คำตอบที่ 1
       อันดับแรกสุดคือต้องตั้งค่า parameter ต่างๆให้ถูกต้องเสียก่อน และฟังชั่นในการสลับจากน้ำมันไปแก๊ส ในเรื่องอุณภูมิ รอบเครื่องยนต์ และช่วงหน่วงเวลา ทุกยี่ห้อเหมือนกันหมดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       หลังจากนั้นฟังชั่น Calibration หรือ ออโต้จูน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับจูนครับ มีใช้กับแก๊สหัวฉีดทุกยี่ห้อที่มีขายในโลกนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       การทำออโต้จูน จะเป็นการ Copy ค่าการฉีดของน้ำมันเพื่อสร้างค่าใหม่แล้วเอามาฉีดแก๊สแทน การสั่งงานไม่เหมือนกันแต่ในรูปจะสั่งให้เร่งค้างไว้ในช่วง 2500 - 3100 rpm ซึ่งเป็นย่านการใช้งานทั่วไป แต่ขณะทำขั้นตอนนี้แนะนำให้ปิดแอร์ปล่อยเครื่องฟรีไม่มีโหลดเพื่อหาค่าหลักก่อนเอาไปปรับแบบ "ตามใจฉัน" อีกทีนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       หลังจากทำ Auto เสร็จแล้วจะได้ Map ขึ้นมา 1 ชุด บางยี่ห้อไม่ได้โชว์เป็นเปอร์เซนต์แบบนี้ครับ หรือบางยี่ห้ออาจเป็นกราฟ จะมีรูปกราฟเหมือนภูเขาเวลาปรับ Map หรือกราฟ ถ้าเริ่มต้นปรับต้องยกทั้งหมดในเปอร์เซนต์ที่ใกล้เคียงกัน อย่ายกแบบปลายโด่งเพราะที่จริงมากไปมันก็ไม่ได้วิ่งดีขึ้นกว่าเดิม ยิ่งรอบสูงๆยก Map ให้ค่าการฉีดยาวๆก็ไม่มีประโยชน์โดยเฉพาะช่วงรอบ 4500 ขึ้นไป ความเร็วเชิงมุมของลูกสูบ จาก TDC ถึง BDC คุยกันเป็น 1/1000 วินาที มันเร็วมากกว่าช่วงเดินเบาเยอะครับให้หัวฉีดยกยาวๆนานๆก็ไม่มีประโยชน์ เพราะจังหวะดูดไอดีของเครื่องมันเร็วกว่าครับ ดังนั้นถ้าปรับ Map หรือกราฟ แนะนำให้ยกทั้งชุดและยกค่าทีละน้อยๆอย่าโดดค่ามาก และการปรับแบบ บางตัวต่ำบางตัวสูง อย่าได้ทำเป็นอันขาด ค่าที่แตกต่างจะโดนสั่งจากกล่อง อาการเบาดับ หรือ สั่นตอนถอนคันเร่ง หรือ กระตุกตอนกดคันเร่งลึกๆ ก็มาจากการปรับค่าที่โดดและต่างกันมากๆครับ

 แก้ไขเมื่อ : 22/4/2556 14:34:52

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       หลังจากได้ Map แล้วจะต้องเทียบค่า
เริ่มต้นก่อนอันดับแรกเดินเครื่องด้วยน้ำมันเดินเบาไม่มีโหลด แล้วสังเกตุดูค่าน่ะครับว่า Time Injection อยู่ที่กี่ ms.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       หลังจากนั้นก็เดินแก๊สครับ แล้วดูค่าการฉีดของน้ำมันว่ามันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ ซึ่งตัวอย่างจะเดินอยู่ประมาณ 2.89 ms. แต่ค่าทศนิยมตัวที่สองมันจะไม่นิ่งจะแกว่งค่าตลอด ถือเสียว่ามันเดินอยู่ที่ 2.8 ms. พอเดินด้วยแก๊สแล้วตามตัวอย่างในรูปค่าการฉีดของน้ำมันก็ยังอยู่ในย่าน 2.8 เหมือนเดิมแสดงว่าการทำออโต้จูนถูกต้อง การปรับค่าอยู่ในรูปแบบที่เท่าเดิม แต่เวลาเอาไปใช้งานจริงๆมันไม่พอครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       เมื่อมันไม่พอก็ต้องดันค่าใน Map ขึ้น ในรูปผมใส่ขึ้นประมาณ 3% สังเกตุค่าการฉีดของน้ำมันมันจะลดลงครับ เพราะกล่อง ECU ของเครื่องยนต์เองมันเข้าใจว่าส่วนผสมมันหนาเกินไปมันจะลดค่าการฉีดลงให้เหมาะสม ที่ต้องใส่แก๊สให้หนากว่าน้ำมันเพราะต้องการลดความร้อนในการเผาไหม้ ถ้าร้อนจัดหรือบางไปวาวล์มันจะยันเร็ว แต่อย่าใส่ค่ามากเกินไปให้ค่าการฉีดของน้ำมันตกลงมาอย่าให้เกิน 0.2 ms. ในช่วงเดินเบา ถ้ามากกว่านี้บางทีกล่อง ECU เครื่องยนต์มันจะเมมฯค่าการฉีดเอาไว้ถ้าค่ามันต่างกันมากๆมันจะไปกดค่าการฉีดของน้ำมันลงมาเยอะเกินไป ทีนี้มันจะมีอาการเดินน้ำมันสำลักเดินไม่ดีเร่งไม่ออก แต่พอตัดเข้าแก๊สแล้ววิ่งนิ่มเลยสาเหตุก็มาจากเคสนี้ล่ะครับ
อีกเรื่องที่ต้องสังเกตุก็คือ ค่าการฉีดของแก๊สอย่าให้มากกว่าน้ำมันเกิน 2 ms ถ้าเกินกว่านี้อาจหมายถึงหัวฉีดแก๊สเล็กเกินไปครับ

 แก้ไขเมื่อ : 22/4/2556 12:06:41

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ค่าอีกตัวนึงที่อยากให้สังเกตุคือ แรงดันหม้อต้มครับ ในรูปอยู่ที่ 1.7 bar ถ้าหลังจากทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้วแต่มันยังวิ่งไม่ดี ออกตัวอืดหรือลากรอบไม่มา รถออกอาการทื่อๆ ให้เอาคอมฯจับแรงดันขณะเร่งเครื่องถ้าเจอะว่าแรงดันมันหล่นลงมามากๆแสดงว่าหม้อต้มไม่สามารถสร้างแรงดันได้พอครับ
โปรแกรมและวิธีการปรับจูนสามารถนำไปใช้ได้ทุกยี่ห้อครับ แต่ถ้าเทียบรุ่นกล่องที่ทำการปรับจูนคือ AEB ในรุ่น 4 สูบ จะเป็น 2001 NC ส่วน 6 - 8 สูบจะเป็น 2568 B ยี่ห้อที่ตรงจะมี Energy reform - Eme gas - Atiker(obd) - Romano - Bigas และอีกหลายยี่ห้อ ผมทำแค่เป็นตัวอย่างเท่านั้นน่ะครับ ให้ทำหลายๆยี่ห้อคงลำบากพอดูที่จะนำเสนอ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       เป็นข้อมูลที่ดีมากเลยครับ

แต่ทิ้งเบอร์หรือ e-mail ไว้ได้ไหม เผื่อเพื่อนสมาชิกจะไปขอปรีกษาหรือไปใช้บริการที่ร้าน ?

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับคำแนะนำดีๆผมจะได้ มีแนวทางในการปรับแต่ง เพราะที่ผ่านมา ลองผิดลองถูก ปรับเอง รถเลยมี อาการอืดๆวิ่งได้ แค่ 100

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ได้ครับคุณkarn แต่ขอเป็นเมล์ก่อน sor@gasthai.com ที่จริงผมไม่ได้รับเซอร์วิสทุกยี่ห้อครับ แต่พอที่จะปรึกษาได้บ้างบางยี่ห้อ ตัวไหนไม่ได้ทำประจำไม่ค่อยคุ้นเคยอาจขอผ่านน่ะครับ
....ตอนนี้เห็นกระทู้ปักหมุดไปแล้ว ตอนแรกจะเอา Sportage ของผมมาจูนแยกอีกกระทู้นึง เพราะมันใช้ชุดแก๊สของ GI โปรแกรมของ BSM F1 มันจะปรับแบบกราฟได้ ตอนนี้เลยกะว่าจะเอามาลงที่นี่เลยดีกว่า เดี๋ยวขอเวลาซักสองวันจะเอามาลงอีกแบบนึงครับ

Thank เลยครับ มีที่ปรึกษาทางเทคนิดสำหรับชาว Kia อีกท่านหนึ่งแล้ว... จาก : karn(karn) 23/4/2556 17:55:34 [110.49.207.84]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       มาต่อกันด้วยจูนโปรแกรมที่ใช้กราฟกันครับ หลายยี่ห้อเลยที่ใช้โปรแกรมลักษณะแบบนี้
นายแบบวันนี้เป็น Sportage รถผมเอง ติดตั้งแก๊สหัวฉีด GI รุ่น F1 คันนี้รักมากกก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       กล่อง GI รุ่นนี้จะใช้โปรแกรมของ BSM ครับ ขั้นตอนแรกที่เหมือนกันหมดคือใส่ค่า Parameter ต่างๆให้ครบถ้วน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       แล้วก็เช่นเคย จูนออโต้เป็นขั้นตอนแรกเพื่อสร้างค่าเริ่มต้นเสียก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       อันนี้เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยครับ จะมีอธิบายรายละเอียดก่อนทุกขั้นตอน แต่อันนี้อ่านดีๆน่ะครับ ผมไม่ได้แกล้งแต่โปรแกรมมันเขียนมาอย่างนี้จริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       กดเริ่มแล้วทำตามขั้นตอนที่โปรแกรมสั่งไปทีละขั้นตอนน่ะครับ โปรแกรมตัวนี้นักเลงหน่อยเอะอะอะไรจะ "กระทืบลูกเดียว" ที่จริงน่าจะใช้คำว่าเหยียบคันเร่งมากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ทีล่ะขั้นตอน....ใจเย็นๆเดี๋ยวก็จบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ซ้ำ..

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2556 10:20:29

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       หลังจากจบขั้นตอนระบบจะโชว์ค่าเริ่มต้นของกราฟอยู่ที่ 1.22 ในโปรแกรมตัวนี้จะหมายถึง ค่าเวลาการฉีดของแก๊สจะห่างจากน้ำมันที่ 1.22 เท่า หรือที่ 22%

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       แล้วก็ทำการเทียบค่าเสียก่อนครับ ในโปรแกรมนี้ผมไม่ชอบตรงนี้เลยจริงๆ เครื่องเดินน้ำมันอยู่มันจะโชว์ค่าการฉีดของแก๊ส(ขีดเส้นสีแดง)ที่มันไม่ได้ฉีดทำไมไม่รู้ คนไม่เคยจูนฯงงตาย ตอนนี้ใช้น้ำมันเดินเบาเครื่องไม่มีโหลดได้ค่าการฉีดที่ 3.32 ms.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       แล้วก็เดินแก๊สสิครับ หาค่ามาเทียบกัน ทีนี้ได้ค่าน้ำมัน 3.37 ms. แก๊ส 4.09 ms. ค่าน้ำมันไม่โดนกดลงแสดงว่าโปรแกรมจูนได้ใกล้เคียงค่าการฉีดของน้ำมันมากแล้ว แต่อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้คือ ถ้าจูนพอดีที่จริงมันไม่พอต้องเพิ่มเล็กน้อยจะได้ร้อนน้อยหน่อยวิ่งสนุกนิดนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       หลังจากดูค่าว่าถูกต้องแล้วต่อมาก็มาจูนตามใจฉัน ที่ต้องการคือฟังชั่นปรับละเอียด ในโปรแกรมจะมีโหมดการขับขี่ด้วยให้ประหยัด - ปกติ - แรง แต่ตรงนี้ผมไม่สนเพราะเราจะปรับให้มันวิ่งได้ดีที่สุดอยู่แล้ว ฟังชั่นของเล่นพวกนี้ผมไม่สน

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2556 10:43:02

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       อันนี้เป็นกราฟครับ ตรงกลางมันจะโด่งแบบภูเขาความชันของกราฟจะไม่เท่ากัน ถ้ารถที่มีช่วงเวลาการฉีดเชื้อเพลิงสั้นๆอย่างรถรุ่นใหม่ๆกราฟจะชันกว่านี้เยอะครับ ในรูปพอเดาได้ว่ามันคงซดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ทีนี้ดูรูปแบบเดิมๆไว้ก่อนเวลาปรับก็ต้องไม่ให้ทรงของกราฟผิดไปจากนี้เยอะครับ เพราะผมบอกแล้วว่าเราเพิ่มแค่นิดเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       อันนี้เป็นตารางตัวเลขที่ได้จากการทำออโต้จูนครับ เดิมๆยังไม่ปรับในตำแหน่งแถบสีฟ้าคือจุดที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ การปรับให้เริ่มต้นที่จุดนี้ก่อนเป็นอันดับแรกครับ อันนี้สำคัญมาก ถ้าเราปรับขึ้นเท่าไหร่จุดอื่นๆต้องขึ้นด้วยค่าที่ไม่ห่างกันมากครับ
....ทีนี้เราจะปรับยังไง? ในโปรแกรมเขาจะโชว์ค่าการฉีดของทั้งน้ำมันและแก๊สอยู่แล้ว ในตัวอย่างนี้ค่าของน้ำมันเดินอยู่ในย่าน 3.3 ms. ผมต้องการให้แก๊สหนากว่าเล็กน้อยเพราะฉะนั้นผมต้องการให้มันกดค่าการฉีดของน้ำมันลงเหลือประมาณ 3.1 - 3.2 ms. ช่องตรงแถบสีฟ้าจะเดินอยู่ที่ 1.24 หรือค่าการฉีดของแก๊สห่างกว่า 24% ผมทดลองดันค่าขึ้นไปถึง 1.29 หรือ 29% จึงได้ค่าที่ผมต้องการ ดังนั้นทุกตารางที่ปรับจะต้องใช้ค่าเพิ่มขึ้น 5% เช่นกัน แต่จะแตกต่างเป็นบางช่องถ้าหากกราฟบิดผิดรูปไปครับ แต่เคสพวกนี้เต็มที่ก็ 2% - 3% นิดหน่อยไม่ค่อยต่าง
....สิ่งที่ต้องเข้าใจตอนเครื่องยนต์เดินด้วยแก๊สคือ ค่าการฉีดของน้ำมันลดลงหมายถึงแก๊สหนากว่า ค่าการฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้นจะหมายถึงแก๊สบางเกินไป อย่าพึ่งสนใจว่าค่าการฉีดของแก๊สจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะต้องเทียบค่ากันอีกทีว่าหัวฉีดที่ใส่อยู่มันมีขนาดที่เหมาะสมหรือไม่

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2556 11:33:32

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       หลังจากปรับแล้วก็ต้องเทียบค่าว่าขนาดหัวฉีดเหมาะสมหรือไม่ ช่องที่วงสีแดงไว้จะโดนปรับไปที่ 1.29 แล้วครับ ทุกตารางตอนนี้ถูกยกขึ้นหมดแล้ว การทำกราฟในลักษณะแบบนี้คือเน้นการใช้งานของเครื่องยนต์ทุกย่านครับ จะพอหรือไม่ทีนี้จะอยู่ที่หม้อต้มและหัวฉีดแล้วครับ
ค่าการฉีดที่ได้ในรถของผมคันนี้ ผมบอกไว้ก่อนว่าผมต้องเน้นให้เครื่องยนต์มีแรงพอๆกับน้ำมันครับ จะว่าไปมันก็ไม่ได้กินมากกว่าจูนประหยัดซักเท่าไหร่ ค่าที่ได้น้ำมันโดนกดลงเหลือ 3.17 ms. แก๊สฉีดอยู่ที่ 3.99 ms. ในโปรแกรมจะฟ้องว่ารูของหัวฉีดใหญ่เกินไปครับ ถ้าจูนด้วยค่าการฉีดที่ห่างกันไม่ถึง 1 ms. ต้องมั่นใจว่าตัวหัวฉีดแก๊สมีความเร็วมากพอ ถ้าใช้รางหัวฉีดแก๊สแบบลูกเลื่อนพวก Valtek หรือ Rail จะต้องเป็นรุ่น 1.2 ohm ซึ่งไม่อยากแนะนำเพราะมันกินกระแสสูง จริงอยู่ว่า Drive ของกล่องแก๊สสามารถสั่งหัวฉีดได้แต่เป็นผมขอพวกที่มีความต้านทานสูงๆหน่อยดีกว่ากระแสตกคร่อมน้อยกว่าผมเชื่อว่ากล่องแก๊สไม่โหลดมากเป็นดีที่สุด ถ้าใช้หัวฉีดมาตราฐาน 3 ohm ค่าการฉีดของแก๊สหลังปรับจูนแล้วต้องห่างกันเกือบๆ 2 ms. ถึงจะใช้ได้ครับ จูนง่ายไม่เบาดับ แต่ของผมอะไหล่แปลกๆมีเยอะเลยเอามาผสมโรงเข้าไปอย่างรางหัวฉีดตัวที่ผมใช้อยู่ก็เป็น Matrix XJ Type1 ระยะยกเร็วสุด 1 ms. ความต้านทาน 5.5 ohm ผมเลยกดค่าการฉีดเอาแบบใกล้ๆกันเลยครับ งานนี้ใช้เองเอามันส์อย่างเดียวหมดตูดช่างมัน

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2556 11:20:13

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2556 11:27:24

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       อันนี้ก็เป็นตาราง MAP ที่เขาใส่ไว้ให้ โดยปกติพวกที่จูนแก๊สหัวฉีดรุ่นเก่าๆจะชอบแบบนี้มากกว่าครับ ในรูปแบบการปรับกราฟจะดูง่ายกว่าจริง แต่สำหรับผมถนัด MAP มากกว่า
...รูปแบบของการปรับจูนก็คงมีแค่นี้ครับ หลักการถ้าสังเกตุดูดีๆจะใกล้เคียงกันทั้งโปรแกรมแบบ MAP หรือกราฟก็ตาม สำคัญว่าเทียบค่าถูกต้องหรือไม่แค่นั้นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย