คำตอบที่ 1
       ลองอ่านกระทู้ของอาจารย์ Von แห่ง ปาเจโร ดูนะครับ
http://www.weekendhobby.com/offroad/pajero/question.asp?id=2544

ผมไปภูชี้ฟ้า ผมก็ใช้แค่ขับ 2 อ่านจากกระทู้ด้านบน แนะนำว่าทางดำลาดยาง ไม่ควรจะใช้ขับ 4 เพราะจะทำให้ช่วงล่างสึกหรอกมากกว่าปกติ และเวลาเลี้ยวโค้งพวงมาลัยมันจะฝืนๆ อันตราย

คำตอบที่ 2
       ช่วงล่างสึกหรอ มากกว่า ปกติ ...ผมว่าไม่เท่าไหร่ นะขึ้นภูขึ้นดอยมาหลายปี ช่วงไหนไม่มั่นใจ ใส่ 4 H ตลอด 3 ปี ก่าๆ แล้ว ไม่เคยทำ อะไรกับช่วงล่างเลย...ผมว่ากังวลมากไปป่าว...ปลอดภัยไว้ก่อนดีสุดครับอย่างน้อย ล้อสี่ล้อก็ได้ทำงานตามฟังชั่น ที่ควรจะเป็น ...ยืนยันครับฝนตกๆในกทม.ผมยังขับ 4 เลย พวงมาลัยฝืน ก็บอกไปแล้ว....ว่าฝืนแน่ ต้องฝึกให้เข้ากับการขับแบบนี้นิดหน่อย อย่าเร็วตามใจตัวแล้วกัน ครับ....ผมยอมเสียช่วงล่างแลกกับความปลอดภัยครับ..... ทีเอารถไปพังแถวบ่อดิน...คลิตี้ ไม่เห็นบ่นกันเลย... ขออภัยในคำตอบ ผมพูดตามประสบการณ์ของผมเอง ควรพิจารณา ด้วยเหตุและผลของท่านเองครับ แต่ ปลดฟรีล้อค แล้ว เข้า 4 เนี่ยไม่เคยทำเพราะผม ไม่มีฟรีล้อค ครับ....

คำตอบที่ 3
       ปลดFree lock แล้วใส่4L จุดประสงค์เพื่อให้ทอร์คเพิ่ม แต่ยังทำงานแบบขับ2อยู่ครับ เพราะตัดระบบส่งกำลังล้อหน้าทิ้งไป ไม่ควรใส่ขับ4บนถนนลาดยางหรือถนนคอนกรีต จะอันตรายทำให้รถแหกโค้งออกไปได้(ในกรณีที่ถนนแห้ง) ระบบ4WDของรถพวกเราออกแบบมาสำหรับใช้ในทางทุรกันดาร ไม่เหมือนกับ4W Full time ของ Impreza หรือEVO ที่มีการกระจายกำลังซ้าย ขวาเวลาเข้าโค้ง ควรเลือกใช้ในสถานการณ์ที่เหมาะสมครับ

คำตอบที่ 4
       ตามที่เขียน มา ....... ผมใช้ขับ4 4d ไม่มีโบเคยขับขึ้นภูชี้ฟ้ามันอืดมากๆใช้วิธีขับ2ปกติ และผมเคยอ่านเจอในwebๆนึงครับจำไม่ได้ว่าwebไหนว่าเวลาขับรถขึ้นเขาที่ค่อนข้างชันและระยะทางยาวๆแต่เป็นทางลาดยางหรือถนนคอนกรีต เช่นดอยอินทนนท์(ผมก็ไม่เคยไป)ให้ปรับFree lock มาไว้ที่ตำแหน่งFreeแล้วใส่ 4L ขับขึ้นไปจะขับได้ง่ายกว่าไม่ทราบว่าท่านใดเคยใช้วิธีนี้บ้างครับ

ผมเคยลองครับ จริงครับขึ้นได้เลยครับแต่คิดว่าควรจะเป็นการที่ขึ้นไม่ได้จริงๆๆ แล้วใช้วิธีนี้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่ควรใช้วิธีนี้กับชีวิตประจำวัน มันจะทำให้สึกหรอเร็วกว่าปรกติปรกติ ระบบ4วิล ควรจะใช้กับทางทุรกันดารนะครับ

คำตอบที่ 5
       ถูกต้องครับ....คุณจีขาว(แสดงว่าขับจีวากอนสีขาว...แม่นบ่อ) ขับสี่ ควรเลือกสถานะการที่เหมาะสม... ขับสี่ บนถนนคอนกรีต แห้ง ผมทำบ่อยไป...ก่อนเข้าบ้านสัก 100 -200 เมตร ให้ระบบมันทำงานสะบ้าง...พอได้ไม้ท่านจีขาว....

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณที่ให้ความสนใจ ลิ้งไปที่กระทู้ อื่น...ลืมขอบคุณ คุณ สะมะแอ...ที่ลิ้งค์ มาให้อ่าน ผมก้อบไว้ในไฟล์ แล้ว ว่างๆจะไปอ่านครับ บางทีผมก็รู้เท่าที่ เคยพบประสบมา ก็แชร์ๆกันไป ไม่ถูกก็ช่วยกันแก้....
อย่างบางกรณี ทางในป่าขึ้นเนินชันๆ เป็นคอนกรีต (เดี๋ยวนี้เจอบ่อยๆ เพราะ อบต. เขาชอบไปทำไว้ เช่น แถวเมืองกาญจ์ แถวตาก)แล้วต่อด้วยทางป่าเลย บางทีไม่สะดวกในการลงไปบิดฟรีล้อค หรือประเมินแล้วว่า ต้อง สาหัสแน่ๆ ก็จะเทคตัวขึ้นด้วย โฟร์โลว์ เลย
ทีนี้ขอถามคุณจีขาว นิดนึงเรื่อง 4x4 Full Time ในกรณีที่ไม่เข้าโค้ง หรือแรงเสียดทานไม่ไปอยู่ที่ล้อข้างใดข้างหนึ่งมากเกินลิมิต ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังทำงานปกติ หรือไม่ การจ่ายแรงจะจ่าย ไปเท่าๆกันทั้งสี่ล้อหรือไม่...เนื่องจากผมเข้าใจเอาเองว่า ฟูลไทม์ คื อตลอดเวลา ... ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คำตอบที่ 7
       4Wheel Full Time จุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน(สามารถใช้ความเร็วได้) การถ่ายกำลังของล้อจะขึ้นอยู่กับแรงเสียดทานของล้อคู่หน้าและหลัง ล้อที่มีแรงเสียดทานมากก็จะถ่ายไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานน้อย เพราะฉะนั้น ในการวิ่งทางตรงล้อหน้า หลังจะเท่ากัน 50%-50%

คำตอบที่ 8
       ถ้าอย่างนั้น ขอปุจฉาต่อ ละกัน...ในกรณีของการขับ 4H ปกติของรถทั่วไป (part Time) ก็จะทำหน้าที่เหมือน Full Time ในภาวะปกติด้วยเช่น กัน...นั่นคือ จะจ่ายแรง 25 %(50 หน้าหลัง) ต่อล้อแต่ละข้าง ซึ่งความเข้าใจเดิมของผม(ไม่มีเจตนาลองภูมิครับ) ดังนั้น ควรจะมีสภาพเหมือนกัน นั่นคือ การยึดเกาะถนนจะดีเหมือน Full Time แรงที่ส่งไป จะมีผลทำให้แรงเสียดทานของรถต่อพื้นถนนมากกว่าปกติ จึงเป็นที่มาของ ความคิดที่ว่า จะทำให้ช่วงล่างมีปัญหา เมื่อวิ่งบนถนนดำ (ซึ่งอันนี้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไม Full Time จึงไม่มีการกล่าวถึงส่วนนี้ หรืออาจเป็นเพราะว่า การออกแบบช่วงล่างไม่เหมือนกัน) ความเข้าใจของผมจึงคิดว่า ขับสี่บนถนนดำไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาช่วงล่าง ถูกต้องหรือไม่ครับ
ส่วนแรงต้านจากการหมุนเลี้ยว ตอนขับสี่ จะทำให้ การควบคุมพวงมาลัยยากขึ้น (ล้อหน้า จะฝืนล้อหลัง) FullTim ถูกออกแบบให้ จ่ายแรงเป็นบางช่วง จึงไม่เกิดปัญหานี้ อันนี้พอเข้าใจครับ
อีกอันที่เข้าใจคือ Part Time ขณะที่ ขับ 2 ปกติ จะประหยัดน้ำมันกว่า เพราะ เครื่องยนต์ไม่ต้องส่งกำลัง ไปให้ ทั้ง 4 ล้อ เพื่อสู้กับแรงเสียดทาน ที่ยางมีต่อพื้นถนน ใช่หรือไม่ครับ
ที่ถามเพราะต้องการความกระจ่าง เพราะผมเข้าใจอย่างนี้ และปฏิบัติ อย่างนี้ ในบางกรณีที่ต้องการการยึดเกะถนนที่ดี เพราะเคยสนทนากับหลายท่านก็มีหลากหลายความเห็นบางท่านก็บอกขับสี่ขึ้นเขาเดี๋ยวก็ตกเขาตาย บางท่านก็บอกทำได้ไม่เสียหาย เพียงแต่ต้องเข้าใจระบบการทำงานของการขับสี่ ว่าจังหวะไหน ต้องเร่ง ต้องเบา เท่านั้น
ขอโทษที่รบกวนครับ นานๆจะมีเวลา เข้าเวปสักที ท่านใดรำคาญ หรือกล่าวคำอันไดที่ล่วงเกิน ขออภัย นะครับ

คำตอบที่ 9
       ผมต้องออกตัวก่อนครับว่าผมไม่ใช่ช่างยนต์ ถ้าจะลองภูมิคงไม่มีประโยชน์ จะตอบจากประสบการณ์ที่เคยใช้มาละกัน ยกตัวอย่างระบบFull time ของSubaru เวลาวิ่งทางตรง จะถ่ายไปหน้ามากกว่าหลังอยู่นิดหน่อย(ตัวเลขจำไม่ได้) เวลาเข้าโค้งจะมีตัวTransferแรงของล้อด้านในกับด้านนอก ทำให้หมุนไม่เท่ากันอีก จึงทำให้เวลาเข้าโค้งแล้วไม่เกิดอาการฝืน ซึ่งต่างกับระบบPart Time ซ้ายกับขวาจะหมุนเท่ากัน ทำให้เกิดการฝืนโค้งอันเป็นที่มาของการสึกหรอและอันตรายถ้าใช้ความเร็ว

คำตอบที่ 10
       เอ้าคุณจีขาวตอบแล้วครับ คุณสัน...ถามต่อเลย

คำตอบที่ 11
       รู้สึกคุณผ่านมา...ดูจะสนุกกับการที่เห็นตอบโต้กันน่ะค่ะ.....
การถามมาแล้วมีคนที่รู้มาตอบ อาจจะมีการตอบโต้กันบ้างก็หน้าจะเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นจะต้องมายุกันเลยน่ะค่ะ....ทุกกระทู้ที่มีการตอบก็ให้ความรู้กับคนที่ไม่รู้น่ะค่ะ.....

คำตอบที่ 12
      
ใกล้สุดสัปดาห์แล้วค่ะ......เตรียมตัวไปเที่ยวกันเถอะ.....
ขับรถปลอดภัยทุกคนนะคะ......ด้วยความปรารถนาดีจากผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนค่ะ......
(แฮะๆเจ้าของกระทู้ไม่ได้มาอ่านเลยค่ะ สงสัยขับรถไปเที่ยวแล้วน่ะคะ)

คำตอบที่ 13
       คุณผ่านมา
รออ่านเฉยๆก็ได้นะครับ
ไม่มีใครว่าหรอก เรากำลังได้ความรู้ที่ดี
เลยนะนั้น

คำตอบที่ 14
       ตอบคุณผ่านมา....ผมไม่ได้เจาะจงถามคุณจีขาว คนเดียว พอดี ท่านมีน้ำใจเข้ามาตอบผมก็ขอบคุณ ..ท่านใดมีความคิดเห็นประการใด ช่วยกันตอบก็ได้ ครับ ผมว่าบางทีเรามาคุยเรื่องวิชาการบ้างก็ดี เผื่อมีข้อสงสัย จะได้เข้าใจได้ถูกต้อง ...บางทีตำหรับตำรา ก็ขี้เกียจอ่าน สมัยเรียนเอาตัวรอดมาได้ก็บุญแล้ว... ยังไม่เจอกับตัวก็ยังนึกคำถามไม่ออก ว่าจะถามอะไร พอถามแล้วลากยาวไปเรื่อย ๆ บอกตามตรงครับประเด็นขับสี่แล้วช่วงล่างสึกหรอ และขับสี่ขึ้นเขา นี่ คาใจผมนานแล้ว อยากรู้จริงๆครับ ไม่ได้ตั้งใจป่วนหรือบ้าวิชา ต้องขอโทษด้วยความจริงใจครับถ้าคิดว่าผมเข้ามาป่วน คิดว่าหลายท่านก็คงอยากรู้เหมือนผม สังเกตุ นะครับผมไม่เคยใช้คำพูดไม่สุภาพ ไม่เคยแดกดัน(ยกเว้นหลุดไปนิดหน่อยเรื่องบ่อดิน กับคลิตี้ ...ผมต้องการให้เห็นภาพ ไม่มีเจตนาเป็นอื่น ...โปรดเข้าใจ) คิดอยู่เหมือนกันว่า เดี๋ยวคงจะเข้าใจผิด ความรู้บางอย่างเก็บไว้กับตัว ก็ไม่มีประโยชน์ แบ่งกันไป ดีกว่า... คุณจีขาวไม่สะบายใจไม่ต้องตอบก็ได้ ครับ ขอบคุณ อีกครั้ง

คำตอบที่ 15
       ยินดีครับ คุณสันป่าเกี๊ย ผมก็ตอบได้เท่าที่ตอบได้แหล่ะครับ ถ้าผิดเดี๋ยวก็มีคนมาแก้ให้ อีกอย่างผมก็พิมพ์ไม่ค่อยเก่งซะด้วย ถ้าไม่รังเกียจโทรมาคุยก็ได้ครับ 01-6154567 ยินดีครับ

คำตอบที่ 16
       ขอบคุณท่านจีขาว ขออนุญาติ ไม่รบกวนเป็นการส่วนตัว เพียงอยากแบ่งปันให้ท่านอื่นๆ ได้รับรู้บ้างครับ...วันหลังคงได้มีโอกาศสนทนาธรรมด้วย ผมติดตามข่าวสารในนี้อยู่เสมอๆ เพียงแต่อ่านเฉยๆ พอดีกระทู้นี้มันโดนใจ ก็เลยลากท่านเข้ามาเกี่ยวข้อง...

คำตอบที่ 17
      

คำตอบที่ 18
       ขออนุญาตหน่อยนะครับ จริงๆๆไม่อยากเข้ามาตอบเลย เอางี้แล้วกัน สำหรับคุณสันป่าเกี๊ยะ ถ้าชอบขับ4 ไม่ว่าจะเป็น ไฮหรือโล บนถนนดำ แล้ว ไม่คิดว่าช่วงล่างจะสึกหรอหรือไม่ก็ตาม ก็ทำได้ตามสะดวกเลยนะครับ

แต่สำหรับสมาชิกท่านอื่นๆๆ เดี๋ยวอ่านแล้วจะหลงทางเปล่าๆๆ รถ4วีล ประเภทพาทไทม เช่นตาด้าเรานี่ละ ไม่ควรใส่4ไฮ หรือ4โล บนถนนดำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆๆ เช่นขึ้นเขาชันๆๆ แล้วใส่4โล แล้วปลดฟรีลอค เป็นการเพิ่มแรงบิดแต่ก็ไม่ควรทำบ่อยๆๆ จริงๆๆไม่ควรเลย เพราะ ช่วงล่างรวมถึงชุดเกีย ทรานเฟอร์ จะพังเร็วขึ้น ครับ เพราะรถ4วีลพาทไทม ไม่มี central differential gear เพื่อ ปรับแรงล้อหน้ากับล้อหลัง เหมือน 4วีลฟูลไทม และข้อสำคัญอีกอย่าง 4วีลพาทไทม ขณะ ใส่4ไฮ เป็นการเพิ่มแรงตะกุย ในเส้นทางทุรกันดาร แต่ต้องการใช้ความเร็ว เช่นทางลูกรัง
4วีลฟูลไทม เพื่อ การยึดเกาะที่ดีขึ้น โดยเฉพาะทำความเร็วสูงขณะเข้าโค้ง เพราะ4วีลฟูลไทม มี central differential gear และบวกกับการออกแบบช่วงล่างให้รับกับการที่รองรับความเร็วสูง

ข้อแตกต่าง4วีลพาทไทม เพิ่มแรงตะกุย ไม่ใช่เพิ่มการยึดเกาะ

ผมคาดหวังว่าคงไม่ทำให้คุณสันป่าเกี๊ยะเคืองนะ ผมต้องการให้สมาชิกท่านอื่นเข้าใจและใช้รถตาด้าอย่างมีความสุขและคงทน

คงไม่โกรธกันนะ

คำตอบที่ 19
       ขอแจมนิดครับไม่ว่ากันนะ ผมเคยอยู่แม่ฮ่องสอน ต้องขึ้นไปทำงานบนดอยสูงบ่อยๆ โดยเฉพาะ ปางตองที่ตอนนั้นทางเป็นลาดยาง ผมใช้คานแข็ง LN106 ครับ ถ้าขึ้นสอง ตอนโค้งพับผ้าล้อด้านนอกจะฟรีครับลุ้นแทบแย่พวงมาลัยก็ไม่มีเพาเวอร์ด้วย แต่ถ้าขับสี่สบายครับ ขาลงถ้าขับสี่ลุ้นมาก มันฝืนโค้งจริงๆ คุมพวงมาลัยยากกว่าขับสองครับ แต่ที่รอดปลอดภัยมาได้ตลอดคือ SLOW BUT SURE ครับ ใครยากซิ่งไปก่อน หรือใครจะหาว่าใส่น้ำมันตราเต่าก็ ช่างเขาครับ

คำตอบที่ 20
       ไม่โกรธ หรอกครับคุณนัน...น้อมรับทุกความคิดเห็น ...วิชาการบ้างก็ดี ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศ
ประเด็นแรก ก่อนละกัน คือจริงๆ ผมเข้ามาตอบเรื่องขับสี่ขึ้นเขา นะครับก็เลยลากไปเรื่องแรงเสียดทาน แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยตอบว่าใช้ขับสี่แบบพร่ำเพรื่อ อันนี้ต้องเข้าใจก่อน ภาวะผิดปกติ ของถนน(ไมว่าถนนดำ หรือทางป่า) ผมว่าน่าจะอนุมาณ ได้ในคำจำกัดความเดียวกันของความธุรกันดาร ในความหมายคุณนัน นะผมว่า ผมเห็นด้วยกับคุณนัน100 % ครับ ภาวะปกติไม่ควรใช้ ระบบขับสี่ เนื่องจากความสึกหรอของช่วงล่าง และชุดส่งกำลังจะสูง ยกตัวอย่างเช่น เวลาฝนตก ผมขับ4 H เสมอๆ บนถนนดำ เพราะผมถือว่านั่นคือภาวะที่ไม่ปกติ ของถนน แต่ผมไม่เคยใช้ความเร็วสูง อย่างดี ก็ 60 ถ้าทางขึ้นเขาลงห้วย ความเร็วก็ลดลงอีกจนเต่าเกือบจะแซง เหมือนคุณปลาหมึกนั่นหละครับ และ4L ก็ไม่เคยใช้ในเมืองหรือถนนดำ เลย ยกเว้น เดือนไหนไม่ได้ไปออกกำลัง ก็ เข้าสะหน่อยเป็นระยะทางที่สั้นที่สุด เพราะทุกท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าเกียร์ 4 L จะเป็นคนละชุดกันกับ ปกติ และ เกียร์ชุดนี้ จะให้ แรงบิด(ทอล์ค) ที่มหาศาลมาก
ประเด็นที่สองเรื่อง การยึดเกาะถนน กับการเพิ่มแรงตะกุยของการขับสี่... อันนี้ ผมพูดเรื่องยึดเกาะถนน และ ต่อมาผมจะพูดเรื่องแรงเสียดทาน ซึ่ง มันเป็น Linear กัน การที่ล้อทั้ง4 ได้รับกำลังจากชุดส่งกำลังสั่งให้ทำงาน ล้อละ 25 % นั่นหมายความว่า เกิดแรงกระทำที่ล้อทั้ง 4 ซึ่งจะไปส่งผลกับแรงเสียดทาน ระหว่างยางกับ พื้นถนน ทีนี้พอแรงเสียดทานมันเพิ่มขึ้นก็จะทำให้การยึดเกาะมากขึ้น ทำให้รถสามารถเคลื่อนตัวไปได้ดีขึ้นในทางที่ไม่ปกติ(ย้ำครับว่า ผมหมายถึงทางที่ไม่ปกติ เช่น เปียกลื่น หลุมบ่อ หรือ ทางชัน) เพราะล้อหน้าไม่ได้หมุนเนื่องจากแรงส่งของล้อหลัง การตะกุยจะไม่มีประโยชน์ เลยถ้าไม่มีแรงเสียดทาน ยกตัวอย่างเช่นบ่อโคลนที่ลื่นมากๆ
ประเด็นเรื่องช่วงล่างสึกหรอ อันนี้ หมายความว่า ผมยอมให้ช่วงล่างสึกหรอ กับการใช้งานในเส้นทางที่ไม่ปกติ นะครับ เพียงแต่ใน คต.ที่9 อาจทำให้เข้าใจผิดเพราะผมกำลัง พูดถึงเรื่อง ขับ 4 Full Time กับ Part Time ต้องขออภัย
เจ้าของกระทู้หายไปไหน แล้ว....หวังว่าคงมีประโยชน์ กับทุกๆท่านครับ ดีครับ เราว่ากันด้วยเหตุและผล ไม่มีคำว่าขุ่นข้องหมองใจแน่นอน

คำตอบที่ 21
       เยี่ยมยอด

คำตอบที่ 22
       สงสัยนิดหน่อย...ผมล้อคอิน ที่หน้าแรก แล้วทำไมไอคอนผมไม่โชว์ อะครับ

คำตอบที่ 23
       อ้าว..มาแล้ว...

คำตอบที่ 24
       มันเยอะจัง อ่านไม่หมดครับ
ความเห็นส่วนตัวนะครับ....เวลาขึ้นเขาแล้วรถไม่มีกำลัง (บางเนิน) จอดใส่เกียร์สโลล์ 2ล้อหลังได้เลยครับ เมื่อมาถึงยอดเนินแล้วไม่ได้ใช้ ก็ปลดครับ...
เวลาขึ้นเขา หรือทางดำที่รู้สึกว่าลื่น (หรือฝนตก) ขับ4HI ได้เลยครับ ปลอดภัยด้วย ไอ้เรื่องสึกหรอ มองไม่เห็นครับ แต่เรื่องอันตรายอาจจะเกิดได้ครับ วิ่งไปกี่กิโลก็ได้ครับไม่ซีเรียจ...เมื่อรู้สึกปลอดภัยแล้วก็ยกเลิกซะ...หมายถึง 2บ้าง 4บ้างก็ได้ครับ

คำตอบที่ 25
       อย่าว่าผมสอนนะครับ
ขาขึ้น....เมื่อเห็นเนินยาวหรือชัน ควรจะเร่งส่งมาเลยครับ ถ้ารู้ว่ารถไม่มีกำลัง ปิดแอร์ครับ
ขาลง....อย่าแตะเบรคบ่อบๆ ผ้าเบรคมันร้อนมากๆ มันจะไหม้ แล้วจะเบรคไม่อยู่ ควรจอดรถให้เบรคเย็นลงแล้วค่อยขับต่อครับ...ในกรณีที่ ลงยางๆ ชันๆ ให้ใส่เกียร์1 ลงมาพอรถเร็วมากไปให้เยียบเบรคเยอะครั้งเดียวจนรถช้าลงมาก แล้วปล่อยเบรค เพื่อปล่อยให้ผ้าเบรคได้ ระบายความร้อนบ้าง ไม่ใช่เดี๋ยวเบรค เดี๋ยวเบรค ตลอดผ้าเบรคไหม้พอดีครับ

คำตอบที่ 26
       (ขออนุญาตจารกรรมข้อมูลไปให้เพื่อนๆ บ้างนะครับ)

คำตอบที่ 27
       ขอบคุณทุกความเห็นครับ สรุปคือวิธีที่ผมถามมาไม่ควรนำไปใช้ใช่ไหมครับ