WeekendHobby.com


ร่วมเชียร์ &ให้กำลังใจเจ้าหนึ่ง-มานะ นักแข่งหนึ่งเดียวของไทยใน ดาการ์แรลลี่ 2009

จาก kung-mitsu ka
พฤหัสบดีที่ , 11/12/2551
เวลา : 17:28

อ่าน = 2255
202.57.188.3
       ดาการ์แรลลี่ 2009
บททดสอบสำคัญของปาเจโร สปอร์ตและมานะ พรศิริเชิด ความท้าทายครั้งไหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

การผจญภัยสุดขั้วของแรลลี่ระดับตำนาน ดาการ์ 2009 ดาการ์ 2009 การขับเคลื่อนวงล้อสู่เส้นทางหฤโหดสายใหม่ อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างอเมริกาใต้ ซึ่งรายล้อมไปด้วยภยันตรายที่จ้องทำลายผู้ที่มาเยือนอย่างไม่เคยหลับใหล การเดินทางไปกลับกรุงบัวโนสไอเรส ผ่านทาง Valparaiso นั้นเป็นด่านที่ท้าทายไหวพริบและความสามารถในการประลองสนามของกว่า 300 ชีวิต ผู้เข้าแข่งขันที่อึดที่สุดเท่านั้นที่จะมีโอกาสรอดพ้นจากอุปสรรคที่กระจายอยู่ตลอดเส้นทางที่มีความยาว 6,000 กิโลเมตร การต่อสู้สำหรับตำแหน่งแชมเปี้ยนจะยังคงเปิดกว้างจนกระทั่งถึงเส้นชัย

ระยะทางแห่งการเดิมพัน

- จาก 1,500 ถึง 2,000 เมตร: 610 กม.
- จาก 2,000 ถึง 2,500 เมตร: 240 กม.
- จาก 2,500 ถึง 3,000 เมตร: 70 กม.
- จาก 3,000 ถึง 3,250 เมตร: 15 กม.

ระหว่างทางการแข่งขันจะมีความสูงโดยเฉลี่ย 4,000 เมตรในช่วง 120 กม. การขับเคี่ยวบนเส้นทางอาร์เจนตินา – ชิลี

DATE START FINISH CONNECTION SPECIAL CONNECTION TOTAL
03/01/09 Buenos Aires Sta Rosa de la Pampa 196 km 371 km 166 km 733 km
04/01/09 Sta Rosa de la Pampa Puerto Madryn 0 km 237 km 600 km 837 km
05/01/09 Puerto Madryn Jacobacci 70 km 616 km 8 km 694 km
06/01/09 Jacobacci Neuquen 4 km 459 km 25 km 488 km
07/01/09 Neuquen San Rafaël 173 km 506 km 84 km 763 km
08/01/09 San Rafaël Mendoza 76 km 395 km 154 km 625 km
09/01/09 Mendoza Valparaiso 80 km 419 km 317 km 816 km
10/01/09 Rest day
11/01/09 Valparaiso La Serena 245 km 294 km 113 km 652 km
12/01/09 La Serena Copiapo 88 km 449 km 0 km 537 km
13/01/08 Copiapo Copiapo 20 km 666 km 0 km 686 km
14/01/08 Copiapo Fiambala 20 km 215 km 445 km 680 km
15/01/08 Fiambala La Rioja 4 km 253 km 261 km 518 km
16/01/08 La Rioja Cordoba 161 km 545 km 47 km 753 km
17/01/08 Cordoba Buenos Aires 224 km 227 km 341 km 792 km
18/01/08 Buenos Aires Buenos Aires 0 km 0 km 0 km 0 km
TOTAL 1,361 km 5,652 km 2,561 km 9,574 km

ติดตามข่าวคราวของคุณมานะได้ที่นี่
http://www.pajerosport2dakar.com/





เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       แค่ชื่อก็เป็นที่ หนึ่ง อยู่แล้ว ...........
ขอเป็นกำลังใจให้น้องหนึ่งครับ
งานนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะครับ เหลืองร่วมกันเชียร์แดงจริงไม๊พี่ กบ






a.chote จาก e20hmt  202.57.188.4  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 18:01   


คำตอบที่ 2
       ขอเป็นอีกกำลังใจสำหรับคุณมานะน่ะค่ะ จะคอยติดตามทางทีวีค่ะ



vps1992 จาก กุ้ง  124.121.137.126  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 18:35   


คำตอบที่ 3
      
ธงชาติไทยปลิวไสวอีกครา
อุปสรรคมีไว้ฟันฝ่า
สู้ยิบตา มานะ พรศิริเชิด






ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.175.50  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 18:43   


คำตอบที่ 4
      
ร่ ว ม ส่ ง แ ร ง ใ จ เ ชี ย ร์ ด้ ว ย ค น ค รั บ






kob2516 จาก มนุษย์กบ...และคุณน้องสวัสดีครับ  119.31.69.254  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 20:42   


คำตอบที่ 5
       ร่วมส่งแรงใจเชียร์ด้วยค่ะ





adsrubber จาก ภัทร  117.47.183.206  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 21:02   


คำตอบที่ 6
       คนไทยความสามารถไม่เคยแพ้ใครใ ใ ใ ใ ใ ใ ใ ใ ใ ใ ใ 'สู้โว้ย'



จาก jusmin 695  124.121.245.157  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 21:17   


คำตอบที่ 7
       คนไทยตัวอย่าง.....อีกหนึ่งความภูมิใจ ของคนไทย



hangmanhangman จาก hangman  58.9.47.158  พฤหัสบดี, 11/12/2551 เวลา : 21:58   


คำตอบที่ 8
       ขอร่วมอวยพรให้ประสบความสำเร็จตามความคาดหวังนะครับพี่หนึ่ง นำความภาคภูมิใจกลับมาให้คนไทยในการแข่งขันครั้งที่ ทวีป อเมริกา นะครับ



จาก เด็กดอย49  64.254.116.14  ศุกร์, 12/12/2551 เวลา : 09:28   


คำตอบที่ 9
       สู้โว๊ยๆๆๆๆๆๆๆ



littlelove จาก littlelove  125.27.160.238  ศุกร์, 12/12/2551 เวลา : 10:25   


คำตอบที่ 10
       ร่วมเชียร์น้องหนึ่งด้วยคน





blue_sushi จาก βlue$ushi™  222.123.92.118  เสาร์, 13/12/2551 เวลา : 15:15   


คำตอบที่ 11
       Update 2008-11-26

“ ปาเจโร สปอร์ต ” กับความท้าทายใหม่ใน “ดาการ์ แรลลี่”

มิตซูบิชิ ลั่นพร้อมใน“ดาการ์ แรลลี่” ที่จะเริ่มมกราคมปีหน้า เชื่อเป็นบททดสอบสำคัญของ ปาเจโร สปอร์ต และ มานะ พรศิริเชิด

ทาคาอากิ คิชิอิ ผู้อำนวยใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการสนับสนุนนักแข่งไทย
ลงแข่งขันแรลลี่รายการใหญ่ของโลก “ดาการ์ แรลลี่” ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ว่า บริษัทฯยังคงให้การสนับสนุน
“มานะ พรศิริเชิด” นักแข่งในสังกัด มิตซูบิชิ มอเตอร์สปอร์ต ทีม ไทยแลนด์ พร้อมเนวิเกเตอร์คนเดิม เธียรี่ ลาคอมบ์ และรถแข่งคันใหม่
ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น (Pajero Sport Evolution) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
ยนตรกรรมล่าสุดของมิตซูบิชิที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

“ปีนี้บริษัทฯตัดสินใจส่ง ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ที่มีพื้นฐานมาจากรถยนต์ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม รวมไปถึงเทคโนโลยีแห่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในการแข่งขันแรลลี่หฤโหดระดับโลก”

สำหรับเส้นทางการแข่งขันในปีนี้จะเริ่มจากเมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนติน่า ไปยังประเทศชิลีและกลับมาจบการแข่งขัน
ที่ประเทศอาเจนติน่า รวมระยะทางประมาณ 6,000 กิโลเมตรโดยสภาพเส้นทางแข่งขันยังคงความหฤโหดไว้อย่างครบครัน
เนื่องจากเส้นทางที่แข่งขันจะอยู่บนภูเขาสูงและคดเคี้ยวในสภาพอากาศที่เบา บาง ซึ่งในบางสเตจจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง
1,500 – 3,200 เมตร ที่ผู้เข้าแข่งขันจะต้องวิ่งบนสภาพดังกล่าวเกือบ 1,000 กิโลเมตร และมีบางสเตจที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล
ถึง 4,000 เมตร อีกประมาณร้อยกว่ากิโลเมตร

นอกจากนี้ยังคงมีมนต์เสน่ห์ของความหฤโหดของทะเลทรายได้อย่างเป็นอย่างดีโดย ทะเลทรายในอเมริกาใต้นั้นก็ไม่ได้แตกต่าง
จากทะเลทรายซาฮารา ในขณะที่ทะเลทรายในประเทศชิลีก็จะคล้ายกับสภาพของทรายในมอริทาเนียนอกจากนี้ สภาพเส้นทางบางส่วน
จะคล้ายกับเส้นทางวิ่งในเซเนกัลที่มีต้นไม้และต้นกระบองเพชรขนาดใหญ่

การแข่งขัน ดาการ์ 2009 จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 18 มกราคม 2552 ที่จะถึงนี้ โดยความคืบหน้าในการเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขัน
ในครั้งนี้นั้น มานะ พรศิริเชิด พร้อมด้วยทีมงานจะออกเดินทางสู่ประเทศสเปนในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ และเดินทางต่อไปยัง
ประเทศอาเจนติน่า ในวันที่ 28 ธันวาคม เพื่อเข้าเก็บตัวและวางแผนการแข่งขันร่วมกับทีมนักแข่งต่างๆ ในสังกัด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
และจากนั้นในวันที่ 29 – 31 ธันวาคม มานะและเพื่อนนักแข่งในสังกัด ทีม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะนำรถแข่งของแต่ละทีมเข้าตรวจเช็ค
สภาพความพร้อมครั้งสุดท้ายก่อนเริ่มออกสตาร์ทจริงในวันที่ 3 มกราคม 2552 ที่เมือง บัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนตินา






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  พฤหัสบดี, 18/12/2551 เวลา : 14:20   


คำตอบที่ 12
       Dakar News
Update 2008-12-11

มิตซูบิชิ ส่งเจ้าหนึ่ง-มานะ พร้อมผู้จัดการทีมคู่ใจบินตรงฝรั่งเศส นำรถแข่งสายพันธุ์ไทย เข้าตรวจสภาพครั้งสุดท้ายก่อนลุยศึกหนักดาการ์ แรลลี่ 2009 ต้นปีหน้า

เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศพร้อมในการส่งรถแข่งลงชิงชัย
ในการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี

ด้วยการส่งเจ้าหนึ่ง – มานะ พรศิริเชิด จ้าวพายุทะเลทรายชาวไทยหนึ่งเดียวในการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 4 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา
พร้อมด้วยผู้จัดการทีมคู่ใจ นายประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ บินตรงยังเมือง
Le Havre ประเทศฝรั่งเศส เพื่อนำรถแข่งคันใหม่สายพันธุ์ไทย Mitsubishi Pajero Sport Evolution หมายเลข 368 รถแข่ง
ที่ถูกพัฒนาการขึ้นมาจากรถ Mitsubishi Pajero Sport ที่ผลิตในประเทศไทย

เข้ารับการตรวจสภาพตามกฎระเบียบการแข่งขันกับผู้จัดการแข่งขันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนำรถแข่งคันดังกล่าวลงเรือ
ข้ามทวีปจากยุโรปสู่ทวีปอเมริกาใต้ ณ เมืองบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินาซึ่งเป็นจุดออกสตาร์ท
และจุดสิ้นสุดการแข่งขันในครั้งนี้ สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้จะเริ่มระเบิดความมันส์กันในระหว่างวันที่ 3 – 18 มกราคม 2552
ร่วมระยะทาง 9,578 กิโลเมตร 14 สเตจ โดยมานะ จะออกเดินทางพร้อมด้วยผู้จัดการทีมเพื่อทำการแข่งขันในครั้งนี้
ในวันที่ 27 ธันวาคม 2251 เพื่อทำการเข้าร่วมประชุมและวางแผนการแข่งขันกับทีมมิตซูบิชิ เรปซอล ณ กรุงเรอัล มาดริด
ประเทศสเปน พร้อมตรวจเอกสารและความพร้อมของตัวนักแข่งเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลงชิงชัยในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรก
ที่ถูกจัดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ ร่วมส่งแรงใจเชียร์นักแข่งและรถแข่งไทย ให้พิชิตชัยในการแข่งดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  พฤหัสบดี, 18/12/2551 เวลา : 14:22   


คำตอบที่ 13
       Dakar News
Update 2008-12-19

มิตซูบิชิ จัดงาน Race For Thailand ประกาศส่ง มานะ พรศิริเชิด พร้อมรถแข่งคันใหม่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ลงชิงชัยดาการ์ แรลลี่ 2009

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Race For Thailand ประกาศความพร้อมในการลงชิงชัยในการแข่งขันแรลลี่โหดระดับตำนาน “ดาการ์ แรลลี่ 2009” ที่จะระเบิดความมันส์กันในระหว่างวันที่ 3 – 18 มกราคมปีหน้า ซึ่งในครั้งนี้บริษัทฯ ยังคงยืนยันส่งมานะ พรศิริเชิด จ้าวพายุทะเลทรายหนึ่งเดียวของไทยลงแข่งขัน พร้อมรถแข่งคันใหม่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น (Mitsubishi Pajero Sport Evolution) รถต้นแบบของรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ศุภศักดิ์ ดุละลัมพะ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงการสนับสนุนนักแข่งไทยในการลงแข่งขันแรลลี่หฤโหดระดับโลก ดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี ในต้นปีหน้าว่า “กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ให้ความสำคัญและสนับสนุนทีมเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยผลักดันด้านกีฬามอเตอร์-สปอร์ตในประเทศไทย และที่สำคัญบริษัทฯ ยังให้การสนับสนุนนักแข่งไทยสู่เวทีการแข่งขันแรลลี่ระดับโลกอย่างดาการ์ แรลลี่ ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นปีที่ 11 โดยการแข่งขันในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาคือนอกจาก มานะ พรศิริเชิด จะเป็นนักแข่งไทยคนเดียวในรายการแล้ว ในส่วนของรถแข่งที่ใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ตัดสินใจส่งรถแข่งคันใหม่ คือ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น เป็นรถคู่ใจคันใหม่ของมานะอีกด้วย

สำหรับรถแข่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น คือรถแข่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับการแข่งขันในรายการดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี โดยเฉพาะ ซึ่งทีมพัฒนาจากประเทศไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่นได้พัฒนารถแข่งคันนี้โดยยึดตามกฎข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยของ FIA ซึ่งให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งของโครงสร้างด้วย Tubular flame, ระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบมาพิเศษ รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ และผ่านขั้นตอนการทดสอบและเตรียมความพร้อมของรถทั้งด้านเครื่องยนต์และระบบต่างๆ มาแล้วและพร้อมเต็มที่สำหรับการแข่งขันครั้งนี้็หา่ายไนหทดยรพกไสนรดยก ็หา่ายไนหทดยรพกไสนรดยก ยิ่งไปกว่านั้น มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
อีโวลูชั่น คือรถต้นแบบที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีมาสู่รถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่ผลิตและจำหน่ายให้คนไทยได้สัมผัสกันแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งผมเชื่อว่าการตัดสินใจส่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ลงแข่งขันดาการ์ในปีนี้น่าจะมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ โดยเฉพาะ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้เป็นอย่างดี” นายศุภศักดิ์กล่าว

การแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ เป็นการแข่งขันแรลลี่ทางไกลที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดและอันตรายที่สุดของโลกรายการหนึ่ง ซึ่งการแข่งขันในต้นปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้เป็นปีที่ 31 ของการแข่งขันแล้ว จึงนับว่าเป็นแรลลี่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และจากปัญหาภัยก่อร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 ทำให้ผู้จัดการแข่งขันต้องประกาศยกเลิกการแข่งก่อนวันออกสตาร์ทเพียง 1 วัน และเพื่อความปลอดภัยของนักแข่งทุกคนนั้น ในการแข่งดาการ์ แรลลี่ 2009 ผู้จัดการแข่งขันจึงต้องทำการเปลี่ยนเส้นทางการแข่งขันใหม่ จากเดิมที่แข่งขันจากทวีปยุโรปมุ่งหน้าสู่กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัลในทวีปอัฟริกา มาเป็นการแข่งกันในทวีปอเมริกาใต้ โดยจะเริ่มออกสตาร์ทกันที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินามุ่งหน้าสู่ประเทศชิลี และวนกลับมาเข้าเส้นชัยที่กรุงบัวโนสไอเรส

อีกครั้ง รวมระยะทาง 9,574 กิโลเมตร โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 14 สเตจ และแม้เส้นทางการแข่งขันในครั้งนี้จะเปลี่ยนไปแต่ผู้จัดการแข่งขันยืนยันว่าจะยังคงความโหดไว้ตามแบบฉบับของดาการ์ แรลลี่เช่นเดิม เพราะนักแข่งต้องเผชิญเส้นทางการแข่งขันอันทรหด ทั้งภูเขาสูงชัน หินก้อนใหญ่ ทะเลทรายอันร้อนระอุ และอุปสรรคใหม่ที่สำคัญ อีกอย่างหนึ่งก็คือนักแข่งทุกคนจะต้องแข่งขันกันบนความสูง 4,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งมีอากาศที่เบาบาง ส่งผลให้เหนื่อยง่าย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการปรับตัวสำหรับคนที่ใช้ชีวิตประจำวันบนความสูงปกติ ดังนั้นครั้งนี้นอกจากรถแข่งที่แข็งแกร่งแล้ว ตัวนักแข่งเองก็ต้องแข็งแกร่งไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารถแข่ง ถึงจะพากันฟันฝ่าอุปสรรคในครั้งนี้ได้

การแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 18 มกราคม 2552 โดยความคืบหน้าในการเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้นั้น มานะ พรศิริเชิด พร้อมด้วย ประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ จะออกเดินทางเพื่อเข้าร่วมประชุมและวางแผนการแข่งขันกับทีม “ทิบัล” (Tibau Team) และทีมใหญ่ของบริษัทแม่ ณ กรุงเรอัล มาดริด ประเทศสเปน ในวันที่ 27 ธันวาคม 2551 พร้อมตรวจเอกสารและความพร้อมของนักแข่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลงชิงชัยในครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มานะ พรศิริเชิด พร้อมด้วยผู้จัดการทีม ได้เดินทางไปยังเมือง Le Havre ประเทศฝรั่งเศส เพื่อนำรถแข่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น เข้ารับการตรวจสภาพตามกฎระเบียบการแข่งขันกับผู้จัดการแข่งขันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะนำรถแข่งคันดังกล่าวลงเรือข้ามทวีปจากยุโรปสู่ทวีปอเมริกาใต้ ณ เมืองบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันและร่วมส่งแรงใจเชียร์นักแข่งไทย “มานะ พรศิริเชิด” และ “รถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368” ให้พิชิตชัยในการแข่งดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี ในครั้งนี้ได้ทาง www.pajerosport2dakar.com หรือ www.dakar.com และทางหนังสือพิมพ์รวมไปถึงรายการข่าวกีฬาของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง







vps1992 จาก กุ้ง  124.121.141.70  เสาร์, 20/12/2551 เวลา : 11:51   


คำตอบที่ 14
       Update 2009-01-04

รายงานการแข่งขัน Day 2 - Stage 2 Sta Rosa de la Pampa ถึง Puerto Madryn

สเตจนี้ออกสตาร์ทกันที่เมือง ลา ปามปา มุ่งหน้าสู่ เปอร์โต มาดริน โดยมีช่วงทดสอบพิเศษ 237 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 837 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นสเตจที่ยาวที่สุดของการแข่งขันในครั้งนี้


เข้าสู่วันที่สองของการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี โดยสเตจนี้ออกสตาร์ทกันที่เมือง ลา ปามปา มุ่งหน้าสู่ เปอร์โต มาดริน โดยมีช่วงทดสอบพิเศษ 237 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 837 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นสเตจที่ยาวที่สุดของการแข่งขันในครั้งนี้ แต่ผู้จัดการแข่งขันได้เผยว่าสเตจนี้จะเป็นสเตจที่เหมาะอย่างยิ่งที่นักแข่งจะสามารถทำเวลากันได้ดี เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นทางลาดยางที่ง่ายต่อขับขี่ จึงเป็นสเตจที่เหมาะสำหรับการอุ่นเครื่องของนักแข่งทุกคน เพื่อปรับสภาพให้ชินกับการขับเคี่ยวที่กำลังจะมาถึง

มานะ พรศิริเชิด และเธียรี่ ลาคอมบ์ เนวิเกเตอร์ สองนักแข่งจากสังกัด มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ กับรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลย 368 ในสเตจนี้ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งที่ 56 แต่มานะก็ต้องเผชิญกับความโหดและภาพลวงตาอันขึ้นชื่อของดาการ์ แรลลี่ ที่ตรงข้ามกันกับสิ่งที่ผู้จัดการแข่งขันได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ จนทำให้จบสเตจนี้ในอันดับที่ 105 ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 41 นาที 36 วินาที ส่งผลอันดับในเวลารวมหล่นมาอยู่ที่ 96 ด้วยเวลา 9 ชั่วโมง 3 นาที 29 วินาที ตามหลังผู้นำคาร์ลอส แซงค์ สังกัดโฟล์คสวาเกน อยู่ 4 ชั่วโมง 28 นาที 35 วินาที






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  พฤหัสบดี, 8/1/2552 เวลา : 09:34   


คำตอบที่ 15
       Update 2009-01-05

รายงานการแข่งขัน Day 3 - Stage 3 จากเมือง Puerto Madryn ถึง Jacobacci

หลังจากที่เมื่อวานเจ้าหนึ่งมานะ พรศิริเชิดพลาดท่า ทำตำแหน่งร่วงลงไปจากอันดับที่ 51 มาอยู่ในอันดับที่ 105 ของสเตจ และอดันดับที่ 96 ของรุ่นเวลารวม โดยที่ในช่วงแรกของสเตจสามารีถที่จะทะลุขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 34 แต่ไม่สามารถที่จะรักษาตำแหน่งนั้นไว้จนจบสเตจ รถปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ต้องประสบปัญหาในทางแข่งขัน เพราะมีรถแข่งหลายสิบคันที่ติดอยู่ในเส้นทางหลุมทรายอันหฤโหด ทำให้เจ้าหนึ่งและเทียร์รี่ ต้องเปิดเส้นทางวิ่งใหม่ ซึ่งในสภาพทางที่รถแข่งติดอยู่นั้นค่อนข้างแคบผนวกกับจังหวะการเร่งเครื่องเพื่อให้หลุดจากหลุมทรายนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เจ้าหนึ่งและเทียร์รี่ จึงต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับนักแข่งอีกหลายสิบคันที่ไม่สามารถพาตัวเองให้หลุดจากหลุมทรายได้

เท่านั้นยังไม่พอ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเจ้าหนึ่งอีกครั้งเมื่อรถทรัค พุ่งเข้ามาชนด้านท้ายของ ปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่นทำให้เกิดความเสียหายพอสมควรแต่ ยังสามารถที่จะทำการแข่งขันต่อได้ จนกระทั่งจบสเตจ เจ้าหนึ่งสามารถที่จะหลุดจากหลุมทรายออกมาได้ในอันกับที่ 109 ของสเตจ และกลับเข้าถึงแคมป์ในเวลาประมาณ 10:30น. ทางทีมงานได้เร่งทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของรถเพื่อที่จะให้พร้อมในการแข่งขันในวันต่อไป

ด้านความเคลื่อนไหวในสเตจที่ 3 เจ้าหนึ่งมานะ ได้เริ่มออกสตาร์ทจากเมือง Puerto Madryn ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.30 เจ้าหนึ่งได้เร่งเครื่องเต็มที่เพื่อทำเวลาที่หายไปกลับคืนมา โดยในช่วงจับเวลาพิเศษกิโลเมตรที่ 47 สามารถไต่จากอันดับ 105 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 64 และ ไต่ขึ้นมาถึงอันดับที่ 39 ในกิโลเมตรที่ 143 โดยขณะนี้เวลา ณ เมือง Jacobacci เป็นเวลา 15.oo น. และกำลังรอผลคืบหน้าของการแข่งขันในวันนี้ต่อไป





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  พฤหัสบดี, 8/1/2552 เวลา : 09:35   


คำตอบที่ 16
       Update 2009-01-06

รายงานการแข่งขัน Day 4 - Stage 4 จากเมือง Jacobacci ถึง Neuquen

ระยะทางรวม 488 กม. , ช่วงจับเวลาพิเศษ 459 กม.

หลังจากเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2552 เจ้าหนึ่ง มานะ พรศิริเชิดนำรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 เข้าสู่จุดสิ้นสุดของช่วงจับเวลาพิเศษได้ในอันดับที่ 107 ของสเตจ ด้วยเวลา 8:13:59 ชม. ตามหลังผู้นำอยู่ 3:44:32 ชม. โดยทำให้อันดับในรุ่นเวลารวมตกมาอยู่ที่ 99 ด้วยเวลา 17:17:20 ตามหลังผู้นำอยู่ 8:12:32 ชม.

โดยในสเตจที่ 4 เส้นทางในช่วงแรกจะเป็นทางที่เต็มไปด้วยหินและก้อนกรวดขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และจากนั้นจึงได้สัมผัสกับช่วงเส้นทางที่เป็นทรายระยะทางยาว และมีกับดักหลอกล่อนักแข่งอยู่ที่ปลายทางเข้าสู่เมืองเนอูเก็นโดยจะมีเครื่องหมายให้สังเกตุเส้นทางน้อยลง แน่นอนว่าได้เวลาพิสูจน์ความสามารถของเนวิเกเตอร์ในช่วงนี้

ทั้งนี้ ในเช้าวันนี้รถแข่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ได้รับการซ่อมแซมจนอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมแข่งอีกครั้ง โดยได้กระโจนออกจากจุดสตาร์ทตั้งแต่เวลา 9:45 เจ้าหนึ่งสามารถทำเวลาขึ้นมาได้ดี โดยไต่จากอันดับที่ 108 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 52 ที่เวลา 1:56 ของเวลาท้องถิ่น ณ เมือง เนอูเก็น ที่จุดเช็คพอยท์ที่หนึ่ง และสามารถเข้าเช็คพอยท์จบสเตจได้ในอันดับที่ 57 โดยใช้เวลาทั้งหมดในวันนี้ 5:31:55 ชม. สำหรับอันดับในเวลารวมนั้นขยับขึ้นมาจาก 99 ขึ้นมาอยู่ที่ 69 ในรุ่นเวลารวม ด้วยเวลา 22:49:15 ชม. ตามหลังผู้นำอยู่ 10:01:30 ชม. ซึ่งถือว่าวันนี้เจ้าหนึ่งทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ

ด้านนายประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีมได้กล่าวถึงสถานการณ์การแข่งของเจ้าหนึ่งมานะที่สามารถทำผลงานได้ดีขึ้นว่า “หลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการณ์ของทีมหลังจากสเตจที่ 3 ซึ่งผมเชื่อว่าเจ้าหนึ่ง และเทียร์รี่ เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น เพราะโดยปกติส่วนตัวของเจ้าหนึ่งเมือทำการแข่งขันในประเทศนั้น ต้องการข้อมูลในเส้นทางมาก ๆ เพื่อที่จะคำณวณด้วยตัวเอง ก่อนที่จะปรึกษากับผู้นำทางอีกครั้ง ซึ่งเท่าที่ผ่านมา เส้นทางแข่งดดยมากจะเป็นบล๊อค และเส้นทางบังคับ ให้วิ่งไปตามทาง จะมีทางแยกบ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นทางหลัก คล้าย ๆ กับบ้านเรา ผิดกันตรงที่สภาพทางเป็นฝุ่นทรายมากกว่าลูกรัง”

“สำหรับในวันพรุ่งนี้ เรายังคงให้ใช้แผนเดิม เพื่อปรับความเช้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ก่อนที่จะออกไปสู่พื้นผิวทะเลทรายเต็มรูปแบบนั้น เจ้าหนึ่ง และ เทียร์รี่ ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนัก หรือแม้แต่ในวันมาราธอนก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เรายังมีเวลาอีกเกือบสองสัปดาห์ของการแข่งขัน ดาการ์ 2009”






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  พฤหัสบดี, 8/1/2552 เวลา : 09:38   


คำตอบที่ 17
       Update 2009-01-06

Route of the day : สเตจที่ 5จากเมืองเนอูเก็น – ซาน ราฟาเอล ระยะทางรวม 763 ช่วงจับเวลาพิเศษ 506

Team Manager planning Stage 5

ในสเตจที่ 5 ซึ่งเท่าที่อ่านดูจากคู่มือการแช่งขัน มันไม่น่าจะง่ายเลยในช่วงแรกของวัน ซึ่งในวันนี้จะเต็มไปด้วยเส้นทาง แคบ ๆ พอดีคันรถซึ่งลักษณะทางคล้าย ๆ กับทางลูกรังในบ้านเรา แต่พื้นผิวนั้นคือฝืนทรายนุ่ม ๆ ของทะเลทราย Patagonia ซึ่งความโหดร้อยนั้นเหนือกว่า ซาฮาร่า ทั้งเนินทรายที่สูง ลมแรง เพียงแต่ขนาดนั้นแคบกว่าเท่านั้นเอง

ในวันนี้เราออกเดินทางจาก Neuquen ตั้งแต่ตอน 6:00 น. ตามเวลาของอาเจนติน่า โดยในวันนี้เจ้าหนึ่ง มานะ และเทียร์รี่ พร้อมด้วยปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 จะออกสตาร์ทในเวลาประมาณ 9:00 น. ผมออกเดินทางโดยเครื่องบิน ระยะเวลาประมาณ 1 ชัวโมง เราก็ใมาถึงเมือง San Rafael ซึ่งเมืองแห่งนี้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ทางประเทศอาเจนติน่า ใช้ในการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่ง, ตกปลา, รถ 4x4 หรือแม้แต่ การเที่ยวชมไร่องุ่น ที่ไว้ใช้ในการผลิตไวน์อาเจนติน่า ซึ่งนั่นหมายถึง อาการที่กำลังดี ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไปสำหรับองุ่นพันธ์ดีที่ใช้ในการผลิตไวน์

สำหรับการวางแผนในสเตจนี้ เรามองไว้ว่า ถ้าโชคเข้าข้าง รถปปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น ออกสตาร์ทในกลุ่มกลาง ๆ ซึ่งค่อนข้างโชคดีอยู่นิดหน่อยในด้านของเส้นทางวิ่ง ที่ยังไม่บอบช้ำมากเกินไปนัก แต่นั่นต้องดูด้วยว่า เจ้าหนึ่งจะต้องวิ่งต่อท้ายรถ 6 ล้อหรือเปล่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นปัญหาของเจ้าหนึ่ง เพราะนอกจากฝุ่นที่จะฟุ้งจนมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าแล้ว โอกาสที่รถ 6 ล้อจะติดในเส้นทางก็มี ซึ่งนั่นจะทำให้เส้นทางที่วิ่งค่อนข้างช้ำมาก ๆ และโอกาสที่ติดในเส้นทางทรายก็มีมากเช่นเดียวกัน แต่ถ้าโชคเข้าข้าง เจ้าหนึ่ง ไม่ต้องวิ่งตามรถ 6 ล้อ แต่ก็ต้องผจญภัยกับฝูงมอเตอร์ไซค์ และรถ ควอต์ อย่างไรก็ยังดีกว่าที่จะติดรถ 6 ล้อ

ผมพยายามให้ เทียร์รี่ พูดกับเจ้าหนึ่งมาก ๆ โดยบอกลักษณะเส้นทางที่พบเห็น ระยะที่ระบุในใบนำทาง ทิศทางของGPS + way point พิกัด ซึ่งในบางช่วงเจ้าหนึ่ง สามารถที่จะตัดออกจากเส้นทางที่มีรถติดหล่มทรายอยู่ และยังอยู่ในพิกัดของ way point ซึ่งจะทำให้ไม่เสียโทษปรับ หากไม่ผ่าน อีกทั้งในเส้นทางแข่งขัน ที่คล้ายกับการแข่งขันรถยนต์แรลลี่ สปริท์ ซึ่งเจ้าหนึ่งจะมีความชำนาญในเส้นทางแบบนี้เป็นพิเศษ สามรถที่จะทำความเร็วได้ดี และไล่แซงนักแข่งคันอื่น ๆ ได้ในเส้นทางแบบนี้

ในวันนี้ รถคันแรกจะทำการสตาร์ทในช่วงทดสอบพิเศษที่มีความยาว 506 กิโลเมตร เส้นทางทรายละเอียด สลับกับทางลูกรังบ้างเล็กน้อย โดยรถคันแรกน่าจะจบช่วงทดสอบพิเศษในเวลาประมาณ 15:06 น. และเข้าถึงแค้มป์ประมาณ 17:06. นั่นหมายถึงเจ้าหนึ่ง น่าจะมาถึงแคมป์ ในเวลาประมาณ 20:30 น.






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  พฤหัสบดี, 8/1/2552 เวลา : 09:40   


คำตอบที่ 18
       Update 2009-01-08

Route of the day : stage 6 Team Manager Talking

หลังจากที่ในสเตจที่ 5 ซึ่งสตาร์ทจากเมือง Neuquen - San Rafael ระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร มีรถแข่งในสเตจที่ 5 จำนวน 151 คัน (เฉพาะรถยนต์) ผ่านจุด CP 1 ได้เพียง 112 คัน จาก โดยเจ้าหนึ่ง มานะ ผ่านจุดนี้ ในอันดับที่ 91 จาก CP 1 – CP 2 ระยะทาง 70 กิโลเมตร มีรถผ่านได้เพียง 93 คัน และ ออกมาจนจบการแข่งขันเพียงแค่ 32 คันเท่านั้น จากจุดสุดท้ายต้องวิ่งอีก กว่า 300 กิโลเมตร กลับมาถึงแคมป์ ได้เพียง 28 คัน !! นั่นน่าจะเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่ากลัวของ ดาการ์ 2009

ตัวเลขดังกล่าว ทำให้ทางผู้จัดต้องปรับกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน เพราะนี่คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ หากมีรถแข่งเหลือเพียง 28 คัน แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า ทะเลยทราย Patagonia นั้นโหดร้ายไม่แพ้ ซาฮาร่า อย่างที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งรถยิ่งวิ่งมาก ทางแข่งยิ่งช้ำ จนกระทั่งไม่สามารถที่จะเดินทางต่อไปได้ ดังนั้น ผู้จัดจึงประกาศยกเลิกสเตจดังกล่าว ออกไปซึ่งประกาศนี้มีผลเมื่อประมาณ 20:00 น อาเจนติน่า และได้เริ่มทำการช่วยเหลือรถแข่งทุกคันที่ยังคงจติดอยู่ในเส้นทางการแข่งขัน ให้ออกมาให้หมด ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้
ซึ่งเมื่อคืนนี้ ทางทีมงานได้ฝ้าติดตามรถของเจ้าหนึ่งมานะ มาตลอดทั้งวัน ซึ่งโดยปกติเจ้าหนี่ง จะโทรเข้ามารายงานให้ผมทราบตลอดหากรถมีปัญหาหรือเกินกว่าที่เขาจะซ่อมแซมมันได้ ผมเฝ้าติดตามตั้งแต่สตาร์ทจนผ่าน CP 1 มาอยู่ในอันดับที่ 91 และเฝ้ารออีกกว่า 4 ชั่วโมง ไม่มีการเคลื่อนไหวไปยัง CP 2 ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าหนึ่งกำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรง

จนกระทั่งประมาณ 19:30 น. ผมได้รับโทรศัพท์ จากเจ้าหนึ่ง มานะ ว่า รถจมติดอยู่ในหล่มทรายลึก ไม่สามารถนำรถขึ้นมาได้ อีกทั้งยังมี รถแข่งคันอื่น ๆ ที่ติดอยู่ด้วยเช่นกัน และขอให้ประสานงานขอความช่วยเหลือไปยังจุดเซอร์วิส 24:00 น. เทียร์รี่ โทรติดต่อเข้ามาอีกครั้งยังจุดเซอร์วิส บอกว่า ยังไม่สามารถที่จะหลุดออกมาได้ โดยทางเราได้บอกว่า สเตจนี้ ยกเลิก ดังนั้นให้พยายามหลุดออกมาและวิ่งทางปกติมายังแคมป์ เพื่อซ่อมแซมและแข่งในวันรุ่งขึ้น ซึ่งโชคยังไม่เข้าข้างเรา รถที่ผู้จัดได้พยายามเก็บกู้รถที่ติดอยู่ในทราย เป็นรถทรัค 4 ล้อ ซึ่งมีกำลังไม่เพียงพอที่จะลากรถ ปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น ขึ้นมาจากผืนทรายที่นุ่มได้ โดยทางเจ้าหน้าที่บอกว่า พรุ่งนี้เช้าจะนำรถทรัค 6 ล้อมาลาก ออกเพื่อให้วิ่งบนทางปกติ

ล่าสุดประมาณ 8:00 น. ผมได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหนึ่ง มานะ ว่ารถทรัค ยังไม่มาลากนั่นเท่ากับว่า เจ้าหนึ่งยังคงติดอยู่ในทะเลทราย! ซึ่งทางผมได้ประสานงานกับทางผู้จัดการแข่งขัน เรื่องของนักแข่งที่ยังติดอยู่ในเส้นทาง โดยทางผู้จัดบอกว่า “วันนี้จะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ว่านักแข่งที่ติดอยู่ในเส้นทางจะสามารถทำการแข่งขันต่อได้หรือไม่ เนื่องจากมีจำนวนมากเกินไป” ซึ่งเท่ากับว่า โชคเริ่มเข้าข้างเราบ้างวันนี้ ผมอยู่ที่เมือง Mendoza ซึ่งห่างจาก San Rafael ประมาณ 300 กิโลเมตร บนทางปกติ ผมบอกให้เจ้าหนึ่ง ขับ รถจากเมือง San Rafael มายัง Mendoza ทันทีหลังจากที่ออกมาได้ เพื่อที่จะทำการซ่อมเซมเต็มรูปแบบ อีกครั้ง ซึ่ง ณ. ตอนนี้ ผมยังคงต้องนั่งรอเจ้าหนึ่ง มานะ ต่อไป

ซึ่งตอนนี้เราเริ่มสั่งอะไหล่ชุดใหม่จากฝรั่งเศสส่งตรงมาที่ประเทศชิลี เพื่อทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับทางผู้จัดการแข่งขันว่าจะให้รถเราสามารถที่จะวิ่งแข่งขันต่อได้หรือไม่ น่าเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ยังคงต้องรอคอย






vps1992 จาก กุ้ง  124.121.140.109  อาทิตย์, 11/1/2552 เวลา : 17:12   


คำตอบที่ 19
       Update 2009-01-09

Route of the day : stage 7 Mendoza – Valparaiso - Chile Liaison 80 Km. – Stage 419 Km. – Liaison 317 Km.

Team Manager Talk

เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมเต็มไปด้วยความเสียใจ / ดีใจ / และกังวลใจ ที่ต้องเสียใจเพราะว่า เราได้รับข่าวร้ายจากผู้จัดการแข่งขันว่า รถที่ไม่ผ่านในสเตจที่ 5 / 6 นั้น ไม่สามารถที่จะทำการแข่งขันต่อได้ แม้ว่า สเตจดังกล่าวจะถูกยกเลิกก็ตาม ซึ่งรวมถึงเจ้าหนึ่งมานะ กับรถปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ซึ่งเป็นหมายเลขถูกโฉลกของหลายๆ คน เจ้าหนึ่งต้องติดอยู่ในเส้นทางในสเตจที่ 5 ท่ามกลางพื้นทรายและหิมะ ซึ่งต้องสลับกันนอนระหว่าง เจ้าหนึ่งและเทียร์รี่ เพื่อที่จะ ก่อกองไฟให้อบอุ่น ไร้ซึ่งอาหารและน้ำจะมีเพียงแค่อาหารยังชีพที่ติดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

รถช่วยเหลือที่เข้ามาช่วยเจ้าหนึ่งนั้น ต้องให้การช่วยเหลือรถแข่งอีกหลายคันที่ติดอยู่ ในเส้นทาง และเมื่อมาถึงเจ้าหนึ่งกลางดึก ปรากฏว่า รถช่วยเหลือดังกล่าว ไม่สามารถดึงเจ้าหนึ่งขึ้นมาได้เพราะไม่มีกำลังเพียงพอ ต้องรอรถช่วยเหลือซึ่งเป็นรถ 6 ล้อเข้ามาลากออก ซึ่งกว่าที่รถใหญ่ขนาดนั้นจะมาช่วงเวลาก็เข้ามาถึง 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ส่งผลให้ เจ้าหนึ่งไม่สามารรถที่จะมาถึงสเตจที่ 5 และออกสตาร์ทในสเตจที่ 6 ได้

เจ้าหนึ่งกลับเข้ามาถึงแคมป์สเตจที่ 5 ในเวลาบ่าย เพราะต้องวิ่งในเส้นทางแข่งขันออกมากว่า 200 กิโลเมตร และวิ่งบนถนนลาดยางอีก 400 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากซ่อมบำรุงรถเพียงเพื่อให้สามารถที่จะวิ่งต่อจากเมือง San Rafael มายังเมือง Mendoza ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร เจ้าหนึ่งเข้ามาเช็คอินที่แคมป์สเตจที่ 6 เวลาประมาณ 2 นาฬิกาของวันใหม่

ระหว่างนั้นทางผมและทีมงาน ได้พยายามเจรจากับผู้จัดการแข่งขันเพื่อที่จะขอให้เข้าหนึ่ง สามารถที่จะทำการแข่งขันต่อได้ในสเตจที่ 7 ซึ่งยังไม่เป็นผล เนื่องจากไม่ได้เข้ามาเช็คอินในสเตจที่ 5 และ ไม่ได้ออกสตาร์ทในสเตจที่ 6 ซึ่งหากมองตามกติกาก็คือ ต้องออกจากการแข่งขัน ผมหาหลากหลายวิธีในการเจรจาซึ่งไม่เป็นผลใด ๆ ทั้งสิ้น ทางผู้จัดยืนยันว่า ไม่สามารถที่จะทำการแข่งขันต่อได้ ซึ่งแน่นอน ผมและทีมงาน เริ่มเก็บของเตรียมตัวที่จะมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงของอาเจนติน่า บัวโนสไอเรส เพราะไม่อยากที่จะต้องบินไปประเทศชิลี แล้วบินกลับอาเจนติน่า

โชคเริ่มเข้าข้างเราตอนรุ่งเช้า เจ้าหนึ่งกลับมาถึงแคมป์ที่เมือง Mendoza ตอนตีสอง ลงเวลาเข้า และข่าวดีก็ปรากฏ “เวลาสตาร์ทของคุณวันพรุ่งนี้คือ 9:12:30” นั่นหมายความว่า เราสามารถที่จะทำการแข่งขันต่อได้ นั่นคงเป็นสิ่งที่ผมต้องบอกว่าเราดีใจเหลือเกินที่เรายังคงอยู่ในการแข่งขัน แม้ว่าอันดับจะไม่ดี มีเวลาเปรียบเทียบปรับ ก็ตาม สำหรับ สิ่งที่กังวลใจ ก็คือ วันนี้สเตจค่อนข้างยาว เส้นทางโหดร้ายเหลือเกิน สำหรับ ดาการ์ ครั้งนี้ ผมว่ามันโหดร้ายกว่าอาฟริกาที่ผ่านมา เส้นทางทรายนุ่ม แคบ ๆ วิ่งกันฝุ่นกระจาย มองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้าและหาจังหวะในการแซงยาก แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะสามารถทำมันได้ครับ

ในด้านของรถแข่ง คืนที่ผ่านมาช่างของทีม ได้ทำการปรับแก้ไขสิ่งที่เสียหาย เพื่อให้รถสามารถที่จะวิ่งได้อย่างเต็มที่อีกครั้งก่อนที่เราจะทำการบูรณะกันใหม่ทั้งหมดที่ Valpariso – Chile วันนี้ ผมหวังที่จะได้เห็นเจ้าหนึ่งมาในสภาพที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง






vps1992 จาก กุ้ง  124.121.140.109  อาทิตย์, 11/1/2552 เวลา : 17:17   


คำตอบที่ 20
      

ติดตามข่าวทุกวันครับ...เห็นข่าวบอกว่าหลุดแล้ว

กลับมาต่อได้ก็ยินดีด้วยครับ
ตำแหน่งช่างมันเถอะ
ขอให้ไปถึงปลายทางได้ก็สุดยอดแล้วนะ

น้องหนึ่งยังมีเวลาล่าฝันอีกหลายปี



สงสัยติดหลุมทรายเพราะเราลงรูปผิด
ตั้งใจจะลงรูปนี้อ่ะ






blue_sushi จาก βlue$ushi™  117.47.243.247  จันทร์, 12/1/2552 เวลา : 08:18   


คำตอบที่ 21
       ผ่าน SS8 ไปแล้ว ( SS8 เราเข้าที่32 ) อันดับในโอเวอร์ออล อยู่ที่74 รุ่นT1.2 เวลารวม 72:54:45
ตามหลังผู้นำ +45:24:46
ผมติดตามข่าวในเวปของแรลลี่อาร์ทครับ
http://www.ralliart.co.jp/motorsports/e/09dakar/report/08.html>



จาก No.17 nologin  124.121.18.76  จันทร์, 12/1/2552 เวลา : 15:04   


คำตอบที่ 22
       Update 2009-01-10

Rest Day : Team Talk Valparaiso – Chile

ในสเตจ 7 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นความโชคดีของเจ้าหนึ่ง และทีมงานที่ยังคงได้ทำการแข่งขันต่อในดาการ์ 2009 ซึ่งในปีนี้จะเห็นได้ว่า การแข่งขันค่อนข้างที่จะโหดร้ายทารุณ แม้กระทั่งทีมใหญ่ ๆ ของมิตซูบิชิ เอง ยังต้องนั่งคิดกันอย่างหนัก ตั้งแต่ มัสสุโอกะ / ลุค อัลฟาน / ปีเตอร์ อองเซลส์ ขณะนี้เหลือเพียง นานี่ โรมา เท่านั้นเอง ในขณะที่คู่แข่งที่น่ากลัวอย่างโฟลค์สวาเกน ปีนี้แววค่อนข้างแจ่มใส น่าจะไเด้แชมป์ ดาการ์กับเขาสักสมัยหลังจจากที่ลงทุนมาหลายปีไม่ประสบความสำเร็จ หรือบีเอ็มดับบลิว ซึ่งฟอร์มดีในช่วงแรก ๆ พอวันหลัง ๆ ก็หายไปทีล่ะคัน

มาทางด้านเจ้าหนึ่งมานะ ในสเตจที่ผ่านมา ออกสตาร์ทในอันดับที่ 93 ติดทรายบ้าง ตัดเส้นทางใหม่บ้าง จนตอนนี้สภาพรถด้านหน้านั้น หมดความหล่อไปเยอะครับ เพราะเท่าที่สอบถามเจ้าหนึ่ง บอกว่า “ทางค่อนข้างแคบ พอมีรถติดในเส้นทางเราก็ต้องหาทางวิ่งใหม่ หรือบางทีผมเห็๋นแล้วว่าทางที่เราจะวิ่งไปนั้นมันไปไม่ได้ จึงต้องยอมที่จะเปิดทางใหม่” สภาพรถจึงออกมาอย่างที่เห็น ๆ ในสเตจที่ผานมาก็ทำเวลาได้ไม่ค่อยดีนักครับ ตอนนี้พยายามวิ่งเพื่อให้เรามาถึง ชิลี ก่อน เพื่อเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด ก่อนที่จะลุยกันอย่างหนัก ๆ ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเจ้าหนึ่ง ก็สามารถที่จะทำอันดับในสเตจที่ 7โดยจบการแข่งขันในอันดับที่ 79 ผลรวม 81 โอเวอร์ออลใช้เวลาไปทั้งสิ้น 68:15:02
ในวันที่หยุดการแข่งขัน ทางทีมงานเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการถอดชิ้นส่วนของรถออกมาเพื่อเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดระบบขับเคลื่อน / หัวฉีด / ระบบน้ำมันหล่อลื่นทั้งระบบที่ได้รับการสนับสนุนจาก ปตท. / ระบบส่งกำลัง / ชุดช่วงล่าง / ระบบระบายความร้อน

ถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงยังส่งแรงใจเชียร์มานะ และปาเจโร่ สปอร์ต ให้วิ่งจนจบการแข่งขันในดาการ์ 2009 ซึ่งความคิดส่วนตัวผมนั้น ผมเชื่อมั่นว่า อย่างไรก็ตามเราต้องวิ่งจนจบการแข่งขันอย่างแน่นอน แต่ในอันดับที่เราคาดหวังไว้นั้นคงเลือนลางพอสมควร เพราะสภาพเส้นทางแตกต่างจากอาฟริกาโดยสิ้นเชิง แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังคงสู้ต่อไปแบบคนไทยหัวใจสิงห์ครับ เพราะนี่คือ Race for Thailand






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  จันทร์, 12/1/2552 เวลา : 15:52   


คำตอบที่ 23
       Updete 2009-01-11

Route of the day : stage 8 - Valparaiso – La Serena, Liaison 245 Km. Stage 294 Km. Road Section 113 Km.

Team Manager Talk

เข้าสู่สัปดาห์ที่สองของการแข่งขัน ดาการ์ 2009 อย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่เราพักผ่อนกันหนึ่งวันเพื่อทำการบูรณะรถแข่งใหม่ทั้งคัน วันที่ผ่านมาผมเชื่อว่าประชาชนในเมือง Valparaiso กว่า แสนคนรายล้อมดาการ์ แคมป์ หลาย ๆ คนมาชมรถแข่ง นักแข่ง ทีมงาน ต่างชื่นชมยกย่องต่าง ๆ นา ๆ แม้กระทั่งสื่อมวลชนในประเทศชิลี ยิ่งรู้ว่า เรามาจากประเทศไทยด้วยแล้ว ยิ่งชื่นชม ทั้งประเทศที่สวยงาม และพระมหากษัตย์อันเป็นพระประมุขของชนชาวไทยเรา ซึ่งผมไม่แน่ใจนักว่าประเทศชิลี มีระบอบการปกครองแบบใด แต่ต้องบอกว่า เป็นประเทศที่มีเสน์ห อย่างหนึ่งทีเดียว ไม่ว่าจะรูปแบบของเมือง หรือค่าครองชีพที่ถูกกว่าบ้านเรามาก ๆ

ในสเตจที่ 8 นี้ หลังจากที่เราได้ทำการบูรณะรถใหม่ทั้งคัน ซึ่งทั้งผม เจ้าหนึ่ง และ เทียร์รี่ ต่างเข้ามานั้งหารือปรึกษาวางแผนการขับและการนำทางของรถแข่งหมายเลข 368 ในสเตจที่ 8 นี้ เจ้าหนึ่งบอกว่า เมื่อสเตจที่ 7 ที่ผ่านมา “ตอนติดทรายน่ะพี่ ผมน่ะจะเป็นลม เหนื่อยแทบขาดใจ สงสารก็แต่เทียร์รี่ ที่จะต้องคอยขุด ดัน เก็บเพลท ต่าง ๆ นา ๆ ให้ผม ต้องบยอมรับว่า ปีนี้ เหนื่อยมากครับ”

ทางด้านเทียร์รี่ บอกว่า เส้นทางที่วิ่งเป็นทางบังคับ โดยสว่นมาก แล้วก็เป็เนินตลอดเส้นทาง เราไม่สามรถที่จะวิ่งด้วยความเร็วได้เลย เพราะกลัวว่าจะไปปะทะกับรถคันหน้าที่ติดอยู่ในเส้นทาง และการนำทางของผมเป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมองเส้นทางค่อนข้างยาก บางครั้ง ผมก็เลยทางเลี้ยวเหมือนกันเพราะมองไม่เห็นมาร์คที่อยู่ข้างทางเช่นก้อนหินใหญ่ หรือป้าย แต่เราก็เลยไปไม่มากซึ่งสามารถกลับมาอยู่ในเส้นทางได้เหมือนเดิมในเวลาอันจำกัด

สเตจ 8 นี้ เรามองว่า อาจจะดีขึ้นบ้าง เพราะเริ่มวอล์มกันอีกครั้งบนเส้นทางลูกรัง ซึ่งเป็นทางถนัดของเจ้าหนึ่ง ดังนั้นในวันที่ผ่านมา ผมให้เทียร์รี่ ทำงานค่อนข้างหนัก ตั้งแต่ประชุมนักแข่งเรื่องเส้นทาง การทำมาร์ค บนใบนำทาง ซึ่งในวันนี้ ถ้าเราไม่มีปัญหาเรื่องติดในทราย หรือติดฝุ่นมากนัก อันดับเราน่าจะขยับขึ้นมาดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แน่นอน ถึงวันนี้เราแค่ต้องการให้เราวิ่งจบการแข่งขันเท่านั้นเป็นพอ ซึ่งผมไม่ได้กลับไปมองที่อันดับโอเวอร์ออลแต่ถ้าหากได้มา เราก็ถือว่านั่นคือโบนัสครับ





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  จันทร์, 12/1/2552 เวลา : 15:53   


คำตอบที่ 24
       Update 2009-01-12

รายงานผลการแข่งขันสเตจที่ 8 จากเมือง Valparaiso ถึงเมือง La Serena

วันที่ 11 มกราคม 2552 - เวลา 17.00 ตามเวลาท้องถิ่นของเมือง La Serena ประเทศชิลี

เมือง La Serena ประเทศ ชิลี – หลังจากพบกับอุปสรรคมากมายจนเกือบจะต้องออกจากการแข่งขัน แต่เจ้าหนึ่งของเราก็ผ่านสเตจ 7 มาได้อย่างปาฏิหาริย์ และรั้งตำแหน่งอยู่ในอันดับที่ 79 ของสเตจ และที่ 94 รุ่นเวลารวม จากนั้นจึงได้หยุดพักผ่อนและซ่อมแซมรถหนึ่งวันในช่วงวันพักผ่อนที่ผู้จัดได้กำหนดไว้ เจ้าหนึ่งพร้อมกระโจนสู่สนามอีกครั้งของเส้นทางในสเตจที่ 8 มุ่งหน้าสู่เมือง La Serena โดยวันนี้เจ้าหนึ่งพร้อมออกสตาร์ทตั้งแต่เช้าเวลา 7:18 ซึ่งสภาพเส้นทางในวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสนามดินลูกรัง ซึ่งถือว่าเป็นสภาพสนามที่มีความคล้ายคลึงกับสนามแข่งในประเทศไทยมาก ซึ่งเจ้าหนึ่งมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีจึงถือโอกาสเร่งเครื่องทำเวลาขึ้นมาจากการออกสตาร์ทอันดับที่ 76 กระโจนข้ามมาอยู่ในอันดับที่ 40 ในจุดเช็คพอยท์ที่ 1 ที่เวลา 15:32:43 และจึงทำเวลาตีตื้นขึ้นมาสู่อันดับที่ 32 ในจุดสิ้นสุดของช่วงจับเวลาพิเศษในวันนี้ โดยใช้เวลาไปทั้งหมด 4.39.43 ชม. ตามหลังผู้นำ อันดับ 1 ในสเตจที่ 8 คาร์ลอส แซงค์ อยู่ 52.24 นาที

ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางในวันพรุ่งนี้จะออกสตาร์ทจากเมือง La Serena ไปที่เมือง Copiapo ระยะทางรวม 537 กม. ช่วงจับเวลาพิเศษ 449 กม. โดยมอเตอร์ไซด์จะออกสตาร์ทคันแรกที่เวลา 5:25 และรถยนต์จะเริ่มสตาร์ทคันแรกที่เวลา 7:01 ซึ่งสภาพเส้นทางในสเตจนี้จะมีส่วนผสมของหลายภูมิประเทศ โดยเริ่มจาก 100 กม. แรกจะเป็นเส้นทางดินและหินกรวดขนาดใหญ่ และหลังจากกม. ที่ 131 ถึง 218 จะเริ่มผ่านเส้นทางที่มีทะเลทรายมากขึ้น และหลังจากนั้นจะต้องผจญกับเส้นทางทะเลทรายแบบเต็มรูปแบบ ที่กม. 235 จากนั้นจึงกลับมาเป็นเส้นทางทรายที่ผสมกับกรวดอีกครั้งก่อนจบช่วงจับเวลาพิเศษ โดยในสเตจที่ 8 นี้มีแม้ว่าระยะทางอาจจะไม่ยาวนักแต่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสเตจที่มีความยากเพราะมีจุดเช็คพอยท์ถึง 5 จุดด้วยกันดังนั้นนักแข่งจึงไม่สามารถตัดเส้นทางเพื่อแซงได้อย่างง่ายดายนัก





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  จันทร์, 12/1/2552 เวลา : 15:55   


คำตอบที่ 25
       Update 2009-01-13

Route of the day : stage 9 - La Serena – Copiapo , Liaison 88 Km., Stage 399 Km. , Connect 20 Km.

Team manager talk

ผมว่า ในสเตจที่ 8 ที่ผ่านมามันน่าจะเป็นเพียงแค่การรันอินอุปกรณ์ที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่ในรถ มากกว่าที่จะเป็นการสร้างมาตรฐานที่แท้จริงของ ดาการ์ หลังจากที่ผู้จัดมีการตัดเส้นทางออกบ้างบางส่วนเพื่อให้การแข่งขันสามารถที่จะดำเนินการต่อไปด้โดยมีรถแข่งที่ยังคงเหลือน้อยกว่า 50% ยังคงแข่งขันกันต่อไปได้ และจบยังโพเดียมในเมืองบัวโนวไอเรสนั้น ในสเตจ 8 เจ้าหนึ่งเริ่ม สร้างความคุ้นเคยใหม่กับสิ่งที่เราได้เปลี่ยนให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง แม้แต่ ระบบจ่ายน้ำมัน

เจ้าหนึ่งสามารถที่จะสร้างผลงานได้เป็นอย่างดีในสเตจที่ผ่านมาโดยเส้นทางส่วนมากจะเป็นทางลูกรัง บิดซ้าย – ขวา บนเขา โดยมีรถแข่งมากมายพลาดท่าเสียทีต้องตกลงไปด้านล่างของเหว ทำให้ต้องออกจากการแข่งขันไปหลายคันในสเตจที่ผ่านมา แต่ส่วนเจ้าหนึ่งนั้น พึงระลึกเสมอว่า เราจะต้องไม่เป็นอย่างเขา เราต้องไม่พลาด และเขาก็สามารถที่จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดีเยี่ยม บนเส้นทางลูกรัง โดยสามารถจบสเตจได้ในอันดับที่ 32 เวลา 4:39:43 ชั่วโมง โอเวอร์ออลในอันดับที่ 102 ซึ่งในวันนี้กรรมการได้คิดเวลาปรับให้กับรถแข่งที่ไม่สามารถที่จะจบการแข่งขันในสเตจที่ 5 และ 6 ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว

ในเส้นทางวันนี้ ระยะทางแข่งขัน 399 กิโลเมตร สภาพเส้นทางที่เมือง Copiapo เต็มไปด้วยท้องทุ่งแห่งทะเลทราย Atacama ที่กว้างใหญ่และสูงเสียดฟ้า ต้องบอกว่าเป็นภูเขาทะเลทรายที่สวยงามมาก ๆ ซึ่งในพื้นที่แห่งนี้ นอกจากจะเป่นภูเขาทะเลทรายแล้วยังซ่อนไว้ด้วยโขดหินที่ถูกปกคลุมด้วยผืนทราย ซึ่งผมไม่แน่ใจนักว่า จะเป็นความยากหรือง่ายต่อการแข่งขันในวันนี้

แต่ที่แน่ ๆ ขณะที่ผลเขียนรายงานผลท่านกลางทะเลทรายแห่งนี้อยู่นั่น เจ้าหนึ่ง สามารถที่ไต่อันดับในสเตจที่ 9 มาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะนี้เวลา 15:00น. ชิลี GMT -3 หรือบ้านเราคือ 01:00 นาฬิกา ของวันอังคารที่ 12 เจ้าหนึ่งขึ้นมาอยู่ในอันกับที่ 22 ขณะที่ผ่านช่วง เช็คพอย์ท 4 โดยเหลือระยะทางวิ่งอีกประมาณ 100 กิโลเมตรจะมาถึงจุดฟินิชสเตจ สำหรับในวันพรุ่งนี้ ก็ยังคงเป็นการวิ่งรอบใหญ่ ๆ ที่เมืองแห่งนี้อีกเช่นเดิม ก่อนที่เราจะเดินทางออกจากประเทศชิลี กลับไปยังอาเจนติน่า ในวันพุธ และสิ่นสุดการแข่งขันในวันเสาร์

หลังจากสเตจ 8 จบลง ผมได้พูดคุยกับมานะ และเทียร์รี่ ในเรื่องของเส้นทางแข่งในสองวันนี้ ว่า 100% ของทางแข่งคือ ทะเลทราย และเป็นดินแดนที่ร้อนที่สุดของประเทศชิลี ดังนั้นเรื่องการเตรียมน้ำให้พร้อมเพื่อเพิ่มความสดชื่นของร้างกายเป็นสิ่งจะเป็นอย่างมาก หากต้องติดทราย ระหว่างการแข่งขันและไม่มีน้ำดื่มเพื่อที่จะชดเชยกับเหงื่อที่เสียไป โอกาสที่ร่างกายจะเกิดอาการขาดน้ำนั้น เป็นไปได้สูงมาก






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.36.12  อังคาร, 13/1/2552 เวลา : 13:27   


คำตอบที่ 26
       หนึ่ง...เดียวจากเมืองไทย สู้ๆ ครับ





พจน์27 จาก ชายพจน์  58.8.99.50  อังคาร, 13/1/2552 เวลา : 17:09   


คำตอบที่ 27
       Update 2009-01-14

รายงานผลการแข่งขันสเตจที่ 10 เส้นทางในเมือง Copiaco

วันที่ 13 มกราคม 2552 - เวลา 19.00 ตามเวลาท้องถิ่นของเมือง Copiaco ประเทศชิลี

ระยะทางรวม 496 กม. , ช่วงจับเวลาพิเศษ 476 กม.

เมือง Copiaco ประเทศ ชิลี – สำหรับเส้นทางในวันนี้เป็นการวิ่งอยู่ในเมือง Copiaco โดยจะวิ่งเป็นวงกลมในเส้นทางแบบผสม ซึ่งมีทั้งทะเลทราย ดินลูกรังและหินกรวด ไปจนถึงเส้นทางที่เป็นภูเขาหิน ซึ่งเดิมกำหนดระยะทางทรวม 690 กม. และเป็นช่วงจับเวลาพิเศษถึง 670 กม. โดยเป็นสเตจที่มีช่วงจับเวลาพิเศษที่ยาวที่สุดและมีเส้นทางที่โหดมากที่สุดเช่นกัน แต่ทางผู้จัดมองเห็นถึงความไม่ปลอดภัยของนักแข่งจึงได้ตัดเส้นทางในช่วงจับเวลาพิเศษออกกว่า 200 กม. ให้เหลือเพียง 476 กม. และในช่วงเช้าเหล่านักแข่งก็ต้องเลื่อนเวลาออกสตาร์ทออกไปจากเดิมคือเวลาประมาณ 9:00 น. มาเป็นเวลาประมาณ 12:00 น. เนื่องจากสภาพอากาศในตอนเช้ามีหมอกหนามากทำให้เครื่องบินไม่สามารถบินออกตรวจการณ์เพื่อความปลอดภัยของนักแข่งได้

โดยในวันนี้ เจ้าหนึ่งนักแข่งไทยและมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ได้ใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อรอเวลาออกสตาร์ทที่ทางผู้จัดจะกำหนัดขึ้นใหม่ในช่วงเช้า ก็ได้ออกสตาร์ทสู่สนามที่โหดที่สุดแห่งทะเลทราย Atacama ณ เวลา 12:13:30 ซึ่งหลังจากออกสตาร์ทเจ้าหนึ่งจะต้องผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหินและดินลูกรังซึ่งน่าจะเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่สำหรับเจ้าหนึ่งเนื่องจากทางทีมตัดสินใจใช้ยางสำหรับทางทราย นั่นทำให้เจ้าหนึ่งไม่สามารถทำเวลาได้เต็มที่นักโดยอันดับในจุดเช็คพอยท์ที่ 1 ตกลงมาจากตอนออกสตาร์ทที่ 35 มาอยู่ที่อันดับ 55 และจากนั้นจึงพยายามเร่งขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 50 ในจุดเช็คพอยท์ที่ 2 แม้ว่าเส้นทางยังเป็นทางหินอยู่ก็ตาม และจากกม. ที่ 178 เส้นทางปรับเปลี่ยนไปสู่ทะเลทรายทำให้เจ้าหนึ่งสามารถทำความเร็วได้มากขึ้นและแซงหน้าคู่แข่งขึ้นมารั้งอันดับที่ 45 ณ จุดเช็คพอยท์ที่ 3 และเร่งเครื่องขึ้นมาเต็มที่อีกครั้งโดยสามารถมาถึงจุดเช็คพอยท์ที่ 4 ได้ในอันดับที่ 34 ณ เวลาท้องถิ่นตอน 16:32 น. ทั้งนี้ ขณะที่รายงาน ณ เมือง Copiaco ที่เวลาท้องถิ่นประมาณ 18:35 เจ้าหนึ่งสามารถผ่านมาถึงกม. ที่ 530 แล้วโดยหากไม่เกิดปัญหาอะไรคาดว่าเจ้าหนึ่งจะสามารถจบสเตจที่เวลาประมาณ 21:00 ด้านอันดับที่จะได้ในสเตจนี้จะรายงานให้ทราบต่อไป

ด้านนายประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีมกล่าวเพิ่มเติมว่า “ซึ่งผมเชื่อว่า หากเราสามารถที่จะผ่านสเตจที่ 10 ไปได้นั้นโอกาสที่เราจะวิ่งจนจบการแข่งขันในดาการ์ 2009 นั้นมีแน่นอน โดยความรู้สึกส่วนตัวของผมนั้น ยังคงเชื่อมั่นว่าเจ้าหนึ่งเทียร์รี่ และรถปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น ของเราสามารถที่จะวิ่งได้จนจบการแข่งขัน ที่จะหนัก ๆ อีกครั้งก็คงเป็นสเตจที่ 12 ในอาเจนติน่า เมือง La Rioja ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางคล้าย ๆ กับเส้นทางแข่งขันในสัปดาห์แรก ถึงวันนั้นเราคงต้องลุ้นให้เจ้าหนึ่งสามารถที่จะทำอันดับในแต่ล่ะสเตจให้ดีมาก ๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสขึ้นมาออกสตาร์ทในลำดับต้น ๆ ซึ่งสภาพทางยังคงจะพอวิ่งได้ และไม่เป็นปัญหาเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา”

สำหรับเส้นทางในวันพรุ่งนี้ในสเตจที่ 11 เพื่อกลับข้ามไปสู่ประเทศอาร์เจนตินาอีกครั้งโดยจะออกเดินทางจากเมือง Copiaco ไปถึงเมือง Fiambala ระยะทางรวม 680 กม. ช่วงจับเวลาพิเศษ 215 กม. โดยได้เวลาที่นักแข่งจะได้บอกลามหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อมุ่งหน้ากลับไปสู่ประเทศอาร์เจนตินาอีกครั้ง ซึ่งเส้นทางในช่วงจับเวลาพิเศษจะสลับกันระหว่างทะเลทรายและเส้นทางที่เป็นหิน และในสเตจนี้ต้องอาศัยความสามารถของเนวิเกเตอร์เป็นอย่างมาในการค้นหาเส้นทางสู่เป้าหมายที่เมือง Fiambala






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.36.13  พุธ, 14/1/2552 เวลา : 13:12   


คำตอบที่ 28
       Update 2009-01-14 20:51 [(GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta]

2009-01-14 10:51 [(GMT-03.00) Buenos Aires, Georgetown]

stage 10 - พายุหมอกอันร้อนระอุ......สุดขีด !

จากการที่ผมได้สัมผัสกับส่วนหนึ่งของทะเลทรายสวยลึกลับของ Atacama ไปเมื่อวานนี้.. ผมยังติดใจอยู่เลยครับว่า..ทำไมที่นี่ถึงไม่ติดอันดับหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก.. เพราะเท่าที่ผมศึกษาเส้นทางมานั้น.. ที่ Atacama แห่งนี้.. มีแต่สิ่งน่าทึ่งที่ใครหลายคนต้องการจะได้เห็นกับตา.. ทั้งดวงจันทร์กลมโตที่ขึ้นตอนท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้า! หรือบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้! แต่ผมก็ยังไม่..แม้จะมีโอกาสได้เห็นกับตาทั้ง ๆ ที่หวังว่าจะได้เห็นในครั้งนี้.

อย่างที่ผมเขียนลงในบล็อคที่แล้วว่า.. ที่นี่ได้รับการขนานนามว่ามันแห้งแล้งและร้อนระอุสุดขีด ! ผมก็คิดว่าตอนลงแข่งมันจะร้อนสุดโต่ง…แต่กลายเป็นว่าวันนี้มันมีแต่หมอกหนา!! ทางผู้จัดเลยให้เลื่อนการออกสตาร์ทไปเกือบ 3 ชั่วโมงครับ! จาก 9 โมงเป็นเที่ยง..เพราะถ้าทางถูกปกคลุมไปด้วยหมอกขนาดนี้.. เครื่องบินคงบินตรวจการณ์เส้นทางและสถานการณ์นักแข่งลำบาก ซึ่งจะไม่ปลอดภัยกับตัวนักแข่งอีกด้วยครับ! ยิ่งไปกว่านั้นผู้จัดยังใจดีอีกแล้ว!! ลดทางในช่วงสเปเชียลลงเหลือ 200 โล!!! ( ผมแอบคิดว่า เขาคงกลัวนักแข่งจะเข้ามาถึงแคมป์กันวันรุ่งขึ้น่ะครับ 555) เลยกลายเป็นว่าสเตจนี้นักแข่งจะวิ่งเพียงแค่ 516 โลเท่านั้น....ผมพึ่งรู้ว่าเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่...ของคนหลาย ๆ คนพร้อมกัน!! เสียงมันดังใช้ได้เลยนะเนี่ย...

สำหรับทางที่จะวิ่งในสเตจนี้เห็นภูเขาทรายทะมึนกันขนาดนั้น พี่ทีมงานเลยตัดสินใจเปลี่ยนยางรถคู่ใจให้เหมาะ พร้อมลุยทรายโดยเฉพาะ....แต่...ทางช่วงแรกมันดันเป็นหินและดินลูกรังนะซิคร้าบบบบบ....ผมเลยต้องเผชิญกับอุปสรรคหินเล็ก..กลาง...ใหญ่....ร่วนบ้าง....แข็งโป๊กขนาดเป้ง!!กันไปบ้าง ร่วม 178 โล......ยางชุดนี้นี่ก็ทนทายาดเหมือนกันนา....เอ..หรือว่าผมกับเนว์ทำงานร่วมกันได้ดีกันแน่..555 พอมาถึงช่วงที่ต้องไต่เนินทรายกว่า 100 กิโลเมตร! อาการแพ้ทรายหายไปแทบจะเฉียบพลัน......ผมสามารถทำความเร็วได้มากขึ้นและแซงหน้าคู่แข่งได้มาจนเป็นอันดับที่ 34ได้ใน CP ที่ 4 และก็จบเสตจไปได้ด้วยดีด้วยอันดับที่ 41 กว่า ๆ

ถึงแคมป์ เราสองคนดิ่งตรงไปหาอาหารแทบจะในทันที หิวครับ! หิวมากกกก! บนโต๊ะอาหารประจำของผมจะเต็มไปด้วยมาม่าคัพนู๊ดเดิ้ล หรือบางทีเป็นน้ำพริกแห้ง คลุกข้าวสวยร้อน ๆ ที่ยอมอุตส่าห์แบกมาไกลข้ามทวีป! ตั้งใจเชียวล่ะว่าจะให้เพื่อนนักแข่งต่างชาติได้อิจฉาไปตาม ๆ กัน วันนึงผมจะได้กินข้าวแค่มื้อเดียวเท่านั้นเองนะครับ..ทุกครั้งผมจะอัดเข้าไปให้เต็มที่หรือบางทีก็คิดว่าจะตุนเผื่อไว้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เธียรี่ ก็เริ่มคุ้นเคยและเอร็ดอร่อยไปกับผมด้วยแล้ว หลังจากไปร่วมชะตากรรมกินขนมปังแซนด์วิชร่วมสาบานกันมา 5555

ข่าวดีปิดท้าย ในสเตจที่ 11 ผู้จัดยกเลิกเพราะสภาพอากาศอีกนั่นแหละครับ! แต่รถทุกคันก็จะยังต้องขับเป็นขบวนคาราวานไปยังจุดสตาร์ทในสเตจที่ 12 ระหว่างทาง.. ผมคงจะได้มีโอกาสชมภูมิประเทศที่สวยงามของชิลีอีกครั้ง! หรือบางทีผมอาจจะมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ มาฝากกันก็ได้นะครับ! แต่ขณะเดียวกัน..ผมก็ยังกังวลลึก ๆ เกี่ยวกับเส้นทางในสเตจที่ 12 ที่จะถึงนี้! โพสต์ Blog ครั้งหน้าผมจะบอกว่ามันคืออะไร ?? ส่วนตอนนี้ผมต้องจบไว้ก่อน และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ผมนะครับ สู้ ๆๆๆ Race for Thailand คับผม!!!






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.36.12  พฤหัสบดี, 15/1/2552 เวลา : 11:24   


คำตอบที่ 29
       Update 2009-01-15

Route of the day : stage Stage 11 - Copiapo – Fiambala, Liaison 4 Km., Special Stage 253 Km., Connect 261 Km. , Total 518 Km.

Team manager talk

สำหรับในสเตจที่ 10 ซึ่งวิ่งเป็นลูปรอบใหญ่ ๆ บนเส้นทางทะเลทรายล้วน ๆ ของเมือง Copiapo นั้น ปรากฏว่าเจ้าหนึ่งสามารถที่จะหลุดรอดกับดักทะเลทรายออกมายังแคมป์ประมาณ 20:00น. ของวันที่ 13 มกราคม ซึ่งที่นี่จะช้ากว่าบ้านเราอยู่ 10 ชั่วโมง ซึ่งในสเตจที่ผ่านมากว่ารถแข่งจะสามารถแขง่ขันกันได้ก็ต้องรอให้ทัศนวิสัยปลอดโปร่ง ไม่เช่นนั้นความปลอดภัยของนักแข่งจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการแข่งขันในครั้งนี้ เพราะเป็นครั้งแรกของการย้านถิ่นฐานจากอาฟริกา มายังอเมริกาใต้ และทั้งสองประเทศค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมากกับการแข่งขันในครั้งนี้ หากมีการสูญเสียชีวิต ซึ่งนั่นหมายถึง การสร้างสถิติที่ไม่ค่อยสวยงามของผู้จัด

สำหรับการแข่งขันในสเตจที่ 11 ซึ่งจะต้องข้ามเขาทะเลทรายขากประเทศชิลี กลับมายัง อาเจนติน่า ซึ่งระยะทางที่ผมได้สัมผัสมาเมื่อคืนหลังจากที่จบสเตจที่ 10 ผมต้องออกเดินทางจาก Copiapo มายัง Fiambala ซึ่งใช้ระยะเวลาค่อนคืน กว่าจะเดินทางมากถึง เพราะเราต้องนั่งรถขึ้นบนยอดเขา Atacama กับเส้นทางลูกรังที่คตโค้ง เพื่อที่จะลงมายังชายแดนขงประเทศชิลี และเดินทางเข้ามายังเมือง Fiambala ในอาเจนติน่า

การแข่งขันถูกยกเลิกอย่างกระทันหันเฉพาะในสเตจที่ 11 เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ และจะก่อให้เกิดความล่าช้าของการข้ามชายแดนของทั้งสองประเทศ ซึ่งอาจจะมีนักแข่งติดอยู่ในประเทศชิลี ก็เป็นได้ ดังนั้น ในวันนี้ทางผู้จัดจึงได้ปล่อยให้รถแข่งวิ่งบนเส้นทางถนนปกติ เดินทางมายังอาเจนติน่า ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะถึงประมาณช่วงบ่ายของวันนี้

สำหรับในวันพรุ่งนี้สเตจที่ 12 เท่าที่ผมดู น่าจะเป็นสเตจตัดสิน เพราะสเตจที่ 13 และ 14 ค่อนข้างที่จะสั้น และเป็นทางลูกรัง ดังนั้นหากเจ้าหนึ่งสามารถที่จะอดทน กับความโหดดร้ายของทะเลทรายแห่งนี้อีกเพียง 3 สเตจเท่านั้น ก็จะเป็นการสร้างบทพิสูจน์ของ คนและรถ ให้กับประเทศไทยเราได้อีกครั้ง ในการแข่งขันดาการ์ 2009






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  ศุกร์, 16/1/2552 เวลา : 15:36   


คำตอบที่ 30
       Update 2009-01-16

Route of the day : Stage 12 Fiambala – La Rioja , Liaison 4 Km. , Special 253 Km., Connect 261 Km. , Total 518 Km.

Team manager talk

หลังจากที่ผู้จัดการแข่งขันได้ยกเลิกสเตจที่ 11 ซึ่งเป็นสเตจมาราธอน ของการแข่งขัน สเตจมาราธอน คือการที่รถแข่งจะต้องวิ่งทำการแข่งขันในสองวัน โดยไม่มีการซ่อมจากช่าง หรือทีมเซอร์วิส โดยรถเซอร์วิสทั้งหมด จะเดินทางจากเมือง Copiapo มายัง La Rioja โดยตรง ไม่แวะที่เมือง Fiambala ซึ่งทำให้นักแข่งต้องประคับประคองรถถนอมรอบเครื่องยนต ์และเกียร์ ทุกอย่างที่มีในรถให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งโชคดีที่การแข่งขันยกเลิกทำให้รถแข่งทุกคันแค่เดินทางผ่านหุบเขาที่มีความสูงกว่าหกพันฟิต

แต่ใช่ว่าการเดินทางจะเรียบง่าย หลาย ๆ คันต้องจอดเพื่อที่จะหาอ๊อกซิเจน เพราะสภาพอากาศที่เบาบาง ทำให้การหายใจค่อนข้างลำบาก ขนาดเราเองนั่งอยู่ในรถบัส ยังรู้สึกถึงความอึดอัดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยเฉพาะนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ และควอต ต้องจอดให้หน่วยปฐมพยาบาลให้การช่วยเหลือ ที่เลวร้ายไม่แพ้กัน เมือง Fiambala เป็นเมืองแห่งท้องทุ่งทะเลทรายที่แห้งแล้ง ผนวกกับในวันที่ผ่านมาเราต้องผจญภัยกับพายุทรายที่กระหน่ำมาทั้งวัน จนแทบจะทำงานกันไม่ได้เลยทีเดียว แต่อย่างน้อย พายุทรายที่นี่ ดีกว่าในอาฟริกาที่ผมเคยเจอ ทรายเม็ดค่อนข้างใหญ่ ไม่ละเอียดเหมือนทรายในอาฟริกา

เช้าวันนี้ เจ้าหนึ่งมานะ ออกสตาร์ทในอันดับที่ 41 และ 74 โอเวอร์ออล หลังจากจบการแข่งขันในสเตจที่ 10 ซึ่งทางเราเองก็ไม่ทรายถึงสาเหตุของการตัดเส้นทางเมื่อจบการแข่งขันในสเตจที่ 10 โดยเจ้าหนึ่งสามารถที่จะวิ่งจนถึง CP 7 และกรรมการทำการหยุดรถแข่งทั้งหมด เก็บใบนำทางและให้รถแข่งวิ่งกลับแคมป์ สเตจที่ 12 การแข่งขันกลับมาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ผู้นำในวันนี้ คาลอส แซงค์ เกิดพลาดท่าครั้งยิ่งใหญ่ นอนหงายท้องอยู่ท่ามกลางทะเลทราย ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่อีกสองวันก็จะจบการแข่งขัน น่าจะได้ตำแหน่งแชมป์ กับเขาสักที ก็มาพลาดเอาง่าย ๆ กับเนินทราย เช่นเดียวกัน น่านี่ โรม่า ความหวังสุดท้ายของทีมมิตซูบิชิ เบรคตัวโก่งกับเนินทรายเดียวกัน ผมก็จะห่วงแต่เจ้าหนึ่งนี่ล่ะครับ หวังว่าเหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้นอีก ในขณะรายงานอยู่นี้ มีรถที่จบการแข่งขันในสเตจนี้เพียง 9 คันเท่านั้นเอง สำหรับอันดับของเจ้าหนึ่งตอนนี้ ในอันดับที่ 30 ที่จุด CP 2

เมื่อคืนนี้ผมลองวิเคราะห์กันเล่น ๆ ระหว่างเจ้าหนึ่งกับผม ซึ่งผมบอกว่า “เราพยายามขึ้นมาเป็นคันแรกของรถที่มีโทษปรับเวลาดีกว่า” ซึ่งอันดับน่าจะอยู่ที่ผระมาณ 68 โอเวอร์ออล โดยรถทีมีโทษปรับ 200 ชั่วโมงน่าจะมีประมาณ 36 คัน ก็น่าจะเป็นอันดับที่เราพอรับได้เมื่อเทียบกับปี 2007 ที่ผ่านมา ก็ได้แต่หวังครับ ซึ่งหากได้ก็เสมอตัว ไม่ได้เราก็ไม่มีอะไรเสียมากไปกว่านี้ นอกจากวิ่งให้จบการแข่งขันและทำเวลาให้ดีในแต่ล่ะสเตจเพียงพอแล้วครับ






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  ศุกร์, 16/1/2552 เวลา : 15:38   


คำตอบที่ 31
       Update 2009-01-16

รายงานผลการแข่งขันสเตจที่ 12 จากเมือง Copiaco ถึงเมือง La Rioja

วันที่ 15 มกราคม 2552 - เตามเวลาท้องถิ่นของเมือง La Rioja ประเทศอาร์เจนตินา

La Rioja ประเทศอาร์เจนตินา - หลายสเตจที่ผ่านมาดูเหมือนว่าทางผู้จัดได้มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางและกติกาการตัดสินกันแบบวันต่อวัน และชั่วโมงต่อชั่วโมง เนื่องจากเส้นทางการแข่งขันในปีนี้ค่อนข้างใหม่สำหรับนักแข่งทุกคน และแม้กระทั่งตัวผู้จัดเองก็ตาม ดังนั้นเพื่อให้การแข่งขันสามารถบรรลุถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้เรื่องของเส้นทางและการตัดสินจึงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาซึ่งนั่นเป็นผลทำให้ในบางสเตจผลการแข่งขันของเจ้าหนึ่งมานะ นักแข่งหนึ่งเดียวจากประเทศไทยยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ โดยล่าสุดในสเตจที่ 10 ซึ่งเป็นเส้นทางที่แข่งในเมือง Copiaco ที่มีช่วงจับเวลาที่ยาวที่สุด และเส้นทางหฤโหดที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ โดยในช่วงเช้าผู้จัดได้เลื่อนการแข่งขันออกไปที่เวลาประมาณ 12:00 น. เนื่องจากหมอกลงจัดจนเครื่องบินตรวจการไม่สามารถออกบินได้ และได้ตัดเส้นทางออกไปอีกกว่า 200 กม. ในช่วงจุดเช็คพอยท์ที่ 3 – 4 หลังจากนั้นในช่วงเย็นทางผู้จัดยังได้ตัดเส้นทางในช่วงสุดท้ายซึ่งเป็นเนินทรายสูงหลังจุดเช็คพอยท์สุดท้ายออกไปอีก เนื่องจากในขณะนั้นมีรถแข่งที่ผ่านมาได้เพียงไม่ถึง 20 คันเท่านั้น และเมื่อเวลาเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ความมืดอาจทำให้นักแข่งมองไม่เห็นและเกิดอันตรายได้ ซึ่งในสเตจนี้เจ้าหนึ่งสามารถผ่านมาถึงจุดเช็คพอยท์สุดท้ายได้สำเร็จและทางผู้จัดให้ขับตัดออกสู่ถนนปกติเพื่อตรงเข้ามาที่แคมป์เลย โดยในเย็นวันนั้นผลการแข่งขันของหนึ่งมานะ กับรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 มกราคม 2552 ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหนึ่งทำผลงานในสเตจที่ 10 ได้อันดับที่ 41 ซึ่งทำให้อันดับในรุ่นเวลารวมขึ้นมาอยู่ที่ 74

ทั้งนี้ สำหรับเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นวันที่มีการแข่งขันในสเตจที่ 11 จากเมือง Copiaco ถึงเมือง Fiambala ซึ่งมีระยะทางรวม 680 กม. ทางผู้จัดได้มีการประกาศยกเลิกการแข่งขันอีกหนึ่งวันเนื่องจากอากาศยังคงไม่ดีทั้งวัน และอันตรายจากแรงกดอากาศต่ำมากในการเดินทางข้ามเทือกเขาสูงกว่า 6,000 เมตร เพื่อเข้าสู่ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งทางผู้จัดได้กำหนดให้นักแข่งเดินทางข้ามเส้นทางดังกล่าวเป็นคาราวานตามกันมา

เจ้าหนึ่ง มานะ พรศิริเชิด กล่าวถึงการที่ผู้จัดประกาศยกเลิกการแข่งขันในสเตจที่ 11 ว่า “สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นข่าวดีครับ เพราะสเตจที่ 11 – 12 เป็นมาราธอนสเตจที่รถเซอร์วิสไม่สามารถเข้ามาซ่อมแซมรถได้ หมายความว่ารถแข่งจะต้องแข่งขันในระยะทางมากกว่า 1,000 กม. โดยที่ไม่ได้รับการซ่อมแซมเลย และการยกเลิกสเตจ 11 ทำให้รถแข่งของผมยังสมบูรณ์พร้อมสำหรับการแข่งขันในสเตจที่ 12 ครับ แต่สำหรับกลุ่มผู้นำก็ถือว่าเป็นการเสียโอกาสในการทำเวลาเพื่อตีตื้นขึ้นมาครับ” นอกจากนี้ เจ้าหนึ่งยังกล่าวถึงแผนการแข่งในสเตจที่ 12 ว่า “สำหรับสเตจที่ 12 นั้นเส้นทางช่วงจับเวลาพิเศษจะเป็นทะเลทราย 80% สำหรับในขณะนี้ ผมไม่มีความหนักใจกับเส้นทางแข่งในทรายแล้วครับ เพราะจากการแข่งขันที่ผ่านมาผมได้เจอกับสภาพทรายที่หลากหลายและพยายามศึกษาวิธีการขับกับรูปแบบต่างๆ มาแล้ว เช่นทรายในทะเลทราย Patagonia ในประเทศอาร์เจนตินาก่อนเข้าชิลีจะมีความละเอียดมาก ซึ่งถือว่าขับยากมากที่สุด แต่เมื่อเข้ามาสู่ในประเทศชิลีช่วงทะเลทราย Atacama ทรายจะมีความหยาบมากขึ้น แต่ในทางกลับกันเนินทรายก็มีความสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 แบบผมสามารถผ่านมาได้หมดแล้ว ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ผมจะพยายามใช้ประสบการณ์ทั้งหมดที่มีมาใช้ในการแข่งขันครับ มากไปกว่านั้น เธียรี่ เนวิเกเตอร์ของผมก็มีความเชี่ยวชาญเส้นทางในทะเลทรายมากเป็นพิเศษด้วย และเป้าหมายของเราในปีนี้ก็ไม่ได้หวังอันดับในรุ่นเวลารวมแล้วเนื่องจากผมโดนโทษปรับเวลาถึง 214 ชม. ทางผู้จัดการทีมจึงเปลี่ยนเป้าหมายให้แข่งให้จบการแข่งขันเท่านั้น โดยจะให้ความสนใจในอันดับของแต่ละสเตจมากว่า ดังนั้นพรุ่งนี้จึงไม่มีความกดดันเลยครับ”

ทั้งนี้ การแข่งขันในสเตจที่ 12 จะเป็นการแข่งขันจากเมือง Fiambala ถึงเมือง La Rioja ระยะทางรวม 518 กม. ช่วงจับเวลาพิเศษ 253 กม. ซึ่เส้นทางจะเป็นทะเลทรายถึง 80% มีจุดเช็คพอยท์ระหว่างทางแข่ง 2 จุด โดยเจ้าหนึ่ง มานะ ได้ออกสตาร์ท 9:19 น. ของวันที่ 15 มกราคม 2552 จากอันดับที่ 41 และใช้เวลาเพียง 28:41 นาทีในการเข้าถึงจุดเช็คพอยท์ที่ 1 ซึ่งสามารถแซงคู่แข่งขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 33 หลังจากนั้นเจ้าหนึ่งก็เร่งเครื่องเต็มฝีเท้าเข้าสู่จุดเช็คพอยท์ที่ 2 ที่เวลา 11:18 น. และไล่ขึ้นมารั้งอยู่อันดับที่ 30 โดยในกม. ที่ 191 เจ้าหนึ่งก็สามารถทำผลงานได้ดีขึ้นอีกโดยไล่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 22 และกระโจนสู่จุดสิ้นสุดของสเตจในอันดับที่ 23 ของสเตจ โดยใช้เวลาทั้งหมด 8:12:38 ชม. โดยอันดับดังกล่าวเป็นผลการแข่งขัน ณ เวลา 18:00 ของเวลาท้องถิ่น ณ เมือง La Rioja

ในขณะที่ผู้นำอันดับหนึ่ง คาร์ลอส แซงค์ รถแข่งหมายเลข 301กลับต้องผิดหวังกับการแข่งขันในครั้งนี้เนื่องจากพลาดตกหน้าผาทำให้รถเสียหายอย่างหนัก และเนวิเกเตอร์ก็ได้รับบาดเจ็บแขนข้างซ้ายหักอีกด้วย ด้าน โจน นานิ โรมา ขุนพลทีมเรปซอล มิตซูบิชิ ในรถแข่งหมายเลข 304 ที่เหลืออยู่หนึ่งเดียวก็เกือบพลาดท่าตกลงไปที่หน้าผาเดียวกัน

สำหรับเส้นทางในวันพรุ่งนี้สเตจที่ 13 จากเมือง La Rioja ถึงเมือง Cordoba ระยะทางรวม 753 กม. เป็นช่วงจับเวลาพิเศษถึง 545 กม. สำหรับการเดินทางสู่สเตจสุดท้าย สเตจนี้ก็ถือว่ามีความยากในระดับหนึ่ง โดยเส้นทางจะเริ่มออกจากทะเลทรายเข้าสู่ทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยต้นกระบองเพชร ซึ่งนักแข่งมอเตอร์ไซด์ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาพสนามจะเป็นดินและก้อนกรวดเกือบ 70% ของเส้นทาง และมีจุดเช็คพอยท์ถึง 5 จุด นั่นหมายความว่า เนวิเกเตอร์จะต้องนำทางให้ดีเพื่อไม่ให้พลาดการเข้าเช็คในจุดต่างๆ ให้ครบเพื่อที่จะไม่โดนโทษปรับเพิ่มขึ้นอีก






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  ศุกร์, 16/1/2552 เวลา : 15:39   


คำตอบที่ 32
      



doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.135.36  ศุกร์, 16/1/2552 เวลา : 20:02   


คำตอบที่ 33
       Update 2009-01-17

รายงานด่วน!! ผู้จัดยกเลิกเส้นทางสเตจ 13 อีกแล้ว

หลังจากการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 2009 ได้เริ่มขึ้น นักแข่งทุกคน รวมทั้งผู้จัดเองก็ทราบดีว่า เส้นทางการแข่งขันในปีนี้มึความหฤโหดมากเป็นพิเศษจนถึงขั้นต้องมีการยกเลิกเส้นทางในหลายๆ สเตจ และล่าสุดเมือวันที่ 15 มกราคม 2552 ที่ผ่านมาในสเตจที่ 12 ซึ่งเจ้าหนึ่งของเราทำผลงานดีเยี่ยมกระโจนสู่เส้นชัยในอันดับที่ 23 แต่หลังจากนั้นทางผู้จัดได้ยกเลิกเส้นทางในช่วงสุดท้ายออกอีก เนื่องจากยังมีนักแข่งอีกมากที่ยังไม่สามารถผ่านออกมาได้ก่อนค่ำ และในเช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันที่มีการแข่งขันในสเตจที่ 13 เจ้าหนึ่ง และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท อีโวลูชั่น หมายเลข 368 พร้อมเต็มที่กับการบุกตะลุยในสเตจที่ 13 แต่ทางผู้จัดก็ได้ประกาศยกเลิกเส้นทางในสเตจนี้อีกครั้ง โดยตัดเส้นทางตั้งแต่ CP1 -3 และเริ่มออกสตาร์ทที่ CP4 และวิ่งผ่าน CP5 และเข้าจุดสิ้นสุดช่วงจับเวลาพิเศษเลย สิ่งที่น่ายินดีคือ เจ้าหนึ่งของเรามีความเสี่ยงน้อยลง แต่ก็มีโอกาสในการโชว์ผีมือน้อยลงอีกด้วย






vps1992 จาก กุ้ง  124.121.140.235  อาทิตย์, 18/1/2552 เวลา : 10:51   


คำตอบที่ 34
       Update 2009-01-17

รายงานผลการแข่งขันในสเตจที่ 13 จากเมือง La Rioja ถึงเมือง Cordoba

ระยะทางรวม 753 กม. ช่วงจับเวลาพิเศษ 545 กม.

16 มกราคม 2552 – Cordoba, ประเทศอาร์เจนตินา – หลังจากเมื่อสเตจที่ 12 ที่ผ่านมาเจ้าหนึ่งทำเวลาได้ดีเป็นพิเศษ โดยจบสเตจด้วยอันดับที่ 23 ขณะที่ในช่วงเย็นของวานนี้หลังจากที่เจ้าหนึ่งได้กลับมาถึงแคมป์แล้วทางผู้จัดได้ตัดเส้นทางช่วงท้ายออกไปอีกเนื่องจากยังมีนักแข่งอีกหลายคนยังไม่สามารถจบการแข่งขันในสเตจได้ ทางผู้จัดจึงเป็นห่วงถึงความปลอดภัยถ้าต้องมีการแข่งขันในช่วงค่ำ

ทั้งนี้ เจ้าหนึ่ง กล่าวถึงสเตจ 12 ว่า “ในสเตจนี้เส้นทางค่อนข้างโหดมาก เพราะเป็นเนินทรายที่สูง ซึ่งรถแข่งจะต้องอาศัยพื้นที่เพื่อส่งตัวรถขึ้นเนินไป แต่ทางแข่งในสเตจนี้ไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับเพิ่มแรงส่งดังกล่าวจึงต้องอาศัยเทคนิคการไต่เนินที่ยากและมีความเสี่ยงมากกว่า แต่วันนี้เราถือว่าทำเวลาได้อย่างน่าพอใจ สำหรับตัวรถได้รับความเสียหายบ้างโดยเพลาหน้าขาด แต่โชคดีที่เกิดขึ้นหลังจากผ่านเนินทรายที่มีความสูงและเส้นทางที่ยากมาแล้วดังนั้น ผมจึงสามารถประคองรถกลับมาถึงแคมป์ได้อย่างปลอดภัย และในขณะนี้ทางทีมช่างก็กำลังซ่อมแซม ซึ่งก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงสำหรับในสเตจวันพรุ่งนี้ครับ”

สำหรับเส้นทางในวันนี้สเตจที่ 13 จากเมือง La Rioja ถึงเมือง Cordoba ระยะทางรวม 753 กม. เป็นช่วงจับเวลาพิเศษถึง 545 กม. สำหรับการเดินทางสู่สเตจสุดท้าย สเตจนี้ก็ถือว่ามีความยากในระดับหนึ่ง โดยเส้นทางจะเริ่มออกจากทะเลทรายเข้าสู่ทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยต้นกระบองเพชร ซึ่งนักแข่งมอเตอร์ไซด์ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาพสนามจะเป็นดินและก้อนกรวดเกือบ 70% ของเส้นทาง และมีจุดเช็คพอยท์ถึง 5 จุด แต่ในช่วงเช้าของวันที่ 16 มราคม 2552 ตามเวลาท้องถิ่นของเมือง Cordoba ทางผู้จัดได้ประกาศยกเลิกเส้นทางในจุดเช็คพอยท์ที่ 1 – 3 โดยจะเปลี่ยนมาเริ่มออกสตาร์ทจากจุดเช็คพอยท์ที่ 4 เพื่อแข่งขันผ่านจุดเช็คพอยท์ที่ 5 และเข้าจุดสิ้นสุดช่วงจับเวลาพิเศษเลย ทำให้เหลือระยะทางในการแข่งขันเพียงกว่า 200 กม. เท่านั้น

โดยวันนี้เจ้าหนึ่งเริ่มออกสตาร์ทที่จุดเริ่มจับเวลา ณ 14:24 น. ในอันดับที่ 24 และจากการติดตามผลด้วย GPS ณ กม. ที่ 386 เจ้าหนึ่งก็ไล่ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 22 ของผู้แข่งทั้งหมด และทำเวลาขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 17 ณ กม. ที่ 457 และตกมาหนึ่งอันดับอยู่ที่ 18 ณ กม. ที่ 478 และในที่สุดเจ้าหนึ่งก็สามารถทะยานสู่เส้นชัยในสเตจที่ 13 ได้ในอันดับที่ 18 ของสเตจ โดยใช้เวลาทั้งหมด 2:58:03 ชม. ตามหลังผู้นำ โจน นานิ โรมา หมายเลข 304 จากทีม เรปซอล มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ตเพียง 24 นาที 15 วินาที โดยรายงาน ณ 17:35 น. เวลาท้องถิ่นของเมือง Cordoba ทั้งนี้ อันดับอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจาการแข่งขันเป็นแบบจับเวลา

สำหรับในสเตจที่ 14 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้ายที่มีการแข่งขันจากเมือง Cordoba ถึงกรุงบัวโนสไอเรส ระยะทางรวม 792 กม. และเป็นช่วงจับเวลาพิเศษเพียง 227 กม. โดยเส้นทางจะเป็นดินลูกรังและกรวด และมีความคล้ายคลึงกับสเตจแรกๆ ที่นักแข่งได้ผ่านใน La Pampa มาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่านักแข่งจะปล่อยวางได้ เพราะการแข่งขันดาการ์ทุกวินาทีสามารถเปลี่ยนให้ผู้นำกลายเป็นผู้ตามได้ตลอดเวลา






vps1992 จาก กุ้ง  124.121.140.235  อาทิตย์, 18/1/2552 เวลา : 10:56   


คำตอบที่ 35
      

เสร็จสิ้นภารกิจ...แล้วพบกันที่เมืองไทยครับ น้องหนึ่ง


http://www.pajerosport2dakar.com/03dakar_update/blog_detail.php?BlogId=21






blue_sushi จาก βlue$ushi™  117.47.243.247  จันทร์, 19/1/2552 เวลา : 10:57   


คำตอบที่ 36
       Update 2009-01-18

Route of the day : Stage 14 :the final stage"

Team manager talk

วันนี้ทางทีมงานเรามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการเดินทาง หลังจากจบสเตจที่ 14 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย ทางทีมงานเรายังคงปักหลักทำงานกันที่เมือง Carcarana ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการแข่งขันสเตจที่ 14 โดยมีระยะทางเพียง 227 กิโลเมตร เท่านั้น และเป็นทางลูกรัง จากนั้นจะเดินทางเข้ามายัง Buenos Aires ในช่วงเช้าของวันที่ 18 ซึ่งจะเป็นพิธีฉลองชัยชนะ และการจบการแข่งขันในดาการ์ 2009 ทั้งนี้เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับนักแข่งของไทย และรถแข่งสายพันธุ์ไทย ในการจบสเตจสุดท้ายของการแข่งขัน จากนี้ก็คือวิ่งฟรีรันเข้าไปยังเมืองหลวงของ อาร์เจนติน่า ส่วนผมและทีมงามตามไปในตอนค่ำหลังจากที่เราส่งภาพกลับเมืองไทย

ดาการ์ ปีนี้ ให้อะไรเราบ้าง แน่นอน เราเริ่มฝ่าฟันตั้งแต่ ปัจจัยหลักในการเข้าร่วมการแข่งขัน การเลือกสรร รถที่จะใช้ในการแข่งขัน แน่นอน ปาเจโร่ สปอร์ต SUV สายพันธุ์ใหม่ของมิตซูบิชิ กับรถต้นแบบ ปาเจโร่ สปอร์ต อีโวลูชั่น จากนั้นคือ ผู้สนับสนุนของเรา ไม่ว่าจะเป็น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย / สิงห์ คอร์ปอเรชั่น น้ำดื่มบริสุทธิ์ เบียร์ อร่อย / บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน สุดยอดของการหล่อลื่น / ทีเอฟฟี อินดรัสเตรียล ผลิตภัณฑ์ ตกแต่งรถยนต์มิตซูบิชิ / การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อเมซิ่ง ไทยแลนด์ / ผลิตภัณฑ์ โอคลี่ย์ แว่นตา เสื้อผ้า ถุงมือ สำหรับนักแข่ง / แรลลี่ อาร์ต และทีมสนับสนุนที่ดีอย่าง ทีที มอเตอร์สปอร ์ต เป็นกำลังใจให้ตลอดมา / ทิบัล ทีม ลอจิสติส ที่ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี / ฟาสเตอร์ การาจ ไม่มีเขา รถเราไม่เสร็จแน่ ทีมงานประชาสัมพันธ์ อาซาตซู ไทยแลนด์ และทีมงาน ประชาสัมพันธ์ มิตซูบิชิ – มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่ช่วยกระจายข่าวสารทั่วประเทศ / ดิจิไทย ที่ช่วยอัพเวปสวย ๆ ทุกวัน แต่ที่ขาดไม่ได้เลยนั่นคือ ผู้ที่เชียร์ มานะ ทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ เวปไซด์ พี่ ๆ หนังสือพิมพ์ / ทีวี / วิทยุ และอื่น ๆ ที่ผมไม่ได้กล่าวมา ณ ที่นี้ โดยเฉพาะเจ้านายผมสุด ๆ คุณ โอ๊ค ศุภศักดิ์ ดุลละลัมพะ กับคุณ ทาคาอากิ คิชิอิ ที่ลุ้นกันจนยาแก้ปวดหัวหมดไปหลายเม็ด สุดท้าย น้องตั้ม สามขา ที่เดินทางมากับผมจนหัวเข้าหลุด ต้องใส่เผือกทำงานตลอดการแข่งขันดาการ์ 2009 เรียกว่า ไม่ใช่โหดแค่นักแข่ง แต่โหดสำหรับทีมงานติดตามด้วยครับ

ต้องบอกว่าการที่ผมได้ทำงานชิ้นนี้ เป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจ ว่าในปีนึง เราสามารถที่ะจะสร้างผลงานด้านมอเตอร์สปอร์ตให้ออกมาสู่สายตาประชาชนได้บ้าง ว่ามิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เราได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาไทย ใช่ว่าจะมีเพียงการแข่งรถยนต์เท่านั้น เกมส์กีฬาด้านอื่น ๆ ทางมิตซูบิชิ ก็เคยให้การสนับสนุน แต่โดยหลักการและเหตุผลของการพัฒนารถแข่งสู่รถบ้านที่เราใช้งานกันอยู่นั้น ทางมิตซูบิชิ ไม่เคยถอดถอนในกับเกสม์กีฬามอเตอร์สปอร์ต






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  จันทร์, 19/1/2552 เวลา : 13:43   


คำตอบที่ 37
       Update 2009-01-18

เจ้าหนึ่งทำสำเร็จ พิชิตชัยดาการ์ แรลลี่ 2009

หลังจากต้องขับเคี่ยวกันมากว่าเกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตร ในตลอด 15 วันที่ผ่านมา วันนี้ดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี ก็ได้เดินทางมาถึงสเตจสุดท้ายแล้ว พร้อมกับความสำเร็จของนักแข่งไทยหนึ่งเดียวในการแข่งครั้งนี้ มานะ พรศิริเชิด ที่สามารถนำรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 เข้าสู่โพเดียมพร้อมกับโบกสะบัดธงไทยในฐานะผู้พิชิตชัยดาการ์ แรลลี่

วันนี้เป็นการแข่งขันในสเตจสุดท้าย เริ่มสตาร์ทจากเมืองคอร์โดบา มุ่งหน้าไปยังกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา มีระยะทางทั้งหมด 792 กิโลเมตร แบ่งเป็นช่วงจับเวลาพิเศษ 227 กิโลเมตร โดยสภาพเส้นทางส่วนใหญ่จะเป็นทางลูกรัง สำหรับผลงานของเจ้าหนึ่ง-มานะ พรศิริเชิด นักแข่งหนึ่งเดียวของไทย และ เธียรี่ ลาคอมบ์ เนวิเกเตอร์คู่ใจชาวฝรั่งเศส จากทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ ที่ควบรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ในสเตจนี้ขับแบบสบายๆ เพื่อเตรียมฉลองความสำเร็จกับทีมงานในวันถัดไป แต่ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเข้ามาเป็นอันดับที่ 17 ของสเตจ ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 51 นาที 29 วินาที รั้งอันดับ 73 โอเวอร์ออล ด้วยเวลา 305 ชั่วโมง 34 นาที 48 วินาที ตามหลังผู้ชนะ เดอ วิลลิเยร์ นักแข่งชาวอัฟริกัน จากค่ายโฟล์คสวาเกน อยู่ 257 ชั่วโมง 23 นาที 51 วินาที

ส่วนทางด้านโจน นานิ โรมา ในรถแข่งหมายเลข 304 สังกัดทีม เรปซอล มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต นั้น เข้ามาเป็นอันดับที่ 4 ของสเตจนี้ ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 36 นาที 21 วินาที และอันดับในเวลารวมอยู่ที่ 10 ด้วยเวลา 65 ชั่วโมง 38 นาที 43 วินาที ตามหลังผู้นำอยู่ 17 ชั่วโมง 27 นาที 46 วินาที

ทั้งนี้ หลังการแข่งขัน “ดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี ” จบลง มานะ พรศิริเชิด และทีมงานได้ร่วมฉลองความสำเร็จกับทีมมิตซูบิชิและเพื่อนร่วมทีม ก่อนที่จะออกเดินทางจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา สู่ประเทศสเปน และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม 2552 โดยบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จะจัดงานแถลงข่าวถึงความสำเร็จในการส่งนักแข่งไทย “มานะ พรศิริเชิด” และรถแข่ง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น เข้าร่วมชิงชัยในสนามแข่งแรลลี่ระดับโลก ในวันดังกล่าวเวลา 16.00 – 17.30 น. ณ ห้องสุวรรณภูมิ A โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.200  จันทร์, 19/1/2552 เวลา : 13:45   


คำตอบที่ 38
      



จาก ปลื้มมิตชู   125.27.71.250  จันทร์, 19/1/2552 เวลา : 20:17   


คำตอบที่ 39
       Update ภาพข่าว : อ้อมกอดแม่

เจ้าหนึ่ง – มานะ พรศิริเชิด โผเข้ากอดคุณแม่ด้วยความดีใจ หลังกลับจากการเดินทางไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ในการแข่งขัน ดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี แรลลี่หฤโหดระดับโลก โดยมานะ พรศิริเชิด สามารถนำรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น พิชิตชัยในการแข่งขันครั้งนี้ได้สำเร็จ ในอันดับที่ 73 โอเวอร์ออล จากรถแข่งประเภทรถยนต์ที่ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทั้งหมด 194 คัน





vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  พฤหัสบดี, 29/1/2552 เวลา : 08:50   


คำตอบที่ 40
       Update 2009-01-23

ฉลองความสำเร็จหลัง “มานะ” ควบ “ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น” ฝ่าด่านหฤโหดสร้างชื่อในดาการ์ แรลลี่ 2009

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในการส่งนักแข่งไทย มานะ พรศิริเชิด และ
รถแข่งคันใหม่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น รถต้นแบบของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่ผลิตในประเทศไทย ลงชิงชัยในการแข่งขันแรลลี่โหดระดับตำนาน ดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา – ชิลี มั่นใจจากผลการแข่งขันในครั้งนี้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสมรรถนะและความสมบูรณ์แบบ ของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้เป็นอย่างดี

นายศุภศักดิ์ ดุละลัมพะ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและกิจกรรมการตลาด สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “กิจกรรมด้านมอเตอร์สปอร์ตคือหนึ่งในกิจกรรมที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีความมุ่งมั่นในการพัฒนารถยนต์พร้อมสนับสนุนนักแข่งเพื่อเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ ที่เปรียบเสมือนห้องทดลองขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และสำหรับการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับจากนักแข่งแรลลี่ทั่วโลกว่าเป็นการแข่งขันที่โหดที่สุดในโลกนั้น บริษัทฯ ได้ทำการส่งนักแข่งไทยและรถแข่งเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้เป็นปีที่ 11 แล้ว ถึงแม้ผลการแข่งขันในครั้งนี้มานะจะจบการแข่งขันในอันดับที่ 73 โอเวอร์ออล ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในครั้งแรกคือติดอันดับ 1 ใน 50 แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่และถือว่ามีความหฤโหดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนทำให้มีรถแข่งในประเภทรถยนต์ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้ง 14 สเตจได้เพียง 90 คัน จากทั้งหมด 194 คัน และหากมานะไม่ถูกปรับโทษถึง 200 ชั่วโมง อันเนื่องมาจากความผิดพลาดของผู้จัดการแข่งขันเอง เชื่อว่ามานะ จะติดอันดับ 1 ใน 50 อย่างแน่นอน

ผมเชื่อว่าจากความสำเร็จในครั้งนี้นอกจากจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของทั้ง “มานะ” นักแข่งไทย ที่มีฝีมือการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และการวางแผนการแข่งขันที่แยบยลในแต่ละสเตจของ “ทีมงาน” สมรรถนะอันยอดเยี่ยมตลอดจนความแข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของรถแข่ง “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น” รถต้นแบบของ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขันในครั้งนี้โดยเฉพาะก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่นำมาซึ่งความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ ถึงแม้จะมีปัญหาบ้างในช่วงแรกกับเส้นทางการแข่งขันที่โหด แต่สุดท้ายก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคตลอดเส้นทางเกือบหนึ่งหมื่นกิโลเมตรมาได้อย่างงดงาม”

ทั้งนี้ นายศุภศักดิ์กล่าวเสริมถึงแนวทางของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของรถ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น จากการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ บริษัทฯ วางแผนจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยเชิญ “ มานะ พรศิริเชิด” พร้อมรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาร่วมในกิจกรรมโรดโชว์ ซึ่งจะจัดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้มานะได้ถ่ายทอดประสบการณ์จากการแข่งขันพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดสอบและสัมผัสถึงสมรรถนะของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯ จัดขึ้นเป็นประจำหลังจากการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ จบลง และบริษัทฯ มั่นใจว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วย ตอกย้ำ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจในมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสมรรถนะของเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งของระบบช่วงล่าง รวมไปถึงเทคโนโลยีแห่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ มาจาก มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น ได้เป็นอย่างดี และมีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายของรถมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ได้อย่างแน่นอน”

ทั้งนี้ความสำเสร็จของ มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ ในครั้งนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนอย่างดีมาโดยตลอดได้แก่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ปตท., อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ TFP, ผลิตภัณฑ์ โอ๊คลีย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และที่สำคัญทุกแรงเชียร์ของคนไทยทุกคนที่ส่งให้ตัวแทนนักกีฬาไทยในครั้งนี้






vps1992 จาก กุ้ง  203.159.12.201  พฤหัสบดี, 29/1/2552 เวลา : 08:50   


คำตอบที่ 41
       ผมชอบคนนี้มากกว่า พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล





spakrclubu จาก สัก  180.183.71.21  อังคาร, 5/7/2554 เวลา : 22:06   


คำตอบที่ 42
       สู้ครับไทยแลนด์ให้มีลูกอึดแบบต่างชาติทีมงานดีก็น่าเข้าถึงเส้นชัยครับ



gos จาก ก็อด  118.173.37.63  พุธ, 6/7/2554 เวลา : 13:14   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 6:34:06

Error processing SSI file