คำตอบที่ 1
       ปกติ ถ้าไม่จอดแช่ในน้ำ จะไม่เข้านะครับ
ถ้าขับลุยน้ำ ก็อย่าจอดในน้ำให้ขับผ่านไปให้เร็วที่สุด
เท่าที่จะเร็วได้

รถผมก็เข้า พรมยังเน่าอยู่เลย

ปล ขอร้องพี่ต้นรัก ไม่ต้องมาตอบนะครับ เพราะพี่ไม่มีประสบการณ์ อิอิ

คำตอบที่ 2
      
รู้สึกว่า.....ท่อระบายน้ำออก........จะจมน้ำนะครับ น้ำเลยเข้าได้
(วิเคราะห์ตามรูปที่เห็นนะ อิอิ)


เดี๋ยวให้คนที่เคยน้ำเข้ามาช่วยตอบครับ

คำตอบที่ 3
       เพิ่มไปถอดพรม มาซัก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่จอดตากแดด อยู่สามวัน ตอนแรกผมก็เข้าใจว่ามัน คงแห้งแล้ว แต่ ที่ไหนได้พอเอาพรมขึ้นมา ปรากฏว่า น้ำเจิ่งนองอยู่ใต้พรมนั้นแหละครับ ผมว่าถอดพรมออกมา แล้วซักตากแดด ไว้ ดีกว่าครับ (ราคาประมาณ 800 ครับ ไม่รู้แพงหรือว่าถูกแต่ที่แน่ๆ ถูกว่าตามคาร์แคร์ตามห้างแน่ๆ ครับ) อ๋อ อีกอย่างครับ หลังจากเปิดพรมขึ้นมาอีกอย่างคือ มันมี ช่องที่ เขาทำสำหรับสอดสายไฟเข้ามาในเก๋ง มันจะมีจุก พลาสติก มันหลุดออกไป เลยทำให้ถ้าลุยน้ำน้ำอาจจะเข้ามาอยู่ใต้พรม ด้วยครับ

คำตอบที่ 4
       หนังสือพิมพ์ทั้งฉบับ (หนาๆ..) วางไว้บนพรมชั้นล่างสุด เปลี่ยนทุกวัน ช่วยได้เยอะครับ มันจะดูดความชื้นออกมา..

คำตอบที่ 5
       ถูกต้องครับ สะมะมีประสบการณ์ เพราะผมอยู่ในเหตุการครับ

คำตอบที่ 6
       ผมถอดเบาะ+ยกพรมทั้งผืนออกมาตากใช้เวลา 1 วันเต็มๆครับ.......เลยถือโอกาสดูดฝุ่นใต้พรมไปด้วย น้ำมันจะขังอยู่ใต้พรมผมก็ไม่รู้ว่ามันเข้าไปได้ยังงัยแต่ตามหัวน๊อตตอนนี้ผมเอาซิลิโคลนป้ายไว้ทุกจุดเลยเป็นไปได้ที่รถที่มีอายุการใช้งานนานๆลูกยางบางตัวมันอาจจะเสื่อมครับ (เคสผมนะ)....แต่ตอนนี้สะอาด+แห้งหมดจด.....คลายความอับชื้นไปเยอะเลยครับ (จริงนะสะมะเอ๋ยยยย...)แต่รถลุยน้ำถ้าไม่จอดกลางน้ำเหมือนสะมะ........น้ำไม่น่าจะเข้านะครับ

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณพี่ต้นมากครับ ที่น้ำเข้ารถพี่ต้นคงจะมาจาก พี่ล้างรถบ่อยอ่ะครับ รถมันสูงอ่ะนะพี่ ไม่ค่อยได้เที่ยวและน้ำที่อยู่ในรถ อาจเป็นน้ำตา ของคนขับ ขับไปร้องไห้ไป อ่ะย้อเย่นนน

ปล ผมทำไม่เป็นอ่ะพี่ต้น ว่างๆมาสอนถอดพรมมั่งสิครับ หรือว่าพี่เปิดคาร์แคร์ดีกว่า รายได้ดีนะ ผมจะเป็นลูกค้าประจำ

คำตอบที่ 8