แก้ไขคำตอบของคุณ
คำตอบ :
fiogf49gjkf0d
...เรื่องนี้ในฐานะผู้ที่มีโอกาสเข้าพื้นที่ไปทดสอบสมรรถนะรถในการใช้ 4x4 กับเส้นทางที่คลิตี้ ...ขอให้ความเห็นแบบใจเป็นกลางแบบนึกถึงเขานึกถึงเรา ...ก่อนที่จะเข้าพื้นที่ ทางกลุ่มเคยมีโอกาสรับชาวบ้านผู้หญิงคนพื้นเพที่คลิตี้ไปส่งข้างในก่อนจะถึงทางเข้า ...เธอก็ได้ระบายความรู้สึกระหว่างอยู่บนรถ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านที่คลิตี้ ...ขอร้องให้เราชาว 4x4 ขับรถช้าๆกันหน่อยระหว่างเส้นทางในหมู่บ้าน ...ชาวบ้านทุกคนกลัวรถคันใหญ่ล้อโตกันทั้งนั้น เธอพูดแบบเกรงๆใจเพราะไม่รู้ว่าเราคิดอย่างไรกัน ...ส่วนเส้นทางเข้าคลิตี้ หน้าฝนเป็นอะไรที่ทำให้ชาวบ้านบางคนที่ใช้เส้นทางนี้ลำบากขึ้น ...ถ้าเราไม่เข้าข้างตัวเองที่ต้องการทดสอบรถกับเส้นทางในคลิตี้ที่นับวันจะไม่ธรรมดาขึ้นทุกวัน ...แล้วลองเปลี่ยนความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ๆต้องอาศัยอยู่ทำมาหากินทุกๆวัน ...ในความรู้สึกส่วนตัว ก็คงจะอึดอัดใจเหมือนกันและคงเดินทางสัญจรไม่สะดวกในช่วงฤดูฝน ...กรณีนี้ก็คงจะคล้ายๆกับอีกหลายๆพื้นที่ ที่ชาว 4x4 มักจะคิดว่า ...เป็นการท้าทายพิสูจน์สมรรถนะรถกับเส้นทางที่ไม่ธรรมดา ...ซึ่งบางแห่งได้ข่าวว่าจะปิดตาย และยังอีกหลายๆพื้นที่ฯลฯ ...แม้ว่าจะเข้าวงการท่องเที่ยวบนเส้นทางแบบ 4x4 มาไม่นานนัก ...แต่ก็ได้เข้าไปสัมผัสความเป็นจริงในพื้นที่ ได้เห็นมุมมองทั้ง 2ด้าน ...ต้องยอมรับว่าปัญหาเส้นทางเฉพาะรถ 4x4 เหมือนเหรียญ 2 ด้าน ...มีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ ...การลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ฆ่าสัตว์ป่ายังคงมีในพื้นที่ ที่ห่างไกลสายตารัฐ ...การคมนาคมไม่สะดวกรถทั่วไปเข้าไม่ได้ แต่มักมีเส้นทางเฉพาะกิจที่ทิ้งไว้ให้เห็นเสมอ ...และยังคงมีขบวนการแบบกองทัพมดที่ทำงานให้กับนายทุนในเมืองได้พบเห็นเป็นหย่อมๆ ...แต่เวลาขบวนรถ 4x4 เข้าไป ขบวนการเหล่านี้จะหายไปหมดเหลือแต่ซากที่เตรียมขนย้ายออกจากป่า ...มีจริงๆครับตรงนี้ ชาวบ้านที่รับจ้างนายทุนผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ...วัฒนธรรมเชิงพฤติกรรมตรงนี้ในสังคมไทยยังมีอยู่ทุกพื้นที่ คงต้องยอมรับ ...แต่ชาว 4x4 ส่วนใหญ่ก็แค่นักท่องเที่ยว นักผจญภัยที่ต้องการแสวงหาแหล่งธรรมชาติ ...เพื่อพักผ่อนและหาความสุขหลังจากเครียดกับงานเท่านั้นเองในช่วงวันหยุดสั้นๆ ...คงไม่สามารถเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ได้มันเสี่ยงเกินไป เกินขอบเขตที่พึงจะกระทำ ...เพียงแค่สนุกกับการใช้ทักษะในการขับรถ 4x4และมีความสุขกับการดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้วก็เดินทางกลับไปทำงานกันต่อ ...ส่วนการสร้างความเสียหายให้กับเส้นทางที่ชาวบ้านปกติๆ เขาใช้กัน ...อาจสร้างความลำบากในการเข้าออกพื้นที่ จนรถธรรมดาๆไม่สามารถใช้เส้นทางกันได้อย่างปกติ ...โดยเฉพาะร่องรอยความบอบช้ำของเส้นทางที่หลงเหลือระหว่างช่วงฤดูฝนและหลังฤดูฝนผ่านพ้นไป ...ซึ่งในฐานะที่มีประสบการณ์ตรงกับพื้นที่ๆไป ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้กับข้อเท็จจริงตรงนี้ ...แต่บางครั้งการเข้าไปในพื้นที่ๆลำบากจุดหมายก็เพื่อเข้าไปช่วยเหลือสังคมชาวบ้านที่เดือดร้อน ...และสังคมโลกภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ถึงข้างใน ...4x4 ก็กลับเป็นกลุ่มนักผจญภัยเท่านั้นที่ฝ่าฟันอุปสรรคนำของบริจาคเข้าไปแจกจ่ายถึงมือชาวบ้านในพื้นที่ได้โดยตรง ...ฉนั้นในโลกกลมๆใบนี้มันมีมุมบวกและมุมลบอยู่ในตัวของมันเองเสมอๆแล้วแต่สถานการณ์ ...แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความพอดีๆและไม่เดือดร้อนกับสังคมรวมถึงทรัพยากรทางธรรมชาติ ...สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เราคงต้องหาจุดยืนที่พอดีๆ ร่วมกัน ...ก็แค่มุมมองทางความคิดเห็นแบบเหรียญ 2 ด้านเท่านั้นเอง ...ไม่มีเจตนาต้องการจะกล่าวโทษใคร ^26^ ^26^ ^26^ ^26^