WeekendHobby.com


p ที่มา เสียงวิจารณ์ “ อุลตร้าบอร์ดี้ ” กับ ii Strada L200 ii q
hi-tech
จาก - สองโหล -
ศุกร์ที่ , 26/11/2553
เวลา : 12:17

อ่าน = 947
222.123.186.54
       “อุลตร้าบอร์ดี้” กับสตราด้าL200

...หลายๆ ครั้งที่มีคนถามถึงตัวนี้ในชมรมคนรักรถนะครับและพักหลังๆก็ค่อนข้างถี่ และผมก็ยังไม่เคยเขียนถึงปิค-อัพอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียทีก็เลยขอจับมา เขียนซักตัวเพราะเดี๋ยวจะหาว่าเอนเอียงไปทางเก๋งอย่างเดียวอีก...แต่ราย ละเอียดอาจจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่เนื่องจากเวลาส่วนตัวที่มีจำกัดนะครับก็ ขอความเห็นใจตรงนี้ด้วยนะครับ..แฮะๆโดยเฉพาะเรื่องภาพประกอบนี่ลืมจริงๆครับ ไม่ได้หยิบอะไรมาเลยดีที่ยังหยิบข้อมูล(ถูกรุ่น)ติดไม้ติดมือมาด้วย(ไม่งั้น คงไม่รู้จะเขียนยังไงเหมือนกัน) ยังไงถ้าสงสัยตรงไหนก็ค่อยสอบถามกันมาอีกทีในชมรมคนรักรถก็แล้วกันนะครับ





เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       +++++++++++++++++
ความเป็นมา
+++++++++++++++++
สต ราด้าปรากฎตัวในบ้านเราช่วง96 แต่เริ่มแพร่หลายตั้งแต่97เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน จากการคิดค้นและร่วมมือกันระหว่างMitsubishi กับ Chrysler ที่นำโครงสร้างของ Jeep Cherokee มาดัดแปลงและพัฒนาออกแบบจนกลายมาเป็นสตราด้า เมื่อก่อนบรรดากระบะถูกออกแบบให้อยู่ในลักษณะเป็นเหลี่ยมมุมเพื่อให้ดูดุดัน และบึกบึงบ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง แต่สตราด้ากลับลบเหลี่ยมมุมไปทั้งหมดออกแนวโค้งมนลู่ลมแบบเก๋งในนาม”อุ ลต้าบอร์ดี้”โดยส่วนหัวดัดแปลงมาจากGalant Sarajevo เมื่อเปิดตัวออกมาจึงถูกปรามาสอย่างหนักจากบรรดาคู่แข่งว่าจะไม่มีความ แกร่ง-บึกบึนของปิค-อัพอยู่แต่สตราด้าก็ได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยการทดสอบแบบ หนักหน่วงชนิดที่ไม่เคยมีใครกล้าทำมาก่อนจนกลายเป็นที่ยอมรับว่ายังคงความ แกร่งและบึกบึนแบบปิค-อัพอยู่ สุดท้ายจึงกลายเป็นกระบะที่หล่อที่สุดในยุคนั้น ซึ่งต่อๆมาค่ายอื่นๆก็กลายเป็นผู้ตามในการผลิตกระบะให้ใกล้เคียงเก๋งมากที่ สุดขณะที่ค่ายนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง สุดท้ายในปัจจุบันมันจึงดูล้าหลังกว่าค่ายอื่น แต่ถ้าย้อนมองดูในยุคเดียวกันสตราด้าก็จัดอยู่ในระดับหัวแถวเช่นกันชนิดที่ ว่าสาดโค้งแรงๆนี่หาตัวจับยากหรือเกาะดีกว่าใครเพื่อนในยุคนั้นแม้จะอัดสุด คันเร่ง(แต่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันนะครับเพราะตกเป็นรองไปแล้ว)

.






hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:18   


คำตอบที่ 2
       +++++++++++++++
เปิดตัว
+++++++++++++++
สตราด้าในยุคแรกเปิดตัวออกมาขายทั้งหมด 6รุ่นคือ

1.รุ่นมาตรฐาน Single Cab

2.Mega Cab

3.Mega Cab GL

4. Mega Cab GLX

5. Super2.8 GLX

6.GLX 4W

โดย รุ่น Mega Cab 2.5GL/GLX/Super 2.8GLX/GLX 4W ใช้พวกมาลัยแบบสปอร์ต 4ก้านปรับสูง-ต่ำได้ และรุ่น Super 2.8GLX/GLX 4W เพิ่มกระจกไฟฟ้ากับเซ็ลทรัลล็อคมาให้ซึ่งระยะหลังจะมีรุ่นพิเศษ 2.5ที่เพิ่มกระจกไฟฟ้ากับเซ็ลทรัลล็อคด้วยเช่นกัน

รายละเอียดทางเทคนิค(บางส่วน)

ขอแยกเป็น 4 รุ่นนะครับคือ มาตรฐาน/Cab2.5/2.8 และ 4W ดังนี้

มาตรฐาน Cab2.5 Cab2.8 4W

ระหัสเครื่องยนต์ 4D56 4D56 4M40 4M40

ขนาดความจุ(ซีซี) 2510 2510 2835 2835

ขนาดกระบอกสูบ(มม) 91.1 91.1 95.0 95.0

ระยะชักกระบอกสูบ(มม) 95.0 95.0 100.0 100.0

อัตราส่วนกำลังอัด 21.0:1 21.0:1 21.0:1 21.0:1

แรงม้าสูงสุด/รอบ 90/4200 90/4200 101/4000 101/4000

แรงบิดสูงสุด(กก-ม)/รอบ 18.0/2500 18.0/2500 20.2/2000 20.2/2000

ความยาวรถ(มม) 4920 5035 5035 5035

ความกว้างรถ(มม) 1695 1695 1695 1695

ความสูงรถ(มม) 1595 1605 1605 1765

ความยาวฐานล้อ(มม) 2950 2950 2950 2960

ฐานล้อหน้ากว้าง(มม) 1450 1450 1450 1420

ฐานล้อหลังกว้าง(มม) 1435 1435 1435 1435

น้ำหนักรถ(กก) 1375 1420 1420-1450 1676

น้ำหนักบรรทุกรวม(กก) 2510 2470 2470 2725

อัตราทดเกียร์1 4.330 4.330 4.330 4.330

อัตราทดเกียร์2 2.355 2.355 2.355 2.355

อัตราทดเกียร์3 1.509 1.509 1.509 1.509

อัตราทดเกียร์4 1.000 1.000 1.000 1.000

อัตราทดเกียร์5 0.827 0.827 0.827 0.833

อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 4.142 4.142 4.142 4.142

อัตราทดเฟืองท้าย 4.222 4.222 4.222 4.636

อัตราทดHIGH/LOW - - - 1.000/1.925

ความเร็วสูงสุด(กม/ชม) 145 145 155 155

อัตราเร่ง0-100 (วินาที) 17.8 18.6 18.2 18.8

อัตราบริโภคเฉลี่ย(กม/ล) 8.6-15.6 8.2-15.2 7.0-13.8 6.4-12.5







hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:20   


คำตอบที่ 3
      
+++++++++++++++++++++++++++++++++
จุดเด่น
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ที่ เด่นๆเลยก็จะเป็นเรื่องช่วงล่างที่ยุคนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวแถวที่ จัดว่าในรอบ 15ปีไม่มีใครทำได้ดีขนาดนั้นในบรรดาปิค-อัพ ที่ทั้งนิ่มนวลและเทโค้งแรงๆที่ความเร็วสูงแบบตามตัวจับยากในยุคนั้น สร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันจะตกเป็นรองค่ายอื่นไปแล้วก็ตาม สตราด้าใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยด์สปริงและ ช็อคอัพ(ขับสี่เป็นปีกนกคู่ทอร์ชั่นบาร์) ด้านหลังเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนพร้อมช็อคอัพไขว้ และใช้วัสดุที่คุณภาพค่อนข้างสูงจึงให้ความนุ่มนวลและเกาะดีมาก ส่วนระบบเบรคก็ทำได้หนึบ-นิ่งมั่นใจดีที่เดียวด้วยด้านหน้าเป็นดิสค์ 14นิ้ว(ขับสี่ใช้ 15นิ้ว) ด้านหลังเป็นดรัมขนาด 10นิ้ว(ขับสี่ให้10.6นิ้วมา)พร้อมระบบปรับแรงดันน้ำมันเบรคอัตโนมัติ(LSPV)







hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:21   


คำตอบที่ 4
       +++++++++++++++++++++
ข้อดี
+++++++++++++++++++++
ตรง นี้ก็จะหมายถึงความทนทานเป็นหลักเพราะเครื่องAstronที่มีมานานแล้วแถมได้ ชื่อว่าเป็นเครื่องแรกของโลกที่ใช้ระบบSilent Shaft กับOil Coolerที่หล่อเย็นระบบหล่อลื่นแบบOil Jetsprayที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลมิตซู และพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันล้วนมีพื้นฐานเดียวกันทั้งสิ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์ของตระกูลนี้จะเดินเรียบและเงียบกว่าชาวบ้านแถม ให้อัตราเร่งดีกว่าคู่แข่งบางยี่ห้อในยุคนั้น เครื่องยนต์มีระยะห่างระหว่างสูบมากที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์ดีเซลจึงแข็ง แรงกว่า-ทนทานกว่า-ระบายความร้อนดีกว่า หัวลูกสูบทำเป็นหลุมหลบวาล์วไว้ซึ่งสามารถใสฝาสูบได้หลายครั้งถ้าเกิดการ โก่ง เพลาราวลิ้นเป็นแบบโซ่คู่ขนาดเขื่องระบบเฟืองต่อสองช่วงพร้อมตัวดันลดเสียง จึงเงียบกว่าเครื่องที่ใช้โซ่แบบอื่นแถมยังทนทานกว่าหมดปัญหาเรื่องโซ่หย่อน หรือกินเสตอร์จนสึกจึงตัดภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้มาก ฝาสูบออกแบบมาให้ถอดชิ้นส่วนต่างๆได้ง่ายและแม้จะเป็นอลูมินัมแต่แปลกที่ยัง ทนทานกว่าฝาสูบเหล็กหล่อยี่ห้ออื่นด้วยซ้ำไปส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะความ เรียบของฝาสูบที่นอกจากจะระบายความร้อนได้ดีแล้วยังสามารถตรวจเช็คอาการโก่ง หรืองอหรือทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย ถ้ามองโดยภาพรวมแล้วมันถูกออกแบบมาเพื่อเป็นพันธุ์อึดขนานแท้ตัวจริงเสียง จริงแถมดูแลง่ายไม่จุกจิก







hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:22   


คำตอบที่ 5
       ++++++++++++++++++++++
ข้อเสีย
++++++++++++++++++++++
1. การใช้ถ้วยกดวาล์วและแผ่นชิมนั้นดีในเรื่องความแม่นยำก็จริงแต่ถ้าไม่มีการ ตรวจเช็คสม่ำเสมอทุก 5หมื่นโลก็อาจจะเกิดปัญหาวาล์วยัน ไข้ขึ้น เร่งไม่ออก ซดน้ำมัน ฝาสูบโก่งหรือร้าวหรือแตก อาจจะต้องยกเครื่องกันเลยทีเดียวซึ่งตรงนี้ส่วนมากจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ ถึงกาลของเจ้าของรถเองซะมากกว่า

2. การใช้ประเก็นฝาสูบแบบไฟเบอร์ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงและไม่ทนทานเท่าพวกประ เก็นเหล็กมักเกิดปัญหาเริ่มต้นจากนัทฝาสูบหลวมอยู่บ่อยๆจนเกิดการรั่ว ระหว่างไอดี-ไอเสียได้จนเกิดปัญหาความร้อนในที่สุด ดังนั้นควรตรวจเช็คความตึงของนัทฝาสูบอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสุดก็ทุกๆ 3หมื่นโล

3. ตัวOil Cooler จะฝังตัวอยู่ที่บริเวณด้านข้างของเสื้อสูบใกล้ๆกับกรองน้ำมันเครื่องทำให้ ดูแลหรือตรวจเช็คยาก ดังนั้นจึงควรถอดทำความคราบหรือตระกรันทุกๆ 10หมื่นโลและไม่เกิน 12หมื่นโลเพราะมักจะเกิดปัญหาราวๆ 15หมื่นโลและส่วนมากทั้งเจ้าของและช่างจะลืมจุดนี้ไปเลย

4. เนื่องจากความทนทานของชุดโซ่ราวลิ้นกับเสตอร์นั้นสูงมากจนทำให้บางครั้งอาจ จะลืมโดยเฉพาะปัญหานี้มักเกิดกับผู้ซื้อรถมือสองที่กรอไมล์มาโดยปกติแล้วชุด โซ่และเสตอร์นั้นเคยเห็นว่าทะลุ 5แสนโลได้ไม่ยากนักอาจจะเปลี่ยนเฉพาะเสตอร์เท่านั้นด้วยซ้ำแต่ก็ขึ้นอยู่ที่ การขับขี่ด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรจะเปลี่ยนทุกๆ 3แสนโล

5. หน้าแปลนด้านไอดีเป็นอลูมีนัมส่วนไอเสียเป็นเหล็กหล่อทำให้เกิดปัญหาการรั่ว ของไอดี-ไอเสียเพราะนัทยึดหลวมเพราะการยืดและหดตัวของวัสดุที่ต่างกันไม่สม ดุลย์กัน ดังนั้นควรตรวจเช็คความตึงของนัทยึดท่อไอดี-ไอเสียทุกๆ 3หมื่นโล

++++++++++++++++++++++
ข้อด้อย
++++++++++++++++++++++
1. เนื่องจากหลายๆคนเมื่อนึกถึงมิตซูก็จะนึกถึงความแรงดังนั้นเมื่อควบมันจึง หวังเรื่องแรงมากกว่าด้านอื่นทั้งที่ความจริงแล้วมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานใน รอบต่ำๆนั้นเพื่อการประหยัดน้ำมันโดยเฉพาะ แต่คนทั่วไปเมื่อเห็นว่ามันออกตัวดีจึงคิดว่ามันจะแรงตลอดเมื่ออัดรอบเข้าไป มันจึงซดหนักทีเดียวจนกลายเป็นเล่าขานถึงความดุเดือนเรื่องอัตราบริโภค ทั้งที่ถ้านำมาวิ่งเรียบๆเนิบๆแบบเดียวกันก็แทบจะหาความแตกต่างเรื่อง อัตราบริโภคแทบจะไม่เจอเลย โดยเฉพาะตัว 2.5ลิตรนั้นอาจจะประหยัดกว่าบางยี่ห้อด้วยซ้ำไปแถมได้เรี่ยวแรงที่ดีกว่า

2. ราคาอะไหล่ที่เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นแล้วจัดว่ายังแพงกว่าส่วนหนึ่งก็เพราะ มันเป็นรถส่งออกด้วยราคาจึงออกแนวสากลเมื่อเทียบเป็นเงินไทยก็เลยจะแพงกว่า ชาวบ้านแม้ระยะหลังๆราคาอะไหล่ตัว 2.5นั้นจะถูกลงมากแต่ตัว 2.8นั้นจัดว่ายังเอาเรื่องอยู่แถมยังเทียบหาได้ยากกว่าตัว 2.5

3. ราคาค่าตัวที่ตกมากหรือที่ขายๆกันก็จะถูกกว่ายี่ห้อดังอื่นๆ แต่ถ้ามองว่าตอนซื้อราคามันก็ถูกกว่าตอนขายมันก็ถูกกว่าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ออกมาก็ยังไม่จัดว่าน่าเกลียดเท่าไหร่ ส่วนนึงที่ทำให้ราคามันตกก็เพราะคำกล่าวขานเรื่องอัตราบริโภคและอะไหล่ที่ ราคาสูง(โดยไม่คำนึงถึงความทนทานตามอายุงานของมัน)







hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:23   


คำตอบที่ 6
       +++++++++++++++++++++++
สภาพรถมือสอง
+++++++++++++++++++++++
โดย ทั่วไปรถมือสองค่ายนี้จะถูกกว่ายี่ห้อดังค่ายอื่นราว 5-7หมื่น(ตอนเป็นรถใหม่ขายถูกกว่าราว 3-4หมื่น)สภาพรถโดยทั่วไปค่อนข้างที่จะสมบูรณ์กว่ายี่ห้อดังอื่นๆมากทีเดียว ส่วนมากจะมีสภาพที่ดีกว่าที่จะไม่ดีราว 70/30 โอกาสเสี่ยงที่จะได้รถสภาพแย่ๆมาใช้น้อยกว่าค่ายดังอื่นๆ แถมได้ออฟชั่นที่เพี๊ยบพร้อมกว่าหรือแต่งสมบูรณ์กว่า แม้ว่า ณ วันนี้มันอาจจะดูล้าสมัยหรือเครื่องยนต์ก็โบราณแล้ว แต่สำหรับท่านที่กำลังเริ่มต้นหรือเล็งปิค-อัพคันแรกไว้ใช้งานจึงน่าสนใจมาก สำหรับตัวนี้เพราะสภาพดี-โอกาสเสี่ยงต่ำ-ราคาถูกโดยเฉพาะตัว 2.5นั้นก็ยังพ่วงเรื่องอะไหล่หาง่ายและเทียบหาได้หลากหลายแถมราคาก็ไม่สูง เท่าไหร่ และที่สำคัญการที่ค่ายนี้เปลี่ยนแปลงน้อยมากราคารถมือสองจึงเริ่มอยู่ตัว แล้วถ้าซื้อมาใช้งานราว 4-5ปีโอกาสที่จะเจ็บตัวมีน้อยครับ


ที่่มา : www.one2Car.com , http://www.sonirodban.com/strada.html#Intro



 แก้ไขเมื่อ : 26/11/2553 12:48:08





hi-tech จาก 1212  222.123.186.54  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:24   


คำตอบที่ 7
      



wichien_k จาก ออีดLG  203.247.149.151  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 12:52   


คำตอบที่ 8
       เยื่ยม ครับ



somkieat_s จาก ตาลเดี่ยว  125.27.186.109  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 13:38   


คำตอบที่ 9
       เยี่ยมมาก ขอบคุณครับ



E20GVX จาก E20GVX  58.9.160.190  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 17:57   


คำตอบที่ 10
       4. เนื่องจากความทนทานของชุดโซ่ราวลิ้นกับเสตอร์นั้นสูงมากจนทำให้บางครั้งอาจ จะลืมโดยเฉพาะปัญหานี้มักเกิดกับผู้ซื้อรถมือสองที่กรอไมล์มาโดยปกติแล้วชุด โซ่และเสตอร์นั้นเคยเห็นว่าทะลุ 5แสนโลได้ไม่ยากนักอาจจะเปลี่ยนเฉพาะเสตอร์เท่านั้นด้วยซ้ำแต่ก็ขึ้นอยู่ที่ การขับขี่ด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรจะเปลี่ยนทุกๆ 3แสนโล




********ตรงนี้แหละที่เคยอ่านเจอก่อนใช้สตราด้า จำได้ว่าโซ่ราวลิ้นมันมีอายุมากกว่าสามแสนโล พยามค้นหาข้อความนี้มานานแล้ว ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนตอนสามแสนโลถ้ามันไม่ดังซะก่อน.......ได้เห็นบทความนี้อีกครั้ง ความมั่นใจกลับมาเยอะเลย***********************



พี่ E20GVX ผมเปลี่ยนตอน 320,000 โล เอาโซ่ของเก่ากะของใหม่มาวัดระยะเที่ยบกับแทบไม่แตกตางเลยครับ
จาก : โนบิ คุง/Lekk(โนบิ คุง) 27/11/2553 8:22:09 [180.210.216.74]
ญี่ปุ่นบอกว่าอายุโซ่กับอายุเครื่องเท่ากันถ้ารักษาเรื่องน้ำมันเครื่องอย่างถูกต้อง
จาก : E20GVX(E20GVX) 27/11/2553 17:54:55 [58.11.6.209]
ขอบคุณมากเลยครับพี่ของผมแสนแปดแล้วใจไม่ค่อยดีแต่ตอนนี้โล่งไปเลยครับ
จาก : bangseed(bangseed) 30/11/2553 12:42:42 [202.57.188.3]

E20GVX จาก E20GVX  58.9.160.190  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 18:13   


คำตอบที่ 11
      



nds จาก nds  124.122.143.191  ศุกร์, 26/11/2553 เวลา : 20:11   


คำตอบที่ 12
       สุดยอดครับ กำลังหาคำตอบเรื่อง " โซ่ " อยู่เหมือนกัน ตอนนี้ก็ผ่าน 160,000 กม.มากว่าคึ่งพันแล้ว สบายใจแล้วครับ.....ขอบคุณๆๆ......



///



methawin.s จาก เจ้าบลู 589  125.25.128.48  เสาร์, 27/11/2553 เวลา : 09:35   


คำตอบที่ 13
       ไม่ใช้ไม่รู้ว่ามันเจ๋ง
สตราด้านี่แหละที่ยังคาสิโนวา



lek bass จาก Lek  58.137.45.50  เสาร์, 27/11/2553 เวลา : 13:33   


คำตอบที่ 14
       ผม STRADA 2800 VG TURBO INTERCOOLER 283,000 โลแล้ว ยังไม่ได้เปลี่ยนโซ่เลย ยังไม่ดัง



เครื่องเทอร์โบสองแสนแปดยังใช้ได้ เครื่องธรรมดาก็หายห่วงน่าจะสามแสนชัวร์
จาก : E20GVX(E20GVX) 27/11/2553 17:59:44 [58.9.166.21]

komon12 จาก komon12  125.25.48.22  เสาร์, 27/11/2553 เวลา : 13:40   


คำตอบที่ 15
       คนไม่เคยใช้ต้องลอง



phon2149 จาก phon2149  115.87.147.66  เสาร์, 27/11/2553 เวลา : 13:47   


คำตอบที่ 16
       ถ้าเป็นเครื่อง 2500 จะเป็นสายพาน น่ะครับ แสนหนึ่ง ก็เปลี่ยนได้เลย
อีกตัว 2500 VG Turbo ตัวนี้ก็น่าจะสายพาน

ตัวที่เป็น โซ่ จะเป็นตัว 2800 cc
และ 2800 cc Rally Master Turbo intercooler




เครื่อง2500เป็นสายพานควรเปลี่ยนที่แสนโล
จาก : E20GVX(E20GVX) 27/11/2553 18:05:19 [58.9.166.21]

hi-tech จาก .::. สองโหล .::.  223.205.156.197  เสาร์, 27/11/2553 เวลา : 13:53   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 13:41:19

Error processing SSI file