คำตอบที่ 1
       MT จะเป็นยางสำหรับรถออฟโรด ดอกจยางจะลึกเหมาะสำหรับวิ่งลุยที่กันดารหรือลุยโคลน ถ้าวิ่งบนถนนลาดยางจะมีเสียงดัง
AT น่าจะมาจากคำว่าออโต้หรือเปล่าไม่รู้นะ ดอกยางกลางๆ วิ่งได้ทุกสภาพถนน
HT ดอกยางเรียบกว่าเหมาะกับรถที่ใช้ความเร็ว เหมะกับถนนราดยางหรือคอนกรีด เสียงเงี่ยบและนิ่มกว่า น่าจะประมาณนี้ครับ

คำตอบที่ 2
       AT มาจจาก ALL TERRAIN (All ที่มาจากทุกสภาพถนนครับ) หรือเข้าไปหาอ่านข้อมูลตามลิ้งด้านล่างเลยครับ
http://www.teentoa.com/article/data/007_arti.htm

 แก้ไขเมื่อ : 22/11/2553 10:04:13

คำตอบที่ 3
       MT - MUD TERRAIN = ยาง M/T มีการออกแบบในเรื่องของดอกยางและโครงสร้างให้เหมาะสมกับการใช้งานในถิ่นทุรกันดาร ที่มีสภาพเส้นทางแบบ ออฟโรด จึงเป็นยางยอดฮิตที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวออฟโรดสูงสุด การที่ดอกยางมีความหยาบ และระยะห่างของร่องยางมีมาก ทำให้เกิดเสียงดังขณะรถวิ่งด้วยความเร็ว ยิ่งเป็นยางที่มีบั้งขนาดใหญ่มากๆ ร่องดอกยางก็จะห่างมากขึ้นด้วย ทำให้เกิดเสียงดังขณะขับ ยาง M/T นั้น มีหน้าสัมผัสน้อยเมื่ออยู่บนทางเรียบ แต่จะมีหน้าสัมผัสมากที่สุดเมื่ออยู่บนเส้นทางแบบออฟโรด

AT - ALL TERRAIN = ยาง A/T มักจะเป็นยางที่หลายคนเลือกซื้อทันทีที่ได้รถใหม่ป้ายแดง หรือภายหลังจากที่ได้ทำการปรับแต่งยกสูง ช่วงล่าง และมักจะถูกเปลี่ยนเป็นยาง M/T ภายในเวลาไม่นาน เพียงเพื่อให้รถของคุณดูเข้ม ยาง A/T มีการใช้งานกว้างกว่ายาง H/T และยาง M/T เสียอีก เพราะดอกยางที่มีความหยาบปานกลาง ทำให้สามารถใช้ได้ทั้งทางเรียบ และเส้นทางออฟโรดที่ไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไป เมื่อเปรียบเทียบการใช้งานของยาง A/T และ M/T บนสภาพถนนปกติ โดยใช้ยางที่มีขนาดเท่ากัน จะเห็นว่าหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนนนั้น A/T จะมีมากกว่า จึงทำให้การเกาะถนนที่ดีกว่า ทั้งการออกตัว การเบรก และการเข้าโค้ง จึงมีความปลอดภัยมากกว่า และยังมีอัตราการสึกของยางช้ากว่ายาง M/T เนื่องจากร่องของดอกยางที่แคบ จึงมีการกระจายน้ำหนักลงได้เต็มหน้ายาง และมีเสียงที่เงียบกว่า เพราะดอกยางที่ไม่หยาบมากนัก การใช้ยาง A/T บนเส้นทางออฟโรดก็สามารถใช้ได้ แต่คงต้องเป็นเส้นทางออฟโรดแบบกลางๆ ไม่โหดมากนัก ประมาณว่าเป็นทางลูกรัง ถนนชำรุด หรือการเข้าป่าในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูฝน เพราะระยะห่างของร่องยางไม่พอที่จะสลัดโคลนออกได้ การเข้าป่าในช่วงฤดูฝนก็เท่ากับเป็นการไปพังรถเล่นเท่านั้นเอง