WeekendHobby.com


ช่วยหาให้เพื่อนผมด้วยครับ
boost_jai
จาก boost_jai
ศุกร์ที่ , 30/10/2552
เวลา : 18:09

อ่าน = 612
117.47.22.185
       เพื่อนฝากให้หาgrandis4wdตัวvg-turboใครพอมีบ้างครับโทรหาคนที่จะซื้อโดยตรงเลยครับ087-4040373ชื่อคุณกบครับ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ไม่สนใจ จีวาก้อนบ้างเหรอครับ อิอิอิ



pao666 จาก pao666  124.122.184.102  เสาร์, 31/10/2552 เวลา : 15:57   


คำตอบที่ 2
       เห็นจอดขายอยู่แยกกระทิงลายหน้าปั๊มปตท.ทางมาระยองแต่เป็นตอนครึ่ง สีดำทูโทน 2500vg



0863587478 จาก ponk  61.19.47.103  เสาร์, 31/10/2552 เวลา : 19:14   


คำตอบที่ 3
       คืออย่างนี้ครับตัวคนซื้ออยู่พุทธมณฑลสาย5เเล้วก็อยากเป็นเเกรนดิสเพราะเผื่อจะใช้พื้นที่บ้างถ้ารถอยู่ในย่านใกล้ๆบ้านจะสะดวกในการไปดูรถครับเพราะตอนนี้ไม่มีรถใช้(รถเกิดอุบัติเหตุ)ส่วนรถพี่pao666ก็สนใจครับเเต่งมาเเล้วใช่ไหมครับขอเบอร์ไว้เลยครับพรุ่งนี้จะโทรไปคุยด้วยครับถ้าตกลงซื้อขายกันงานครบรอบ7ปีก็มีสมาชิกเพิ่มอีกคันสิครับเนี่ยขอบคุณทั้ง2ท่านเลยครับที่ช่วยตอบกระทู้สวัสดีครับ



boost_jai จาก borisut  117.47.23.94  เสาร์, 31/10/2552 เวลา : 21:07   


คำตอบที่ 4
       ็อาจจะเป็นความโชคดีของผู้ผลิตปิกอัพก็ได้ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการซื้อรถเก๋งหันมาซื้อรถปิกอัพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากปิกอัพขนาดหนึ่งตันนอกจากจะใช้เป็นพาหนะเยี่ยงรถเก๋งได้แล้ว ยังใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินได้อีกหรือรถในเชิงพาณิชย์ และยิ่งมาในระยะหลังผู้ผลิตรถปิกอัพได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นใกล้เคียงกับรถเก๋ง เหมาะกับการใช้งานอเนกประสงค์มากขึ้น และค่ายรถยนต์ชั้นแนวหน้าได้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ๆมาใส่ไว้ในรถปิกอัพเป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกไปพร้อมกับพลังของเครื่องยนต์ที่จัดจ้านมากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น

ค่ายมิตซูบิชิเองก็ได้นำเครื่องยนต์ 2.5 เทอร์โบ มาใส่ไว้ในมิตซูบิชิ สตราดา รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 5 เกียร์หลังจากเปลี่ยนรุ่นจากจากมิตซูบิชิ แอล 200 ไซโคลน เมื่อปี 2539

รูปโฉมภายนอก-ภายใน

คันที่ได้ทำการทดสอบเป็นมิตซูบิชิ 2.5 วีจี เทอร์โบ แกรนดิส (แบบสี่ประตู) เครื่องยนต์ภายใต้รหัส 4D56 ที่ให้แรงจัดจ้านเร่งแซงทันใจ นอกจากนี้ยังผสมผสาน ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลวีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2500 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ 116 แรงม้า กับแรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบ/นาที และระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิง รวมถึงระบบคันเร่ง ควบคุมด้วยไฟฟ้า จึงมีอัตราเร่งตอบสนองทุกความเร็วได้สมบูรณ์แบบลงตัว

นอกจากนี้ยังตอบสนองการใช้งานแบบออฟโรดกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบ M-SOF ซึ่งเป็นต้นแบบ Shift-on-the-fly ที่เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ โดยไม่ต้องหยุดรถเมื่อความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และชุดเฟืองท้ายลิมิเต็ด สลิป รองรับการลุยทุกรูปแบบด้วยความมั่นใจ และอุปกรณ์พิเศษมาตรวัด TRIPLE METER ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางแบบออฟโรดทำให้ภายในห้องโดยสารนอกจากจะออฟโรดลงตัวกับรูปร่างหน้าตาจากภายนอกที่มีความเป็นสปอร์ต พร้อมจมูกดักอากาศบนฝากระโปงหน้า สีทูโทนพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานในแบบฉบับของออฟโรด อย่างที่เห็น ที่สำคัญมีถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และเอบีเอส 4 ล้อ กระจกมองข้างและประตูปรับด้วยระบบไฟฟ้า

การทดสอบ

ผมเพิ่งได้มีโอกาสทดสอบมิตซูบิชิ 2.5 สตราดา วีจี เทอร์โบ อย่างเต็มอิ่มเป็นครั้งแรกในทุกสภาพถนน ในการขับในสภาพถนนปกตินับว่าให้อัตราเร่งแซงที่ประทับใจมาก ในระดับความเร็วใช้งานปกติไม่เกิน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมงห้องโดยสารเงียบเป็นที่น่าพอใจ จุดเด่นของรถคนนี้อยู่ที่สามารถเรียกม้าที่อยู่ในห้องเครื่องออกมาได้ทั้งในรอบเครื่องยนต์สูงและรอบ เครื่องยนต์ต่ำ นับว่าเป็นรถยนต์ที่ให้พลังจัดจ้านเอาเรื่องคันหนึ่งทีเดียว อาจเป็นเพราะเทอร์โบที่ถูกกำหนดให้ทำงานเร็วขึ้นในรอบ เครื่องยนต์ต่ำ

การทดสอบในสภาพถนนออฟโรด เพื่อ ทดสอบความแรงของเครื่องยนต์ แม้จะไม่โหดแต่เท่าที่เลือกทดสอบในสภาพถนนต่างๆ รถคันนี้ก็สามารถตอบสนองความรู้สึกได้ดี และยังมีม้าเหลือพร้อมที่จะให้พลังอีกจำนวนมากตามที่ต้องการ ตามปกติแล้วเครื่องยนต์เทอร์โบจะเริ่มอัดอากาศ (บูสต์) ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ปานกลางขึ้นไป เนื่องจากในรอบเครื่องยนต์ต่ำแรงดันไอเสียที่ผลัดดันชุดเทอร์ไบน์ยังน้อยมากทำให้เทอร์โบไม่มีกำลังพอที่จะบูสต์ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเครื่องยนต์ชนิดนี้

สำหรับเครื่องวีจี เทอร์โบ ได้แก้ปัญหานี้ลงไป โดยแรงดันของไอเสียที่ไปผลักดันใบบัดเทอร์ไบน์จะถูกบังคับทิศทางโดยอุปกรณ์ใบควบคุม (VANE) ที่ออกแบบพิเศษให้ปริมาณไอเสียถูกบีบเร่งความเร็วให้เป็นแรงดันที่สูงพอในการผลักดันใบเทอร์ไบน์ขณะที่เครื่องยนต์เดินรอบต่ำ ทำให้การอัดอากาศทำได้เร็วกว่า และดีกว่าเทอร์โบเดิม และจะปรับมุมสูงขึ้นจนถึงรอบสูงสุด และจะไม่มีการปรับตำแหน่งอีกแม้รอบเครื่องยน์จะขึ้นสูงไปอีกเป็นการป้องกันการโอเวอร์บูสต์ และมีอินเตอร์คูลเลอร์ช่วยในการระบายความร้อนอากาศก่อนเข้าสู่กระบอกสูบให้อุณภูมิมีความเหมาะสมต่อแรงดันในกระบอกสูบ และยังมีพัดลมไฟฟ้าใต้อินเตอร์คูลเลอร์เสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีขึ้น

สรุป

การทดสอบมิตซูบิชิ 2.5 วีจี เทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ นับว่าเป็นรถยนต์ที่ประทับใจอีกคันหนึ่งทั้งอัตราเร่งแซงที่ฉับไวทันใจในสภาพออนโรด และในสภาพออฟโรดก็ให้กำลังขับเคลื่อนมหาศาลเพียงพอที่จะตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางในรูปแบบนี้ ขณะที่ราคา 775,000 บาท ก็สูสีกับรถยนต์ประเภทเดียวกันจากค่ายอื่นๆ แต่อาจจะเหนือกว่าด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่พร้อมสรรพ และต้องยอมรับว่ามิตซูบิชิ 2.5 สตราดา วีจี เทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แกรนดิส (แบบสี่ประตู) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชอบรถที่มีความแรงจัดจ้าน



0863587478 จาก ponk  61.19.47.103  เสาร์, 31/10/2552 เวลา : 21:58   


คำตอบที่ 5
       จะสังเกตเห็นได้จากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ต่างทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ต้นกลางปี เช่น ค่ายอีซูซุ เลือกประเทศไทยเปิดปิกอัพดีแม็คซ์แห่งแรกในโลก ค่ายสยามกลการนำเครื่องยนต์ตัวใหม่รหัส ZD30 DDTi ซ่อนม้าไว้ในห้องเครื่อง 150 ตัว มาใส่ไว้ในนิสสัน ฟอนเทียร์ นับว่ามากที่สุดในบรรดาปิกอัพที่วางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดบ้านเราในขณะนี้ มาจนถึงค่ายโตโยต้านำเครื่องยนต์คอมมอนเรล รหัสเครื่องยนต์ 2KD-FTV D4D ล่าสุดได้เปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่แกะกล่องรหัส 1KD-FTV ค่ายมิตซูบิชิและมาสด้าเปิดตัวเทคโนโลยี RAS หรือแค็บเปิดได้ จำหน่ายในราคาไม่ต่างไปจากเดิม

ขณะที่ค่ายมิตซูบิชิได้พัฒนาเครื่องยนต์ 2.5 วีจี เทอร์โบ มาใส่ในมิตซูบิชิ สตราดา

ก่อนที่ผมจะนำเจ้ามิตซูบิชิ จี-วากอน 2.5 วีจี เทอร์โบ มาทดสอบ ก่อนหน้านี้ประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2545 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสทดสอบมิตซูบิชิ 2.5 วีจี เทอร์โบ รุ่นแกรนดิส (4 ประตู) ผลการทดสอบก็ได้รับความประทับใจจากความแรงของอัตราเร่งที่จัดจ้านสมราคาคุย

ในครั้งนั้นมีผู้มีอุปการะคุณแฟน “บิสเนสไทย” ฝากคำถามผ่านมาทางเว็บไซต์ถามผมมาถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามา ผมจึงขอตอบสั้นๆ “ความแรงกับอัตราสิ้นเปลืองหย่าขาดกันไม่ได้ แยกกันไม่ออกหรอกครับ”

ภายในห้องโดยสารดีไซน์ลงตัว
สำหรับคันที่ได้ทำการทดสอบเป็นมิตซูบิชิ จี-วากอน 2.5 วีจี เทอร์โบ 4x4 เป็นรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (PPV) ขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ภายใต้รหัส 4D56 ที่ให้แรงจัดจ้านเร่งแซงทันใจ นอกจากนี้ยังผสมผสานขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลวีจีเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 2500ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ 116 แรงม้า กับแรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบ/นาที และระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิง รวมถึงระบบคันเร่งควบคุมด้วยไฟฟ้า จึงมีอัตราเร่งตอบสนองทุกความเร็วได้สมบูรณ์แบบลงตัว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันที่ติดตั้งในมิตซูบิชิ 2.5 วีจี เทอร์โบ แกรนดิส (แบบ 4 ประตู)

และยังตอบสนองการใช้งานแบบ ออฟโรดกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบ M-SOF ซึ่งเป็นต้นแบบShift-on-the-fly ที่เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจาก 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ โดยไม่ต้องหยุดรถเมื่อความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น ทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง ส่วนระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน พร้อมโช้คอัพไขว้ เสริมเหล็กกันโคลง ชุดเฟืองท้ายลิมิเต็ด สลิป รองรับการลุยทุกรูปแบบด้วยความมั่นใจ ดูดซับแรงกระแทกร่วมกับยางขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ภายในห้องโดยสารนอกจากจะ กว้างขวางเหมาะกับการใช้งานอเนกประสงค์ปกติแล้วยังมีอุปกรณ์ สำหรับการเดินทางแบบออฟโรด พร้อมอุปกรณ์พิเศษมาตรวัด TRIPLE METER ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางแบบออฟโรด ลงตัวกับรูปร่างหน้าตาจากภายนอกที่มีความเป็นสปอร์ต พร้อมจมูกดักอากาศบนฝากระโปงหน้า สีทูโทนพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานในแบบฉบับของออฟโรดเต็มพิกัด ที่สำคัญมีถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และเอบีเอส 4

สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาและมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ผมนำมาทดสอบได้แก่ กระจกหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัย 2 ชั้น และกรองแสงยูวี คัต พร้อมทั้งไฟหน้าฮาโลเจนแบบเมกะรีเฟลกเตอร์ให้แสงสว่างเจิดจ้ากว้างไกลเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน

นอกจากนี้ยังมากด้วยประโยชน์ใช้สอยด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะแถวหลังพับได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น ซึ่งคู่แข่งไม่มี พร้อมถาดเก็บของใต้ที่นั่งด้านหน้า แผงคอนโซลด้านหน้าเป็นลายไม้สวยงาม นับได้ว่าการดีไซน์เดินทางประชิดเก๋ง และออฟโรดชั้นนำ นอกจากความแรงที่ให้มาเหนือกว่าคู่แข่ง

การทดสอบ
ขุมพลังมิตซูบิชิ 2.5 วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ นับว่าให้อัตราเร่งที่ประทับใจไม่น้อย แม้จะรับน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นจากรุ่นแกรนดิสก็ตามที คิกดาวน์ที่ความเร็วเฉลี่ย 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในห้องโดยสารเงียบเป็นที่น่าพอใจ จุดเด่นของรถคนนี้อยู่ที่สามารถเรียกม้าที่อยู่ในห้องเครื่องออกมาได้ทั้งในรอบเครื่องยนต์สูงและรอบเครื่องยนต์ต่ำ นับว่าเป็นรถยนต์ที่ให้พลังจัดจ้านเอาเรื่องคันหนึ่งทีเดียว อาจเป็นเพราะเทอร์โบที่ถูกกำหนดให้ทำงานเร็วขึ้นในรอบเครื่องยนต์ต่ำแม้แต่ทดสอบในสภาพถนนออฟโรด เพื่อทดสอบความแรงของเครื่องยนต์ก็ยังให้ความรู้สึกได้ดี และยังมีม้าเหลือพร้อมที่จะให้เรียกออกมาใช้อีกจำนวนมาก

เพราะปกติแล้วเครื่องยนต์เทอร์โบจะเริ่มอัดอากาศ (บูสต์) ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ปานกลางขึ้นไป เนื่องจากในรอบเครื่องยนต์ต่ำแรงดันไอเสียที่ผลัดดันชุดเทอร์ไบน์ยังน้อยมากทำให้เทอร์โบไม่มีกำลังพอที่จะบูสต์ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเครื่องยนต์ชนิดนี้

สำหรับเครื่องวีจี เทอร์โบ ได้แก้ ปัญหานี้ลงไป โดยแรงดันของไอเสียที่ไปผลักดันใบบัดเทอร์ไบน์จะถูกบังคับทิศทางโดยอุปกรณ์ใบควบคุม (VANE) ที่ออกแบบพิเศษให้ปริมาณไอเสียถูกบีบเร่งความเร็วให้เป็นแรงดันที่สูงพอในการผลักดันใบเทอร์ไบน์ขณะที่เครื่องยนต์เดินรอบต่ำ ทำให้การอัดอากาศทำได้เร็วกว่า และดีกว่าเทอร์โบเดิม และจะปรับมุมสูงขึ้นจนถึงรอบสูงสุด และจะไม่มีการปรับตำแหน่งอีกแม้รอบเครื่องยนต์จะขึ้นสูงไปอีกเป็นการป้องกันการโอเวอร์บูสต์ และมีอินเตอร์คูลเลอร์ช่วยในการระบายความร้อนอากาศก่อนเข้าสู่กระบอกสูบให้อุณภูมิมีความเหมาะสมต่อแรงดันในกระบอกสูบ และยังมีพัดลมไฟฟ้าใต้อินเตอร์คูลเลอร์เสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้ดีขึ้น

สรุป
จะว่าไปแล้วสมรรถนะของเครื่องยนต์ในจี-วากอน แรงทั้งในช่วงออกตัวและในยามเร่งแซง สามารถตอบสนองความต้องการได้ไม่ด้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน และเก่งชั้นดี ผมลองไล่ประกบออดี้ เอ 6 และเชฟโรเลต ซาฟิร่า ในระดับความเร็ว 140-150 กิโลเมตร/ชั่วโมงจากโคราชมุ่งหน้าสู่ขอนแก่นร่วม 100 กิโลเมตร ก็ยังตอบสนองได้ดี

ช่วงล่างเองก็ทำงานได้ดีดูดซับแรงกระแทกได้ดี ในขณะที่ใช้ความเร็วสูงเกินกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงทดสอบวิ่งบนถนนที่ขรุขระก็ตามที

นับว่าความดีเด่นของเจ้าจี-วากอน ครบเครื่องครับ แต่ค่าตัวที่ไว้ 1.1 ล้านบาท นับว่าเข้มข้นไม่น้อย แต่สำหรับคนที่ชอบรถยนต์ที่ให้แรงบิดจัดจ้านไว้ใช้งานแบบออฟโรด มิตซูบิชิ จี-วากอน 2.5 วีจี เทอร์โบ ยังเป็นทางเลือกสำหรับครอบครัวที่หาตัวจับได้ยากในปัจจุบัน



0863587478 จาก ponk  61.19.47.103  เสาร์, 31/10/2552 เวลา : 22:04   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 10:17:03

Error processing SSI file