คำตอบที่ 3
fiogf49gjkf0d
มหันตภัยที่กำลังเกิดขึ้นในโลกขณะนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมีญี่ปุ่นที่เพิ่งโดนไปสดๆร้อนๆนั้น ที่จริงแล้วเป็นเรื่องธรรมดามากๆของโลกธาตุในจักรวาลนี้ มันกำลังแสดงเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย อันเป็นธรรมชาติธรรมดาของมันเท่านั้น นี่ไม่ใช่เป็นการล้างโลกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายแน่นอน แต่เป็นวงจรที่เกิดแล้วเกิดเล่ามานานนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ถึงแม้เป็นเรื่องภัยธรรมชาติที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวอะไรกับมนุษย์ แต่ที่จริงเกี่ยว...โดยตรง ผู้รู้จริง คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพูดเหมือนกันว่า คราใดที่สังคมมนุษย์เต็มไปด้วยคนเลว ทำแต่บาป ทำกรรมชั่วทั้งหลายแล้วละก็ ธรรมชาติก็จะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์สักครั้งหนึ่ง แล้วค่อยเริ่มต้นสร้างสังคมของมนุษย์ใหม่อีก ซึ่งมันก็ลงตัว เพราะสังคมมนุษย์ในช่วง ๗๐ ปีที่ผ่านมา มีการเบียดเบียนและเข่นฆ่ากันมากมายเหลือเกิน มีสงครามโลกถึง ๒ ครั้ง สงครามเล็กๆน้อยๆอีกนับครั้งไม่ถ้วน ผู้นำไม่กี่คน สั่งฆ่าคนตายนับหลายสิบล้านคน เศรษฐกิจระบบทุนนิยมหรือบริโภคนิยมก็มาทำให้มนุษย์เห็นแก่ตัวมากขึ้น มือใครยาวก็สาวกันไปอย่างไม่เกรงใจคนมือสั้น ถลุงเผาผลาญทรัพยากรธรรมชาติเป็นว่าเล่นโดยไม่ได้นึกถึงมนุษย์ที่จะต้องมาอยู่บนโลกใบนี้ในภายหลัง คนรวยก็เสวยกามสุขอยู่บนหอคอยงาช้างอย่างไม่มีความละอายและเกรงกลัวบาปกรรมที่ตนเองได้ทำไว้ เบียดเบียนแม้สัตว์เดรัจฉาน จนไม่มีที่จะอยู่ ความอยุติธรรมเกิดทั่วทุกหย่อมหญ้าของสังคมโลก เป็นสังคมมนุษย์ที่มีแต่หายนธรรม ไม่ใช่อารยธรรมเลย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ถึงเวลาแล้วที่ธรรมชาติจะต้องล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกสักครั้งเหมือนที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีต เพียงแต่อายุของคนที่สั้นน้อยนิดจะไม่มีวันเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ได้ บางคนเกิดหลายชาติก็ยังไม่ได้เห็น ฉะนั้น การที่มนุษย์ยุคนี้เกิดมามีโอกาสเห็นภัยธรรมชาติรุนแรงเหล่านี้จึงต้องมองให้เป็นเรื่องบุญวาสนาบารมีมากกว่า เพราะนี่คือปากประตูของปัญญาทางธรรมที่จะช่วยให้หาแก่นแท้ของพุทธศาสนาได้ง่ายขึ้น ฉะนั้น ไม่ควรแปลกใจเลยหากหายนภัยในระดับล้างโลกจะเกิดในปีค.ศ. ๒๐๑๒ สิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้จึงนับเป็นเหตุการณ์ เรียกน้ำย่อย เท่านั้น อาหารจานหลัก ยังมาไม่ถึง แต่เพียงแค่อาหารจานเรียกน้ำย่อย มนุษย์ก็อกสั่นขวัญแขวนกันแล้ว กลัวตาย แต่...จะแก้ปัญหาอย่างไรเล่าที่จะหนีภัยเหล่านี้ได้ทัน ถ้าเป็นอาหารจานเรียกน้ำย่อย คุณอาจจะหนีไปอยู่เขาใหญ่ ดอยอ่างข่าง เขาค้อ ดอยอินทนนท์ได้ แต่หากเป็นอาหารจานหลักละก็ คุณคิดว่าคุณจะหนีพ้นหรือ ต่อให้คุณไปอยู่ทิเบต คุณก็อาจจะไม่ได้อยู่เห็น ของหวาน ซึ่งเป็นอาหารจานสุดท้ายแน่นอน
***ไปเจอบทความนี้มาโดยบังเอิญเป็นของใครเดี๋ยวจะนำมาเฉลยถ้าสนใจจริงๆตอนนี้ใครที่กำลังว่างๆ พยายามใช้สติและปัญญาไตร่ตรองในฐานะชาวพุทธ สิ่งที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็นหนักกว่าเดิมแน่ๆ รีบรักษาศีล ๕ กันไว้เด้อ เขาตื่นกันหมดแล้วเรื่องนี้ในสังคมชาวพุทธที่เข้าหาแก่นไม่ใช่เปลือก