกันครับ

เพาเวอร์แอมป์ หรือพูดกันอย่างตรงตัวก็คือ "เครื่องขยายเสียง" นั่นเองหน้าที่หลังของมันจะรับสัญญาณที่มีปริมาณเหมาะสม จากปรีแอมป์แล้วทำการขยายให้ใหญ่ขึ้นอีกก่อนส่งต่อไปยังลำโพงให้เปล่งเสียงออกมา เพาเวอร์แอมป์ที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติสำคัญยิ่งก็คือ สามารถถ่ายทอดและขยายสัญญาณได้อย่างเที่ยงตรงถูกต้อง หรือมีความเพี้ยนต่ำที่สุด

เพาเวอร์แอมป์ในอุดมคตินั้น เมื่อมีสัญญาณใด ๆ เข้ามา จะต้องทำการขยายสัญญาณให้ออกไปทางเอ๊าท์พุท ให้เหมือนเดิมทุกประการ แต่ก็อย่างว่าแหละ เรื่องความเพี้ยนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก เพียงแต่ว่ามันจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยเท่านั้นเองแอมปลิไฟร์ที่แพง ๆ จึงเป็นแอมป์ที่มีความเที่ยงตรงสูงในการขยายสัญญาณ

เพาเวอร์แอมป์ เมื่อแบ่งออกตามลักษณะอุปกรณ์ที่ใช้ในการขยายเสียงแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
1. เพาเวอร์แอมป์แบบทรานซิสเตอร์
2. เพาเวอร์แอมป์แบบหลอดสูญอากาศ

ซึ่งทั้งนี้คุณสามารถสังเกตได้จากลักษณะอุปกรณ์ภายในเครื่องได้ว่า มีลักษณะเป็นหลอดสูญญากาศหรือแบบทรานซิสเตอร์ เพราะว่าข้อแตกต่างจากกันอย่างชัดเจน ตามลักษณะของอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม เพาเวอร์แอมป์นั้นยังแบ่งออกไปได้ตามลักษณะของการจัดวงจรขยาย และลักษณะในการถ่ายทอดสัญญาณได้อีก เช่นถ้าแบ่งกันตามลักษณะในการจัดวงจรไบอัสในการขายเสียง ก็จะมีการแบ่งออกเป็นคลาสต่าง ๆ เช่น คลาส A, คลาส B, คลาส AB, คลาส C, คลาส D, คลาส H ฯลฯ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าผู้ออกแบบจะทำการเลือกสรรวิธีการไบอัสกระแสของวงจรขยายแบบไหนที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด

ในปัจจุบัน แอมป์คลาส AB ได้รับความนิยมมากที่สุด

นอกจากนี้ ถ้าแบ่งประเภทตามวิธีออกแบบในการถ่ายทอดสัญญาณในภาคขยายสุดท้าย ก็จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ ภาคขยายแบบ OTL (OUT PUT TRNAS FOMER LESS) ภาคขยายชนิด OCL (OUT PUT CONDENSER LESS) เป็นหลัก ส่วนวิธีการในแบบวงจรอื่น ๆ ดูจะไม่เป็นที่นิยมกันเช่นแบบ OPT ของหลอดสูญญาอากาศ

เพาเวอร์แอมป์ชนิดที่ออกแบบอุปกรณ์โดยใช้หลอดสูญญากาศล้วน ๆ นั้น ในปัจจุบันเป็นที่นิยมน้อยกว่าแอมปลิไฟร์ภาคขยายชนิดทรานซิสเตรอื เนื่องจากหลอดสูญญากาศจะมีขนาดที่ใหญ่เทอะทะ มีน้ำหนักมากใช้ไฟในการเลี้ยงวงจรสูงกว่าทรานซิสเตอร์ และมีความร้อนสะสมภายในตัวเครื่องสูงด้วย แต่ก็ยังมีผู้คนนิยมคุณภาพเสียงที่ได้จากแอมป์หลอด ทั้งนี้อาจจะเนื่องจากบุคลิกเสียงของหลอดสูญญากาศมีความนุ่มนวลเสียงกลางดีเลิศ มีความละมุนละไม ถูกหูผู้ฟังมาก

และอีกประการหนึ่ง ในแง่ของเทคนิคสำคัญก็คือ หลอดสูญญากาศจะใช้ไฟเลี้ยงวงจรที่สูงมาก สูงกว่าวงจรทรานซิเตอร์ จึงสามารถสะวิงสัญญาณเอ๊าท์พุทให้สูง หรือมีพลังสำรองที่ดี อีกทั้งเพาเวอร์แอมป์ชนิดอหลอดสูญญากาศนั้น เมื่อคุณได้ใช้กำลังขับจากมันอย่างเต็มที่ จนถึงอากาศคลิปปิ้ง (CLIPPING) เสียงที่ขับเกินกำลังของแอมป์หลอด จะไม่พร่าเพี้ยนปรากฎชัดเจนเหมือนแอมป์ทรานซิสเตอร์

ด้วยเหตุผลข้างต้น อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เพาเวอร์แอมป์หลอด ยังได้รับความนิยมจากออดิโอไฟล์กลุ่มหนึ่งอย่างเหนียวแน่น แม้ว่าแอมป์หลอดจะมีข้อเสียบางประการอยู่ เช่น มีค่าความต้านทานทางเอ๊าท์พุทที่สูงไม่สามารถนำไปขับลำโพงที่มีความต้านทานต่ำ ๆ ได้โดยตรง แอมป์หลอดทุกเครื่องจึงต้องมีหม้อแปลง หรือ OUT PUT TRANSFORMER (OPT) สำหรับปรับค่าความต้านทานของหลอดสูญกาศให้เหมาะสมกับค่าความต้านทานของลำโพง เอ๊าท์พุททรานสฟอร์เมอร์ที่ว่านี้ จะต้องมีคุณภาพที่ดีเลิศจริง ๆ ไม่เช่นนั้น มันจะกลายเป็นตัวการทำลายคุณภาพเสียงของแอมป์หลอดไปเสียเอง อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าหลอดสูญญากาศจะมีความร้อนสะสมในตัวสูงอยู่แล้ว การจัดตำแหน่งแห่งที่ทรานสฟอร์เมอร์ จึงค่อนข้างยุ่งยากว่าจะวางตำแหน่งใดดีจึงจะเหมาะสม ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นนั้นเอง ได้ทำให้แอมป์หลอดสูญญากาศมีขนาดใหญ่โตเทอะทะทั้ง ๆ ที่มีกำลังขับนิดเดียว

เพาเวอร์แอมป์ชนิดทรานซิสเตอร์ ซึ่งก็จะมีการออกแบบวงจรที่หลากหลายกันออกไป อุปกรณ์จำพวกสารกึ่งตัวนำก็มีอยู่หลายแบบให้เลือกใช้ อุปกรณ์จำพวกนี้ได้แก่ทรานซิสเตอร์, ไอซี, มอสเฟท เป็นต้น ตามปกติในเวลานี้ ทรานซิสเตอร์ชนิดไบโพล่าดูจะได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ในบรรดาผู้ออกแบบวงจรเพาเวอร์แอมป์ชนิดทรานซิสเตอร์

ข้อดีของอุปกรณ์จำพวกสารกึ่งตัวนำนี้มีอยู่มากเช่นกัน โดยเฉพาะในแง่ของน้ำหนักขนาดที่เล็กและมีน้ำหนักเบากว่า มีความร้อนสะสมในอัตราที่น้อยกว่าแอมป์ชนิดหลอดสูญญากาศมาก อีกทั้งยังใช้ไฟในการเลี้ยงวงจรที่ต่ำกว่า ที่น่าแปลกมากก็คือหากใช้เครื่องมือจับวัดสัญญาณแล้ว เพาเวอร์แอมป์ ชนิดทรานซิสเตอร์จะมีค่าความเพี้ยนที่ต่ำกว่าแอมป์ชนิดหลอดสูญญากาศแต่ในเวลาฟังจริง ๆ ในทางภาคปฏิบัติ นักฟังมักจะชื่นชอบเสียงจากแอมป์หลอดมากกว่า ดังนั้นค่าความเพี้ยนต่าง ๆ ที่กำหนดเอาผู้ฟังไว้ในสเปกของเครื่อง จึงไม่สามารถบอกได้ว่าเครื่องรุ่นใด ชนิดใดให้เสียงดีกว่า จากแค่การพิจารณาความเพี้ยนของสเปกเครื่อง

เพาเวอร์แอมป์ประเภททรานซิสเตอร์ยังต้องมีการออกแบบฮีทซิ้งหรือแผงระบายความร้อนในอุปกรณ์ เพื่อให้การระบายความร้อนสะสมที่เกิดกับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำไปได้รวดเร็วที่สุด ความร้อนสะสมภายในตัวทรานซิสเตอร์ จะทำให้มันมีอายุการใช้งานสั้นลงมากกว่าปกติ ความร้อนยิ่งมากตัวอุปกรณ์เหล่านี้จะมีกระแสไหลผ่านมาก และถ้ายังมีกระแสไหลผ่านตัวมันมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็จะทำให้อุปกรณ์นั้นเสียหายได้ ถ้าหากว่าอุปกรณ์ที่เป็นทรานซิสเตอร์ล้วน ๆ จะต้องมีวงจรช่วยในการจำกัดกระแสที่ไหลผ่านตัวทรานซิสเตอร์นั้น ๆ ไม่ให้ร้อยจนเกินกว่าตัวอุปกรณ์นั้นจะรับได้

ในช่วงระยะหลัง ๆ ได้มีการนำเอาทรานซิสเตอร์ชนิดพิเศษที่เรียกว่า "มอสเฟท" เข้ามาทำงานแทนที่ทรานซิสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ข้อดีจของมอสเฟทก็คือ ไม่ต้องมีระบบวงจรชดเชยอุณหภูมิ เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษในการจำกัดจำนวนกระแสดที่ไหลผ่านตัวของมันได้เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น มอสเฟทจึงไม่เสียหายง่าย ๆ อย่างทรานซิสเตอร์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป

เพาเวอร์แอมป์วงจรทรานซินเตอร์นั้นมักจะมีการออกแบบที่แตกต่างหลากหลายมากคงไม่สามารถนำมาแจกแจงทั้งหมดได้ แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนของแอมป์ประเภทนี้ก็คือ เมื่อเวลามีการใช้กำลังขับมาก…จนคลิปแอมป์ทรานซิสเตอร์จะมีความเพี้ยนในระดับที่สูงมาก ผู้ฟังจะได้ยินเสียงแตกพร่าชัดเจนรุนแรงว่าแอมป์หลอดสูญญากาศหลายเท่าตัวดังนั้นการเลือกเล่นแอมปลิไฟร์ชนิดทรานซิสเตอร์ จึงน่าเลือกแอมป์ที่มีพลังขับสูง ๆ เอาไว้ก่อน โดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีห้องฟังขนาดใหญ่ ๆ และจำเป็นต้องใช้แอมป์ไปขับลำโพงซึ่งมีค่าความต้านทานสูง หรือลำโพงที่มีความไวค่อนข้างต่ำ

สิ่งที่ดีกว่าของแอมป์ทรานซิสเตอร์ก็คือ เรื่องของค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์ ซึ่งจะมีอัตราที่สูงกว่าแอมป์ไฟร์แบบหลอดสูญญากาศ ค่าแดมปิ้งแฟคเตอร์ คือการหยุดยั้งการสั่นค้างของลำโพง ในการฟังเสียงแอมปลิไฟร์ประเภทหลอดสูญญากาศ คุณจะพบได้ง่ายว่าความถี่ต่ำของมันจะมีความพร่าเลือนไม่ฉับไว (ในความถี่ต่ำมาก) แอมปลิไฟร์ที่หยุดยั้งการสั่นค้างของลำโพงได้ดี ๆ จะทำให้เสียงกระชับฉับไวสมจริงมากยิ่งขึ้น นี่เป็นคุณสมบัติที่แอมป์ทรานซิสเตอร์จะให้ได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดทั้งหลายในทางปฏิบัติ จะมีข้อปลีกย่อยอีกมากมาย มิใช่เพียงแค่คุณสมบัติเพียงด้านเดียวของ DAMPING FACTOR เท่านั้น

ข้อที่น่าสังเกตคือ ในระดับไฮเอ็นด์สูงสุดแล้ว แอมป์หลอดกับแอมป์ทรานซิสเตอร์ล้วนมีราคาสูงสูดโต่งด้วยกันทั้งคู่ น้ำเสียงบุคลิกของมันก็ยอมเยี่ยมมีรายละเอียดดี ยากจะนำข้อจำกัดความของลักษณะเสียงมาชี้ขาดได้ว่าใครดีกว่าใคร

แต่ในแอมปลิไฟร์ระดับราคาตลาดแล้วแอมปลิไฟร์ทรานซิสเตอร์มักจะก่อความเพี้ยนได้รุนแรง หรือฟังออกได้ง่ายกว่า เพราะทรานซิสเตอร์ที่มีอาการผิดเพี้ยน จะผิดเพี้ยนที่ฮาร์โมนิคคี่ ซึ่งมีผลต่อการรับฟังของหูมากกว่าฮาร์โมนิคคู่ แอมปลิไฟร์ทรานซิสเตอร์ชั้นดี จึงมักออกแบบพลังสำรองให้สูง ๆ เพื่อป้องกันอาการผิดเพี้ยนของเสียงดังกล่าวข้างต้น

ตามปกติทั่วไป แอมปลิไฟร์หรือเพาเวอร์แอมป์หลอดสูญญากาศ มักจะเป็นแอมป์ที่มีราคาแพงเสมอ ในขณะที่แอมป์ทรายซินเตอร์นั้น จะมีทั้งสนนราคาแพงและไม่แพง

แต่บทสรุปอื่น ๆ เกี่ยวกับหลอดหรือทรานซิสเตอร์นั้น ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอนว่าควรเลือกเล่นแอมป์แบบใด ?

อุปกรณ์ที่นำมาใช้ในวงจรเพาเวอร์แอมป์ต่อไปนี้ ล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันมีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยกันทั้งสองประการ ซึ่งผมจะขอแจกแจงเอาไว้ พอเป็นที่ประดับความรู้ในการเลือกซื้อแอมปลิไฟร์เออร์

MOSFET หรือ METAL OXIDE SEMI-CONDUCTOR FIELD EFFECT TRANSISTOR ซึ่งเป็นอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำที่มีการทำงานคล้ายหลอดสูญญากาศมาก คือเมื่อได้รับอินพุทโวลเตจ ก็จะเกิดสนามไฟฟ้าเล็ก ๆ ขึ้นในตัวของมัน เพื่อใช้ในการควบคุมปริมาณกระแสที่จะวิ่งผ่านตัวของมัน และมอสเฟทนั้น ก็จะมีค่าความต้านทานขาเข้าสูงมาก สูงกว่าไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์โดยทั่วไป

BIPOLAR TRANSISTOR หรืออุปกรณ์จำพวกสารกึ่งตัวนำ ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและกว้างขวางมาก ทรานซิสเตอร์นั้นมีการทำงานที่แตกต่างไปจนมอสเฟท และหลอดสูญญากาศ คือมันจะทำการตอบสนองต่อกระแส ไม่ใช่โวลเตจอินพุทอย่างเป็นกับมอสเฟทเมื่อมีกระแสเข้าปริมาณหนึ่งที่อินพุทของมัน แต่ในทางเอ๊าท์พุท กระแสจะไหลออกเป็นปริมาณมากกว่า นั่นคือการทำงานขยายเสียงของมันนั่นเอง

TUBE หลอดสูญญากาศ เป็นอุปกรณ์ดั้งเดิมที่รู้จักกันมาก่อนทรานซิสเตอร์ ขั้วของหลอดจะประกอบด้วยคาโธค เพลท และกริด (CATHOD, PLATE, GRIE) การไหลผ่านของอีเล็กตรอน จะเกิดการจุดไส้หลอดโดยที่ขั้วของคาโธคจะเป็นขั้วลบ และเพลทเป็นขั้วบวก เมื่อหลอดถูกจุดให้ร้อน อีเล็กตรอนก็จะกระโดดจากคาโธคไปยังเพลทเป็นเหตุให้มีการไหลของกระแสปริมาณกระแสนั้นจะถูกควบคุมโดยกริด ซึ่งอยู่ในระหว่างทางเดินของอีเล็กตรอน และจากการที่ขั้วของหลอดทั้ง 3 ขั้ว ไม่ได้ต่อให้ถึงกัน ดังนั้นจึงมีค่าความต้านทานทางด้านอินพุทที่สูงมาก

POWER SUPPLY เป็นภาคจ่ายไฟเพาเวอร์แอมป์ ส่วนของวงจรนี้มีหน้าที่หลักในการจ่ายกระแสให้กับตัวเครื่องทั้งหมด วงจรเบสิกทั้งไปจะประกอบด้วย ไดโอด 4 ตัว คาปาซิเตอร์จำนวน 2 ตัว นอกจากกรณีของการต่อพ่วงกัน เพื่อให้วงจรมีเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้นไปอีก

POWER TRANSFORMER คือส่วนหนึ่งของวงจรเพาเวอร์ซัพพลาย เป็นหม้อแปลงไฟฟ้า สำหรับแปลงไฟบ้านขนาด 220 โวลท์ ให้เหมาะสมกับวงจรที่ต้องการใช้หากวงจรของเพาเวอร์แอมป์มีกำลังขับสูงก็ย่อมต้องการไฟเลี้ยงวงจรที่สูงขึ้น สมมติว่าเป็นแอมป์ที่มีกำลังขนาด 100 วัตต์ (ขชนิดทรานซิสเตอร์) จะต้องแปลงไฟจาก 200 โวลท์ให้ลงมาเหลือ 40 โวลท์โดยประมาณ ส่วนเพาเวอร์แอมป์หลอดสูญญากาศ อาจจะต้องแปลงไฟให้สูงกว่า 220 โวลท์ ข้อสังเกตก็คือตัวเพาเวอร์แอมป์วงจรเดียวกัน หากเพาเวอร์ซัพพลายของเครื่องตัวใดตัวหนึ่งออกแบบได้ดีกว่า ก็จะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าอย่างแน่นอน

เรื่องที่น่ารู้ เกี่ยวกับเพาเวอร์แอมป์นั้นยังมีอีกมากมาย แต่คำศัพท์ที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพเสียงนั้นจะมีในวงจำกัดไม่กี่คำ ยกตัวอย่างเช่น

SLEWLATE หมายถึงค่าความไวของเพาเวอร์แอมป์ ในอันที่จะตอบสนองต่อสัญญาณอินพุท ซึ่งมักจะบอกกันเป็นค่าของโวลท์ต่อไมโครเซกั้นด์ เช่น อัตราการสรูว์เรทของเพาเวอร์แอมป์เครื่องหนึ่งมีอัตรา 60 โวลท์ต่อไมโครเซกั้นด์ ก็หมายถึงเมื่อสัญญาณอินพุทมีการเปลี่ยนแปลงค่าต่อเอ๊าท์พุท เอ๊าท์พุทจะสามารถเปลี่ยนจากศูนย์ถึง 60 โวลท์ ได้ภายในเวลา 1 ไมโครเซกั้นด์ (หรือหนึ่งในล้านวินาที)

การเปรียบเทียบค่า SLEW RATE นั้นจะต้องเปรียบเทียบจากแอมปลิไฟร์ที่มีกำลังขับระดับเดียวกันจึงจะเหมาะสม ไม่ควรนำแอมป์ขนาด 100 วัตต์ ไปเปรียบเทียบอัตราสรูว์เรทกับแอมป์ขนาด 20 วัตต์ เพราะแอมป์ขนาดกำลังขับทั้ง 2 ขนาดนี้ ย่อมจะต่างกันโดยเบสิกของการออกแบบอยู่แล้ว

คลาสของเพาเวอร์แอมป์ ที่จริงผมเคยเขียนถึงลักษณะการทำงานของแอมปลิไฟร์วงจรต่างๆ เหล่านี้มาแล้ว ด้วยกลวิธีในการออกแบบภาคขยาย และวิธีการจัดไบอัสให้กับทรานซิสเตอร์นั่นเอง ได้แบ่งให้เกิดแอมป์คลาสต่าง ๆ มากมาย แต่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน คือ แอมป์คลาส A และคลาส AB จะขอสรุปสั้น ๆ เพื่อเป็นการทบทวนเรื่องคลาสของแอมป์ซึ่งเคยพูดถึงมาบ้างแล้ว ซึ่งจะขอยกเว้นภาคขยายประเภทอื่น ๆ อันไม่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน

CLASS A
การจัดวงจรภาคขยายแบบนี้ จะมีการไบอัสกระแสให้กับทราสซิสเตอร์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณมาให้ขยาย ตัวทรานซิสเตอร์ก็ยังจะจต้องมีปริมาณกระแสไหลผ่านในปริมาณค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวเครื่องของแอมป์คลาส A จะมีความร้อนสูงกว่าการจัดวงจรแบบคลาสอื่น ๆ ข้อดีก็อาจจะมีตรงที่ค่าความเพี้ยนต่าง ๆ จะมีต่ำกว่าวงจรแบบอื่น ๆ และแอมป์คลาส A มักจะทำให้มีกำลังขับได้ไม่สูงนัก ถ้าผลิตแอมป์คลาส A ที่มีกำลังขับสูง ๆ ตัวเครื่องและส่วนของแผงระบายความร้อนจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าปกติมาก

CLASS B
เป็นการจัดวงจรที่ต่างจากคลาส A โดยสิ้นเชิง คือเมื่อไม่มีสัญญาณอินพุทเข้ามา ก็จะไม่มีกระแสไหลผ่านทรานซิสเตอร์ จะมีกระแสไหลผ่านได้ก็ต่อเมื่อมีสัญญาณอินพุทเข้ามาเท่านั้น แอมป์คลาส B มักจะมีค่าความเพี้ยนสูงมาก แต่มันมีข้อดีที่จะทำเป็นแอมป์กำลังขับสูง ๆ ได้ ปัจจุบันไม่มีแอมป์คลาส B แท้ ๆ อีกแล้ว เนื่องจากคุณภาพเสียงไม่เป็นที่น่าพอใจ

CLASS AB
แอมปลิไฟร์หรือเพาเวอร์แอมป์ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน การออกแบบจะนำข้อดีของแอมป์ทั้งคลาส A และคลาส B มาผสมผสานกัน คือ มีการปล่อยให้มีกระแสปริมาณน้อย ๆ ผ่านทรานซิสเตอร์จำนวนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณอินพุทเข้ามาเลย การทำงานปิดเปิดก็จะเป็นไปตามสัญญาณอินพุททั่วไป เพียงแต่ว่าวงจรนี้ จะไม่มีการ OFF ของกระแสทั้งหมด แม้ว่าจะไม่มีอินพุทเข้ามา
คุณสมบัติของเพาเวอร์แอมป์ที่ดีนั้นไม่อาจจะสรุปได้โดยง่าย ในแง่ของเทคนิคพื้นฐานที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงพื้นฐานที่ท่านผู้อ่านควรทราบไว้บ้าง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแอมปลิไฟร์เออร์ แต่ถ้าพิเคราะห์กันถึงวิธีการเลือกซื้อแล้ว เรามักจะจัดให้เพาเวอร์แอมป์ได้มีโอกาสจับคู่กับปรีแอมป์ แล้วทำงานขับลำโพงจริง ๆ เพื่อฟังผลของคุณภาพเสียง มากกว่าการพิจารณาคุณสมบัติของเพาเวอร์แอมป์เพียงเครื่องเดียว

บทสรุปที่เห็นเด่นชัดในทางปฏิบัติของเพาเวอร์แอมป์ที่ดี คือ

1. พลังขับจะต้องสมบูรณ์ตลอดย่านความถี่ และระดับความดังไม่มีเสียงพร่าเพี้ยนเมื่อทำงานในระดับความดังสูง ๆ

2. มีน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ ไม่ผิดเพี้ยนความเป็นจริง เช่น เสียงจัด เสียงขุ่นมัว หรือเบลอ

3. ในระดับความดังแบบแบ็กกราวด์มิวสิก (เบา ๆ) เพาเวอร์แอมป์ที่ดี จะให้รายละเอียดของชิ้นดนตรีได้มากกว่าเพาเวอร์แอมป์ที่ไม่ดี ข้อสังเกตคือ แอมป์ขนาดกำลังขับสูง ๆ แม้จะเปิดในระดับความดังเท่ากับแอมป์ขนาดกำลังขับต่ำ ๆ แอมป์กำลังขับสูงจะให้เสียงที่มีรายละเอียดมากกว่าเสมอ

4. มีความเป็นกลางของน้ำเสียงสามารถจัดเข้ากับปรีแอมป์ได้หลากหลายและยังคงลักษณะบุคลิกเสียง ที่เป็นแฟล็ทได้เสมอ

5. ควรมีวงจรโพรเท็คชั้น ป้องกันตนเองได้ กรณีเอ๊าท์พุทช้อต โดยไม่ทำให้คุณภาพเสียงโดยรวมเสียหาย

6. การออกแบบ จะต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงอันเหมาะสม ไม่ใช่แค่สวยงามที่รูปทรงของเครื่องแต่อย่างเดียวเท่านั้น

7. เพาเวอร์แอมป์ที่ดี ย่อมไม่เกี่ยงลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ซับซ้อน และต้องไม่มีอาการเสียงเครียดเมื่อเปิดฟังนาน ๆ

นั่นคือคุณสมบัติบางประการ ที่จะช่วยให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเลือกเฟ้นเวอร์แอมป์ที่ดีได้ แม้จะไม่ใช่สูตรสำเร็จทั้งหมด

ข้อสำคัญก็คือ คุณจะต้องคำนึงถึงคุณภาพเสียงที่ถูกใจ และถูกหูของคุณด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint 49.48.117.44 พุธ, 23/1/2556 เวลา : 18:09  IP : 49.48.117.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70394

คำตอบที่ 212
       อ่านเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างครับน้าbint ผมหลับตา ฟังเพลง รู้สึกมันไพเราะขึ้น เป็นเพราะอะไรครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

manisamut จาก นพดล 58.137.19.101 พุธ, 30/1/2556 เวลา : 12:55  IP : 58.137.19.101   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70474

คำตอบที่ 213
       สวัสดีครับน้าbin รู้เรื่องแอม์ขึ้นเยอะเลยครับ ถามต่อเลยน่ะครับ แล้วมีวิธีเลือกลำโพงกับแอม์ให้แม็ชกันไหมครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chaideth จาก ชัย คลองเตย 171.99.86.173 จันทร์, 4/2/2556 เวลา : 08:46  IP : 171.99.86.173   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70589

คำตอบที่ 214
       เมื่อเราหลับตาเท่ากับเราลดความรู้สึกของปราสาททั้งหมดลงไปนิดนึงเราจึงมีสมาธิมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่เราสังเกตุอยู่เราก็จะรู้สึกมันได้มากขึ้นครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint 223.206.219.211 จันทร์, 4/2/2556 เวลา : 20:40  IP : 223.206.219.211   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70601

คำตอบที่ 215
       ความแมตช์ของแอมป์กับลำโพงเหรอ
กรณีที่เราต้องการจัดสักเซตเพื่อฟัง เราต้องเลือกลำโพงก่อนนะครับแล้วค่อยเลือกแอมป์
แรกเลย ก็เลือกลำโพงก่อน ว่าเราฟังแบบไหน
ต้องการความเที่ยงตรงสูง ก็ได้ลำโพงพวกแบบในห้องบันทึกเสียง
หากต้องการอ่อนหวานพริ้วๆประกายหวาน ก็ลำโพงอีกแบบครับ
หากโป้งชึ่งๆ ก็ได้ไปอีกแบบครับ
ลำโพงหลายๆยี่ห้อก็มีบุคลิกต่างกัน บางยี่ห้อก็เที่ยงตรง บางยี่ห้อก็โป้งชึ่งครับ

เมื่อเลือกได้ลำโพงแล้วเราก็ไปหาเลือกแอมป์ตามสไตล์ของลำโพงเราครับ อบ่าจับคนละแนวผสมกับนะครับมันจะเข้าป่าออกทะเล

ดังนั้นเราจึงต้องรู้บุคลิกของแอมป์และลำโพงที่เราจะหามาใช้ว่าแบรนด์ไหนยี่ห้ออะไรที่เราชอบเสียงของมันนะครับ

 แก้ไขเมื่อ : 4/2/2556 20:58:06



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint 223.206.219.211 จันทร์, 4/2/2556 เวลา : 20:48  IP : 223.206.219.211   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70602

คำตอบที่ 216
       สวัสดีครับน้าทุกท่าน น้านพดล น้าbint ครับ หลังจากใช้ไดร์เก่า(ตัวมากับรถ)มานาน..ใช้กับเครื่องเสียงรถมากหนักพอสมควร..(อายุสั้นเร็ว) จึงเปลี่ยนไดร์โมครับ..ของ0 ราคาเเรงแตะไม่ได้ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chaideth จาก ชัย คลองเตย 171.99.86.121 จันทร์, 18/2/2556 เวลา : 19:44  IP : 171.99.86.121   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70844

คำตอบที่ 217
       ที่สำคัญ ไดร์0 ไฟไม่พอครับ จำเป็นต้องโมเอา ใช้ไฟ95แอม์เลยครับ เเบตฯใช้100แอม์ครับ....เรื่องไฟกับเครื่องเสียงรถนี้ทิ้งกันไม่ได้เลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chaideth จาก ชัย คลองเตย 171.99.86.121 จันทร์, 18/2/2556 เวลา : 19:54  IP : 171.99.86.121   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70845

คำตอบที่ 218
       ตอนนี้เสียงเบสแน่นขึ้นกว่าเดิม/ระบบไฟเต็ม ไฟหน้ารถสว่างกว่าเดิม รถสตารด์นิ่งมาก เล่นเครื่องเสียงนานกว่าเดิม ไม่ต้องสาธุ สาธุ ตอนสตารด์รถเหมือนก่อนครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chaideth จาก ชัย คลองเตย 171.99.86.121 จันทร์, 18/2/2556 เวลา : 19:59  IP : 171.99.86.121   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70846

คำตอบที่ 219
       เรื่องของเรื่องคือไดร์เดิม 65แอม์ ผมก็เปลี่ยนเเบต์ให้ วัตต์สูงขึ้นกว่าเดิม ผล ไดร์ก็ไม่ได้พักเลยครับ สุดท้าย อายุนาน แล้วเจองานหนักกว่าเดิม บ๊ายบายเลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chaideth จาก ชัย คลองเตย 171.99.86.121 จันทร์, 18/2/2556 เวลา : 20:06  IP : 171.99.86.121   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70847

คำตอบที่ 220
       ขอถามเพื่อความกระจ่างหน่อยครับ ที่ปรีแอมป์ ปุ่มFADERมีไว้เพื่อ แยกเสียง ที่ออกจากลำโพง หน้ากับหลัง หรือ ซ้ายกับขวา ครับ



หน้า หลังครับ ถ้า Balance จะเป็นซ้าย ขวา
จาก : อ้วน(et4) 4/7/2556 7:37:34 [223.204.50.173]
ขอบคุณน้าอ้วน ผมต่อสายออกผิดลำโพงอยู่
จาก : manisamut(manisamut) 4/7/2556 15:57:17 [58.137.19.160]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

manisamut จาก นพดล 124.120.25.51 พุธ, 3/7/2556 เวลา : 20:37  IP : 124.120.25.51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 71738

คำตอบที่ 221
       แอมป์น้านพที่ผมเปลี่ยนวงจรทั้งเครื่องสองตัวยังร้องเพลงเพราะดีไหมครับ เห็นว่ารถจอดเสียอยู่ใช่ไหมครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint 49.49.183.128 พฤหัสบดี, 4/7/2556 เวลา : 09:58  IP : 49.49.183.128   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 71743

คำตอบที่ 222
       ยิ่งฟังยิ่งเพาะครับน้าบินฑ์ ไม่เบื่อที่จะหาแผ่นใหม่ๆมาฟังเลย
เครื่อง หัวเผาขาดครับ สตาร์ทไม่ติดเลย เครื่องตัวนี้ ถ้าหัวเผาขาดแล้ว จบเลยครับ สตารท์ให้แบตหมดก็ไม่ติด แล้วถ้าเปลื่ยนหัวเผา ก็ต้องอะไหล่แท้เท่านั้น ของปลอมใช้ได้ไม่เกิน2-3วัน



เมื่อไหร่จะได้เจอกันคร้าบ......น้านพ
จาก : อ้วน(et4) 5/7/2556 7:32:53 [223.204.50.173]
ไม่ทราบเลยครับ ก็ที่ที่น้าชอบไปกัน สถาพรถบ้านๆของผมตอนนี้เข้าไปด้วยไม่ไหวแล้วล่ะครับ
จาก : manisamut(manisamut) 6/7/2556 6:28:02 [110.168.79.136]
รถก็เก่า คนก็แก่
จาก : bint (bint ) 8/7/2556 16:16:20 [223.206.17.176]
แหะๆ
จาก : Manisamut(Manisamut) 6/9/2556 20:24:35 [49.231.98.104]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

manisamut จาก นพดล 58.137.19.160 พฤหัสบดี, 4/7/2556 เวลา : 16:11  IP : 58.137.19.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 71746

คำตอบที่ 223
       แนะนำแผ่นเพลง เพราะๆให้ฟังกันครับ เอาแบบไม่แฟชั่นนะครับไม่เน้าว่าจะเข้าใจง่ายชอบไวแล้วก็เบื่อไวแบบนี้ไม่เอา
นักร้องคนนี้เธอชื่อ sarah brightman เธอเป็นนักร้องที่มีความสามารถร้องได้หลายภาษา โดยเฉพาะเธอเป็นนักร้องเสียงโวปราโน่ คือเสียงนางเอกนั่นเอง
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เธอมีหลายผลงานมาก แต่ที่โดดเด่นคือเพลง Fantom of the opera(ผีแห่งโรงละคร)และเพลงนี้เธอได้ร้องไว้ในคอนเสริทของเธอที่มีชื่อคอนเสริทว่า Fantom of the opera ชื่อเดียวกับชื่อเพลง ในคอนเสริทนี้จะได้สัมผัสกับคาวมอลังการของเครื่องดนตรีนับร้อยชิ้น ยิ่งเล่นกับชุดเครื่องเสียงชุดใหญ่ ลำโพงทาวเวอร์ แอมป์ยักษ์ เครื่องซีดี เส้นสายดีดี จะทำให้คุณสัมผัสถึงมิติความกว้างและสูงของสถานที่ได้ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก 119.160.223.250 ศุกร์, 6/9/2556 เวลา : 16:40  IP : 119.160.223.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 72217

คำตอบที่ 224
       สวัสดีน้าๆทุกท่านนะครับ ผมเองหายไปนานแวะเข้ามาบ้างนานๆที ก็เนื่องจากเรื่องบ้านเมือง และก็ซุ่มทำรถตัวเองอยู่ ก็ทำมามากแล้วทั้งที่มีเวลาและไม่มีเวลาทำก็เลยช้าๆอืดๆไปเรื่อย จนมาถึงตอนนี้ก็เรียบร้อยไปแล้วกว่า90% ก็เลยนึกว่าน่าจะได้เวลาที่เอามาโชว์ๆกันบ้าน ตามประสาคนชอบเล่นชอบประดิษฐ์ประดอยนะครับ
ก็เริ่มจากภาพแรกที่จะขุดกระทู้นี้ขึ้นมาอีกที ไม้แผ่นนี้เป็นไม่สักต่อเป็นกระดานครับ เอามาทำแผงประตู
ที่ทำงานแบบนี้ก็เพระต้องการความสวย คงทน ใช้งานได้จริง ไม่ดัดแปลงรถให้เสียสภาพ สวยนาน และส่งผลดีต่อการติดตั้งเครื่องเสียง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:00  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74093

คำตอบที่ 225
       นี่คือไม้หมอนรางรถไฟที่จะเอามาทำชิ้นเท้าแขน แต่ก็ต้องม้วนเสื่อกลับไปครับ จนปัญญาจะจัดการกับมัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:03  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74094

คำตอบที่ 226
       จัดการแผงแกะแผงประตูเก่าออกครับเอาไปเก็บ แล้วก็จัดการเช็ดยางมะตอยที่ติดแผ่นพลาสติกกันน้ำมาจากโรงงานออกให้สะอาด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:06  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74095

คำตอบที่ 227
       หลังจากที่เอาของเก่าออกไปแล้ว ต่อไปก็มาปรับปรุงระบบกันครับ โดยการติดตั้งแผ่นแดมป์ที่ประตูด้านใน แผ่นแดมป์นี้ทำเพื่อเพิ่มมวลให้แผ่นเหล็กที่จะสั่นๆๆกระพือให้เกิดเสียงรบกวนเสียงเพลงของเรา และยังช่วยในการกันเสียงรบกวนจากภายนอกที่เข้ามาบริเวณที่ติดตั้งด้วย
แต่ว่าผมแดมป์สองชั้นนะครับเรียก"เอาอยู่ๆๆ"ตอนแดมป์สองชั้นเสร็จไม่ได้ถ่ายไว้

 แก้ไขเมื่อ : 6/7/2557 18:18:49





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:10  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74096

คำตอบที่ 228
       จัดการตัดเล็มแผ่นกระดานไม้สักให้เข้ารูปกับประตูนะครับ นอกจากจะเข้ารูปกับประตูแล้วต้องเข้ารูปกับชิ้นมือเปิดประตูด้วย เพราะชิ้นมือเปิดประตูจะต้องเอามาต่อเข้ากันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:22  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74097

คำตอบที่ 229
       และเมื่อตัดแล้ว เอามาเทียบ ไม่พอดีก็ขัดก็เล็มออก เอามาเทียบ ทำแบบนี้หลายครั้งจนกว่าจะพอดี เมื่อพอดีแล้วก็จัดการลบเหลี่ยมให้ขอบโค้งมน เพื่อให้สัมผัสที่ลื่นไหล

ภาพนี้นำมาประกอบกับท่อนบนมือเปิดประตูแล้ว

 แก้ไขเมื่อ : 6/7/2557 18:27:14





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:26  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74098

คำตอบที่ 230
       นี่คือภาพ specer ลำโพงครับต้องเสริมก็เพราะว่าลำโพงรุ่นนี้เป็นลำโพงกรวยลึก ตูดยาว หากไม่เสริมจะทำให้กระจกลงได้ไม่สุดครับ ทั้งเน็ตเวิร์คลำโพงทีแรกก็ไว้ที่ช่องประตู แต่แล้วก็เปลี่ยนใจย้ายมาอยู่ในรถแทนเพราะด้วยเหตุผลที่กันน้ำโดนนั่นเอง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:31  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74099

คำตอบที่ 231
       ต่อไปก็มาทำท่อนกลางประตู ท่อนนี้ใช้งานสามอย่าง คือ เบ้าสวิตช์กระจก มือจับเปิดปิดประตู และเป็นตัวยึดตรงกลางประตูให้แน่น
ขั้นแรกก็เอาไม้หน้าสามครับมาทำแกนกลาง ที่ผมเลือกไม้หน้าสามก็เพราะว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง ทนทานมาก รับน้ำหนักได้มาก





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:42  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74100

คำตอบที่ 232
       เอามาตัดแล้วก็เทียบครับ ชิ้นนี้ไม่ต้องเนียนมากครับ เพราะเป็นโครงสร้างส่วนรับน้ำหนัก ตัดเอาเพียงให้พอดีกิ๊บล็อกของสวิตช์กระจกก็พอ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:44  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74101

คำตอบที่ 233
       มองอีกมุม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:47  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74102

คำตอบที่ 234
       ภาพนี้ทำการตัดกระดานไม่สักมาประกบท่อนกลางแล้ว ทาด้วยกาว เอาซีแคลมป์บีบเอาไว้สักวันนึง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:50  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74103

คำตอบที่ 235
       เมื่อกาวแห้งดีแล้วเราก็เอามาขัดกระดาษทรายครับ โดยวางกระดาษทรายไว้แล้วเอาชิ้นงานถูใส่กระดาษทรายมันก็จะได้ความเรียบไม่เบี้ยวไม่เอียงนะครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:53  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74104

คำตอบที่ 236
       อีกภาพ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:54  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74105

คำตอบที่ 237
       เมื่อผ่านการลงกระดาษทรายหยาบเพื่อปรับชิ้นงานทั้งสามให้เท่ากันแล้ว คราวนี้ก็เอามาลบมุมลบเหลี่ยมและลงกระดาษทรายละเอียดให้สวยลื่นแบบนี้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:57  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74106

คำตอบที่ 238
       ทั้งท่อนก็จะออกมาแบบนี้ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 18:58  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74107

คำตอบที่ 239
       เจาะรูยึดเข้ากับประตูนะครับ ผายปากรูด้วยเพื่อลดความคม





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 19:00  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74108

คำตอบที่ 240
       ยังไม่เสร็จนะครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bint จาก bint อาทิตย์, 6/7/2557 เวลา : 19:00  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 74109

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 8 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,23 พฤศจิกายน 2567 (Online 5472 คน)