WeekendHobby.com


@@@ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ฟอร์มเทพ เหยียบผีแดง แมนฯยู คาหลุม 4:1 @@@
ed
จาก ขงเบ้ง
อาทิตย์ที่ , 15/3/2552
เวลา : 01:10

อ่าน = 1831
124.120.176.9
      
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล งัดฟอร์มที่ดีที่สุดของฤดูกาลออกมาอีกนัดหนึ่ง เมื่อบุกไปถล่ม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลได้แบบไม่มีใครอยากเชื่อถึง 4-1 โดยเกมนี้เจ้าบ้านยังเสีย เนมันย่า วิดิช ที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามอีกด้วย


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (14 มี.ค.52)

แมนฯ ยูไนเต็ด 1-4 ลิเวอร์พูล
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 1-0 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น.23 (จุดโทษ), 1-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.28, 1-2 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.44 (จุดโทษ), 1-3 ฟาบิโอ ออเรลิโอ น.77, 1-4 อันเดรีย ดอสเซน่า น.90


ศึกแดงเดือดเกมที่หลายคนบอกว่าจะเป็นนัดตัดสินฤดูกาลโดยเฉพาะอนาคต ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่แบกรับความกดดันมากกว่าเนื่องจากเป็นรองในตารางแข่งถึง 7 แต้มและยังเล่นมากกว่าอีกนัดด้วย หากนัดนี้พ่ายต่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะโดนคู่รักคู่แค้นทิ้งห่างเป็น 10 แต้มและอาจขยับหนีไกลถึง 13 แต้มได้ด้วย ซึ่งก็แทบจะหมดลุ้นแชมป์ทันที

แต่เกมนี้ทั้งสองทีมก็มี การจัดผู้เล่นที่เซอร์ไพรซ์ไม่น้อย โดยทางแมนฯ ยูไนเต็ด มีการดร็อปดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไรอัน กิ๊กส์ และพอล สโคลส์ ที่ทำผลงานได้ดีในเกมกับอินเตอร์ มิลาน ขณะที่ลิเวอร์พูล ราฟาเอล เบนิเตซ เสียอัลบาโร่ อาร์เบลัว ที่เจ็บตอนซ้อม ขณะที่แดนกลางไม่มีชาบี้ อลอนโซ่ ที่เจ็บอีกคน เป็นลูคัส เลวา ที่ได้ลงเล่นแทน

เริ่มเกมมาทางด้าน เจ้าบ้านเปิดฉากลุกไล่ทันที ทำเอาหงส์แดง ที่เหมือนยังตั้งตัวไม่ติดต้องหลอนไปพักนึงทีเดียว ก่อนจะมาตั้งเกมได้บ้างเมื่อพ้น 10 นาทีแรกไปแล้ว แต่ในรูปเกมก็ต้องถือว่าสูสี และไม่ได้มีฝ่ายไหนที่มีลุ้นอย่างชัดเจน

จน กระทั่งถึงนาทีที่ 23 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้จุดโทษเมื่อ เตเวซ แทงทะลุช่องให้พาร์ค ชี ซอง หลุดเข้าไปในเขตโทษและใช้ความเร็วแตะบอลหลบโฆเซ่ เรน่า ซึ่งแม้นายทวารชาวสเปน จะไม่ได้รวบแต่ผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นจุดโทษ และเป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาสาสังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด

ประตู 1-0 นี้ทำเอาฝั่งลิเวอร์พูล ดูจะออกอาการรวนเหมือนกัน และไม่ได้ดูจะมีท่าทีที่จะกลับมาสู่เกมได้เลย แต่แล้วอีก 5 นาทีต่อมา หงส์แดง ก็ได้ตีปีกกันแบบไม่อยากเชื่อ เมื่อตอร์เรส โชว์ความขยันเข้าไปวิ่งบี้เอาบอลจากวิดิช ที่ปล่อยบอลตกพื้นจนเสียจังหวะ ก่อนจะแย่งเอาไปดวลเดี่ยวกับเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และยิงเล่นทางเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 แล้ว

พอ ได้ประตูตีเสมอแบบนี้ รูปเกมก็เลยกลับมาสูสีกันมากขึ้น เพียงแต่เจ้าบ้านยังเป็นฝ่ายที่ได้ลุ้นมากกว่าเล็กน้อย โดยมีจังหวะยิงฟรีคิกไกลของโรนัลโด้ ที่ทำเอาเรน่า ต้องตะครุบ 2 จังหวะ ก่อนที่คาร์ริค จะลากบอลมายิงหน้ากรอบเขตโทษเสยข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น

แต่ ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาที ก็มีจังหวะสำคัญเกิดขึ้นเมื่อตอร์เรส จ่ายบอลให้เจอร์ราร์ด ได้บอลในเขตโทษก่อนจะมาโดน เอวร่า สอยล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษแบบไม่ลังเลเลย ซึ่งเจอร์ราร์ด ก็ลุกขึ้นมายิงเองเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้ลิเวอร์พูล พลิกกลับมานำ 2-1 ในครึ่งแรก เรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลยทีเดียว

กลับมาเล่นกัน ใหม่ในครึ่งหลัง ปีศาจแดง เดินหน้าเต็มตัวบุกจะเอาตีเสมอง่ายๆ และมีจังหวะหวาดเสียวทั้งลูกที่ เรน่า รับบอลเปิดของโรนัลโด้ พลาดไปชนเสา รวมถึงลูกที่เตเวซ เปิดมาที่เสาไกลแต่เกือบจะย้อยเข้าประตูต้องปัดทิ้ง และลูกที่ โรนัลโด้ เปิดเข้ามาให้รูนี่ย์ โขกย้อนมาที่เสาสองแต่เตเวซ เข้าไม่ถึงบอล ลูกผ่านหน้าปากประตูออกไปแบบไม่มีใครอยากเช่อ

ยูไน เต็ด ยังพยายามอยู่อีกพักใหญ่และพยายามที่จะปรับเกมโดยส่ง 3 ทหารเสืออย่าง สโคลส์, กิ๊กส์ และเบอร์บาตอฟ ลงมาพร้อมกัน แต่ยังไม่ทันไรก็จะมาเจอแจ็คพอต 2 ชั้นอย่างจังในนาทีที่ 75

เมื่อ ลิเวอร์พูล โต้กลับมาทางเจอร์ราร์ด ลากหลบวิดิช ได้แล้วก่อนจะโดนกองหลังเซิร์บ "ดึงเป้า" จนร่วงลงไปก่อนจะได้หลุดเดี่ยว ผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ แจกใบแดง "เซอร์บิเนเตอร์" ทันที

และจังหวะ ต่อจากนั้นเอง ในลูกฟรีคิกระยะกว่า 30 หลา เป็นฟาบิโอ ออเรลิโอ ที่ปั่นบอลข้ามกำแพงก่อนจะมุดเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม ชนิดที่ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำได้แค่เหลียวไปมองบอลกองตาข่ายเท่านั้น ลิเวอร์พูล หนีเป็น 3-1 แล้ว

ได้ เปรียบทั้งสกอร์และตัวผู้เล่น ทำให้ลิเวอร์พูล เบรกเกมและเริ่มถอดตัวสำคัญออกมาพัก และประคับประคองเกมไปเรื่อยๆไม่มีอะไรต้องรีบร้อน แถมยังมาได้ประตูปิดท้ายอีกลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อเรน่า เตะสาดขึ้นมา กองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด พลาดอีกครั้งปล่อยให้ อันเดรีย ดอสเซน่า แบ็กซ้ายตัวสำรองหลุดเข้าไปกระดกบอลข้ามหัวฟาน เดอร์ ซาร์ อย่างเหนือชั้น เป็นประตูปิดท้ายในเกมนี้กับชัยชนะยิ่งใหญ่ของหงส์แดง ที่ทำแต้มไล่จี้มาเหลือแค่ 4 คะแนนเท่านั้น แม้จะเล่นมากกว่า 1 นัดก็ตาม


รายชื่อผู้เล่น
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไมเคิล คาร์ริค (ไรอัน กิ๊กส์ น.74), อันแดร์สัน (พอล สโคลส์ น.73), พาร์ค ชี ซอง (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.74), เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ซามี่ ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส, เดิร์ค เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (นาบิล เอล ซาร์ น.90), อัลเบิร์ต ริเอร่า (อันเดรีย ดอสเซน่า น.67), เฟร์นานโด ตอร์เรส (ไรอัน บาเบิล น.81)

ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลีย์
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล





เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.176.9  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 01:12   


คำตอบที่ 2
      

Mission Impossible
วันที่ 3/15/2009 10:27:54 AM
Advertisement

ถ้า จะมีใครสักคนบอกว่าลิเวอร์พูล จะยิงถล่มทีมอย่างเรอัล มาดริด กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทีมละ 4 ประตู อาจจะถูกกล่าวหาว่าไม่บ้าก็เมาได้


แต่มันก็เกิดขึ้นจริง ชนิดที่ต้องปรบมือให้กับความเก่งเหลือเชื่อครั้งนี้ด้วย

ลิเวอร์พูล ได้กลับมาแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขาเป็นทีมจอมมหัศจรรย์ตัวจริง ในวันที่ "ตั้งใจ" จะเล่นไม่ว่าจะทีมไหน ที่ไหน ก็สามารถเอาชนะได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าวันไหนไม่ตั้งใจจะเล่นเต็มสูบ จะทีมไหน ที่ไหน ก็แพ้ได้ เสมอได้เหมือนกัน

โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งดูน่าตลกเมื่อทีมเดียวกันนี้ที่สามารถชนะได้ทั้งแมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, เรอัล มาดริด และสร้างปาฏิหารย์คัมแบ็กกลับมาชนะในช่วงท้ายเกมได้บ่อยครั้งในช่วงครึ่งฤดู กาลแรก กลับไม่มีปัญญาจะเอาชนะทีมอย่างสโต๊ค, วีแกน หรือฮัลล์ได้

ตลกร้ายจริงๆ

แต่อย่างน้อยที่สุด การบุกไป "ถล่ม" ปีศาจแดงกระเจิงถึงหลุมนั้น ก็เป็นการปลุกความหวังครั้งใหญ่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลสำหรับลูกทีมของราฟา เอล เบนิเตซ

เหมือนกับครั้งแรกของฤดูกาลที่ชนะในเกมแดงเดือดได้ทำให้เกิด "ความเชื่อ" ว่ามันอาจจะถึงคราวของพวกเขาบ้าง

แม้ในเชิงลึกแล้ว มองกันตามภาพแห่งความเป็นจริงลิเวอร์พูล ก็ไม่ได้ถึงกับชนะอย่าง "ขาดลอย" ตามสกอร์ที่ปรากฏ เพราะพวกเขาไม่ได้เปิดฉากรุกไล่ต้อนตือชนิดที่แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องวิ่งกันขาขวิด และหลายครั้งก็มีอาการปั่นป่วนเมื่อโดนโหมหนักอยู่บ้าง

ลิเวอร์พูล ชนะในเกมนี้ด้วยสกอร์ขาดลอยขนาดนี้เพราะ "จังหวะ" มันเข้าทาง โดยมาพร้อมกันกับ "ความเฉียบขาด" ที่หายไปนาน

น่าสังเกตว่าหงส์แดง กลับมาระเบิดฟอร์มระดับนี้ได้เพราะมีศูนย์หน้าที่ชื่อเฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนค้ำยันอยู่ข้างหน้าโดยมีสตีเว่น เจอร์ราร์ด คอยดันให้ข้างหลัง (อย่าคิดลึก)

"เอล นินโญ่" มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับรูปเกมทั้ง 2
นัด ที่ถลุงเรอัล มาดริด และถล่มแมนฯ ยูไนเต็ด เพราะแม้จะมีข่าวว่าไม่ฟิตเต็มร้อยนักและเพิ่งจะเรียกความฟิตกลับมาลงเล่น ได้แบบฉิวเฉียดในเกมแรก ถึงขั้นต้องฉีดยาชาก่อนลงสนามด้วยซ้ำ แต่ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และไหวพริบของตอร์เรส สร้างปัญหาให้กับแนวรับเป็นอย่างมาก

แม้กระทั่ง เนมันย่า วิดิช หนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้ก็ยังกลายสภาพจาก "เซอร์บิเนเตอร์" เป็น "เซ่อบิเนเด้อ" โดนตอร์เรส เล่นงานจนแทบเสียคน

ประตูตีเสมอที่ลิเวอร์พูลได้ มันอาจจะเป็นจังหวะที่ก้ำกึ่งอยู่บ้างว่าเป็นการฟาวล์หรือไม่ เพราะมือของตอร์เรส ไป "สัมผัส" กับตัวของวิดิช เล็กน้อยก่อนจะโฉบเอาบอลไปยิงประตู แต่จังหวะเดียวกันนี้แหละที่สะท้อนให้เห็นว่า วิดิช มีอาการ "ผวา" กับตอร์เรส ลังเลปล่อยบอลกระดอนพื้นก่อนที่จะโดนความเร็วที่เหนือกว่าแย่งเอาบอลไปราว กับพญาเหยี่ยวโฉบคว้าเหยื่อไปกิน

ประตูนี้เองที่สั่นประสาทแนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมที่เคยไม่เสียประตูนานติดต่อกันร่วม
14 นัด โดนยิงรวดเดียวถึง 4 ลูก

ก่อนที่วิดิช จะไปเสียคนอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังเมื่อไป "ดึงเป้า" ของสตีเว่น เจอร์ราร์ด จนโดนใบแดงไล่ออกไป

ด้วยฟอร์มของตอร์เรส ทำให้ปฏิเสธไม่ออกเหมือนกันว่าการขาดกองหน้าแชมป์ยูโรที่พี่เจิดซูฮกยกให้ เป็นกองหน้าหมายเลขหนึ่งของโลกไปหลายต่อหายนัดในฤดูกาลนี้ มันส่งผลเสียหายต่อโอกาสลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลเหมือนกัน

ฤดูกาลนี้ ตอร์เรส ลงเล่นในลีกให้กับลิเวอร์พูล แค่
16 นัดจาก 29 นัด หายไปถึง 13 นัดด้วยกัน โดยส่วนใหญ่ก็เป็นอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงซึ่งต่อเนื่องมาโดยตลอด

มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะชวนให้คิดว่าถ้ามีตอร์เรส อยู่ครบทุกนัด ป่านนี้ลิเวอร์พูล อาจจะนำหน้าทุกทีมอยู่ก็ได้

แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญอีกแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงมัน

สิ่งสำคัญที่ราฟาเอล เบนิเตซ พยายามเน้นย้ำมี
2 เรื่อง คือหนึ่งปลุกใจลูกทีมด้วยผลการแข่งขันทำให้มีความเชื่อว่าทุกนัดที่เหลือของฤดูกาล พวกเขาไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว

และสองปลุกใจทีมอื่นๆให้เห็นว่าทีมอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่จะแตะไม่ได้พ่ายไม่เป็น

ข้อสองนี่แหละที่สำคัญเพราะช่วงก่อนหน้านี้ หลายทีมลงสนามในการเจอกับกองทัพอสูรแดงของเฟอร์กี้ ด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง ทั้งที่ความจริงมีหลายนัดเหลือเกินที่แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานแต่ก็ยังสามารถเอาชนะได้ ไม่ว่าจะด้วยฝีมือหรือโชคชะตาก็ตามที

ความหวังของราฟา จึงแยกเป็นสองส่วน ทั้งส่วนของทีมตัวเองที่ก็ห้ามพลาดอีกแล้ว และส่วนของทีมอื่นๆที่จะช่วยกันหยุดปีศาจแดงให้

มองในแง่นี้แล้วก็ยังนับว่าน่า "เหนื่อย" เพราะลิเวอร์พูล มันมีภาพเก่าๆของทีมที่พลาดง่ายๆโผล่ให้เห็นประจำ

ในทางตรงข้าม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีภาพของทีมที่ชนะง่าย แพ้ยาก ติดตาอยู่เสมอ

แต่เวลานี้ เมื่อมันเกิดประกายของ "ปาฏิหารย์" ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดไปแล้ว คงไม่ผิดอะไรถ้าจะบอกให้เดอะ ค็อป ทั้งหลายว่าอย่าเพิ่งเลิกหวัง

พวกคุณมีสิทธิ์ที่จะหวังอยู่ว่าท้ายที่สุด ปาฏิหารย์จะบังเกิด และแชมป์จะกลับมาสู่แอนฟิลด์อีกครั้ง



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 3/15/2009 10:27:54 AM






ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 12:59   


คำตอบที่ 3
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:05   


คำตอบที่ 4
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:06   


คำตอบที่ 5
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:07   


คำตอบที่ 6
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:08   


คำตอบที่ 7
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:14   


คำตอบที่ 8
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:14   


คำตอบที่ 9
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:15   


คำตอบที่ 10
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:16   


คำตอบที่ 11
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:16   


คำตอบที่ 12
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:17   


คำตอบที่ 13
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:18   


คำตอบที่ 14
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:18   


คำตอบที่ 15
      
อาการ....ที่แตกต่าง ราวฟ้า....กับเหว





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.177.229  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 13:20   


คำตอบที่ 16
      





จาก เก่ง  61.90.79.70  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 18:09   


คำตอบที่ 17
      



ch_boon จาก Nhui  125.27.80.72  อาทิตย์, 15/3/2552 เวลา : 19:12   


คำตอบที่ 18
      



auiturbo จาก ก้านกล้วย  119.42.65.168  จันทร์, 16/3/2552 เวลา : 12:47   


คำตอบที่ 19
       เขาเรียกว่าเทพ ครับพี่น้อง



จาก domutsu  202.149.117.170  จันทร์, 16/3/2552 เวลา : 14:10   


คำตอบที่ 20
       สำหรับเด็กผี ไม่เสียใจครับมันก็เป็นการแพ้เกมๆหนึ่งแค่นั้นเอง ผียังไงก็แชมป์อยู่ดีครับ(ทิ้งแต้มเพื่อให้สูสี ให้คนดูตื่นเต้น ให้แฟนหงษ์ได้หลับฝันหวานมัง)
จะให้ดีจับฉลาก แชมป์เปี้ยนลีกให้เจอกันไปเลยจะได้รู้ดำรู้แดง เพื่อนผมแฟนหงษ์เย้ว่าหงษ์จะเป็นแชมป์ ผมก็บอกไปว่าให้ไปนอนแต่หัวค่ำ จะได้มีเวลาฝันนานๆ
อิอิอิอิอิ อย่าเครียดเน่อ..........



จาก ooy  118.172.95.188  จันทร์, 16/3/2552 เวลา : 15:16   


คำตอบที่ 21
       แพ้เป็นพระชนะเป็นมารครับ 555+



ohm_2j จาก MEGAOHM  118.172.182.179  จันทร์, 16/3/2552 เวลา : 17:44   


คำตอบที่ 22
       หงส์ยังไงก็ยังเป็นหงส์





จาก gundam  124.121.183.45  อังคาร, 17/3/2552 เวลา : 00:51   


คำตอบที่ 23
       ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ก็ชนะทั้งไปและกลับนะครับแชมป็นะไม่เท่าไหร่มันอยู่ (สะใจ) หงส์ยังไงก็ยังเป็นหงส์ครับ



จาก หนุ่ย ชม.  124.157.238.246  พุธ, 18/3/2552 เวลา : 11:55   


คำตอบที่ 24
       เฉยๆ ยังไม่ตกรอบ
แพ้ได้อีกหลายนัด แพ้กี่ลูกก็คือแพ้ แพ้ได้ทุกทีมอีกต่างหาก 555



dear12 จาก strada139  119.42.64.167  พุธ, 18/3/2552 เวลา : 15:45   


คำตอบที่ 25
       คุยได้ ยัน ฮาเลย์บวชเลยนะพี่



doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.150.110  พุธ, 18/3/2552 เวลา : 20:01   


คำตอบที่ 26
       ว่าด้วยบทกลอนดี ๆ อยากให้แฟนหงส์อ่านกัน ( แฟนแมนยู ห้ามอ่านเด็ดขาด)
จากควันหลง ที่ยังคง ความสดชื่น
ได้ระรื่น กับชัย ไปถ้วนหน้า
ได้สุขสันต์ ทั้งพระ และสีกา
ผีเดินมา ต้องก้มหน้า เป็นประจำ

แต่หงส์ก็ พอมี สปิริต
ไม่ใช่คิด ติดใจ ไปตอกย้ำ
แฟนผีดี ก็มี ไม่ใจดำ
ไม่ต้องใช้ ถ้อยคำ รู้แก่ใจ

แต่ที่เขียน เพราะอยากเรียน พวกเกรียนผี
ที่ปากดี พูดย่ำยี รับไม่ไหว
แต้มยังตาม หงส์ชนะ เพื่ออะไร
ก็เข้าใจ แต่รู้ไหม สะใจกรู

เริ่มกันที่ ตัวตะกวด หนวดเป็นแผง
บอกหงส์แดง นั้นไม่ใช่ จะเลิศหรู
ชนะได้ เพราะว่า ทีมแมนยู
นั้นไม่อยู่ ในฟอร์ม ที่เข้าที

ปะโธ่เอ้ย ไม่เคย ให้เครดิต
สปิริต ไม่มีเลย เป็นแฟนผี
ไม่ยอมรับ ว่าหงส์ นั้นเล่นดี
พูดอย่างนี้ ท้าโกนหนวด สักครึ่งนึง

หากดูตัว ก่อนแข่ง นั้นหม่นหมอง
ทั้งตัวจริง สำรอง นั้นคงอึ้ง
ผีนั้นดู ดีกว่า โปรดคำนึง
อย่ามัวบึ้ง หน้าปลาจวด นะหนวดดำ

จะอ้างว่า นักเตะผี นั้นอ่อนล้า
หงส์ก็เตะ กลางสัปดาห์ คิดแล้วขำ
แค่หนึ่งวัน อย่ามาใส่ เป็นถ้อยคำ
คงไม่ทำ ให้เทพ นั้นสร่างซา

หรือว่าเป็น เพราะพวกผี นั้นหัวหด
เทพเลยหมด เพราะมาเจอ ทีมเทพกว่า
ที่เคยพริ้ว เคยวิ่ง โชว์ลีลา
แต่กลับมา สับขา ไม่ออกกัน

อันที่จริง เจ็ทโด้ นั้นทุกที
เจอหงส์นี้ เล่นไม่ออก กันซะงั้น
สับไม่เป็น คิดไม่ออก จนตีบตัน
นี่หรือเทพ หรือไรกัน ลองคิดู

เจ็ทโด้ผ่าน ออริเรโอ นั้นไม่ได้
ต้องหนีไป เล่นทางซ้าย ใครก็รู้
จะเรียกเทพ ก็คง เทพออกรู
เทพลูคัส เอาอยู่ แบบสบาย

หันมาดู หมูบิน ที่ว่าเทพ
ก็โดนเก็บ ออกไป จนห่างหาย
หรือจะเทพ แค่พูด จาหยาบคาย
ถ้าจับได้ จะใส่อวย ทรมาน

อันที่จริง ผมชื่นชม หมูบินอยู่
ที่ใจสู้ วิ่งขึ้นลง น่าสงสาร
แต่ตัวหมู ปากหมา น่ารำคาญ
เลิกสงสาร เหยียบย่ำ ให้จมดิน

มาว่าถึง กองหลังผี ดีที่สุด
วิดิชนั้น ยังหลุด จนขาดวิ่น
ที่เคยเทพ กันมา เป็นอาจิณ
ต้องมาสิ้น เพราะตอเรส หอกเทพเรา

นี่ขนาด หอกเทพ นั้นดูเจ็บ
แต่สเต็ป ก็ยังคง ความเป็นเขา
หลังของผี ทั้งแผง ถึงมึนเมา
แทบจะเอา ไม่อยู่ ดูรวนเร

จะบอกว่า เหลือสิบคน นั้นไม่ได้
ช่างไม่อาย ไม่รับไป ให้จบเห่
หากเจิดแป ลูกนั้นเข้า ยิ่งได้เฮ
มันข้ออ้าง ทั้งเพ ที่พูดมา

หันมาดู ประตูผี ได้จุดโทษ
ถือเป็นโจทย์ ความผิดพลาด ของเร่นา
แม้ความจริง ถ้าดู ด้วยสายตา
ตัวเรน่า ไม่ได้คว้า แต่อย่างใด

แต่ที่โดน จุดโทษ ก็ยอมรับ
เพราะไม่อาจ บังคับ ตอนสไลด์
เรน่าพุ่ง แรงเฉื่อย นั้นพาไป
ไม่เสียใจ แต่ว่า แค่เสียดาย

หันมาดู สี่ประตู ของเทพหงส์
ที่ยังคง คุณภาพ ไม่ห่างหาย
คุณภาพ ล้วนล้วน ไม่ต้องอาย
เราพูดได้ ไม่กระดาก ปากนี้เลย

ประตูแรก ยิงแจก โดยตอเรส
โปรดสังเกตุ ด้วยความ ไม่อยู่เฉย
วิดิชนั้น ก็มัว แต่ละเลย
โดยชิบเสย เบียดเสา เป็นหนึ่งตุง

ลูกที่สอง ลูกโทษ ของเจอร์ราด
เอฟราพลาด ไม่อาจ หาว่าพุ่ง
เสียตำแหน่ง ไม่สามารถ จะพยุง
เจิดกระทุ้ง ตาข่าย เสียพ่ายพัง

ลูกที่สาม ความสามารถ ออริเรโอ
ที่ปั่นโชว์ ลูกฟาว์ วิดิชรั้ง
วันเดอร์ซา ได้แต่ ยืนจังงัง
เป็นอีกครั้ง ที่ได้ แค่ยืนดู

ประตูสี่ เป็นพี่ ตอสเซนา
ตอสฝึกมา อย่างไร หรือไม่รู้
ลูกเตะยาว กระดก ข้ามประตู
ยิงแมนยู เป็นนัดสอง ของเขาแรง

ถ้าสังเกตุ เมื่อเรายิง ในทุกที
กล้องจะจับ เวรรู้นี่ ให้แสลง
ที่สัมภาษณ์ ว่าโครต เกลียดหงส์แดง
ช่างกล้องนั้น กลั่นแกล้งหรือ เวทนา

ที่ชี้แจง แถลงเรื่อง ของประตู
แค่อยากบอก ให้รู้ เท่านั้นหนา
ที่ผีแพ้ ไม่ใช่เพราะ คนน้อยกว่า
อย่าเอามา เป้นประเด็น ที่สำคัญ

ไม่เข้าใจ ทำไม ไม่ค่อยรับ
ที่อาภัพ เรื่องผล การแข่งขัน
เห็นหงส์แดง นี้เป็นทีม อะไรกัน
ไม่มีวัน ชนะผี หรืออย่างไร

จึงดูถูก เหยียดหยาม ไว้ก่อนแข่ง
ว่าเป็ดแดง นั้นคง สู้ไม่ไหว
จะว่าเป็ด ว่าได้ ก็ว่าไป
เป็ด-ยีเผ็ด จำไว้ ไม่หลอกลวง

ดูถูกอีก สิว่าหงส์ ไม่ได้แชมป์
เพราะว่าแต้ม ยังตามหลัง ไม่ต้องห่วง
ไม่มีใคร ค้ำฟ้า รู้เต็มทรวง
แล้วแต่ดวง ชะตา ที่เรามี

เราชนะ ไม่ใช่ว่า จะไม่แพ้
เราก็แย่ เราก็ เคยแพ้ผี
เราแพ้เขา เขาแพ้เรา นั้นย่อมมี
วันที่ผี ต้องแพ้หงส์ อีกมากมาย

ไม่เข้าใจ ทำไม ต้องรักหงส์
และยังคง หาเหตุผล ที่หลากหลาย
คำว่าคุณ ไม่มีวัน เดินเดียวดาย
สื่อความหมาย ลึกซึ้ง เกินเข้าใจ

อาจจะรัก เพราะนักเตะ ที่เรามี
ทำตัวดี ไม่ค่อย เสียนิสัย
ทำตัวหื่น มันดี หรืออย่างไร
จึงชอบใจ เที่ยวไป ชอบคุยโว

แฟนหงส์นั้น อาจะชอบ พูดเกทัพ
เขาเลยจับ ประเด็น ว่าเป็นโม้
อันทีมอื่น ก็เป็น กันใหญ่โต
ถ้าจะโม้ แฟนทีมอื่น ก็หลายคน

ริเป็นเทพ แต่ไม่มี ความสามารถ
ก็ไม่อาจ จะไป บรรลุผล
มัวสำส่อน ทรยศ ต่อทีมตน
เป็นแค่คน นิสัย เหมือนส้นตรีน...







จาก หนุ่ย ชม.  124.157.239.90  พฤหัสบดี, 19/3/2552 เวลา : 14:44   


คำตอบที่ 27
      
ผมเอารายงานการแข่งขันมาแจ้งให้เพื่อนสมาชิกทราบ เผื่อใครไม่ได้ติดตาม เพราะถือว่า เป็นศึกแดงเดือด ที่คนติดตามกันทั่วโลก

ใครรักใครชอบใคร ก็พอหอมปากหอมคอนะครับ ถือว่าโตๆกันแล้ว



วันเสาร์ ผีโดนหามกลับหลุม อีกแล้วครับ แพ้ ฟูแล่ม 0:2

แปดวันโดนไป 8 เม็ดเอง...หุหุหุ




^48



ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 01:55   


คำตอบที่ 28
      
ประมาณนั้นแหละ หนวดเอ๊ย....ตอนฮาร์เลย์ บวช จะเอาไปเปิดฉลองบวช....อิิอิอิิ



ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 01:59   


คำตอบที่ 29
       ผีช็อก! ไล่สโคลส์-รูนี่ย์ทำพ่ายฟูแล่ม 0-2
วันที่ 3/22/2009 3:34:40 AM
Advertisement

แมน เชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะดุดหัวทิ่ม เมื่อบุกมาโดนฟูแล่มเชือด 2-0 จุดเปลี่ยนอยู่ที่พอล สโคลส์ ทำแฮนด์บอลโดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 18 และทำให้เสียจุดโทษ ก่อนที่แดนนี่ เมอร์ฟี่ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไป บวกด้วยลูกตีลังกาสุดสวยของโซลตัน เกร่าอีกหนึ่ง แถมช่วงท้ายเกมเวย์น รูนี่ย์ยังมาน็อตหลุดโดนไล่ออกตามไปอีกคนด้วย


ฟูแล่ม 2 - 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้ทำประตู : 1-0 แดนนี่ เมอร์ฟี่ น.18, 2-0 โซลตัน เกร่า น.87

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เพิ่งพ่ายต่อลิเวอร์พูลมาในศึกแดงเดือด 1-4 ยกพลมาเยือนถิ่นคราเว่น ค็อทเทจของฟูแล่ม ด้วยความมุ่งมั่นจะชนะเพื่อลบเลือนความผิดหวังให้ได้ เกมนี้ผีไม่มี เนมันย่า วิดิช กองหลังที่ติดแบน 2 นัด และมีการปรับทัพเล็กน้อย แดนหน้าให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยืนเป็นหน้าเป้าโดยมี คริสเตียโน โรนัลโด และ ปาร์ค จี ซอง ช่วยทำเกม

เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที ผีทักทายก่อนจากจังหวะที่ปาทริซ เอวรา เปิดไปให้เบอร์บาตอฟโหม่ง แต่เบาไป มาร์ค ชวาร์เซอร์ ยังปัดไว้ได้

ผ่านมาถึงนาทีที่ 18 แฟนผีต้องช็อก เมื่อพอล สโคลส์ ไปใช้มือปัดลูกโหม่งจ่อๆ ของ บ็อบบี ซาโมร่า ทำให้โดนไล่ออกทันที พร้อมเสียจุดโทษให้แก่ฟูแล่ม ซึ่งแดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ กัปตันทีมรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ฟูแล่มนำ 1-0

จากนั้นฟูแล่มที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นก็ได้ใจ เป็นฝ่ายกดดันผีเป็นระลอก นาทีที่ 23 ซาโมร่าหลุดเข้าไปยิง แต่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายทวารยูไนเต็ดปัดออกมาได้

ช่วงท้ายครึ่งแรก ผีแดงโดนไล่ต้อนอยู่หลายยก ยังดีไม่เสียประตูเพิ่ม ทำให้จบ 45 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดยังตามหลังฟูแล่ม 0-1

ครึ่งหลังเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผีแดงแก้เกมส่งเวย์น รูนีย์ ลงไปเล่นแทนเบิร์บที่มีอาการเจ็บข้อเท้า

เกมของผีเริ่มดีขึ้น นาทีที่ 60 ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ยิงลอดขา อารอน ฮิวจ์สไปแล้ว ทว่าบอลยังตรงตัวชวาร์เซอร์

อีก5 นาทีต่อมา ทีมเยือนพลาดโอกาสทองที่จะตีเสมอเมื่อ รูนี่ย์ป้ายบอลให้ ปาร์ค จี ซอง ตวัดยิงจ่อๆ โดนนายด่านเจ้าสัวน้อยปัดมาเข้าทาง โรนัลโด ได้ซ้ำเผาขน ทว่าชวาเซอร์ที่เหนียวหนึบในวันนี้ยังยืดขาไปสกัดบอลทิ้งได้อีก

นาทีที่ 74 เซอร์เฟอร์กี้ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง คาร์ลอส เตเบซ ลงมาแทน จอห์น โอเชีย แบ็กขวาเพื่อเน้นรุกเต็มสูบ

ทว่าหลังจากบดบี้อยู่นานไม่ได้ ผีแดงก็โดนจังหวะโต้กลับของฟูแล่มเล่นงานเจ็บแสบในนาทีที่ 87 เมื่อเอเจเปิดย้อนเข้ากลางให้ โซลตัน เกร่า เอี้ยวตัววอลเล่ย์ด้วยขวาส่งบอลตกพื้นก่อนเด้งเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยสด

นาทีต่อมา ผีแดงต้องเหลือแค่ 9 คนในสนาม เมื่อรูนี่ย์โดนใบเหลืองแดงไล่ออกจากสนาม จากความพยายามจะเล่นเร็ว แต่ออกอาการฮึดฮัดเลยโดนผู้ตัดสินลงโทษไป

จากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ฟูแล่มไล่ถลุงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปอย่างเหลือเชื่อ 2-0 ทำให้ผีแดงต้องพ่าย 2 นัดติดต่อกันแล้ว


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , จอห์น เพนท์ซิล , อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮันเกลันด์ , พอล คอนเชสกี , คลินท์ เดมซีย์ , แดนนี้ เมอร์ฟี้ย์ , ดิกสัน เอตูฮู , ไซมอน เดวีส์ , แอนดี จอห์นสัน , บ็อบบี้ ซาโมร่า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , จอห์น โอเชีย , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , จอนนี อีแวนส์ , ปาทริซ เอวรา , ปาร์ค จี ซอง , ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , พอล สโคลส์ , ไรอัน กิ๊กส์ , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ




ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 02:07   


คำตอบที่ 30
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 02:11   


คำตอบที่ 31
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 02:12   


คำตอบที่ 32
      





ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 02:14   


คำตอบที่ 33
      

เจิดแฮตทริก! หงส์ถล่มวิลล่า 5-0 จี้คอผีแต้มเดียว
วันที่ 3/23/2009 1:05:13 AM
Advertisement

สตี เว่น เจอร์ราร์ด ซัดแฮตทริกนำ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า คาแอนฟิลด์ 5-0 ไล่จี้จ่าฝูงแมนฯ ยูไนเต็ด เหลือแค่แต้มเดียวและยังเป็นการยิงเกิน 4 ประตูติดต่อกัน 3 นัดอีกด้วย


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (22 มี.ค.52)

ลิเวอร์พูล 5-0 แอสตัน วิลล่า
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 1-0 เดิร์ค เคาท์ น.8, 2-0 อัลเบิร์ต ริเอร่า น.33, 3-0 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.39 (จุดโทษ), 4-0 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.50, 5-0 สตีเว่น เจอร์ราร์ด น.65 (จุดโทษ)


"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พกความหวังมาเต็มเปี่ยมในการไล่จี้จ่าฝูง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ฝ่ายหลังพลาดท่าพ่ายฟูแล่ม อีกนัดเมื่อวันเสาร์ แต่ก็เจองานไม่ง่ายนักเพราะมี "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า ทีมที่กำลังลุ้นที่ 4 อยู่เวลานี้และเจอความกดดันเพราะโดนอาร์เซนอล แซงไปแล้วทำให้ต้องการแต้มเช่นกัน

วิลล่า เกมนี้มีชื่อเอมิล เฮสกี้ อดีตหัวหอกหงส์แดงลงสนามด้ว และมีโอกาสช่วยทีมตอนต้นเกมเมื่อพักอกเอาบอลลงได้ก่อนจะไหลให้ มิลเนอร์ ยิงไปแฉลบออกข้างไป ถือเป็นจังหวะการทักทายครั้งแรกของทีมเยือนในนาทีที่ 3

แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็เปิดฉากลุยคืนและมาได้ประตูนำในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อเจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกเข้ามาถึงอลอนโซ่ ที่หายเจ็บกลับมาโขกเช็ดไปชนคานกระดอนมาเข้าทางเดิร์ค เคาท์ วอลเล่ย์สวนตูมเดียวหายเข้าไป

ได้ประตูนำแต่ลิเวอร์พูล ยังลุยไม่หยุดและนาทีต่อมาก็น่าจะบวกเพิ่มได้อีกเม็ด เมื่ออลอนโซ่ โขกชงมาให้เจอร์ราร์ด ยืนโล่งๆได้ยิงแต่เป็นการซัดด้วยซ้ายข้างไม่ถนัดทำให้บอลหลุดกรอบออกไปแบบ น่าเสียดาย

นานๆวิลล่า จะได้ตอบโต้ทีนึงแต่ก็เกือบจะทำได้เหมือนกันในนาทีที่ 21 เมื่อบอลเปิดมาถึง คาริว เหยียดขาจิ้มบอลลูกทำท่าจะเข้าเสาแรกได้เหมือนกันแต่เรน่า ยังไวทายาทปัดข้ามคานออกไปได้ทัน

คาริว มีโอกาสอีกครั้งเมื่อได้เบียดขึ้นโขกเอาชนะสเคอร์เทลได้ แต่ว่าเรน่า ก็ยังซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้ แต่ว่าวิลล่า ก็ได้ใจอยู่พักเดียวลิเวอร์พูล โต้กลับทีเดียวได้ประตูทันทีในนาทีที่ 33 โดยเป็นการเตะเปิดเกมจากเรน่า ที่หวดยาวตูมเดียวมาถึงริเอร่า ที่วิ่งกวดบอลไปถึงในเขตโทษก่อนจะวอลเล่ย์ด้วยซ้ายตูมเดียวหายเข้าสาม เหลี่ยมไปเลย

จากนั้น ริเอร่า ก็มีส่วนในประตูที่ 3 อีกเมื่อเล่นงานรีโอ โคเกอร์ แบ็กขวาจอมรั่วเข้าไปในเขตโทษก่อนจะโดนสอยร่วง ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษทันทีและเป็นเจอร์ราร์ด ที่แปเล่นทางเข้าไปตุงตาข่าย ซึ่งเป็นประตูปิดท้ายครึ่งแรกให้ลิเวอร์พูล นำห่างถึง 3-0

ครึ่งหลังหงส์ยังดุไม่เลิก แค่ 4 นาทีหลังกลับมาลงสนามใหม่ก็หนีเป็น 4-0 แล้ว เมื่อมาได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ อลอนโซ่ เขี่ยเปลี่ยนจุดให้เจอร์ราร์ด วิ่งมาแปบอลเล่นทางเข้าไปแบบเหนือชั้น ทำให้ลิเวอร์พูล ยิงได้ 4 ประตู 3 นัดติดต่อกัน โดยเจอร์ราร์ด ยิงไป 5 ประตูแล้วจาก 3 นัดที่ว่า

วิ ลล่า มีแค่จังหวะขึ้นโขกของเฮสกี้ ที่เสาไกลหลังได้บอลเปิดจากขวาโดยมิลเนอร์ แต่ว่าก็เบาและตรงตัวเรน่า ที่รับเข้าซองสบายๆ ขณะที่ลิเวอร์พูล ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจโดยเฉพาะจังหวะสวนกลับที่ได้ลุ้นตลอด และเกือบจะเป็น 5-0 ด้วยถ้าอลอนโซ่ ไม่เติมมารับลูกเปิดจากขวาของเคาท์ และซัดหลุดกรอบไป

สถานการณ์ สำหรับทีมเยือนยิ่งเลวร้ายขึ้นอีกเมื่อ ฟรีเดล โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในจังหวะที่ตอร์เรส กำลังหลุดเดี่ยวเข้ามาในเขตโทษก่อนจะจิ้มหลบนายทวารที่เคยเป็นอดีตเด็กหงส์ เหมือนกัน ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษทันที และคราวนี้เจอร์ราร์ด ก็รับอาสาตามเคยซึ่งก็แปเล่นทางเดิมเข้าไปไม่พลาดโดยแบร๊ด กูซาน ที่ลงมาเฝ้าเสาแทนฟรีเดล พุ่งผิดทาง เป็นประตู 5-0 ของจริงสำหรับลิเวอร์พูล และเป็นแฮตทริกของสตีวี่จี ด้วย

ราฟา ถอดอลอนโซ่ ออกมาพักทันทีและให้ "ลูกรัก" ลูคัส ลงสนามมาแทน ซึ่งกองกลางบราซิล ก็เกือบยิงประตูได้เมื่อได้บอลใส่พานจากริเอร่า ก่อนเติมมายิงตรงจุดโทษแต่แปด้วยซ้ายหลุดกรอบไปนิดเดียว

ช่วงเวลา ที่เหลือ ลิเวอร์พูล ก็ประคับประคองเกมไปเรื่อยๆโดยพอใจกับสกอร์ที่ตุนไว้ ที่เพียงพอต่อการจะเป็นทีมที่มีประตูได้เสียดีที่สุดในลีกแล้ว และไล่จี้แมนฯ ยูไนเต็ด เหลือแค่แต้มเดียว และมีโอกาสจะแซงนำถ้าชนะฟูแล่ม ที่ปราบผีมาเมื่อวาน ส่วนลูกทีมเฟอร์กี้ ก็จะสลับกันไปเจอวิลล่า ที่พ่ายเละในเกมนี้แทนโดยลงเล่นช้ากว่า 1 วัน


รายชื่อผู้เล่น
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, อัลบาโร่ อาร์เบลัว (ดาเนี่ยล แอกเกอร์ น.76) , เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี้ อลอนโซ่ (ลูคัส น.66), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ดาวิด เอ็นโก น.80), เดิร์ค เคาท์, อัลเบิร์ต ริเอร่า, เฟร์นานโด ตอร์เรส

แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด ฟรีเดล, ไนเจล รีโอ โคเกอร์ (,แบร๊ด กูซาน น.64), คาร์ลอส คูเอญ่าร์, เคอร์ติส เดวีส, ลุค ยัง, เจมส์ มิลเนอร์, สตีลิยาน เปตรอฟ, แกเร็ธ แบร์รี่, แอชลีย์ ยัง, เอมิล เฮสกี้ (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ น.58), ยอห์น คาริว (เคร็ก การ์ดเนอร์ น.88)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน



ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 3/23/2009 1:05:13 AM







ed จาก ขงเบ้ง@ร้อยท่อ&ร้อยทางเกวียน  124.120.169.220  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 02:17   


คำตอบที่ 34
       แหะๆๆ หิๆๆ อิๆๆ อื้อๆๆ เงียบดีกว่า



จาก ooy  118.172.101.150  จันทร์, 23/3/2552 เวลา : 11:42   


คำตอบที่ 35
       เอามาฝากครับพี่ เผื่อไม่ได้ดู
ผีลืมหลุม


เฟเดริโก้ มาเคด้า กองหน้าวัย17ปี ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับบทฮีโร่ซัดประตูชัยให้ทีมดับ "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า 3-2 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนำทัพแชมป์เก่าทวงจ่าฝูงจาก ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ โดยมีแต้มนำอันดับ 2 อยู่ 1 คะแนนและยังมีเกมการแข่งขันน้อยกว่า "หงส์แดง" อยู่ 1 นัด



doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:34   


คำตอบที่ 36
       ลืมรูป นานๆโพสที





doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:36   


คำตอบที่ 37
       เจทโด้ กดสะสอง


ประตูออกนำ 1-0 ชนิดงามหยดของ โรนัลโด้





doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:38   


คำตอบที่ 38
       อ้าว ผิดรูป รูปข้างบน มาเคด้า รู้จักป่าว

เบียร์แทบหกลูกนี้ ลูกเกือบตื่น



doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:41   


คำตอบที่ 39
       เจทโด้ รูปนี้


ประตูออกนำ 1-0 ชนิดงามหยดของ โรนัลโด้






doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:43   


คำตอบที่ 40
       กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ โขกให้วิลล่าพลิกนำ 2-1


เกือบปิดทีวีแล้ว





doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:45   


คำตอบที่ 41
       อ้ายยยย เจทโด้(ออกเสียงแบบวัยรุ่นนะ จะได้อารมณ์) มากระชากสติคืน





doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:49   


คำตอบที่ 42
       มาเคด้า ดาวรุ่งวัย 17 ปี กระทุ้งประตูทองฝังเพชรในช่วงทดเจ็บ






doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:52   


คำตอบที่ 43
      

ขอบคุณภาพจาก siamsport.co.th ครับ


ลุ้นกันต่อนะพี่







doedae จาก ตั้ม ๔๔๔  125.25.103.131  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 10:58   


คำตอบที่ 44
       โห้..ถ้าจะมีความสุขเนอะ..เด็กหงษ์
ที่ได้เป็นจ่าฝูงตั้ง 1วัน...อิอิอิอิอิๆๆๆๆๆๆ





จาก ooy  118.172.94.193  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 12:11   


คำตอบที่ 45
       หุ หุ นำ





จาก ข้างบนหนาวมาก  124.121.64.107  จันทร์, 6/4/2552 เวลา : 23:34   


คำตอบที่ 46
      



จาก ฟ้ทรนส  222.123.151.39  จันทร์, 13/4/2552 เวลา : 09:49   


คำตอบที่ 47
       หงส์ระทึกเจ๊า4-4ร่วงชนะใจโลก

แมทช์กระชากอารมณ์สุดๆ"หงส์แดง"สวมหัวใจสิงห์สู้กับเชลซีชนิดโลกสิโรราบหลังเสียท่าถูกขึ้นนำ 3-2 ก่อนไล่แซงสองลูกใน 3 นาทีสุดท้ายเร่งไม่ขึ้นถูกเชลซีไล่ตีเสมอเป็น 4-4 ก่อนตกรอบด้วยสกอร์รวม 5-7 ปล่อยให้ลูกทีมกุส ฮิดดิงค์เข้าไปตัดเชือกกับบาร์เซโลน่าชนิดหัวใจจะวาย

เชลซี 4-4 ลิเวอร์พูล

(เชลซีเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 7-5)

ประตู : 0-1 ออเรลิโอ น.19,2-0 อลอนโซ่ น.27(จุดโทษ),2-1 ดร็อกบา น.51,2-2 อเล็กซ์ น.57,3-2 แลมพาร์ด น.76,3-3 ลูคัส น.80,3-4 เคาท์ น.83,4-4 แลมพาร์ด น.89

ราฟาเอล เบนิเตซโชว์การวัดใจให้ลูคัส เลว่าเต็มๆหลังสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไม่ฟิตจนต้องนั่งดูบนอัฒจันทร์โดยเมินตัวรุกที่จำเป็นอย่างยิ่งในเกมนี้อย่างบาเบิ้ลหรือเอ็นก็อกที่ม้านั่งสำรอง

ด้านเชลซีไม่มีจอห์น เทอร์รี่ซึ่งติดโทษแบนและใช้อเล็กซ์กับริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่จับคู่กันส่วนแดนหน้าเป็นดิดิเยร์ ดร็อกบายืนคนเดียวโดยมีมาลูด้ากับกาลูยืนขนาบข้างเช่นเดิม

ครึ่งแรก

เปิดฉากมา"หงส์แดง"ลุยใส่และเชลซีเน้นรัดกุมตามคาดแต่เกมรุกของลูกทีมราฟาเอล เบนิเตซยังทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

เกมผ่นมาเป็น 10 กว่านาทีทั้งคู่ยังไม่มีโอกาสทำประตูใดๆเลยและเชลซีแฮปปี้ที่จะเล่นแบบนี้มากกว่าเพราะต้องโดนยิงอีกถึง 3 ลูกถึงจะตกรอบ

นาทีที่ 13 ลูคัสจ่ายบอลจากกลางสนามให้เคาท์คลึงแล้วดีดต่อให้เบนายูนที่ไขว้ส่งต่อให้ตอร์เรสยิงด้วยอีซ้ายบอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปแบบได้ลุ้น

จากนั้นไม่ถึงนาทีเชลซีได้ฟรีคิก 25 หลาแลมพาร์ดรับอาสายิงโดยยัดไปตรงช่องว่างที่มาลูด้าแหวกให้บอลผ่านมือเรน่าถากเสาแบบน่าเข้าสุดๆ

แต่แล้วเรื่องช็อกเกิดขึ้นเมื่อนาที 19 ทีมเยือนได้ฟรีคิกไกล 30 หลาเยื้องทางขวาของกรอบและออเรลิโอเล็งจะเปิดไปให้ฝูงคนที่กระจุกกันอยู่ตรงซ้ายมืออยู่นานสองนานก่อนวิ่งมาอัดหลอกยิงปั่นไซด์บอลตกเบียดเสาแรกเข้าไปชนิดที่ว่าปีเตอร์ เช็กจดๆจ้องๆจะออกมาตัดเสียสุนัขไม่ได้พุ่งเซฟเลย ลิเวอร์พูลนำแล้ว 1-0

ช็อก!!นาที 27 เชลซีเสียจุดโทษหลังลูกฟรีคิกไกลของออเลริโอเป็นอิวาโนวิชยื้อใช้มือกอดอลอนโซ่ทั้งสองข้างแบบไม่ยอมปล่อยจนเหนี่ยวล้มลงตอนบอลเลยตัวกรรมการให้จุดโทษและเป็นคุณชายที่รับอาสายิงหลอกเช็กเข้าไปไม่มีเหลือ ลิเวอร์พูลนำ 2-0 สกอร์รวม 3-3 แล้วเหลืออีกลูกเดียวเพื่อทำอเวย์โกล์ให้เท่ากันและเข้ารอบด้วยสกอร์รวม

ก่อนหมดครึ่งแรก 10 นาทีฮิดดิงค์ไม่รอช้าปรับแท็คติกส์ส่งอเนลก้ามาแทนกาลูทันทีหลังเกมรุกไร้ความเฉียบคมและต้องการกดดันลิเวอร์พูลให้หนักกว่านี้

ลูกเตะมุมกับฟรีคิกของเจ้าถิ่นทำอันตรายลิเวอร์พูลได้ไม่มากเท่ากับเกมแรกและเชลซีหาจังหวะยิงสวยๆเหน่งๆได้ไม่มากนักส่วนใหญ่จะเปิดแล้วเรน่าออกมาตัดให้แฟนได้เสียวเล่นมากกว่า

ก่อนหมดเวลานาทีเดียวลูกเปิดเข้ากรอบโทษของทีมเยือนเป็นเคาท์โขกย้อยไกลร้อนถึงเช็กต้องกระโดดปัดบอลพ้นเขตอันตรายจากนั้นจังหวะต่อเนื่องลิเวอร์พูลบอมบ์เข้ามาอีกเช็กปัดไม่ดีบอลตกมาหน้ากรอบ 6 หลาแต่เคาท์เข้าไม่ถึงก่อนไปทำฟาว์ลผู้เล่นเชลซีและหมดเวลาลิเวอร์พูลนำ 2-0 ด้วยฟอร์มที่เหนือกว่าชัดเจน

ครึ่งหลัง

เริ่มมานาทีครึ่งเบนายูนแทงทะลุช่องให้ลูคัสใช้ความขยันโชว์ให้พ่อเห็นก่อนแตะหนีเช็กแต่ไปเข้ามุมอับเส้นหลังเลยแตะย้อนให้ออเรลิโอเปิดย้อยโด่งไปเสาสองแต่มันเลยเส้นหลังออกไปก่อน

เชลซียังไม่ฟื้นเพราะเล่นแบบเกร็งๆขนาดคาร์วัลโญ่ยืนตัวสุดท้ายดันลื่นเจอตอร์เรสวิ่งเข้าฉกยังดีที่ลุกมาแหย่คืนให้เช็กไม่งั้นงานเข้าแน่

แต่อยู่ดีๆเชลซีมาได้ประตูหน้าตาเฉยหลังอเนลก้าลากขึ้นมาทางปีกขวานถึงมุมธงก่อนปาดบอลเลียดมาที่เสาแรกให้ดร็อกบาวิ่งมาแหย่บอลโดนแค่ปลายสตั๊ดจนไม่ได้ทำให้บอลเปลี่ยนทางเท่าไหร่แต่ที่ช็อกไปกว่านั้นคือเรน่าไม่รู้เหม่อหรืออย่างไรถึงผวาปัดบอลแฉลบเข้าประตูตัวเองซะงั้น สกอร์เป็นลิเวอร์พูลนำ 2-1 แต่เป้าหมายก็ยังต้องการรอีกประตูอยู่ดีเพียงแต่ลูกนี้ทำให้เจ้าถิ่นคะนองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

นาที 56 แฟนบอลเฮกันทั้งสนามหลังดร็อกบาปั่นฟรีคิก 25 หลาบอลข้ามกำแพงไปเฉี่ยวหน้าต่างเหมือนเข้าจนพี่กบเรา"ร้องเข้าไปแล้วครับ!!" กำ

แต่แล้วอีกนาทีเดียวเชลซีมาได้ประตูที่รอคอยเมื่อได้ฟรีคิก 25 หลาตำแหน่งเดียวกับดร็อกบาเป็นอเล็กซ์วิ่งมายิงติดไซด์บอลเหินข้ามกำแพงแล้วก็หัวคาร์วัลโญ่เลี้ยวหนีมือเรน่าตุงตาข่ายไม่มีเหลือ เสมอ 2-2 แล้ว

นาที 63 ลิเวอร์พูลลุยแหลกและเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งหลังมาสเคราโน่ยิงไกลเป็นเช็กล้มตัวปัดก่อนที่เบนายูนจะวิ่งมาตามเปิดย้อนกลับมาแต่อิวาโนวิชโขกพ้นเขตอันตรายทันเวลา

ทีมเยือนกลับมานวดหนักเหมือนครึ่งแรกแต่ดูเหมือนจะเสียของในจังหวะเปิดบอลจากด้านข้างทั้งซ้ายทั้งขวาเลอะเทอะล้นออกไปหมด

นาที 66 คาร์ราเกอร์เบียดชนกับดร็อกบาจนตัวเองกระเด็นสู้ไม่ได้ปล่อยให้แมงสาบลากเข้าไปถึงกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตบบอลเข้ากลางให้บัลลัควิ่งมาแปเล่นทางแต่เรน่าล้มตัวตระครุบติดมือหนึบ

แต่แล้วเกมที่ลิเวอร์พูลพลาดก็เสียประตูที่สามให้เชลซีหลังจังหวะสวนกลับอลอนโซ่จ่ายบอลพลาดบัลลัคแทงให้ดร็อกบาหลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนหลอกจะยิงด้วยซ้ายจนสเคอร์เทลสไลด์ตัวบล็อกก่อนเลือกตบเข้ากลางให้แลมพาร์ดวิ่งมาแปยิงโล่งๆติดมือเรน่านิดนึงแต่ก็แรงพอจะตุงตาข่ายไม่มีเหลือ 3-2 แล้ว!!

ลูคัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!ก่อนหมดเวลา 10 นาทีลูกบุญธรรมราฟาเอล เบนิเตซลองยิงไกลส่งเดชเล่นๆบอลไปแฉลบเอสเซียงเปลี่ยนทางเข้ามุมเช็กพุ่งไม่ทัน เสมอกัน 3-3

เฮ้ย!!ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำหน้าตาเฉยหลังริเอร่าเปิดบอลจากกรอบโทษฝั่งซ้ายเป็นเคาท์วิ่งสอดมาโขกตัดหน้าคาร์วัลโญ่ตรงระยะ 6 หลาบอลเข้าไปไม่เหลือ โอ้ยนำแล้ว 4-3 ขออีกลูกเดียว

อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลจะกลับมาได้ทีไรเชลซีมายิงประตูง่ายๆทุกทีหลังลูกที่หมือนไม่มีอะไรเมื่ออเนลก้าตบบอลจากกรอบโทษฝั่งขวาให้แลมพาร์ดยิงตามน้ำบอลโค้งชนเสาผ่านมือเรน่าก่อนกระเด้งมาชนอีกเสาเข้าไปสุดยอด

ภาพตัดกลับมาลิเวอร์พูลเกือบขึ้นนำหลังบอมบ์เข้าเขตโทษก่อนบอลย้อนมาเข้าทางเอ็นก็อกที่หวดสวนกลับไปแต่เอสเซียงโขกบล็อกบนเส้นออกมาได้หวุดหวิด

หมดเวลาเสมอกัน 4-4 เป็นเชลซีที่เข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับบาร์เซโลน่าส่วนลิเวอร์พูลแม้จะตกรอบแต่โชว์ให้เห็นถึงสปิริตชนิดที่เดอะค็อปร้องเพลงปรบมือให้เลย



จาก an ja 555  125.26.116.9  พุธ, 15/4/2552 เวลา : 18:20   


คำตอบที่ 48
       ผีแดงจัดเตรียมทีมใหม่ไว้สู้ศึกคืนนี้ครับ





pong na wa จาก Pong  125.26.219.120  พุธ, 15/4/2552 เวลา : 18:47   


คำตอบที่ 49
      





จาก ไม่ค่อยเก่ง แต่เข้า  124.121.63.107  พฤหัสบดี, 16/4/2552 เวลา : 12:43   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 6:36:12

Error processing SSI file