คำตอบที่ 1
      

fiogf49gjkf0d

ผมก็ไม่ค่อยรู้อ่ะครับ น้าพี่ แต่เท่าที่รู้ว่าถ้าไม่มีไม่มีเต็ดไม่มีดิฟ เวลาล้อข้างนึงติด(พูดถึงหลังอย่างเดียวก่อนนะครับ)จนไม่สามารถหมุนได้ มันก็ส่งกำลังทั้งหมดไปข้างที่เหลือ ผลก็คือฟรืทิ้งหมดครับ ถ้ามีเต็ด(ส่วนมากเป็นอัตราส่วน 70:30 มั้งครับ)มันยังคงส่งแรงไปที่ล้อที่ติดอยู่ 30% ส่วนอีกล้อ 70%(ตามความเข้าใจของผมเองครับ) ถ้าเป็นดิฟจะส่งกำลังไปทั้ง 2 ข้างเท่ากัน 50:50 ทำให้มีกำลังผ่านอุปสรรคได้ดีกว่า จากความเข้าใจของผมเองอีกนั่นแหล่ะครับ ส่วนตัวคิดว่าดิฟดีกว่า เวลาไม่ใช้ก็ปลดออกเหมือนรถขับสองทั่วไป เวลาเข้าโค้งล้อมันจะมีความเร็วในการหมุนรอบระหว่างวงด้านในกับด้านนอกได้สัดส่วนกัน ทำให้เข้าโค้งได้เร็วและรื่นกว่าพวกมีเต็ด และน่าจะทำให้อายุของเฟืองท้ายยาวนานขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
      

fiogf49gjkf0d

...ขอบคุณครับ mr.ปัญ อย่างน้อยก็พอจะรู้ว่า
...แตกต่างกับเต็ดที่อัตราส่วน 50:50 จึงเวิร์คกว่า
...แล้วที่หลายคนมักพูดถึงจุดอันตรายของ dift lock
...ถ้าไม่เข้าใจธรรมชาติการใช้งานของเขา มันยังไงกันครับ
...ใครรู้บ้าง และราคามันเร้าใจแค่ไหนเอ่ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
      

fiogf49gjkf0d

Google is the best search engine Google

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
      

fiogf49gjkf0d

หาอาวุธลับเครื่องทุ่นแรงใส่อีกแล้วเหรอน้า.หน้า-หลังไม่แพงหรอกแค่ครึ่งแสนกว่าๆเอง ใส่เลยน้าแล้วเข้าไปลองที่ปิเต็งกันว่ามันแค่ไหน แด๋วหม่อมช่วยเองแหละน้าพี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      

fiogf49gjkf0d

...หาข้อมมูลเป็นความรู้รอบตัวแบบ 4x4 เผื่อมีอาการคันๆเกิดขึ้นแบบม่ายรู้เนื้อรู้ตัว 555

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
      

fiogf49gjkf0d

...แล้วถ้าเกิดติดอาวุธลับขึ้นมาเจงๆ
...มันจะลดการทำงานของเพลาลงได้มั๊ย???
...หรือกลับทำให้การทำงานของเพลาเพิ่มขึ้น!!!!!!!!!

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
      

fiogf49gjkf0d

เค้าบอกว่าให้ติดข้างหลังแบบไฟฟ้า ติดข้างหลังแบบลม แต่เวลาขับปกติก็ไม่ต้องเปิดให้มันทำงาน มันก็น่าจะทำให้เฟืองทดขึ้นนะครับ(พวกดิฟใช้น้ำมันเฟืองท้ายแบบธรรมดาหรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ) ใช้เฉพาะจำเป็นก็พอครับ เพราะถ้ามันถึงขนาดมีดิฟแล้วยังติด ถ้ายังปั่นต่อไปนานๆ แบบเต็ด พังครับ เพราะมันส่งแรงบิดไปที่เฟืองตลอดเวลา(ตามความคิดของผมเองอีกตามเคยครับ) เพราะหาแต่ข้อมูลยังไม่มี 4WD ใช้เลยครับ อิๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      

fiogf49gjkf0d

มานก้อจาล็อกเฟืองห้ายจับ100%เต็มไงครับไม่มีปั่นฟรีทิ้ง ถ้าล้อไม่ไปติดแง่งหินหรือรากไม้ที่สูงเกินกว่ายางมันก้อจาเดินขึ้นเนิบๆปายด้ายตามกำลังเครื่องยนต์ แต่ข้อเสียของมานกัอคือถ้าใส่หน้ามานก้อจาขืนเวลาเลี้ยว เพราะปกติเวลาเลี้ยวซ้ายล้อด้านซ้ายจาฟรี หมุนน้อยกว่าล้อด้านขวามานก้อจาเลี้ยวด้ายคล่องงายก๊าบ คราวนี้ถ้าเรากดดิ๊ฟห้ายทามงานมานจาเลี้ยวม่ายปายหากทางข้างหน้าต้องเลี้ยว แล้วถ้าม่ายเลี้ยวแล้วเจอตอ หิน เหว มานก้อจาวิ่งเข้าปายหางายก๊าบ อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
      

fiogf49gjkf0d

...อะจ๊าดดดดด ม่ายหวายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลิกคันดีก่า อิอิ
...ขอบคุณทุกคำตอบเด้อ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
      

fiogf49gjkf0d

ติดได้ก็ดีครับ น้าพี แต่น้าพีต้องลุยจริงๆ แต่ ถ้ารถคันนั้นส่วนมากวิ่งใช้งานปกติบนถนนดำ ผมว่าไม่น่าติด ทั้งแอร์ล็อค และดิฟท์ล็อค มีระบบไฟเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วรถเราก็ลุยๆ หากระบบไฟมันรวนขึ้นมาเมื่อไร เวลาเข้าพื้นที่ หากมันไม่ทำงานขึ้นมาก็จบ ไม่มีประโยชน์ หรือเวลาวิ่งบนถนนดำ มันดันเกิดทำงานขึ้นมา ทั้งรถ ทั้งเราก็จบเห่เช่นกัน เคยเจอมาแล้ว เป็นประสบการ์ณที่ดีเชียวครับ รถเพื่อนผมมันไปติดแอร์ล็อค แล้วที่ร้านเค้าเอารถออกไปเทสท์ วิ่งทางตรงบนถนนดำ แอร์ล็อคดันทำงานเอง ผลปรากฏว่ารถคว่ำเลยครับ แต่ตรงกันข้าม เมื่อเรามีมันมาครอบครองแล้ว ต้องใส่ใจกับมันเป็นพิเศษ ก่อนเข้าพื้นที่ต้องตรวจเช็คอย่างดี มันจะมีประโยชน์ต่อเราอย่างมหาศาล เมื่อเราเจออุปสรรค ส่วนตัวผมอยากมีครับ แต่ขอเก็บเงินก่อน มันหลายกะตังอยู่ครับ....อิอิอิอิ...
.......ปล. เคล็ดไม่ลับนะครับ ทั้งแอร์ล็อค และดิฟท์ล็อค หากเรารู้ระบบวงจรไฟฟ้าของมัน เราสามารถตัดการทำงานของมันได้นะครับ แล้วเราวิ่งใช้งานบนถนนดำ จะสบายใจ ไร้กังวลเลยครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      

fiogf49gjkf0d

...ตัดสินใจแล้วครับ เก็บตังค์ไปเยี่ยมลูกสาวดีกว่า ปีหน้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
      

fiogf49gjkf0d

เข็กน้อยเที่ยวแรกไงน้าพีเห็นป่าวหงายท้องชี้ฟ้าเยย..นั่นแหละคือดิฟล๊อคลืมปลด..ผลสุดท้ายก็เปงอย่างที่เห็นงะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
      

fiogf49gjkf0d

DIFT LOCK สำคัญไฉน?????
สวัสดีครับน้าพี.....เห็นน้าจั่วหัวใว้ถึงความสำคัญของเจ้า DIFT LOCK ครับก็เลยอยากขอร่วมสนทนาด้วย
สำหรับเจ้า DIFT LOCK นั้นจะทำหน้าที่ในลักษณะของการบังคับในล้อทั้งสองข้าง (ซ้ายและขวาของล้อแต่ละคู่นะครับ แบ่งเป็นหน้าและหลัง) ทำงานในลักษณะการหมุนที่เท่ากัน ซึ่งอธิบายตามหลักการก็คือ กำลังจากเครื่องยนต์ 100% ที่ส่งไปยังล้อคู่ที่ติดตั้ง DIFT LOCK จะถูกแบ่งออกเป็นล้อข้างละ 50% เท่า ๆ กัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่า ไม่ว่าล้อข้างใดข้างหนึ่งจะมีค่าแรงเสียดทานต่ำ หรือลอยจากพื้นนั้นเอง ซึ่งตรงนี้จะมีผลให้ล้อที่ยังติดพื้นอยู่มีกำลังที่จะสามารถดันรถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ครับ
...........และนั้นคือหน้าที่การทำงานของเจ้า DIFT LOCK ซึ่งในปัจจุบันรถบางยี่ห้อได้ติดตั้งระบบนี้มาจากโรงงาน เช่น เจ้า G80 ของเชฟโรเลต ซึ่งจะทำงานในระบบออโต้ ตามการหมุนของล้อนั้น ๆ และยังมีในรถที่มีราคาแพง อย่างพวก แลนโรเวอร์ BMW X3 ฯลฯ เป็นต้นครับ
........แต่ในรถขับเคลื่อนสี่ล้อในปัจจุบัน ได้ถูกแบ่งประเภท เป็นสองประเภทใหญ่ ๆ นะครับ (ไม่รวมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ CRV นะครับ) ก็คือ ระบบ Part Time และ ระบบ Full Time
........ระบบ Part Time ก็คือระบบที่ใช้อยู่ในรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อในปัจจุบันครับ ในระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานในถิ่นทุรกันดารได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลักการของระบบ Part Time ก็คือ การแบ่งหน้าที่การทำงานระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง โดยไม่จำเป็นต้องทำงานพร้อมกันตลอดเวลา เราสามารถสั่งให้ล้อคู่หน้าทำงานก็ได้หรือไม่ทำงานก็ได้ครับ ซึ่งในลักษณะนี้ กำลังจากเครื่องยนต์ที่ถูกส่งไปยังล้อ 100 % นั้น จะถูกแบ่งเป็นล้อคู่หน้า 50% และ ล้อคู่หลัง 50% และแต่ละคู่ก็จะแบ่งไปยังซ้ายและขวาข้างละ 25% ซึ่งในระบบนี้ถ้าล้อคู่หน้าหรือคู่หลัง ข้างใดข้างหนึ่งเกิดการลอยขึ้นจากพื้น กำลังที่ส่งมาจากเครื่องยนต์ก็จะถูกส่งไปยังล้อที่ลอยทันที เช่น เมื่อเราขับรถลงหลุมสลับ ล้อคู่หลังข้างใดข้างหนึ่งจะลอยขึ้น สมมุติว่าเป็นข้างซ้ายนะครับ กำลังของล้อคู่หลังซึ่งมีอยู่ข้างละ 25 ก็จะไปอยู่ข้างล้อที่ลอยทั้งหมด ซึ่งทำให้ล้อที่ลอยอยู่มีกำลังเป็น 50% ทันที่ซึ่งตรงนี้ล้อขวาหลังที่ยังติดพื้นอยู่ก็จะมีกำลังเป็น 0 ในทันที แต่ด้วยที่ล้อคู่หน้าที่ยังติดอยู่กับพื้นซึ่งมีกำลังอยู่ข้างละ 25% ก็ยังสามารถดึงรถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ครับ (ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นรถประเภทไม่มี ลิมิเต็ด นะครับ แต่ถ้าเป็นรถที่มี ลิมิเต็ด ล้อข้างที่ติดพื้นอยู่ก็จะมีกำลังเหลืออยู่บ้างเล็กน้อยครับ ตามความสามารถของ ลิมิเต็ด นั้น ๆ โดยส่วนใหญ่ถ้าเป็น ลิมิเต็ด เดิม ๆ จะมีค่าอยู่ที่ประมาณ 70:30 ครับ)
.........และถ้าเปลี่ยนจาก ลิมิเต็ด มาเป็น ดิ๊บล็อค แล้วนั้น จะไม่มีการศูนย์เสียกำลังของล้อแต่ละข้าง ก็ยิ่งทำให้การขับเคลื่อนมีความสมบูรณ์มากขึ้น!!!!!!
.........ส่วนระบบ Full Time ขอเอาสั้น ๆ นะครับน้าพี เป็นระบบที่ขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมกันตลอดเวลาครับ ระบบนี้เหมาะสำหรับรถที่ใช้ความเร็วสูง ซึ่งในระบบนี้จะช่วยให้รถเกาะถนนได้ดี แต่ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้ในเส้นทาง ออฟโรด หนัก ๆ เท่าไรนักเพราะ ถ้าเกิดการลอยของล้อข้างหนึ่งข้างใด ล้อที่เหลืออยู่สามล้อจะไม่มีกำลังที่จะเคลื่อนรถไปได้เลยเพราะกำลังจะถูกส่งไปยังล้อที่ลอยทั้งหมดครับ
.........ข้อดีของ DIFT LOCK ช่วยทำให้เราผ่านอุปสรรค์ได้ง่ายขึ้น เพราะการกำหนดให้ล้อหมุนเท่า ๆ กัน
.........ข้อเสีย
1. เสียตังค์
2. อาจจะเกิดอันตรายได้ในขณะใช้งาน เพราะการที่ล้อมีกำลังเท่ากันอยู่ตลอดเวลาจะทำให้การบังคับเลี้ยวทำได้ยากครับ และในขณะเข้าโค้ง จะใช้รอบน้อยกว่าล้อด้านนอกอยู่แล้วครับ แต่ถ้าล้อทั้งสองหมุนเท่ากัน ก็อาจจะทำให้รถดื่อโค้งได้ครับ
น้าพีครับอันนี้เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งนะครับ หวังว่าอ่านแล้วคงเข้าใจนะครับน้าพีก็ลองตัดสินใจดูว่าจะติดตั้งเจ้า DIFT LOCK หรือเปล่าครับ (ของทุกอย่างย่อมมีดีอยู่ในตัวแต่ถ้าจะไม่ดีนั้นก็เพราะเราใช้มันผิดวิธีครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
      

fiogf49gjkf0d

...ขอบคุณครับ น้านก เข้าใจขึ้นเยอะเลย จริงๆก็แค่สงสัยเวลาเขาคุยกันในวงสนทนา
...บางคนบอกเวิร์คๆๆ บางคนบอกอันตรายอย่างที่น้านก กล่าวนั่นแหละ
...ก็เลยอยากให้เป็นความรู้สำหรับมือใหม่ๆกันด้วยที่เข้ามาเยี่ยมเยียน
...เพราะถ้าน้าพีอธิบายแบบไม่รู้จริง เดี๋ยวคำตอบมันจะเพี้ยนไป
...ก็ต้องขอบคุณทุกๆท่านครับ
...ส่วนน้าพีตัดสินใจ เลิกอาการคันๆที่จะติดตั้งอาวุธลับแน่นอน
...มีโครงการ เก็บตังค์ไปเยี่ยมลูกแล้ว จ้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
      

fiogf49gjkf0d

ยินดีครับน้าพี เอาเป็นว่าการตัดสินใจของน้าพีในครั้งนี้ถูกต้องอย่างยิ่งแล้ว เห็นด้วยจ้า

แสดงความคิดเห็นย่อย