WeekendHobby.com


อยากทราบจุดติดตั้งสายกราวย์วายมีกี่จุด
นายเดี่ยว
จาก นายเดี่ยว
จันทร์ที่ , 29/9/2551
เวลา : 13:48

อ่าน = 7724
58.137.12.74
       อยากทราบจุดติดตั้งสายกราวย์วายมีกี่จุด

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       กราวน์ไวร์ Ground Wire เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมกันมากในรถแข่ง แต่ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นเพราะส่วนใหญ่เขาจะไม่ใช้สีสันใช้เป็นสายสีดำจนเรามองผ่านๆ เป็นส่วนช่วยให้ไฟฟ้ากระแสลบเดินครบวงจรมากขึ้นกว่าการใช้ตัวถังรถเป็นส่วนนำไฟฟ้าแบบโรงงาน

:: แล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง
จากการสัมภาษณ์ผู้ที่ติดตั้งร้อยละเก้าสิบให้ความคิดเห็นว่า อัตราเร่งดีขึ้น เครื่องยนต์เดินเรียบขึ้น
มีแนวโน้มประหยัดน้ำมันมากขึ้นแต่ไม่กินมากไปกว่าเดิมแน่ ( ยกเว้นแต่จะกระทืบคันเร่งมากกว่าเดิม )
สตารท์ง่ายขึ้น เสียงดังของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ปั้มติ๊ก พัดลมแอร์ เสียงกวนวิทยุลดลง และอีกมากมายมีแต่จะดีขึ้น
มิน่าล่ะนักแต่งรถอเมริกาและญี่ปุ่นถึงนิยมกันนัก อย่างนี้ต้องรีบหามาติดตั้งบ้าง แต่พอไปเจอราคา
แล้วแทบจะเปลี่ยนใจ เพราะราคามีตั้งแต่ 1,500 จนถึง 8,000 บาท ยิ่งเป็นของสำนักแต่งแรงๆกลับยิ่งแพงมาก
หน้าตาก็เหมือนๆกันเก็บสตางค์ไว้เติมน้ำมันดีกว่า แต่จริงๆแล้วเราสามารถทำเองได้ด้วยงบประมาณ
ไม่กี่ร้อยบาทอย่างนี้ค่อยน่าลงทุนลงแรงทำกันหน่อย

:: รู้จักประโยชน์ และ จุดที่จะติดตั้ง
ก่อนที่เราจะติดตั้งคุณต้องรู้ก่อนว่าจะติดตั้งที่ไหนเพราะอะไรจึงจะมีประโยชน์สูงสุด และ สิ้นงบประมาณ น้อยที่สุด
1. แบตเตอร์รี่ ที่ขั้วลบเป็นหัวใจหลักของงานเป็นตัวที่เราจะดึงกระแสไฟฟ้า ไปใช้ในส่วนต่างๆ ของ เครื่องยนต์ และ
ในรถนต์

2. ขั้วดินของไดชารจ์ ไดชารจ์เป็นตัวสร้างกระแสไฟไปเก็บสะสมไว้ที่แบตเตอร์รี่ ถ้าไฟชารจ์เข้า แบตเตอร์ร ี่ได้ไวขึ้น
ไดชารจ์จะตัดการทำงานเป็นการลดภาระของเครื่องยนต์ มีส่วนให้ประหยัดน้ำมัน ได้มากขึ้น

3. ขั้วกราวน์ของกล่องคอมพิวเตอร์ เป็นศูนย์รวมของกระแสลบที่จะต่อเข้าเซนเซอร์ต่างๆ เช่น กล่องควบคุมเครื่องยนต์
, หัวฉีด , คอยล์ , จานจ่าย ,ปั้มน้ำมัน,เซนเซอร์เครื่องยนต์ ฯลฯ ส่วนใหญ่ ่ทุกเครื่องยนต์จะมีสายรวมกราว์นที่ออกมา
จากกล่องคอมพิวเตอร์ เป็นชุดสายไฟยึดลงกราวน์รวมไว้ที่เครื่องโดยอาศัยโลหะตัวเครื่องเป็นตัวส่งกระแสไฟ
แต่ตัวเครื่องยนต์นั้นประกอบด้วยโลหะหลายชนิด รวมกันทำให้เกิดความต้านทาน ดังนั้นการต่อไฟตรงจะทำให้กล่อง
และเซนเซอร์ต่างๆ ควบคุมทำงาน ได้เต็มที่ เครื่องยนต์เดินราบเรียบขึ้น อัตราเร่งดีขึ้น

4. สายกราวน์รวมของตัวถังรถยนต์ สังเกตว่าโรงงานจะอาศัยตัวถังรถยนต์ที่เป็นเหล็กเป็นส่วนนำไฟฟ้า แต่เนื่องจาก
เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ จะมีความต้านทานมากสูญเสียพลังงานไฟฟ้า ดังนั้นจึงควรมองหา สายดินรวมของตัวถังรถยนต์
ส่วนใหญ่แล้วมักต้องไล่ดูจากชุดสายไฟ จะทำให้ระบบไฟต่างๆ ในรถยนต์ ทำงานดีขึ้น เช่นไฟหน้าสว่างขึ้น
พัดลมไฟฟ้าทำงานแรงขึ้น และอีกมาก

5. สายดินของเครื่องยนต์ แถวๆไดสตาร์ทจะทำให้รถสตาร์ทติดได้ง่ายขึ้น

6. อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องเสียง เพาเวอร์แอมป์ ที่เพิ่มเข้าไปจะทำให้ทุกอย่าง ทำงานได้
้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
:: การเตรียมอุปกรณ์
1. สายไฟขนาด 6 mm หรือ 8 mm เลือกได้
ทุกสีตามใจชอบ หาซื้อได้ที่บ้านหม้อ หรือ
ร้านเครื่องเสียงทั่วไป ราคาเมตรละ 40 – 80 บาท

2. แผ่นทองแดง , ทองเหลือง , หรืออลูมิเนียม , เหล็ก
หนาซัก 1.5 – 2 หุน หาได้ตาม ร้านขายของเก่า
หรือร้านฮาดท์แวร์ ขายเป็น กิโลกรัม
ราคาแล้วแต่วัสดุที่เลือกใช้ เพื่อนำกระแสไฟฟ้า
( ดูจากค่านำกระแสไฟ ดีที่สุดคือ ทองคำขาว > ทองคำ >
เงิน > ทองแดง > ทองเหลือง > สแตนเลส > เหล็ก >
อลูมิเนียม ) ถ้าเป็นทองเหลืองของใหม่ ก.ก. ละ
200 – 250 บาท (ใช้ไม่เกิน 2 ขีดต่อตัวหละครับ)
3. หัวหางปลาที่จะเชื่อมกับสายไฟ ใช้หัวแบนกลม ประมาณ 10- 12 ตัว ราคาตัวละ 3 – 5 บาท
4. น็อตสแตนเลสหกเหลี่ยมยึด ใช้เป็นเบอร์ 10 ยาว 1/2 นิ้ว 6 ตัว ราคาตัวละ 5 -10 บาท / ตัว
5. อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ตะกั่วบัคกรี ท่อหด เทปพันสายไฟ สายรัด

:: ขั้นตอนการทำ
1. หากระดาษแข็งมาวาดรูปแล้วตัดกระดาษแบบให้ได้รูปตามที่เราต้องการ
2. นำแบบทาบกับวัสดุ เช่นทองเหลือง หรืออลูมิเนียม ที่จะใช้เป็นเพลทยึดสายไฟให้ได้ตามแบบ แล้วตัดแผ่น
ทองเหลือง หรือ วัสดุให้ได้ตามแบบ แล้วทำการตกแต่งชิ้นงาน
3. เจาะรูวัสดุที่แผ่นเพลต ตราฟเกลียว เพื่อใช้ยึดน๊อตหกเหลี่ยม
4. วัดสายไฟในจุดที่ต้องการแต่ละจุด ตัดสายไฟออกเป็นเส้นๆ แล้วสวมหางปลา แล้วบัคกรีตะกั่ว
เพื่อความแน่นหนา
5. นำแผ่นเเพลตยึดกับจุดในตัวรถ หรือแบตเตอร์รี่ แล้วนำสายที่ใส่หางปลา แล้วมายึดติดแล้วต่อ
ไปยังจุดและอุปกรณ์ที่ต้องการ

:: ข้อเเนะนำ
ควรเช็คให้ดีว่าจุดที่จะยึดเป็นจุดกราวน์แน่นอน ถ้ามีการย้ายเเบตเตอร์รี่ไว้หลังรถ ควรต่อสาย
ไปยังเเบตเตอร์รี่เลยดีที่สุด ควรหาสายรัดและเทปพันสายไฟพันสายไฟเพื่อป้องกันไฟรัดวงจร
และห่างจากจุดหมุนพวกสายพาน สายไม่จำเป็นต้องใช้สายที่มีขนาดใหญ่มาก สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
แต่ควรจะยึดในส่วนที่สำคัญและหลายๆจุดดีกว่า หรือทำไว้หลายๆตัวแล้วเดินสายให้ได้มากจุดที่สุด




จาก molar  125.26.183.251  จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 19:41   


คำตอบที่ 2
       อุปกรณ์การทำ
รายการ
1.หางปลาใหญ่สีทอง 5 ตัว เกียร์ธรรมดา , 6 ตัว เกียร์ auto
2.ขั้วทอง 24 K ใช้เป็นต้วรวมสายทั้งหมด
3.สายไฟแบตสัก 8 มม. หรือสายลำโพงอย่างดี แล้วแต่งบประมาณ แต่ขอให้ไส้ในโตสัก 3-4 มม. ความยาวก็วัดจากรถแล้วค่อยไปซื้อ แต่อย่าลืมหารสองของความยาวทั้งหมดก่อนซื้อ เพราะว่าเราสามารถฉีกสายออกเป็นสองเส้นได้ ประหยัดงบดี (เป็นสายทำจากทองแดงหรือเงินก็ได้ อาจเป็นแบบผสมก็ได้)
4.ท่อหด 25 มม. ไว้เก็บงานช่วงข้อต่อรวมสาย เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบ (ไม่ใช้ก็ได้)
ผมเริ่มจากการใช้สายลำโพงโดยไปซื้อที่คลองถมน่ะครับ ลองเดินๆ ดูหลายๆ ร้านก็ดีครับอาจจะได้ถูกกว่าผมซื้อนะ สายลำโพงมีหลายแบบหลายขนาดมากครับ ที่เลือกมาเป็นแบบ สายหุ้มเงิน 7KL ราคาเมตรละ 120 บาท ต่อได้ 3 เมตร 350 บาท (ซื้อมาเยอะมากเลย กะทำสองคันเลย:-) ส่วนร้านที่บ้านหม้อที่ผมเคยซื้อเมตรละ 50 บาท เลยอยากแนะนำคนอื่นที่อยากทำบ้าง ลองไปดูร้านขายสายไฟเยอะ ๆ ที่บ้านหม้อแถวร้านสหพิพัฒน์ ส่วนหางปลาก็อยู่ตรงฟุตปาทหน้าร้านขายสายนั่นแหละครับ รับรองราคาถูกจนตกใจ หางปลาผมเลือกเบอร์ 10 (ที่จริงเบอร์เล็กกว่านี้ก็ได้ครับ) ราคาตัวละ 15 บาทถ้วนเบอร์ใหญ่ แข็งมากเวลาบีบ ต้องบัดกรีด้วย ไม่งั้นไม่ยอมอยู่ ส่วนสายรัดพลาสติกหรือ เคเบิลไทน์ มีหลายสีหลายขนาด ผมเลือกเป็นแบบเล็กๆ 4 นิ้ว ตก ห่อละ 8 บาทและ 8 นิ้ว ตกห่อละ 15 บาท
หรือเอาสายดีๆๆหน่อย ผมใช้สายไฟสำหรับเเบตเตอรี่เครื่องเสียง เเล้วแต่ทุนทรัพย์เรานั้นเเหละว่าจะใช้ดีหรือไม่ดีเเบบไหนยิ่งคุณภาพดีไฟก็ยิ่งเดินสะดวกขึ้นลองถามร้านเครื่องเสียงที่รู้จักครับว่าขายเมตรเท่าไร ถ้ามันกดราคามากก็ฝากเพื่อนซื้อที่สะพานเหล็ก เฉลี่ยเเล้วเมตรไม่เกิน 35 ประมาณนะ ใช้ซัก6-7 เมตร ไม่เเน่ใจบางร้านก็ขายไม่เท่ากันอีก แต่ถ้าให้ดีมียี่ห้อหน่อยละก้อ ใช้สายไฟยี่ห้อ FURAGAWA รุ่น ------- ราคาประมาณเมตรละ 750 บาท ที่ร้าน ROCKET SOUND

ลงมือทำ
เอาหล่ะมาเริ่มกันซักที เริ่มจากสวดมนต์ก่อน ไม่ใช่!! เริ่มจากฉีกสายลำโพงที่ซื้อมาออกจากกัน จาก 3 เมตร ตอนนี้ก็กลายเป็น 6 เมตรแล้ว ตอนเลือกสายลำโพงพยายามเลือกที่เป็นสายโตๆ หุ้มเงิน จะเวิร์คกว่าสายเส้นเล็กๆ นะครับ
สายยางหุ้มสายลำโพงอีกชั้นหนึ่ง สายพวกนี้ถามเจ้าของร้านแล้ว มันไม่ได้กันความร้อนนะครับ เป็นท่อยางฉีดน้ำนั่นเอง ถ้าจะเอาท่อกันความร้อนแพงมั๊กๆ เลย และไม่สวยด้วยครับ คือเวลาเพื่อนๆ ทำเล่นกัน ก็อาจจะต้องเดินสายหลบพวกจุดที่ร้อนมากๆ น่ะครับ หรือไม่ถ้าจะเอาดีเลยก็หาสายแบบกันความร้อน จะเป็นท่อยางหนาๆ ใหญ่ๆ ( เท่าที่เห็นนะ ) การใส่สายลำโพงเข้าไปในสายยาง ใช้วาสลีน หรือน้ำมันพืช ทาสายลำโพงนิดหน่อย มันจะเข้าง่ายไม่ติดขัด...


มาต่อกัน เป็นสายรัดพลาสติก เอามาสองแบบ แบบเล็กกับใหญ่ เอาไว้รัดเวลาเดินสายในห้องเครื่อง มีหลายสี อยู่ที่ความชอบส่วนตัวครับ

หางปลาเบอร์ 10 ครับ ผมเอามา 10 ตัว แต่จริงๆ เอามาเยอะกว่านี้ก็ได้นะครับ เผื่อเหลือเผื่อขาด ตัวล๊อค เห็นของมอเตอร์ไซค์สวยดี เลยเอามาลองใส่ดู มันพอดีกับหางปลายด้วย

หางปลาที่เอาไว้ใส่สายไฟ แพงไปครับ ผมซื้อแบบหนาแล้วใช้คีมย้ำสายใหญ่ อันละ 5-7 บ.เองครับ หาซื้อตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ครับ แล้วสายไฟใช้แค่ 3 ม.เองหรือ ผมทำกันต่อทั้งหมด 6-7 จุด ใช้สายไฟฉนวนหุ้มสีแดง ม.ละไม่เกิน 30 บ.
วิธีการประกอบสาย
1.วัดความยาวเผื่อการเดินเก็บสายให้พอดี (ยิ่งสั้นยิ่งดี)
2.ตัดสายตามความยาวของแต่ละจุดแล้วปอกปลายสายนำมารวมกันที่ขั้วทองรวมสาย ขันให้แน่น แล้วนำท่อหดมาใส่ช่วงโคนสายรวมทั้งหมดเพื่อความสวยงาม
3.ปอกปลายสายของแต่ละเส้นเพื่อที่จะนำไปไส่ในขั้วต่อหางปลา โดยปอกปลายออกประมาณ 1ซม. แยกตัวหางปลาออกเป็นสองส่วนโดยใช้มือหมุนให้แยกออกจากกัน หลังจากนั้นนำปลายสายเสียบเข้าไปที่ตัวขั้วกระบอกด้านท้ายให้สายช่วงที่เป็นทองแดงหรือเงินพ้นออกจากปลายกระบอก ประมาณ 2-3 มม. แล้วพับปลายให้บานเหมือนดอกเห็ด ก่อนที่จะเอาปลายส่วนที่เป็นตัวหางปลามาหมุนติดกับตัวด้ามกระบอก ทำเช่นนี้จนครบทุกปลาย จะสังเกตุได้ว่าในการประกอบสายจะไม่ยุ่งยากเลยเพราะว่าสามารถต่อได้ด้วยตัวของมันเองเสร็จแล้วนำชุดสาย Ground ที่ได้นำไปติดตั้งตามจุดต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้แต่แรก ข้อควรระวังก็คือ ให้ระวังในเรื่องส่วนของความร้อนและส่วนที่มีการเคลื่อนไหว ส่วนในด้านความร้อนของตัวห้องเครื่องนั้น เราอาจใช้ท่อพลาสติกหุ้มสาย ground เพื่อป้องกันความร้อนและยืดอายุของสาย ground ไปอีก (ในรูปที่ผมทำยังไม่ได้ใส่ ยังหาซื้อไม่ได้แต่คงต้องหามาใส่แน่ๆ)
ปกติทำแค่นี้ กับหาที่ล๊อคแบตเตอรี่ใหม่ ก็พอนะครับ ผมเห็นที่ล๊อคแบต แบบมีพ่วงสายพวกนี้ได้เลยก็มี เสียดายลืมถ่ายรูปมาให้ดู แต่คงไม่กี่ตังค์ครับ ล็อคเข้ากับสายแล้วต่อไปยังตำแหน่งที่จะลงกราวด์บนตัวรถก็ใช้ได้เลย แต่ผมจะทำเหมือนของแต่ง คือมีอะแดปเตอร์รอง ล็อคกับน๊อตสีอีกที แล้วค่อยไปล๊อคกับแบตเตอรี่น่ะครับ


สรุปค่าใช้จ่าย
สายแบตขนาด 8 มม. 9 เมตร 315 บาท
หางปลา ตัวละ 15 บาท 10 ตัว 150 บาท
สายล๊อค สองห่อ 23 บาท
ตัวน๊อตล๊อก สีๆ ตกชุดละ 25 บาทx4 100 บาท
รวมแล้ว 703 บาท

เหลือแต่อะแดปเตอร์แปลง ก็ไม่น่าจะเกิน 100 บาท



จุดที่ 1. จุดรวม ที่ฝาสูบ หรือตัวถัง (แต่ผมว่า ฝาสูบ work กว่านะ)
จุดที่ 2. เสื้อเกียร์ 1จุด(ถ้าเป็นเกียร์ออโต)
จุดที่ 3. น๊อตราวหัวฉีด หรือ ลิ้นผีเสื้อไอดี
จุดที่ 4. คอมแอร์
จุดที่ 5. ไดชาร์ท
จุดที่ 6. สังเกตว่าจะมีสายกราวน์ของเครื่องอยู่ เส้นสีดำเล็ก ใส่เพิ่มเข้าไปแล้วลากไปที่แบต ประมาณ 2 จุด ถ้าต่อครบแบบนี้ใช้สายประมาณ 7 ม.ครับ
จุดที่ 7. แบตเตอรี่ขั้วลบ

เทคนิคในการติดตั้งก็มีอยู่ว่าพยายามใช้จุดยึดที่มีอยู่แล้วในตัวมันเองแต่ละจุด จะไม่ใช้การเสริมหรือสร้างจุดยึดขึ้นมาใหม่หากไม่จำเป็นจริงๆ ซึ่งก็ไม่ควรทำ และอาจมีการใช้กระดาษทรายหรือตะไปขัดสนิม , คราบน้ำมันเครื่อง ของจุดยึดต่างๆเพื่อการนำกระแสที่ดีของในแต่ละจุด ถ้าหากไม่แน่ใจว่าจุดที่ต่อจะถูกต้องหรือไม่ ให้ใช้ มิเตอร์แบบที่มีการตรวจสอบการครบของวงจรโดยที่จะมีเสียงดังบอกสถานะ ก็ได้
จากแบต ก็ไปที่ตัวแยกต่อไปกราวเดิม ตัวถังรถสามจุด คือตรงชุดไฟสองจุด ด้านขวาของรูปน่ะครับ กับตรงแถวๆ ที่ฉีดน้ำปัดน้ำฝนอีก 1 จุด และต่อไปตรงไดชาร์ตอีก 1 จุด (ไม่รู้ว่าเรียกถูกป่าวนะครับ) ตรงด้านซ้ายน่ะครับเหลืออีก 2 เส้น ว่าจะต่อไปที่เสื้อเกียร์ กับฝาสูบ แต่ยังหาน๊อตไม่ได้เลย






ลอกมาทั้ง 2 คำตอบครับ ลองอ่านดู



จาก molar  125.26.183.251  จันทร์, 29/9/2551 เวลา : 19:49   


คำตอบที่ 3
       อ่านมานาน อ่านแล้วก็อ่านอีก ชักเริ่มงงครับ สรุปง่ายๆๆก็คือต่อสายกราวน์ที่ติดอยู่กับตัวถังรถเกือบทั้งหมดแล้วเดินสายไปจั๊มกับแบตเตอรี่ขั่วลบใช่ไหมครับ ผมจะได้ทำบ้างเด่วถ้าไฟไหม้รถอย่างไรจะมาบอกครับ อิอิอิ



จาก ตาด้า 4*4  58.9.114.132  อังคาร, 30/9/2551 เวลา : 09:29   


คำตอบที่ 4
      



ongart จาก 01  202.183.229.100  อังคาร, 30/9/2551 เวลา : 10:29   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 6:32:16

Error processing SSI file