WeekendHobby.com


Car Dynamic “จิก เกาะ หนึบ แน่น”

จาก molar
เสาร์ที่ , 15/3/2551
เวลา : 15:04

อ่าน = 527
125.26.182.120
       การขับรถยนต์ แค่สตาร์ท เข้าเกียร์แล้วออกตัว เท่านี้ยังไม่เรียกว่าขับรถเป็นมันยังมีอะไรอีกมากทีเดียว...! ถ้ารู้จักเทคนิคที่ดีในการขับขี่ นอกจากการควบคุมเป็นไปได้ดั่งใจแล้ว บางทียังช่วยให้เอาตัวรอดได้เมื่อตกอยู่ใน สถานการณ์คับขัน...!

ก่อนต่อยอด ความรู้พื้นฐานต้องแน่นซะก่อน แต่ที่น่าสนใจต้องมาดูทีละเรื่อง เริ่มจากการกระจายน้ำหนักเป็นไปได้ ใกล้เคียงกันที่ส่งผลต่อการขับขี่ และการควบคุมรถยนต์ และต้องเข้าใจหลักการถ่ายเทน้ำหนักด้วย ในรถสปอร์ตราคาแพง หลายรุ่นออกแบบให้น้ำหนักที่กดลงบนเพลาหน้า/เพลาหลัง หรือล้อหน้า/ล้อหลัง มีอัตราการกระจายน้ำหนัก (Weight Distribution) ประมาณ 50 : 50 หมายถึงจะได้ตัวเลขนี้ตอนจอดหยุดนิ่ง แต่ถ้าหากขณะที่ขับอยู่แล้วเบรก น้ำหนักก็กดลงบน ล้อหน้าเพิ่มขึ้น น้ำหนักที่กดลงบนล้อหลังจะลดลงด้วย เพราะการถ่ายเทน้ำหนัก และขณะที่เร่งจะเกิดการถ่ายเทน้ำหนัก ในทิศทางตรงข้ามกับการเบรก รวมทั้งการเลี้ยวก็จะเกิดการถ่ายเทน้ำหนักที่มีผลต่อเสถียรภาพการควบคุมรถยนต์

จุดศูนย์ถ่วง (C.G.) เป็นจุดรวมน้ำหนักของรถยนต์ทั้งคัน ผู้ออกแบบรถยนต์พยายามที่จะลดจุดศูนย์ถ่วงให้อยู่ต่ำที่สุด เพื่อช่วยให้เสถียรภาพของรถ ขณะเลี้ยวโค้งสามารถใช้ความเร็วได้สูงขึ้น โดยที่รถยังสามารถคงตัวอยู่ได้ปลอดภัย สำหรับรถยนต์ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงจะทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้ง่ายกว่ารถยนต์ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ สังเกตได้จากรถแข่งทางเรียบ ตัวถังของรถจะค่อนข้างเตี้ย นอกจากนี้ตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงตามแนวยาวของตัวรถจะส่งผลต่อการเกิด “สลิป แองเกิล” ถ้าเลื่อนจุดศูนย์ถ่วงมาทางด้านหน้าของรถเพิ่มมากขึ้นจะเกิดสลิปแองเกิลที่ล้อหน้าเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ล้อหลังจะเกิดขึ้นน้อยลง และถ้าเลื่อนจุดศูนย์ถ่วงมาทางด้านหลัง ผลที่ได้จะเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกัน การเกิดสลิปแองเกิลที่ล้อหน้าจะทำให้ เกิดอาการอันเดอร์สเตียร์หรืออาการหน้าดื้อ แต่ถ้าเกิดที่ล้อหลังมักจะเกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ เบื้องต้นเอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน

อาการอันเดอร์สเตียร์และโอเวอร์สเตียร์ ถ้าเรารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ อาการอันเดอร์สเตียร์ มักจะเกิดขึ้นกับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ลักษณะการเกิดเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วแล้วหักพวงมาลัย ล้อหน้าจะไถล และแถออกจากโค้ง หรือหน้าดื้อ การแก้ไขสามารถทำได้โดยการลดความเร็วลงหรือผ่อนคันเร่ง พร้อมทั้งคืนพวงมาลัยกลับ ส่วนโอเวอร์สเตียร์ (Oversteer) บางทีเรียกว่าอาการท้ายรถปัดขณะเลี้ยวมันเป็นพฤติกรรมอีกอย่างของรถยนต์ ขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขึ้นอยู่กับความเร็ว และลักษณะการขับ อาการนี้จะเกิดต่อเมื่อรถยนต์เคลื่อนที่แล้วหักเลี้ยว ล้อหน้าสามารถวิ่งไปได้ในทิศทางที่ควบคุมให้ไป ตามโค้ง ในขณะที่ล้อหลังจะเกิดการลื่นไถลปัดออกนอกโค้งตามแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ เทคนิคของการขับรถของนักแข่งเก่ง ๆ สามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้โดยใช้การดริฟต์ที่ต้องอาศัยความสัมพันธ์กันระหว่างกำลังที่ถ่ายทอดลงพื้น การถ่ายเท น้ำหนัก องศาการหมุนของพวงมาลัย เพื่อแก้อาการท้ายปัดโดยการหักล้อไปในทิศทางตรงข้ามกับรัศมีของโค้ง หรือเรียกว่าการเคาน์เตอร์สเตียร์ที่ต้องมีการฝึกฝน

โอเวอร์และอันเดอร์ ต้องรู้จักขีดจำกัดในการยึดเกาะถนนของยางซะก่อน โดยพื้นที่ของหน้ายางรถยนต์ที่สัมผัสกับพื้นถนน ขณะที่รถยนต์วิ่งไปตามถนนจะมีขนาดพอ ๆ กับแผ่นโปสการ์ดเท่านั้นเอง แรงที่เกิดขึ้นบริเวณหน้ายางเพื่อยึดเกาะถนน จึงมีขีดจำกัด แรงสามารถเกิดขึ้นได้ขณะหักเลี้ยว หรือการเลี้ยวโค้งพร้อมกับการเร่งเครื่องยนต์และการเบรก ทั้งหมดเรียกว่า “Cornering Force” ผลของแรงที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้แรงต้านการลื่นไถลของหน้ายางลดลง ขณะที่รถยนต์เลี้ยวโค้งโดยไม่มี การเบรก หรือเร่งเครื่องยนต์อย่างรุนแรงจะทำให้ค่าแรงเลี้ยว (Cornering Force) สูงที่สุด แต่ถ้าการเลี้ยวโค้งทำพร้อมกับ การเร่งเครื่องยนต์ หรือพร้อมกับการเบรกจะส่งผลให้การเลี้ยวโค้งลดลง ทำให้เกิดมุมสลิป แองเกิล เพิ่มมากขึ้นหาก ความเร็วของรถสูงขึ้น ถ้าความเร็วของรถยนต์มากเกินไปมุมสลิป แองเกิล จะเพิ่มขึ้นเกินขีดจำกัด ส่งผลกระทบร้ายแรง ที่ทำให้ยางรถยนต์ไม่สามารถยึดเกาะถนนได้ ตัวรถจะลื่นไถล ซึ่งกลายเป็นอาการอันเดอร์สเตียร์ และโอเวอร์สเตียร์ในที่สุด ที่จริงถ้าพ้นขีดจำกัดของการยึดเกาะถนนของหน้ายางก็จะเกิดสลิป แองเกิล หรือมุมไถลลื่นนั่นเอง

การขับรถจะมีแรงต่าง ๆ ทางด้านข้าง ทำให้รถเซออกนอกทาง เช่น แรงลม แรงเหวี่ยง ความเอียง พื้นถนน ฯลฯ แรงเหล่านี้จะส่งไปที่ยาง ทำให้ยางเกิดการบิดตัวไปจากหน้าสัมผัสของยาง แรงทำให้ยางบิดตัว เปลี่ยนมุมไป ถ้าเกิดสลิป แองเกิล ขึ้นที่ล้อหน้า อาการรถจะกลายเป็นอันเดอร์สเตียร์ และถ้าเกิดสลิป แองเกิล ที่ล้อหลัง จะกลายเป็นอาการโอเวอร์สเตียร์นั่งเอง











ข้อมูลจาก : นิตยสาร รถวันนี้ ปีที่ 8 ฉบับที่ 358



เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 6:28:13

Error processing SSI file