คำตอบที่ 10
เกียร์กระตุก การ Shift เกียร์ไม่นิ่มนวล เพราะอะไร
เนื่องจากเกียร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะการออกแบบไม่เหมือนกัน แต่จะมีส่วนที่คล้ายกัน อาการกระตุกขณะ Shift เกียร์ที่เกียร์ต่างๆกัน ก็มีสาเหตุที่ไม่เหมือนกัน คำตอบนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น สาเหตุที่แท้จริงสำหรับเกียร์ของท่านนั้นจะต้องได้รับการวิเคราะห์เป็นรายกรณีๆไป
สาเหตุที่เป็นไปได้
1 น้ำมันเกียร์ต่ำกว่าปกติ หรือใส่น้ำมันเกียร์ผิดสเปค
2 น้ำมันเกียร์สกปรกมาก หรือมีสิ่งแปลกปลอมปะปนเข้าไปในน้ำมันเกียร์ เช่นน้ำ หรือเศษโลหะเป็นต้น
3 เกิดปัญหากับชิ้นส่วนภายในเกียร์ ( Internal Problem in The Transmission)
4 seal ภายในชุด Accumulator ชำรุดหรือฉีกขาด หรือเริ่มเสื่อมสภาพ
5 กรองน้ำมันเกียร์สกปรก แผ่นคลัชภายในชำรุด
6 Valve body ขัดตัว หรือทำงานผิดพลาด ( Malfunction)
เกียร์ไม่เปลี่ยน เกียร์ค้าง ไม่ shift หรือ Shift ไม่ถูกจังหวะ
สาเหตุที่เป็นไปได้
1 น้ำมันเกียร์ต่ำกว่าปกติ หรือใส่น้ำมันเกียร์ผิดสเปค
2 น้ำมันเกียร์สกปรกมาก หรือมีสิ่งแปลกปลอมปะปนเข้าไปในน้ำมันเกียร์ เช่นน้ำ หรือเศษโลหะเป็นต้น
3 กรองน้ำมันเกียร์สกปรกหรืออุดตัน
4 เกิดการทำงานผิดปกติของ Valve body
5 เกิดปัญหากับชิ้นส่วนภายในเกียร์ ( Internal Problem in The Transmission)
6 การปรับตั้งสายคันเร่งไม่ถูกต้อง
7 Vacuum Module เสียหายใช้ไม่ได้
8 ระบบไฟฟ้าบกพร่องเช่น Solenoid เสียหายหรือ speed sensor เป็นต้น
ควรซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์มือสอง อย่างไหนดีกว่ากัน?
เมื่อเกียร์เสียก็ต้องซ่อม แต่หากเสียหายมากจนซ่อมไม่ไหวเนื่องจาก Hard Parts เสียหายมากจนไม่คุ้มค่าแก่การซ่อมหรือซื้ออะไหล่ภายในมาซ่อมแบบแยกชิ้นก็พอฟังได้ โดยการเลือกซื้อเกียร์มือสองอีกสักลูกเอาอะไหล่มาเปลี่ยนเลือกเอาที่ดีกว่ามาใช้อะไรทำนองนี้ แต่ส่วนมากไม่ใช่แบบนั้นซิครับ เมื่อเกียร์เสีย หรือมีอาการผิดปกติ มันไม่ได้หมายความว่ามันจะเสียหายจนซ่อมไม่ได้ บางครั้งมีปัญหาที่ Sensor บางตัวเท่านั้น พาลเปลี่ยนเกียร์ยกลูก แล้วก็ไปได้ของเก่ามาสภาพแย่กว่าของเราเสียอีก เราเลือกไม่ได้อยู่แล้ว และการเก็บรักษาสภาพไม่ดีแน่นอน มีปัญหาอะไรมาก่อนก็ไม่มีทางทราบได้ ประวัติการบำรุงรักษา การเปลี่ยนน้ำมัน การใช้งานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ฯลฯ ไม่ต้องถาม ไม่รู้แน่นอน ใช้ได้ไม่นานก็เสียหายอีก เสียหายมากกว่าเดิมเสียอีก การซ่อมเกียร์อัตโนมัติกับคนที่รู้จักและเข้าใจดีเรื่องเกียร์ดีกว่าเปลี่ยนมือสองยกลูกแน่นอนครับ เพราะ
1 ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้งานในระยะยาว การรับประกันยาวนานกว่า เสียค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจบ พร้อมการรับประกันนานกว่า 1 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
2 เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นการจ่ายแบบมีเหตุมีผล หากมีความเสียหายน้อยก็เสียค่าใช้จ่ายน้อย แต่หากเกียร์ของท่านเสียหายมากก็ต้องจ่ายมากครับ ( ฉนั้นไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายมาก ก็ต้องให้ความสำคัญกับการใช้งานและการบำรุงรักษารับรองว่าไม่เสียหายมากแน่นอน )
3 การเปลี่ยนอะไหล่เกียร์ มือสองมีกรณีเดียว คือ Hard Parts เสียหายมากหรือไม่สามารถหาอะไหล่ได้ เราจึงไปหาซื้ออะไหล่มือสองมาใส่ให้ ไม่มีกรณียกเปลี่ยนทั้งลูก โดยเราไม่ได้ตรวจสอบภายในและได้เปลี่ยนอะไหล่ภายในเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้จักสภาพภายใน ไม่รู้ประวัติการบำรุงรักษา ดูๆมองๆแค่รูปร่าง ภายนอกบอกสภาพภายในไม่ได้ครับ
อาการเบื้องต้นของเกียร์ที่เริ่มมีปัญหา
1 ท่านต้องเหยียบคันเร่งมากกว่าปกติเพื่อให้ได้ความเร็วเท่าเดิม (นั้นแสดงให้เห็นว่าเกียร์ของท่านเริ่มมีการลื่นหรือ slip ภายในชุดคลัชแล้วครับ) ตัวอย่าง สมมุติว่าท่านเคยใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 2,000 rpm ก็ได้ความเร็ว 100 km/hr แต่ปัจจุปันต้องเร่งไปถึง 2,200-2,300 rpm จึงจะได้ความเร็วเท่าเดิมแบบนี้คือการลื่นของชุดคลัชเป็นการเริ่มต้นของปัญหาครับ
2 มีน้ำมันเกียร์ หยด ซึม รั่วบ่อยๆ ระดับของน้ำมันเกียร์ พร่องบ่อยๆ ต้องเติมบ่อยๆ
3 น้ำมันเกียร์มีกลิ่นไหม้ หรือมีสีคล้ำผิดปกติ หรือเป็นตะกอน หรือมีสีผิดปกติเช่น มีน้ำปน สีขุ่นขาว ชมพู แบบนมข้น (แบบนี้พบบ่อย Oil Cooler รั่วครับ) เป็นต้น ท่านต้องหมั่นตรวจสอบน้ำมันเกียร์เป็นระยะด้วยครับ
4 มีอาการ เกียร์ไม่ยอม shift ต้องลากรอบสูง ต้องผ่อนคันเร่งช่วย ,เกียร์ Shift ผิดจังหวะ ,มีอาการกระตุกเล็กๆ หรือ รุนแรง ผิดปกติ
5 เมื่อเข้าเกียร์ D หรือ R แล้วต้องรอนานผิดปกติ ผิดสังเกตุ จึงจะออกตัว หรือเคลื่อนรถไปได้
เกียร์ Rebuilt เป็นอย่างไร?
คำว่า เกียร์ Rebuilt หรือ Remanufacture เป็นคำค่อนข้างใหม่สำหรับงานซ่อมเกียร์ในบ้านเราแต่ไม่ใช่ของใหม่สำหรับธุรกิจซ่อมสร้างใหม่ทดแทน ซึ่งก็คือความหมายของ Rebuilt หรือ Remanufacture ในต่างประเทศนั่นเอง
เนื่องจากงานซ่อมเกียร์เป็นงานที่ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญเฉพาะตั้งแต่ งานวิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุต้นตอของความเสียหาย งานยกเกียร์ ถอดล้างทำความสะอาด หากมีอะไหล่ที่เสียหายมากจนทำให้ Hard Parts เสียหาย หรือหากจำเป็นต้องมีการจัดหาอะไหล่เพิ่มเติมซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีอะไรเสียหายตามมาอีก งานประกอบ การทดสอบ งานประกอบซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับงานอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งไม่นับรวมเวลา หากมีปัญหาหลังการประกอบยังไม่สามารถใช้งานได้ และที่สำคัญคือเวลาที่ต้องเสียไปกับการที่ใช้รถไม่ได้
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมเกียร์อัตโนมัติคิดอย่างไร?
เป็นที่ทราบกันดีว่า เกียร์อัตโนมัติเป็นอุปกรณ์ที่มีความสลับสับซ้อนมากที่สุดในรถยนต์หนึ่งคันและโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด จากการซ่อมที่ไม่มีความรู้เพียงพอ ย่อมจะทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องไปอีก แต่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบางครั้งก็ขึ้นกับ ความรุนแรงของปัญหาซึ่งไม่เหมือนกัน ท่านอาจจะเริ่มต้นการซ่อมที่ราคาเพียง 330 บาทก็ได้ ไปจนถึงความเสียหายระดับที่ต้อง Overhaul กันเลยแน่นอนค่าใช้จ่ายก็อาจจะสูงถึง 30,000-40,000 กันเลยที่เดียวและแน่นอน หากท่านได้ดูแล เกียร์อัตโนมัติของท่านก่อนที่มันจะเสียหายมาก ก็จะเป็นเรื่องที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่งด้วยการมี Workshopประจำสำหรับเรื่องการบำรุงรักษาเกียร์อัตโนมัติ โดยเฉพาะก็จะทำให้ท่านทราบได้ว่าเกียร์ของเรานั้น หากจำเป็นต้องซ่อมจะมีค่าใช้จ่ายอย่างไรตั้งแต่แรก
เรามามองกันในรายละเอียดของการซ่อมก่อน การวิเคราะห์ปัญหาการซ่อมเกียร์ก็เหมือนกับ การซ่อมรถทั่วไปเพียงแต่อุปกรณ์ ชิ้นส่วนภายในอาจไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคยหรือรู้จักมากมาก่อน แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ก่อนที่ท่านจะตกลงให้มีการซ่อม ท่านจะต้องตกลงราคาเสียก่อน โดย Workshop นั้นๆ จะต้องวิเคราะห์ปัญหา และเสนอราคาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนเสมอ ซึ่งหากท่านไปพบกับ Workshop ที่ไม่สามารถเสนอราคา ได้ก่อนซ่อมท่านไม่ควรให้เขาทำงานต่อ และในบางกรณีอาจจะต้องมีการ ถอดชิ้นส่วนออกมาดูและวิเคราะห์ ความเสียหายก็เป็นได้ ซึ่งในกรณีนี้ท่านจะต้องตกลงค่าใช้จ่ายในการถอดประกอบเพื่อการวิเคราะห์ หากท่านไม่สามารถตกลงราคาค่าซ่อมได้
ซึ่งท่านอาจจะต้องเสียค่าแรงในการยกเกียร์และถอดชิ้นส่วนออกมาวิเคราะห์และประมาณการค่าใช้จ่ายหรือต้องประกอบกลับเข้าไปเหมือนเดิมเป็นต้น
อนึ่งในขณะที่มีการซ่อมเกียร์ Workshop ที่ทำงานซ่อมให้ท่านจะต้องเชิญให้ท่านสามารถที่จะเข้ามาตรวจสอบการทำงานและรับอะไหล่เก่ากลับไปได้ พร้อมกับการออกใบเสร็จรับเงินที่สามารถตรวจสอบอะไหล่ ค่าแรงที่ทำงานได้ถูกต้องทั้งหมดด้วย