คำตอบที่ 6
ขอบคุณทุกคำตอบครับ ทนเสียงหอนบ่ไหวเมื่อวานเอาเข้าอู่ (ประจำ) แถวบ้าน วันเดีวยจบ ตอนนี่บ่หอนแล้ว แต่เห่าแทน (ล้อเ่ล่น)! ช่างบอกว่า “ชีลหัวเพลา” ขาดน้ำมันเฟืองท้ายแห้งมันเลยหอน สรุบเปี่ยนชีวหัวเพลา, ปรับไรยะฟรีของเฟืองท้าย, เตีมน้ำมันเฟืองท้าย จ่ายไปแสนสองหมื่นกีบ (หรือประมาน 500บาท)! จบข่าว
ตอบอ้ายภู ยังหาสาเหตบ่ได้เรื่องไฟรั่ว……….ช่วงนี่ “งานเข้า” ตาหลอด ส่วนเงีนดันออกชะงั้นเฮ้อ เมื่อย
ข้อมูลของ “คุณวอน” เป็นประโหยดหลาย Thanks!
“…………ทำไมต้องปรับเฟืองท้ายด้วย ไม่ปรับไม่ได้หรือ เรื่องนี้มีคำตอบ
การปรับตั้งเฟืองท้ายเมื่อมันหลวมเป็นประจำจะช่วยถนอมเฟืองท้ายให้ใช้งานได้ตลอดอายุรถและช่วยให้มันไม่หอนได้ครับ
แล้จะรู้ได้อย่างไรว่ามันถึงเวลาต้องปรับแล้ว
รถวิ่งไปสักแปดหมื่นถึงแสนกิโลจะเริ่มมีอาการอย่างหนึ่งคือถอนคลัทแล้วมีเสียงดังแคล้งๆออกจากใต้ท้องรถ เกิดจากเพลากลางมันสะบัด ถ้ามุดไปลองเอามือจับเพลากลางหมุนดูจะเห็นว่ามันมีระยะฟรีหมุนขยับซ้ายขวาได้สักเกินกว่าห้าองศาก็แสดงว่าเฟืองท้ายหลวมต้องเอามาปรับใหม่แล้ว
ถ้าไม่ปรับแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
มีครับ ข้อแรกมันหนวกหูเสียงแคล้งๆใต้ทองรถ ตอนถอนคลัท อีกอย่างคืออายุ ยูนิเวอร์แซลจอยท์ หรือกากะบาทเพลามันจะอายุไม่ยืนเพราะมันโดนกระชากตัวทุกครั้งที่ถอนคลัทและลามไปถึงชุดท้ายเกียร์พลอยโดยกระชากให้หลวมไปด้วย
และที่ตัวเฟืองท้ายเองจะเกิดการสึกหรอแบบไม่เต็มพื้นที่หน้าฟันของเฟืองเดือยหูและเพืองบายสี ทำให้เกิดอาการหอนได้ถ้าทนใช้ไปเรื่อยๆไม่ยอมเอามาปรับระยะใหม่เสียที
สมเหตุผลหรือไม่ครับที่ต้องเสียเวลาสักครึ่งวันปรับเฟืองท้ายทุกแปดหมื่นถึงแสนกิโล……………”